ผมจะขอเล่าแบบย่อๆสุดๆ คือเราทั้งคู่ทำงานเป็นครูอัตราจ้างอยู่ที่โรงเรียนเดียวกันซึ่งเป็นโรงเรียนขยายโอกาสของรัฐบาล ตัวผมเข้ามาทำก่อน 1 เทอม สอนคอมพิวเตอร์ ส่วนเธอเริ่มแรกอาสาเข้ามาสอนฟรีเพื่อที่จะให้ได้ใบประกอบวิชาชีพครู เธอเข้ามาแรกๆตามตรงเธอไม่เคยอยู่ในสายตาผมเลย แบบว่าเธอดูเหมือนคนมีครอบครัวแล้วเหมือนคนมีลูกแล้วอย่างไงอย่างงั้น...เราห่างกัน 2 ปี ตอนนี้ผม 28 เธอ 30 สามีเธอก็ 30
เริ่มแรกเราก็เป็นเพื่อนร่วมงานกันเฉยๆซึ่งผมก็ไม่คิดกับเธอมากเกินกว่านั้นจริงๆและก็คิดว่าเธอคงมีครอบครัวแล้วแน่ๆ เด็กที่ผมสอนก็ยังพูดว่าเธอแต่งงานแล้ว..ส่วนที่จะว่าใครเริ่มก่อนผมก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ว่าผมไม่เคยลุยก่อน เธอเข้ามาขอเบอร์และไลน์ผมก่อนเริ่มแรกที่ยังไม่มีอะไรเกินเลยผมก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะไม่คิดกับเธอมากเกินกว่าเพื่อน ตอนเธอโทรมาหาเรื่องงานให้ไปทำไรให้ตอนนั้นผมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเบอร์ใครเพราะว่าตอนนั้นผมยังไม่เมมเบอร์โทรด้วยซ้ำ
เธอชอบทักมาหาผมในไลน์ ถ่ายรูปเธอส่งมาให้ผมดูประจำในไลน์ เธอไปออกกำลังกายยังส่งมาให้ผมดูแต่ผมก็ยังไม่ได้คิดเอะใจอะไรก็คิดว่าคุยกันแบบเพื่อน แต่ผมขอรัดรวบถึงเรื่องเรื่องที่มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไงแล้วกัน ว่าผมเผลอใจและไม่เอ่ะใจเลยได้ยังไง
คือตอนนั้นเป็นช่วงใกล้จะปิดเทอมแล้ว งานทุกอย่างก็เสร็จสิ้นหมดแล้ว เป็นวันที่ทางโรงเรียนจัดเลี้ยงก่อนปิดเทอมใหญ่อะไรสักอย่างผมก็จำไม่ได้ เป็นช่วงต้นเดือนเมษายนซึ่งใกล้จะปิดเทอมแล้ว ก็กินเลี้ยงกันทั้งโรงเรียน จนครูทุกคนกลับหมด แต่เหลือผมกับเธอและครูดนตรีและพละอีกคน ซึ่งเป็นอัตราจ้างทั้งหมด ช่วงนั้นเราก็เมาเหล้ากันและร้องเพลงคาราโอเกะกัน จนภารโรงโทรมาให้หยุดพวกเราก็เลยหยุดร้องเพลงกันแต่ก็ยังไม่กลับ เราก็ได้ซื้อเบียร์มากินกันต่อจน เหลืออยู่แค่เราสองคน ที่อยู่ในโรงเรียนช่วงนั้นเราก็ได้ไปกินที่บ้านพักครูของครูดนตรีต่อจนครูดนตรีขอไปนอนก่อน เหลือเราอยู่สองคนแต่เธอก็ไม่ยอมกลับ เราก็นั่งคุยกันจนดึกได้สักพัก เธอก็ว่าจะเดินไปส่งผมนอนที่ห้องคอมแล้วเธอจะกลับ พอเดินไปถึงกลางทางเธอก็หยุดและนั่งคุยกลับผมที่ศาลาสักพักเราก็กลับไปนอนคุยกันในห้องพักครูดนตรี แล้วก็เหมือนกำลังจะหลับแต่ไม่ได้หลับเลยทั้งสอง ผมก็กอดเธอตอนเรานอนด้วยกันเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่ตอนนั้นผมไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากนอนกอดสักพักเธอก็ลุกขึ้นและก็บอกว่าจะกลับละนะ นั้นละครับมันคือจุดเริ่มต้น
แล้วต่อมากจากนั้นเราก็เริ่มคุยกันบ่อยขึ้น เธอชวนผมไปไหนมาไหนด้วยเสมอแต่เริ่มแรกไม่ใช่เราสองคนแต่มีคนเพื่อนร่วมงานคนอื่นด้วย ตอนช่วงก่อนวันสงกรานเธอก็ชวนผมไปเล่นด้วยกินเบียร์กัน ไปเล่นสระน้ำกัน เธอขึ้นหลังผม ตอนนั้นผมก็เริ่มรู้สึกแล้วว่ามันยังไงผมโสดนะครับผมหวั่นไหวง่ายด้วย
