พล็อตเรื่อง 6.5/10
วิลเลี่ยม(Matt Damon)และโทวา(Pedro Pascal)หนีการตามล่าของสัตว์ประหลาดบางอย่างมาถึงกำแพงเมืองจีน พวกเขาได้รู้ความจริงจากกองทัพจีนที่นั่นว่าทุกๆ 60 ปีจะมีการรุกรานของสัตว์ประหลาดที่พวกเขาเรียกว่าเทาเทีย ทำให้กองทัพจีนต้องปกป้องการรุนรานนี้ไม่ให้ข้ามกำแพงเมืองจีนไปถึงเมืองหลวงได้โดยเด็ดขาด

เป็นพล็อตเรื่องหนังสงครามที่ดูแหวกแนวดีเปลี่ยนเรื่องราวจากคนรบกับคนเป็นคนรบกับสัตว์ประหลาดแทน หนังมีช่องโหว่ค่อนข้างเยอะ อย่างการปูเรื่องราวที่มาตัวละครก็มีไม่มาก ทำให้เราไม่ค่อยรู้จักตัวละครแต่ละตัวสักเท่าไหร่ต้องพึ่งที่ฝีมือการแสดงของนักแสดงล้วนๆ หนังยังมีการปูประวัติของกำแพงเมืองจีนที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ รวมๆทุกอย่างเป็นพล็อตเรื่องง่ายๆไม่ได้มีอะไรมากมายและซับซ้อน


ดำเนินเรื่อง 6/10
แทบจะเป็นธรรมเนียมของหนังจีนสมัยนี้แทบจะทุกเรื่องเลยที่จะเน้นเครื่องแต่งกาย หน้าผม เทคนิคการถ่ายทำพิเศษต่างๆ ซะยิ่งใหญ่อลังการงานสร้าง รวมถึงเล่นกับจำนวนคนเยอะๆให้ฉากดูยิ่งใหญ่สวยงามขึ้นไปอีกแต่การดำเนินเรื่องกลับทำได้ตรงกันข้าม หนังขาดความสมเหตุสมผลในหลายๆอย่างมากๆ หนังโชว์ให้เราเห็นวิธีการรบหลายๆแบบที่ดูจะท่าดีแต่ทีเหลวไปซะหมด สักแต่เน้นสวยงามตระการตาแต่เหมือนส่งคนลงไปตายเล่นซะอย่างงั้น เหมือนกับว่าทำการรบแบบนี้มาตลอดแล้วมันเวิคสามารถต้านทานได้แต่เท่าที่เราเห็นในหนังจะรู้สึกว่าการสู้แบบนี้มันไม่น่ารอดมาได้สักครั้งถ้าจะเอากันจริงๆ รูปแบบการรบบางอย่างที่ดูเวิคใช้ได้ผลดีในช่วงหลังๆ ก็กลับทำให้เราตั้งคำถามขึ้นมาว่าทำไมไม่ใช้ตั้งแต่แรก.. เหมือนจะโชว์การรบครั้งต่อๆไปจะต้องมีลูกเล่นใหม่มานำเสนอคนดูแต่กลับลืมไปว่ามันไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลยที่ไม่ใช้ตั้งแต่ทีแรก

หนังได้แนะนำให้เรารู้จักกองทัพที่แบ่งออกเป็นหลายๆสีว่าแต่ละสีทำหน้าที่อะไรบ้างแต่หนังกลับใช้หน้าที่เหล่านั้นได้ไม่คุ้มค่าเลย หากลองมานั่งนึกดูสีที่เราจดจำได้จะมีอยู่สี 2 สีเท่านั้น สีอื่นๆเหมือนมาแสดงให้เห็นว่าทำหน้าที่อะไรแล้วก้อไม่มีอะไรอีกเลย ตัวประกอบชัดๆทั้งที่น่าจะมีความสำคัญ ถ้าหนังขยี้จุดนี้สักหน่อยแถมได้พระเอกที่ฝีมือเก่งกาจอยู่แล้วมาร่วมรบ น่าจะทำให้ฉากรบสนุกมากกว่านี้ ด้านเทคนิคการถ่ายทำก็ทำได้ดีทีเดียวโดยเฉพาะมุมกล้องต่างๆที่ชอบมากๆ เช่น ฉากยิงธนู, ยิงลูกระเบิดไฟหรือตอนทีมกระเรียนปฏิบัติการ รวมถึงกองทัพเทาเทียที่น่าตื่นตา


