คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
ยอมรับว่าเกาหลีดูลงทุนกว่า ภาพและเพลงเนี้ยบกว่าในบางเรื่อง
เห็นแต่ละเรื่องแต่ง score ขาย ost กันจริงจังออกแนวอุตสาหกรรมครบวงจร
พล็อตมีความหลากหลาย มีชั้นเชิงในการเล่า และแมสกว่า
ญี่ปุ่นนี่ยอมรับว่าหลายปีตั้งแต่เศรษฐกิจเค้าตกต่ำ
เราว่าละครเค้าเบาลง ย่อยง่ายขึ้น หมายถึงโดยภาพรวมนะคะ
เรื่องราวของละครญี่ปุ่นไม่หวือหวา เน้นทางลึก สร้างแรงบันดาลใจ
บางทีก็สูตรสำเร็จเกินไป ของเกาหลียาวกว่าต้องมีเรื่องที่จูงใจ เข้มข้นเพื่อพยุง
ในแง่ความยาว แต่ถ้าดูในแง่การลงทุนของเกาหลีดูโปรดักชั่นแพงทีเดียว
ของญี่ปุ่นเน้นสมจริง realistic minimal ของเกาหลีพาฝันกว่า ไปเมืองนอกก็หลายเรื่อง
ดูแล้วเข้าใจเลยค่ะว่าประเทศที่จะส่งออกละครได้ มาตรฐานต้องอยู่แบบไหน
ของไทยยังอีกห่างไกล ถ้าไม่หล่อหลอมทัศนคติและรสนิยมคนให้เปิดกว้าง
เห็นแต่ละเรื่องแต่ง score ขาย ost กันจริงจังออกแนวอุตสาหกรรมครบวงจร
พล็อตมีความหลากหลาย มีชั้นเชิงในการเล่า และแมสกว่า
ญี่ปุ่นนี่ยอมรับว่าหลายปีตั้งแต่เศรษฐกิจเค้าตกต่ำ
เราว่าละครเค้าเบาลง ย่อยง่ายขึ้น หมายถึงโดยภาพรวมนะคะ
เรื่องราวของละครญี่ปุ่นไม่หวือหวา เน้นทางลึก สร้างแรงบันดาลใจ
บางทีก็สูตรสำเร็จเกินไป ของเกาหลียาวกว่าต้องมีเรื่องที่จูงใจ เข้มข้นเพื่อพยุง
ในแง่ความยาว แต่ถ้าดูในแง่การลงทุนของเกาหลีดูโปรดักชั่นแพงทีเดียว
ของญี่ปุ่นเน้นสมจริง realistic minimal ของเกาหลีพาฝันกว่า ไปเมืองนอกก็หลายเรื่อง
ดูแล้วเข้าใจเลยค่ะว่าประเทศที่จะส่งออกละครได้ มาตรฐานต้องอยู่แบบไหน
ของไทยยังอีกห่างไกล ถ้าไม่หล่อหลอมทัศนคติและรสนิยมคนให้เปิดกว้าง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ซีรีส์ไต้หวันนี่ค่อนข้างเห็นด้วยนะ แต่ญี่ปุ่นนี่เราว่าไม่ได้ด้อยกว่าเกาหลีนะ
เราดูซีรีส์ญี่ปุ่นมาค่อนข้างเยอะนะ แล้วก็ดูเกาหลีด้วย
เราว่าแนวลุ่มลึกและปรัชญาญี่ปุ่นนี่มีมานานแล้วด้วย
(ญี่ปุ่นมีหลายแนว ถึงหลัง ๆ จะมีสืบสวนสอบสวนเยอะหน่อย )
JIN อันนี้ไม่ต้องพูดถึง ลึกซึ้งในแนวคิดมาก
14 sai no haha นี่เรื่องแม่วัยใส
Midnight Resturant ภัตตาคารเที่ยงคืนที่คนมากินก็มีเรื่องราวชีวิตแตกต่างกันออกไป
Summer Rescue เรื่องหมอที่สถานีบนยอดเขา
Amachan สาว ๆ ที่ทำอาชีพเก็บหอยมุก
Umechan sensei อันนี้ยาวเลย สื่อให้เห็นถึงแนวคิดวิถีชีวิตคนในสมัยสงคราม
แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการ remake เราว่าคงเป็นมุมมองที่ต่างกัน
เทียบญี่ปุ่นเกาหลีตามลำดับ
Kisefu no mita - Mysterious Housewife เราว่าแม่บ้านมิตะเล่าเรื่องดีกว่า
Jin - Time slip Dr. Jin จินดีกว่ามากจริง ๆ ทั้งความลุ่มลึก และ หลักปรัชญา (แบบไม่ได้ยัดเยียดมา)
Nodame Cantabile - Tomorrow Cantabile โนดาเมะเป็นละครตลก .... จริง แต่มันคือชีวิตและเส้นทางการต่อสู้ของนักดนตรีของจริงเลย ทั้งพรสวรรค์ พรแสวง เพียงแต่มันเคลือบด้วยเรื่องตลก สิ่งที่ตัวเอกประสบอยู่ก็เป็นความจริงที่เจ็บปวด เป็นปัญหาที่ต้องก้าวข้ามผ่าน แต่จะไปยังไง ส่วน Tmr. cantabile เลิฟไลน์มาเต็ม ดนตรีหายนี่อ่อนไปเลย
ถ้าเอาเรื่องงาน งานจริง ๆ เลยนะ
1. Tokyo Airport (เรื่องคนทำงาน ATC อันนี้แนวอาชีพจริงจัง)
2. Age Harassment ( ปัญหาการถูกคุกคามทางการงานว่าด้วยเรื่องอายุ โหดทีเดียว)
3. Nakanai to Kimeta Hi (จะไม่มีน้ำตาหยดต่อไป) นี่ก็เรื่องปัญหาในที่ทำงานเหมือนกัน เด็กจบม.ไม่ดังเข้าทำงานแล้วเป็นทาเก็ตการกลั่นแกล้ง
สายดาร์คเลย
1. Midnight sun journey คลาสสิคดาร์กของญี่ปุ่น
2. One million stars falling from the sky คลาสสิคดาร์คเหมือนกัน มีความจริง มีความเรียล
3. Mother ผลงานสร้างชื่อของ หนูมานะจัง มาครบทั้ง child abuse DV และ จุดจบที่ไม่เหมือนใคร
เพิ่มเติม ลองดู Hanzawa Naoki อันนี้ของจริง ชั้นเชิงธุรกิจ เก่งแล้วมีเก่งกว่า เจ้าเล่ห์แล้วมีเจ้าเล่ห์กว่า รอบคอบแล้วมีรอบคอบกว่า ตัวละครเทา ๆ ไปหมด
เราดูซีรีส์ญี่ปุ่นมาค่อนข้างเยอะนะ แล้วก็ดูเกาหลีด้วย
เราว่าแนวลุ่มลึกและปรัชญาญี่ปุ่นนี่มีมานานแล้วด้วย
(ญี่ปุ่นมีหลายแนว ถึงหลัง ๆ จะมีสืบสวนสอบสวนเยอะหน่อย )
JIN อันนี้ไม่ต้องพูดถึง ลึกซึ้งในแนวคิดมาก
14 sai no haha นี่เรื่องแม่วัยใส
Midnight Resturant ภัตตาคารเที่ยงคืนที่คนมากินก็มีเรื่องราวชีวิตแตกต่างกันออกไป
Summer Rescue เรื่องหมอที่สถานีบนยอดเขา
Amachan สาว ๆ ที่ทำอาชีพเก็บหอยมุก
Umechan sensei อันนี้ยาวเลย สื่อให้เห็นถึงแนวคิดวิถีชีวิตคนในสมัยสงคราม
แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการ remake เราว่าคงเป็นมุมมองที่ต่างกัน
เทียบญี่ปุ่นเกาหลีตามลำดับ
Kisefu no mita - Mysterious Housewife เราว่าแม่บ้านมิตะเล่าเรื่องดีกว่า