ผ่านมาปลายเดือนเมษายนอยู่ดีๆเธอก็ชวนผมไปร้านเหล้า แต่ผมไม่มีรถยนต์ผมก็บอกว่าไม่มีรถไปมารับไหมละถ้ามารับก็จะไป เธอก็ว่าจะมาแต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้ไปเพราะมีงานที่ต้องเตรียมที่โรงเรียนพรุ่งนี้เช้า
แต่เธอก็ชวนผมอีกช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งตอนนั้นผมก็ว่างพอดีก็ไปนั่งกินเบียร์ที่ร้านเหล้ากัน 4 คน เพื่อนเธอและแฟนเพื่อนเธอ แล้วต่อจากนั้นเราก็ไปต่อที่ผับกันหลังจากที่ออกมาจากผับ ก็ประมาร ตี2-3 ได้ เธอก็บอกนอนกันในรถเนอะ แต่ผมก็บอกว่าไปนอนรีสอทกันดีกว่าเธอก็ขับพาไปเลยในทันที...นั้นละครับคือได้เสียตัวกันครั้งแรก...แล้วครั้งต่อมามันก็ไหลตลอด
ปกติเธอจะมารับผมตอนวันศุกร์ และเราก็อยู่ด้วยกันตลอดในวันศุกร์ เสาร์ และวันอาทิตย์เธอก็กลับในตอนบ่ายๆ ในระยะเวลา 2-3 เดือนก่อนเรื่องจะแดงและสามีเธอรู้ เอาเป็นว่าเธออยู่กับผมตลอดจนผมไม่เอะใจอะไรเลยว่าเธอจะมีสามีแล้ว และผมก็เคยถามตลอดก่อนเราจะได้เสียกันด้วยซ้ำแต่เธอก็ไม่เคยยอมรับ
แล้วตอนวันที่ผมไปนอนเวรที่โรงเรียนตอนวันอาทิตย์ เธอก็ชอบจะชวนผมและครูดนตรีไปกินเหล้ากินเบียร์ย่างเนื้อย่างไส้ที่บ้านเพื่อนเธอเสมอ จนผมมั่นใจเลยว่าคงไม่มีถ้ามีคงไม่กล้าพาผมไปขนาดนั้น เราไปกันบ่อยทุกครั้งที่ผมไปนอนเวร เธอก็ชอบจะชวนไปมีครั้งหนึ่งเธอมารับผมกับครูดนตรีและน้องชายเค้าไปกินที่บ้านเพื่อนเธอ ตอนขากลับไปรถเพื่อนเธอว่าจะพาผมกับครูดนตรีไปส่งที่โรงเรียน 6 คนในรถ อยู่ดีๆใกล้จะถึงเธอก็ได้จูบปากผมแถมเอาลิ้นเข้ามาอีกตั้งหาก จนน้องชายครูดนตรีที่นั่งอยู่ข้างๆจนอาย ตอนนั้นคนเต็มรถผมก็ไม่รู้ว่าเธอกล้าทำถึงขนาดนั้นได้อย่างไร แล้วเธอก็ชวนผมไปนอนด้วยที่บ้านยายเธอ ผมก็ไปแต่เหมือนตอนนอนอยู่เหมือนเธอดูระแวงอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้ว่าระแวงอะไร
ผมขอรัดไปตอนที่สามีเธอจับได้เลยดีกว่แล้วกัน ถ้าจะนับเดือนช่วงนั้นจะเป็นช่วงเดือนกรกฎาคมเดือนที่ 3 แล้วได้ที่เราอยู่ด้วยกันมาตลอด ตอนวันเสาร์ก่อนถึงวันอาทิตย์เธอพูดแปลกๆว่าอาจเกิดเรื่องขึ้น อะไรจะเกิดก็คงต้องเกิดทำเอาผมงง แล้วเธอก็บอกยอมรับว่ามีแฟนแล้วแต่ไม่ได้บอกถึงขนาดว่าแต่งงานแล้ว พอวันอาทิตย์ เธอก็ได้คุยกับแม่หรือน้องสาวเธออะไรสักอย่าง แล้วดูๆเหมือนหน้าเสียๆไปเลย พอส่งผมกลับบ้านแล้วตอนกลางคืนเธอพูดแปลกๆ ว่าถ้าจะเสียใครไปทั้งสองก็ยอม แล้วก็บอกผมว่าเธอแต่งานมาแล้ว 2 ปี ว่าผมรับได้ไหม เธอบอกว่าใกล้จะเลิกกันแล้วมีเรื่องกันมานานใกล้จะเลิกกันแล้ว ด้วยผมก็รักเธอไปแล้วจริงๆตอนนั้น ก็บอกไปว่ารับได้สิ เธอบอกว่าเธอปิดโทรศัพมาตั้งแต่วันศุกร์ ทำให้สามีเธอติดต่อไม่ได้ และมาหาเธอตั้งแต่วันเสาร์แล้วเธอไม่อยู่บ้าน แล้วสามีเธอก็ไปหาเธอทุกรีสอทในจังหวัด และร้านเหล้าทุกร้าน เธอบอกอย่างนี้ แต่โชคดีที่วันนั้นเราไปอยู่อพาร์ทเม้นท์กันเลยรอดถ้าไปรีสอทไม่รู้จะเกิดไรขึ้นเพราะสามีเธอจำรถเธอได้
