ก่อนอื่นขอเกริ่นเลยนะครับ ผมไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีหรือวิพากษ์วิจารณ์กับกรณีนี้ใดๆทั้งสิ้น กราบขออภัยและขออนุญา ตรวมถึงขออโหสิกรรมเหยื่อผู้ประสบภัยทั้งหมดด้วย

ถามเป็นสาระเลยจริงๆนะครับ จากโพสข่าวรถตู้มรณะ ที่มีผู้รอดชีวิตออกมาให้สัมภาษณ์ว่าคนอื่นในรถตู้หลับหมดส่วนตนนั้นหลับๆตื่นๆ จากนั้นก็มีคนมาคอมเมนต์ว่า 'เป็นอุทธาหรณ์สำหรับผู้ที่นั่งรถโดยสารไม่ให้หลับเพราะเวลาเกิดอุบัติเหตุจะทำให้ไม่มีสติแล้วสลบไปเลย' จากข้อความข้างบนนี้แหละครับ ที่ทำให้ผมสงสัยว่าเป็นความจริงแค่ไหนครับ

สมมตินะครับ

สมมติที่1) เป็นความจริงแค่ไหนครับที่ว่า ถ้าทุกคนรับบาดเจ็บเท่ากันเป๊ะๆ คนที่หลับระหว่างเกิดอุบัติเหตุจะสลึมสลือหรือสลบไปไม่รู้สึกตัวราวกับว่ากำลังฝันอยู่ ส่วนคนที่ตื่นขณะเกิดอุบัติเหตุจะรู้ตัวว่าตนเองได้รับอุบัติเหตุ ทำให้จิตใต้สำนึกกระตุ้นฟื้นสติขึ้นมาได้เร็วกว่าคนที่หลับ จึงพยายามช่วยตัวเองออกมาได้มากกว่า (จากข่าวคนที่บอกว่าตนไม่ได้หลับ พอฟื้นสติได้จึงคลานออกมาบอกว่าตนเองหลับๆตื่นๆ)

สมมติที่2) ขอแยกอย่างนี้นะครับ
ก. คนที่ตื่น แต่ได้รับความสาหัสถึงขึ้นรุนแรงที่อาจทำให้หมดสติ ระดับ 8/10
ข. คนที่หลับ แต่ได้รับความสาหัสถึงขึ้นรุนแรงที่อาจทำให้หมดสติ ระดับ 5/10
ถ้าการหลับกับตื่นระหว่างเกิดอุบัติเหตุมีผลในการฟื้นคืนสติ แบบนี้จะส่งผลความแตกต่างระหว่าง ก. กับ ข. ในการหมดสติหรือฟื้นคืนสติแค่ไหนครับ ก. กับ ข. ใครจะมีโอกาสฟื้นคืนสติมากกว่ากัน


สรุปคำถามแบบรวบยอด = ตกลงแล้วการหลับหรือไม่หลับส่งผลแค่ไหน หรือแท้จริงแล้วไม่เกี่ยวเลย แต่เกี่ยวกับความสาหัสที่ได้รับ หรือทั้ง2ปัจจัยนั้นต่างส่งผลต่อการหมดหรือฟื้นคืนสติทั้งคู่
   

ผมคิดว่าคำถามนี้ ถ้ามีผู้รู้ให้คำตอบได้ คงช่วยไขข้อข้องใจให้กับผม รวมถึงผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางโดยรถโดยสารสาธรณะที่ยังกังวลว่า ต่อไปถ้านั่งโดยสารแล้วจะหลับได้หรือไม่  ขอบคุณมากครับ