Jin - Time slip Dr. Jin จินดีกว่ามากจริง ๆ ทั้งความลุ่มลึก และ หลักปรัชญา (แบบไม่ได้ยัดเยียดมา)
Nodame Cantabile - Tomorrow Cantabile โนดาเมะเป็นละครตลก .... จริง แต่มันคือชีวิตและเส้นทางการต่อสู้ของนักดนตรีของจริงเลย ทั้งพรสวรรค์ พรแสวง เพียงแต่มันเคลือบด้วยเรื่องตลก สิ่งที่ตัวเอกประสบอยู่ก็เป็นความจริงที่เจ็บปวด เป็นปัญหาที่ต้องก้าวข้ามผ่าน แต่จะไปยังไง ส่วน Tmr. cantabile เลิฟไลน์มาเต็ม ดนตรีหายนี่อ่อนไปเลย
ถ้าเอาเรื่องงาน งานจริง ๆ เลยนะ
1. Tokyo Airport (เรื่องคนทำงาน ATC อันนี้แนวอาชีพจริงจัง)
2. Age Harassment ( ปัญหาการถูกคุกคามทางการงานว่าด้วยเรื่องอายุ โหดทีเดียว)
3. Nakanai to Kimeta Hi (จะไม่มีน้ำตาหยดต่อไป) นี่ก็เรื่องปัญหาในที่ทำงานเหมือนกัน เด็กจบม.ไม่ดังเข้าทำงานแล้วเป็นทาเก็ตการกลั่นแกล้ง
สายดาร์คเลย
1. Midnight sun journey คลาสสิคดาร์กของญี่ปุ่น
2. One million stars falling from the sky คลาสสิคดาร์คเหมือนกัน มีความจริง มีความเรียล
3. Mother ผลงานสร้างชื่อของ หนูมานะจัง มาครบทั้ง child abuse DV และ จุดจบที่ไม่เหมือนใคร
เพิ่มเติม ลองดู Hanzawa Naoki อันนี้ของจริง ชั้นเชิงธุรกิจ เก่งแล้วมีเก่งกว่า เจ้าเล่ห์แล้วมีเจ้าเล่ห์กว่า รอบคอบแล้วมีรอบคอบกว่า ตัวละครเทา ๆ ไปหมด
ความคิดเห็นที่ 14
เราว่าญี่ปุ่น บทดีกว่าเกาหลี 100ล้านเท่าค่ะ ซีรีส์แนวนำสังคม ให้กำลังใจ หรือแม้แต่อาชีพต่างๆ มีมาตั้งแต่ยุค 90s สมัยที่เกาหลียังจิกหัวตบหน้ากันแบบพี่ไทยอยู่เลย oops (all about eve , miss mermaid , phoenix) เช่น อดีตฝันวันวาน , วันนี้ที่รอคอย , รวมพลังสาวซ่า , ร้อนนักก็พักร้อน , long vacation , hero , GTO , ร้อยฝันพันดาวชาวธนู , ลุ้นรักทะลุมิติ , ลูกสาวเจ้าพ่อขอเป็นครู แล้วก็ลากยาวมาจนถึงปัจจุบัน ทั้ง Hanzawa Naoki , Legal High , Umechan Sensei , Kounodori , Ouroboros , Doctor X แม้กระทั้งเรื่องเกี่ยวกับ ชู้ ยังมีมิติ ดูแล้วอึ้งกะที่เขานำเสนอเลยนะ เรายอมบทญี่ปุ่นจริงๆ เขียนบทได้คมคาย แต่ยังเป็นภาษาคนพูดอยู่ไม่ใช่ภาษาประดิษฐ์
แล้วเราก็ชอบ hidden agenda บางอย่างในละครญี่ปุ่นที่ให้แรงบันดาลใจให้กำลังใจคนในประเทศตัวเอง อย่างช่วงสื่อสิ่งพิมพ์พัง เจ๊ง กันทั่วโลก ละครญี่ปุ่นมีแต่เรื่องของอาชีพคนทำงานด้านนี้ตั้งแต่ บก.(first class) นักเขียน (ghost writer) ปรู๊ฟรีดเดอร์ (เรื่องที่ซาโตมิ เล่น) ไปจนถึง "ร้านหนังสือ" (เรื่องที่เจ๊อาซุมิเล่น) แม้แต่ในละครเกี่ยวกับพ่อ ตัวเองตอนแรกยังทำงานหนังสือเลย เหมือนช่วงนึงที่ไม่มีคนสมัครตำรวจก็อัดซีรีส์ตำรวจเข้ามา เขาให้ความสำคัญจริงๆกับการผลิตคน