แต่ที่สามีเธอจับได้คือตอนวันจันทร์ เธอบอกว่าเธอไปเข้าห้องน้ำแล้วว่างโทรศัพไว้สามีเธอมาตอนไหนไม่รู้เปิดดูข้อความที่เราคุยกันในไลน์หมดแล้ว หลังจากนั้นสามีเธอก็โทรมาหาผมเป็นเบอร์เธอแต่ผมไม่ได้รับแล้วผมก็โทรกลับพอรับแล้วก็เสียงผู้ชายพูดบอกว่าเป็นหลานตอนนั้นผมก็ดันเชื่อ แล้วก็หลอกถามผมว่าทำงานไหน รักครู...จริงไหม ผมก็ตอบไปด้วยความซื่อของผมหารู้ไหมนั้นสามีเค้า แล้วเช้าวันอังคารเธอก็เข้าช้ามาก แล้วครูที่ รร ผมก็โทรมาหาผมว่ามีคนขอพบผมนั้นละครับ สามีเค้าขอพบผม
สามีเค้าก็บอกว่ารู้ไหมว่าเธอแต่งงานกับเค้ามา 2 ปีแล้วแต่ยังไม่มีลูกกันหรอก แล้วก็ถามผมว่ารับผิดชอบได้ไหม ผมก็ตอนนั้นก็ทำไรไม่ถูกจริงๆตอบคับๆไปหมด ตอบได้แค่ครับ เค้าพูดอยากรู้ว่าผมจะตอบเหมือนกันกับเมียเค้าบอกไหม เค้าก็ถามว่าคบกันมายัง ตอนนั้นผมก็บอกไปว่า 2-3 เดือน เค้าถามว่าวันเสาร์ไปอยู่ด้วยกันมาใช่ไหม ผมก็ตอบครับแต่อยูหลายคน เค้าก็ไม่เชื่อ ผมก็บอกว่าไม่ได้มีอะไรกันเค้าก็ไม่เชื่อ
แต่สิ่งที่เค้าเชื่อคือเราอยู่ด้วยกันแค่คืนเดียว ซึ่งความจริงแล้วเราอยู่ด้วยกันมา 2-3 เดือนแล้ว ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แล้วเค้าก็ถามก่อนไปว่าตอบตรงๆ แล้วเค้าจะไป รับผิดชอบครู...ได้ใช่ไหม ผมก็ตอบคับ แล้วเค้าก็ไปวันนั้นเป็นวันที่ผมกินข้าวไม่รู้สั่นทำไรไม่ถูกเลยจริงๆ
พอตอนเย็นเธอก็โทรมาหาผมว่าสามีเธอจะเอาพ่อแม่ญาติมาหญ่าและจะเล่นงานเธอแล้วเธอก็พูดว่าจะไม่ให้เสียหายมาถึงผม แต่แล้ววันต่อมาเธอก็พูดว่าทุกอย่างจบลงด้วยดีแล้วบอกว่าสามีเธอบอกขอโอกาสแล้วเธอก็ให้โอกาสมันเหมือนตลอดเวลาที่ผ่านมาผมเป็นตัวอะไร เธอใช้ผมเป็นตัวอะไรใช้ผมเพื่อเรียกร้องให้สามีเธอกลับมาสนใจเธออีกครั้งใช่ไหม
แล้วหลังจากนั้นเราก็ยังแอบคุยกันอยู่ แต่วันที่สามีเธอมาหาก็จะไม่คุย แล้วเธอก็ยังแอบมาหาผมเหมือนเดิมแต่ไม่ได้ค้างคืนด้วยกันเหมือนแต่ก่อน แต่จะเป้นอาทิตละวัน มารับผมไปกินข้าวแล้วก็นอนด้วยกัน ถ้าจะให้พูดตามตรงผมก็รู้สึกผิดนะที่รู้แล้วยังทำอีก แต่มันก็ตัดไม่ได้จริงๆ
มาถึงช่วงที่เธอเปลี่ยนไป ช่วงนั้นช่วงที่ยายเธอป่วยหนักและเธอต้องไปเฝ้ายายอยู่ รพ ทุกวัน เธอก็เริ่มห่างเหินกับผมแต่ก็ยังแอบคุยกันอยู่ แต่เธอไม่มาหาผมอีกแล้ว แต่ผมก็รู้ว่าเธอต้องการอะไร สิ่งที่เธอต้องการคือตัดผมไปจากเธอจริงๆ แต่อยากให้ผมเป็นเพื่อนกับเธอเหมือนเดิม เหมือนตอนที่เรายังไม่เกินเลยกัน
แต่ถ้าจะให้ผมตามตรงคือผมทำไม่ได้เลย เราต้องเจอกันทุกวัน มีช่วงหนึ่งผมพยายามไม่คุยไม่มองหน้าเธอเลยแล้วเธอก็ทักมาในเฟส แต่เป็นเฟสอื่นที่เธอสมัครไว้คุยกับผมโดนเฉพาะ ละแล้วผมก็ใจอ่อนยอมคุย แต่มันก็เปลี่ยนไปแล้วทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิม เธอก็คอลมาหาผมนะ คอลมาเกือบทุกวันตอนที่สามีไม่อยู่น่ะ