ตัวละคร 6/10
ที่ดูโดดเด่นจริงๆน่าจะเป็นคู่พระนางแมตต์ เดม่อนและจิงเทียน ผมว่าแมตต์ เดม่อนแสดงได้ดีในหลายๆด้านแต่กลับรู้สึกว่าไม่ค่อยเข้าพวกกับตัวละครอื่นๆเอาซะเลย ไม่ได้หมายความว่าแมตต์ เดม่อนแสดงไม่ดีนะครับ แต่ตัวละครของเขาดูไม่ค่อยเข้ากับตัวละครจีนคนอื่นๆ จะบอกว่าเป็นเรื่องเชื้อชาติที่แตกต่างกันก็อาจจะมีส่วน เมื่อพูดถึงเรื่องยิงธนูก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเลโกลาส ทักษะการยิงธนูของแมตต์ เดม่อนก็ดูมันดี ใช้ได้แต่รู้สึกยังเทียบกับเลโกลาสไม่ได้ หนังอาจจะมีฉากที่ปล่อยของได้ไม่มันเท่าแต่โดยรวมแมตต์ เดม่อนทำได้ดีเลย ส่วนจิงเทียนตั้งแต่หน้าปกแล้วผมแอบรู้สึกว่าหน้าเธอเหมือนหน้า CG เกมออนไลน์ทั่วๆไป 55 เนียนเด้งมาากก ส่วนเรื่องการแสดงรู้สึกว่าค่อนข้างแข็งๆไปหน่อยแต่ก็พอได้ ส่วนพี่หลิวเราก็มารับบทสมทบจะบอกว่ามารับเชิญเล็กๆก็ไม่ใช่นะ ออกมาเยอะอยู่เหมือนกัน ส่วนตัวละครอื่นๆก็ไม่ได้มีอะไรมากไม่ขอพูดถึงแล้วกันครับ


สรุป 6/10
สุดท้ายนี้ The Great Wall ทำได้ในระดับกลางๆไปในทางไม่ดี ด้วยบทหนังที่ค่อนข้างอ่อนและขาดความสมเหตุสมผลค่อนข้างมากในหลายๆอย่างทำให้ดูไม่สนุกสักเท่าไหร่และไม่ค่อยน่าติดตาม มีตอนท้ายที่พอจะช่วยลุ้นอยู่บ้าง แต่หนังมีเทคนิคการถ่ายทำพิเศษเป็นตัวพอชูโรงได้อยู่อย่างที่เราเห็นในตัวอย่างหนัง ซึ่งก็ดูเป็นมาตรฐานของหนังจีนยุคนี้ไปแล้ว ทั้งเรื่องการแต่งกาย ฉาก ทำออกมาได้สวยงาม บทแอ็คชั่นก็พอใช้ได้ถ้าใครที่ชอบดูฉากแอ็คชั่นมันๆ ก็น่าจะพอได้อยู่ครับ ที่โดดเด่นที่สุดของเรื่องนี้สำหรับผมเลยคือมุมกล้อง ไม่ว่าจะเป็นตอนยิงธนู ยิงลูกระเบิด หนังมักจะใช้มุมกล้องตามติดวัตถุนั้นๆทำให้ฉากแอ็คชั่นดูสนุก ตื่นตาขึ้นอีกเยอะ

ฝาก page ด้วยนะครับ ถ้าชอบก็กด Like ติดตามกันนะครับ - https://www.facebook.com/NangDMeReview/