ส่วนเรื่องโปรดัคชั่นการถ่ายทำ เราว่าเกาหลีดีกว่าเพราะภาครัฐอัดเงินสูบฉีดส่งออกอุตสาหกรรมบันเทิงแบบสุดๆ ภาพสวย อลังการ ถ่ายทำดีมาก ต้องยอมรับเลย ดีกว่าซีรีส์ฝั่งอเมริกาบางเรื่องอีก ในขณะที่ญี่ปุ่นเขาจะแบบเน้นงานตามธรรมชาติมากกว่าบ้านต้องรกคือรก ชีวิตจริงอยู่ห้องเช่ากันยังไงในละครก็เล็กรูหนูแบบนั้น ผู้หญิงผู้ชายในประเทศคิดกันยังไง นิสัยเป็นแบบไหนก็แสดงออกมาแบบนั้น ไม่สร้างภาพ อ่อไม่อยากบอกซีรีส์เกาหลีหลายๆเรื่องก็แอบๆเอาแรงบันดาลใจมาจากญี่ปุ่นเหมือนกัน
ส่วนไต้หวันดูเป็นบางเรื่อง ตอบไม่ได้
แล้วเราก็ชอบ hidden agenda บางอย่างในละครญี่ปุ่นที่ให้แรงบันดาลใจให้กำลังใจคนในประเทศตัวเอง อย่างช่วงสื่อสิ่งพิมพ์พัง เจ๊ง กันทั่วโลก ละครญี่ปุ่นมีแต่เรื่องของอาชีพคนทำงานด้านนี้ตั้งแต่ บก.(first class) นักเขียน (ghost writer) ปรู๊ฟรีดเดอร์ (เรื่องที่ซาโตมิ เล่น) ไปจนถึง "ร้านหนังสือ" (เรื่องที่เจ๊อาซุมิเล่น) แม้แต่ในละครเกี่ยวกับพ่อ ตัวเองตอนแรกยังทำงานหนังสือเลย เหมือนช่วงนึงที่ไม่มีคนสมัครตำรวจก็อัดซีรีส์ตำรวจเข้ามา เขาให้ความสำคัญจริงๆกับการผลิตคน
ส่วนเรื่องโปรดัคชั่นการถ่ายทำ เราว่าเกาหลีดีกว่าเพราะภาครัฐอัดเงินสูบฉีดส่งออกอุตสาหกรรมบันเทิงแบบสุดๆ ภาพสวย อลังการ ถ่ายทำดีมาก ต้องยอมรับเลย ดีกว่าซีรีส์ฝั่งอเมริกาบางเรื่องอีก ในขณะที่ญี่ปุ่นเขาจะแบบเน้นงานตามธรรมชาติมากกว่าบ้านต้องรกคือรก ชีวิตจริงอยู่ห้องเช่ากันยังไงในละครก็เล็กรูหนูแบบนั้น ผู้หญิงผู้ชายในประเทศคิดกันยังไง นิสัยเป็นแบบไหนก็แสดงออกมาแบบนั้น ไม่สร้างภาพ อ่อไม่อยากบอกซีรีส์เกาหลีหลายๆเรื่องก็แอบๆเอาแรงบันดาลใจมาจากญี่ปุ่นเหมือนกัน
ส่วนไต้หวันดูเป็นบางเรื่อง ตอบไม่ได้
แสดงความคิดเห็น
รู้สึกไหมว่าเดี๋ยวนี้เกาหลี ทำซีรีย์เนี๊ยบกว่า ญี่ปุ่นและไต้หวัน
ว่างานเค้าละเอียด เนี๊ยบกว่า ลึกซึ้ง กว่าญี่ปุ่นมากมายที่ทำบทเรื่องเดียวกัน
My Wife's Having an Affair this Week
misaeng
Signal
ซีรีย์คืองานดีมีคุณภาพมากๆ ที่สำคัญคือบทลงลึกเหมือนพยายามให้คนดูดูจบแล้วได้อะไรกลับไป
เป็นสิ่งที่ไทยยังห่างไกล และก้าวนำ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ไปแล้ว