แต่ไม่ได้มาหาผมเหมือนเดิมอีกแล้ว แล้วผมก็ทำไม่ได้ผมกลับไปเริ่มใหม่ให้เป็นเพื่อนกันเหมือนตอนยังไม่เกินเลยไม่ได้จริงๆ ผมก็บอกว่าผมทำไม่ได้เราอย่าคุยกันอีกแล้วเราเป็นเพื่อนกับเธอไม่ได้จริงๆทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมดเธอเปลี่ยนไปรู้ว่าผิดรู้ว่าไม่ควรแต่เราอยากตัดใจจากเธอจริงๆ ผมยังรู้สึกทุกครั้งที่เจอเธอเห็นหน้าเธอและแม้แต่ได้ยินเสียงเธอมันทำผมเจ็บมาก และอึดอัดมากจริงๆทุกอย่างมันไม่อาจย้อนกลับไปเหมือนเดิมอีกแล้ว ถ้ามีงานที่อื่นผมอยากจะลาออกไปซะไม่ต้องเจอกับเธออีก
เธอก็ควรจากไปซะเธอเป็นคนเริ่มทุกอย่างทั้งๆที่รู้ว่าผิดและไม่ควร ทำไมทำกับผมแบบนี้ ทั้งที่ผมก็เคยเล่าเรื่องผมให้เธอฟังทุกอย่าง ว่าผมโสดนะรักใครรักจริงรักมากด้วย และไม่ชอบแย่งของๆใคร ยุ่งกับแฟนของใคร เธอทำผมผิดคำสัญญาที่ผมเคยพูดกับตัวเองเสมอถ้าเธอบอกตั้งแต่แรกเราคงได้เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมแล้วผมก็คงไม่คิดกับเธอมากว่าเพื่อน แต่ตอนนี้มันทำให้ผมอึดอัดมากจริงๆที่เราต้องเจอกันทำงานที่เดียวกัน ถ้าผมเป็นสามีเธอรู้ขนาดนี้แล้วคงไม่ยอมให้เมียทำต่อแน่ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมยังยอมให้เมียอยู่ต่อ สามีเค้าก็ไม่รักษาคำพูดเหมือนกันสุดท้ายก็ทำไม่ได้ แต่ก็ช่างเถอะผมไม่คิดอยากแย่งใครอยู่แล้วแต่ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันทรมารและทำให้ผมอึดอัดมากอยากจะหนีไปไกลๆ และไม่ต้องเจอกันอีกแลย
ผมเคยคิดอยากจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้สามีเธอฟัง แต่ก็โดนผู้ใหญ่ที่สนิทกันในโรงเรียนที่รู้เรื่องของผมทั้งหมดห้ามไว้ ความคิดในตอนั้นแค่อยากเล่าเรื่องทั้งหมดความจริงให้สามีเค้าฟังไม่ใช่อยากจะตอกย้ำ แต่แค่อยากจะให้เอาเมียเค้าไปอยู่ด้วยกันให้จบๆ ซะมันไม่ถูกที่เป็นแบบนี้ มันทำร้ายผมเกินไป..แต่ก็ไม่รู้ว่าถ้าเล่าความจริงทั้งหมดแล้วสามีเค้าจะรับได้ไหม ว่าเมียเค้าสร้างวีรกรรมอะไรไว้บ้าง
....ที่ผมนำมาเล่าเรื่องทั้งหมดคือ ผมรู้ว่ามันจบลงแล้วจริงๆ แล้วมันยังไม่จบจริงๆ คือมันยังต้องเจอกันทุกวันไม่อยากมองหน้าแต่ยังได้ยินเสียง ทุกครั้งมันเจ็บจริงๆ อึดอัดทำงานไม่มีความสุขเลยจริงๆ เธอก็ไม่ยอมออก ครูที่โรงเรียนรู้กันหมด ผมไม่อายนะเพราะผมไม่รู้แต่แรก ขนาดเด็กนักเรียนยังรู้ แต่เธอก็ยังมองโลกในแง่ดีว่าคนอื่นไม่รู้คนอื่นแค่คิดว่าเราคุยกันเฉยๆไม่ได้มีอะไรลึกซึ้ง..ซึ่งจริงๆไม่ใช่เลยขนาดภารโลงยังรู้ว่าเราได้เสียกัน ผมไม่อยากทำร้ายชีวิตใครหรอก..แต่ที่เกิดขึ้นตอนนี้คือเธอกำลังทำลายชีวิตผมอยู่
ไม่ใช่ว่าผมไม่รับผิดชอบใครถามผมก็บอกรับผิดหมด แต่เธอไม่เอาเอง แล้วเธอก็ควรรับผิดชอบผลการกระทำของเธอสิ แต่นี่เธอยังยังมาทำงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่รู้ว่าทำได้ไงถ้าผมเป็นเธอคงไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว....ทำไมผมต้องโดนอะไรแบบนี้ด้วย...แต่ละวันผมต้องทำงานแบบอึดอัดใจจริงๆ ไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลยจริงๆ ทำไมต้องทำกับผมแบบนี้....
....*เรื่องราวทั้งหมดไม่ใช่เรื่องที่แต่งขึ้น แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผมแล้วมันทำให้ผมอึดอัดใจเหลือเกินจึงมาเล่าให้ฟัง ขอบคุณครับที่อ่านจบ....*
รักกับเพื่อนรวมงาน...แอบคบกันมานาน(พึ่งมารู้ทีหลังเค้าแต่งงานมาแล้ว2-3ปี)
เริ่มแรกเราก็เป็นเพื่อนร่วมงานกันเฉยๆซึ่งผมก็ไม่คิดกับเธอมากเกินกว่านั้นจริงๆและก็คิดว่าเธอคงมีครอบครัวแล้วแน่ๆ เด็กที่ผมสอนก็ยังพูดว่าเธอแต่งงานแล้ว..ส่วนที่จะว่าใครเริ่มก่อนผมก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ว่าผมไม่เคยลุยก่อน เธอเข้ามาขอเบอร์และไลน์ผมก่อนเริ่มแรกที่ยังไม่มีอะไรเกินเลยผมก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะไม่คิดกับเธอมากเกินกว่าเพื่อน ตอนเธอโทรมาหาเรื่องงานให้ไปทำไรให้ตอนนั้นผมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเบอร์ใครเพราะว่าตอนนั้นผมยังไม่เมมเบอร์โทรด้วยซ้ำ
เธอชอบทักมาหาผมในไลน์ ถ่ายรูปเธอส่งมาให้ผมดูประจำในไลน์ เธอไปออกกำลังกายยังส่งมาให้ผมดูแต่ผมก็ยังไม่ได้คิดเอะใจอะไรก็คิดว่าคุยกันแบบเพื่อน แต่ผมขอรัดรวบถึงเรื่องเรื่องที่มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไงแล้วกัน ว่าผมเผลอใจและไม่เอ่ะใจเลยได้ยังไง
คือตอนนั้นเป็นช่วงใกล้จะปิดเทอมแล้ว งานทุกอย่างก็เสร็จสิ้นหมดแล้ว เป็นวันที่ทางโรงเรียนจัดเลี้ยงก่อนปิดเทอมใหญ่อะไรสักอย่างผมก็จำไม่ได้ เป็นช่วงต้นเดือนเมษายนซึ่งใกล้จะปิดเทอมแล้ว ก็กินเลี้ยงกันทั้งโรงเรียน จนครูทุกคนกลับหมด แต่เหลือผมกับเธอและครูดนตรีและพละอีกคน ซึ่งเป็นอัตราจ้างทั้งหมด ช่วงนั้นเราก็เมาเหล้ากันและร้องเพลงคาราโอเกะกัน จนภารโรงโทรมาให้หยุดพวกเราก็เลยหยุดร้องเพลงกันแต่ก็ยังไม่กลับ เราก็ได้ซื้อเบียร์มากินกันต่อจน เหลืออยู่แค่เราสองคน ที่อยู่ในโรงเรียนช่วงนั้นเราก็ได้ไปกินที่บ้านพักครูของครูดนตรีต่อจนครูดนตรีขอไปนอนก่อน เหลือเราอยู่สองคนแต่เธอก็ไม่ยอมกลับ เราก็นั่งคุยกันจนดึกได้สักพัก เธอก็ว่าจะเดินไปส่งผมนอนที่ห้องคอมแล้วเธอจะกลับ พอเดินไปถึงกลางทางเธอก็หยุดและนั่งคุยกลับผมที่ศาลาสักพักเราก็กลับไปนอนคุยกันในห้องพักครูดนตรี แล้วก็เหมือนกำลังจะหลับแต่ไม่ได้หลับเลยทั้งสอง ผมก็กอดเธอตอนเรานอนด้วยกันเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่ตอนนั้นผมไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากนอนกอดสักพักเธอก็ลุกขึ้นและก็บอกว่าจะกลับละนะ นั้นละครับมันคือจุดเริ่มต้น
แล้วต่อมากจากนั้นเราก็เริ่มคุยกันบ่อยขึ้น เธอชวนผมไปไหนมาไหนด้วยเสมอแต่เริ่มแรกไม่ใช่เราสองคนแต่มีคนเพื่อนร่วมงานคนอื่นด้วย ตอนช่วงก่อนวันสงกรานเธอก็ชวนผมไปเล่นด้วยกินเบียร์กัน ไปเล่นสระน้ำกัน เธอขึ้นหลังผม ตอนนั้นผมก็เริ่มรู้สึกแล้วว่ามันยังไงผมโสดนะครับผมหวั่นไหวง่ายด้วย
ผ่านมาปลายเดือนเมษายนอยู่ดีๆเธอก็ชวนผมไปร้านเหล้า แต่ผมไม่มีรถยนต์ผมก็บอกว่าไม่มีรถไปมารับไหมละถ้ามารับก็จะไป เธอก็ว่าจะมาแต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้ไปเพราะมีงานที่ต้องเตรียมที่โรงเรียนพรุ่งนี้เช้า
แต่เธอก็ชวนผมอีกช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งตอนนั้นผมก็ว่างพอดีก็ไปนั่งกินเบียร์ที่ร้านเหล้ากัน 4 คน เพื่อนเธอและแฟนเพื่อนเธอ แล้วต่อจากนั้นเราก็ไปต่อที่ผับกันหลังจากที่ออกมาจากผับ ก็ประมาร ตี2-3 ได้ เธอก็บอกนอนกันในรถเนอะ แต่ผมก็บอกว่าไปนอนรีสอทกันดีกว่าเธอก็ขับพาไปเลยในทันที...นั้นละครับคือได้เสียตัวกันครั้งแรก...แล้วครั้งต่อมามันก็ไหลตลอด
ปกติเธอจะมารับผมตอนวันศุกร์ และเราก็อยู่ด้วยกันตลอดในวันศุกร์ เสาร์ และวันอาทิตย์เธอก็กลับในตอนบ่ายๆ ในระยะเวลา 2-3 เดือนก่อนเรื่องจะแดงและสามีเธอรู้ เอาเป็นว่าเธออยู่กับผมตลอดจนผมไม่เอะใจอะไรเลยว่าเธอจะมีสามีแล้ว และผมก็เคยถามตลอดก่อนเราจะได้เสียกันด้วยซ้ำแต่เธอก็ไม่เคยยอมรับ
แล้วตอนวันที่ผมไปนอนเวรที่โรงเรียนตอนวันอาทิตย์ เธอก็ชอบจะชวนผมและครูดนตรีไปกินเหล้ากินเบียร์ย่างเนื้อย่างไส้ที่บ้านเพื่อนเธอเสมอ จนผมมั่นใจเลยว่าคงไม่มีถ้ามีคงไม่กล้าพาผมไปขนาดนั้น เราไปกันบ่อยทุกครั้งที่ผมไปนอนเวร เธอก็ชอบจะชวนไปมีครั้งหนึ่งเธอมารับผมกับครูดนตรีและน้องชายเค้าไปกินที่บ้านเพื่อนเธอ ตอนขากลับไปรถเพื่อนเธอว่าจะพาผมกับครูดนตรีไปส่งที่โรงเรียน 6 คนในรถ อยู่ดีๆใกล้จะถึงเธอก็ได้จูบปากผมแถมเอาลิ้นเข้ามาอีกตั้งหาก จนน้องชายครูดนตรีที่นั่งอยู่ข้างๆจนอาย ตอนนั้นคนเต็มรถผมก็ไม่รู้ว่าเธอกล้าทำถึงขนาดนั้นได้อย่างไร แล้วเธอก็ชวนผมไปนอนด้วยที่บ้านยายเธอ ผมก็ไปแต่เหมือนตอนนอนอยู่เหมือนเธอดูระแวงอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้ว่าระแวงอะไร
ผมขอรัดไปตอนที่สามีเธอจับได้เลยดีกว่แล้วกัน ถ้าจะนับเดือนช่วงนั้นจะเป็นช่วงเดือนกรกฎาคมเดือนที่ 3 แล้วได้ที่เราอยู่ด้วยกันมาตลอด ตอนวันเสาร์ก่อนถึงวันอาทิตย์เธอพูดแปลกๆว่าอาจเกิดเรื่องขึ้น อะไรจะเกิดก็คงต้องเกิดทำเอาผมงง แล้วเธอก็บอกยอมรับว่ามีแฟนแล้วแต่ไม่ได้บอกถึงขนาดว่าแต่งงานแล้ว พอวันอาทิตย์ เธอก็ได้คุยกับแม่หรือน้องสาวเธออะไรสักอย่าง แล้วดูๆเหมือนหน้าเสียๆไปเลย พอส่งผมกลับบ้านแล้วตอนกลางคืนเธอพูดแปลกๆ ว่าถ้าจะเสียใครไปทั้งสองก็ยอม แล้วก็บอกผมว่าเธอแต่งานมาแล้ว 2 ปี ว่าผมรับได้ไหม เธอบอกว่าใกล้จะเลิกกันแล้วมีเรื่องกันมานานใกล้จะเลิกกันแล้ว ด้วยผมก็รักเธอไปแล้วจริงๆตอนนั้น ก็บอกไปว่ารับได้สิ เธอบอกว่าเธอปิดโทรศัพมาตั้งแต่วันศุกร์ ทำให้สามีเธอติดต่อไม่ได้ และมาหาเธอตั้งแต่วันเสาร์แล้วเธอไม่อยู่บ้าน แล้วสามีเธอก็ไปหาเธอทุกรีสอทในจังหวัด และร้านเหล้าทุกร้าน เธอบอกอย่างนี้ แต่โชคดีที่วันนั้นเราไปอยู่อพาร์ทเม้นท์กันเลยรอดถ้าไปรีสอทไม่รู้จะเกิดไรขึ้นเพราะสามีเธอจำรถเธอได้
แต่ที่สามีเธอจับได้คือตอนวันจันทร์ เธอบอกว่าเธอไปเข้าห้องน้ำแล้วว่างโทรศัพไว้สามีเธอมาตอนไหนไม่รู้เปิดดูข้อความที่เราคุยกันในไลน์หมดแล้ว หลังจากนั้นสามีเธอก็โทรมาหาผมเป็นเบอร์เธอแต่ผมไม่ได้รับแล้วผมก็โทรกลับพอรับแล้วก็เสียงผู้ชายพูดบอกว่าเป็นหลานตอนนั้นผมก็ดันเชื่อ แล้วก็หลอกถามผมว่าทำงานไหน รักครู...จริงไหม ผมก็ตอบไปด้วยความซื่อของผมหารู้ไหมนั้นสามีเค้า แล้วเช้าวันอังคารเธอก็เข้าช้ามาก แล้วครูที่ รร ผมก็โทรมาหาผมว่ามีคนขอพบผมนั้นละครับ สามีเค้าขอพบผม
สามีเค้าก็บอกว่ารู้ไหมว่าเธอแต่งงานกับเค้ามา 2 ปีแล้วแต่ยังไม่มีลูกกันหรอก แล้วก็ถามผมว่ารับผิดชอบได้ไหม ผมก็ตอนนั้นก็ทำไรไม่ถูกจริงๆตอบคับๆไปหมด ตอบได้แค่ครับ เค้าพูดอยากรู้ว่าผมจะตอบเหมือนกันกับเมียเค้าบอกไหม เค้าก็ถามว่าคบกันมายัง ตอนนั้นผมก็บอกไปว่า 2-3 เดือน เค้าถามว่าวันเสาร์ไปอยู่ด้วยกันมาใช่ไหม ผมก็ตอบครับแต่อยูหลายคน เค้าก็ไม่เชื่อ ผมก็บอกว่าไม่ได้มีอะไรกันเค้าก็ไม่เชื่อ
แต่สิ่งที่เค้าเชื่อคือเราอยู่ด้วยกันแค่คืนเดียว ซึ่งความจริงแล้วเราอยู่ด้วยกันมา 2-3 เดือนแล้ว ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แล้วเค้าก็ถามก่อนไปว่าตอบตรงๆ แล้วเค้าจะไป รับผิดชอบครู...ได้ใช่ไหม ผมก็ตอบคับ แล้วเค้าก็ไปวันนั้นเป็นวันที่ผมกินข้าวไม่รู้สั่นทำไรไม่ถูกเลยจริงๆ
พอตอนเย็นเธอก็โทรมาหาผมว่าสามีเธอจะเอาพ่อแม่ญาติมาหญ่าและจะเล่นงานเธอแล้วเธอก็พูดว่าจะไม่ให้เสียหายมาถึงผม แต่แล้ววันต่อมาเธอก็พูดว่าทุกอย่างจบลงด้วยดีแล้วบอกว่าสามีเธอบอกขอโอกาสแล้วเธอก็ให้โอกาสมันเหมือนตลอดเวลาที่ผ่านมาผมเป็นตัวอะไร เธอใช้ผมเป็นตัวอะไรใช้ผมเพื่อเรียกร้องให้สามีเธอกลับมาสนใจเธออีกครั้งใช่ไหม
แล้วหลังจากนั้นเราก็ยังแอบคุยกันอยู่ แต่วันที่สามีเธอมาหาก็จะไม่คุย แล้วเธอก็ยังแอบมาหาผมเหมือนเดิมแต่ไม่ได้ค้างคืนด้วยกันเหมือนแต่ก่อน แต่จะเป้นอาทิตละวัน มารับผมไปกินข้าวแล้วก็นอนด้วยกัน ถ้าจะให้พูดตามตรงผมก็รู้สึกผิดนะที่รู้แล้วยังทำอีก แต่มันก็ตัดไม่ได้จริงๆ
มาถึงช่วงที่เธอเปลี่ยนไป ช่วงนั้นช่วงที่ยายเธอป่วยหนักและเธอต้องไปเฝ้ายายอยู่ รพ ทุกวัน เธอก็เริ่มห่างเหินกับผมแต่ก็ยังแอบคุยกันอยู่ แต่เธอไม่มาหาผมอีกแล้ว แต่ผมก็รู้ว่าเธอต้องการอะไร สิ่งที่เธอต้องการคือตัดผมไปจากเธอจริงๆ แต่อยากให้ผมเป็นเพื่อนกับเธอเหมือนเดิม เหมือนตอนที่เรายังไม่เกินเลยกัน
แต่ถ้าจะให้ผมตามตรงคือผมทำไม่ได้เลย เราต้องเจอกันทุกวัน มีช่วงหนึ่งผมพยายามไม่คุยไม่มองหน้าเธอเลยแล้วเธอก็ทักมาในเฟส แต่เป็นเฟสอื่นที่เธอสมัครไว้คุยกับผมโดนเฉพาะ ละแล้วผมก็ใจอ่อนยอมคุย แต่มันก็เปลี่ยนไปแล้วทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิม เธอก็คอลมาหาผมนะ คอลมาเกือบทุกวันตอนที่สามีไม่อยู่น่ะ
แต่ไม่ได้มาหาผมเหมือนเดิมอีกแล้ว แล้วผมก็ทำไม่ได้ผมกลับไปเริ่มใหม่ให้เป็นเพื่อนกันเหมือนตอนยังไม่เกินเลยไม่ได้จริงๆ ผมก็บอกว่าผมทำไม่ได้เราอย่าคุยกันอีกแล้วเราเป็นเพื่อนกับเธอไม่ได้จริงๆทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมดเธอเปลี่ยนไปรู้ว่าผิดรู้ว่าไม่ควรแต่เราอยากตัดใจจากเธอจริงๆ ผมยังรู้สึกทุกครั้งที่เจอเธอเห็นหน้าเธอและแม้แต่ได้ยินเสียงเธอมันทำผมเจ็บมาก และอึดอัดมากจริงๆทุกอย่างมันไม่อาจย้อนกลับไปเหมือนเดิมอีกแล้ว ถ้ามีงานที่อื่นผมอยากจะลาออกไปซะไม่ต้องเจอกับเธออีก
เธอก็ควรจากไปซะเธอเป็นคนเริ่มทุกอย่างทั้งๆที่รู้ว่าผิดและไม่ควร ทำไมทำกับผมแบบนี้ ทั้งที่ผมก็เคยเล่าเรื่องผมให้เธอฟังทุกอย่าง ว่าผมโสดนะรักใครรักจริงรักมากด้วย และไม่ชอบแย่งของๆใคร ยุ่งกับแฟนของใคร เธอทำผมผิดคำสัญญาที่ผมเคยพูดกับตัวเองเสมอถ้าเธอบอกตั้งแต่แรกเราคงได้เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมแล้วผมก็คงไม่คิดกับเธอมากว่าเพื่อน แต่ตอนนี้มันทำให้ผมอึดอัดมากจริงๆที่เราต้องเจอกันทำงานที่เดียวกัน ถ้าผมเป็นสามีเธอรู้ขนาดนี้แล้วคงไม่ยอมให้เมียทำต่อแน่ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมยังยอมให้เมียอยู่ต่อ สามีเค้าก็ไม่รักษาคำพูดเหมือนกันสุดท้ายก็ทำไม่ได้ แต่ก็ช่างเถอะผมไม่คิดอยากแย่งใครอยู่แล้วแต่ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันทรมารและทำให้ผมอึดอัดมากอยากจะหนีไปไกลๆ และไม่ต้องเจอกันอีกแลย
ผมเคยคิดอยากจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้สามีเธอฟัง แต่ก็โดนผู้ใหญ่ที่สนิทกันในโรงเรียนที่รู้เรื่องของผมทั้งหมดห้ามไว้ ความคิดในตอนั้นแค่อยากเล่าเรื่องทั้งหมดความจริงให้สามีเค้าฟังไม่ใช่อยากจะตอกย้ำ แต่แค่อยากจะให้เอาเมียเค้าไปอยู่ด้วยกันให้จบๆ ซะมันไม่ถูกที่เป็นแบบนี้ มันทำร้ายผมเกินไป..แต่ก็ไม่รู้ว่าถ้าเล่าความจริงทั้งหมดแล้วสามีเค้าจะรับได้ไหม ว่าเมียเค้าสร้างวีรกรรมอะไรไว้บ้าง
....ที่ผมนำมาเล่าเรื่องทั้งหมดคือ ผมรู้ว่ามันจบลงแล้วจริงๆ แล้วมันยังไม่จบจริงๆ คือมันยังต้องเจอกันทุกวันไม่อยากมองหน้าแต่ยังได้ยินเสียง ทุกครั้งมันเจ็บจริงๆ อึดอัดทำงานไม่มีความสุขเลยจริงๆ เธอก็ไม่ยอมออก ครูที่โรงเรียนรู้กันหมด ผมไม่อายนะเพราะผมไม่รู้แต่แรก ขนาดเด็กนักเรียนยังรู้ แต่เธอก็ยังมองโลกในแง่ดีว่าคนอื่นไม่รู้คนอื่นแค่คิดว่าเราคุยกันเฉยๆไม่ได้มีอะไรลึกซึ้ง..ซึ่งจริงๆไม่ใช่เลยขนาดภารโลงยังรู้ว่าเราได้เสียกัน ผมไม่อยากทำร้ายชีวิตใครหรอก..แต่ที่เกิดขึ้นตอนนี้คือเธอกำลังทำลายชีวิตผมอยู่
ไม่ใช่ว่าผมไม่รับผิดชอบใครถามผมก็บอกรับผิดหมด แต่เธอไม่เอาเอง แล้วเธอก็ควรรับผิดชอบผลการกระทำของเธอสิ แต่นี่เธอยังยังมาทำงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่รู้ว่าทำได้ไงถ้าผมเป็นเธอคงไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว....ทำไมผมต้องโดนอะไรแบบนี้ด้วย...แต่ละวันผมต้องทำงานแบบอึดอัดใจจริงๆ ไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลยจริงๆ ทำไมต้องทำกับผมแบบนี้....
....*เรื่องราวทั้งหมดไม่ใช่เรื่องที่แต่งขึ้น แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผมแล้วมันทำให้ผมอึดอัดใจเหลือเกินจึงมาเล่าให้ฟัง ขอบคุณครับที่อ่านจบ....*