เคยได้ยินคำว่า ลิ้นคนจีน กันมั้ยคะ? แปลว่า คนที่กินของร้อนจัดๆได้หน้าตาเฉย เป็นคำตรงข้ามกับคำว่า ลิ้นแมว ที่กินของร้อนนิดร้อนหน่อยก็ไม่ได้เลย
ออกตัวก่อนว่านี่แหละ คนลิ้นแมวโดยแท้ค่ะ เพราะที่บ้านเวลาของแต่ละคนจะไม่ตรงกัน เลยตั้งโต๊ะอาหารไว้ใครจะกินตอนไหนก็มากิน เรามักจะมากินตอนที่อาหารเย็นแล้ว และเราก็อร่อยกับอาหารที่อุณหภูมิห้องนั่นล่ะค่ะ ไม่มีการอุ่นเพิ่มแต่อย่างใด เราชอบน้ำชา กาแฟ แต่จะชอบแบบอุ่นๆ เคยลองเอาเทอร์โมสิเตอร์วัดอุณหภูมิน้ำชาของตัวเองเล่นด้วยซ้ำ เราชอบกินที่ประมาณ 45 องศาเซลเซียสค่ะ (นี่ถือว่าร้อนสุดๆของเราแล้ว)
แต่พอมาเจอแฟนเราที่มาจากบ้านที่คนจีนมากๆ ตอนแรกเราตกใจเลย ว่าลิ้นมนุษย์ทำไมกินของร้อนได้ขนาดนี้ แบบสั่งก๋วยเตี๋ยว คนทำเพิ่งเอาน้ำซุปเดือดๆจากหม้อราดลงไป ยกมาเสิร์ฟปุ๊บ ก็กินได้ปั๊บเลยอ่ะค่ะ หรือเราซื้อน้ำเต้าหู้มากินที่บ้าน ปกติระยะทางจากร้านมาถึงบ้าน มันจะทำให้น้ำเต้าหู้เย็นลงเป็นอุณหภูมิพอดีๆ ที่เรากิน แต่แฟนจะเอาไปเข้าเวฟอีกนาทีครึ่งค่อยเอามากิน
แต่กินข้าวกับแฟนไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ เพราะเขาไม่ค่อยเรื่องเยอะกับเรา แต่พอไปกินที่บ้านแฟนนี่สิ...แม่เขาไล่ให้ไปอุ่นทุกอย่าง ก๋วยเตี๋ยว (อาหารหลักของบ้านเขา) นี่อุ่นซะเดือดค่ะ แล้วก็ยกมากินกันเดี๋ยวนั้น แล้วชอบเร่งเราให้กินเลยๆ บอกกินร้อนๆ จะได้อร่อยๆ ซึ่งเราไม่เห็นจะอร่อยตรงไหนเลย มันลวกปาก ลิ้น คอ ทรมานไปหมด ไม่รู้สึกถึงรสชาติของอะไรทั้งนั้นค่ะ (ครั้งแรกที่กินตามนี่นึกถึงตามโพทกนรกในไตรภูมิพระร่วงเลย ที่ให้ดื่มน้ำจากกระทะทองแดงอ่ะค่ะ 555) แถมหลังจากนั้นลิ้นพอง เพดานปากพอง รู้สึกบวมขึ้นมาแถมเป็นขุยๆ อีก แสบปากแสบลิ้น กินอะไรก็ไม่อร่อยไปอีกหลายวัน T^T
ล่าสุดปีใหม่ไปกินโต๊ะจีนที่ภัตตาคารแห่งหนึ่งค่ะ อาหารอร่อยสุดยอดแค่ไหนเราไม่รู้เลย รับรสไม่ได้ รับรู้แต่ความโครตร้อนของกระเพาะปลา เต้าหู้ และเนื้อปลาเจี๋ยนที่นึ่งมาอย่างเดือด (ซึ่งจากการคะเนด้วยสายตา ทิ้งไว้ให้เย็นซัก 15 นาทีน่าจะอร่อยมากค่ะ)
เลยอยากถามว่าคนจีนบ้านอื่นกินของร้อนกันโหดขนาดนี้มั้ยคะ แล้วปากคอไม่พองกันเหรอคะ หรือว่ามันฝึกกันได้เกิดเป็นความเคยชิน? (แต่เราก็ไม่คิดจะฝึกหรอกค่ะ ลองทุกครั้ง ทรมานทุกครั้ง กินอุ่นๆ หรือเย็นๆ มันก็อร่อยดีอยู่แล้ว) แล้วระยะยาวจะไม่มีผลต่อระบบทางเดินอาหารอะไรใช่มั้ยคะ?
อาหารจีน ลิ้นคนจีน อะไรมันจะร้อนและทนร้อนได้ขนาดนั้นคะ
ออกตัวก่อนว่านี่แหละ คนลิ้นแมวโดยแท้ค่ะ เพราะที่บ้านเวลาของแต่ละคนจะไม่ตรงกัน เลยตั้งโต๊ะอาหารไว้ใครจะกินตอนไหนก็มากิน เรามักจะมากินตอนที่อาหารเย็นแล้ว และเราก็อร่อยกับอาหารที่อุณหภูมิห้องนั่นล่ะค่ะ ไม่มีการอุ่นเพิ่มแต่อย่างใด เราชอบน้ำชา กาแฟ แต่จะชอบแบบอุ่นๆ เคยลองเอาเทอร์โมสิเตอร์วัดอุณหภูมิน้ำชาของตัวเองเล่นด้วยซ้ำ เราชอบกินที่ประมาณ 45 องศาเซลเซียสค่ะ (นี่ถือว่าร้อนสุดๆของเราแล้ว)
แต่พอมาเจอแฟนเราที่มาจากบ้านที่คนจีนมากๆ ตอนแรกเราตกใจเลย ว่าลิ้นมนุษย์ทำไมกินของร้อนได้ขนาดนี้ แบบสั่งก๋วยเตี๋ยว คนทำเพิ่งเอาน้ำซุปเดือดๆจากหม้อราดลงไป ยกมาเสิร์ฟปุ๊บ ก็กินได้ปั๊บเลยอ่ะค่ะ หรือเราซื้อน้ำเต้าหู้มากินที่บ้าน ปกติระยะทางจากร้านมาถึงบ้าน มันจะทำให้น้ำเต้าหู้เย็นลงเป็นอุณหภูมิพอดีๆ ที่เรากิน แต่แฟนจะเอาไปเข้าเวฟอีกนาทีครึ่งค่อยเอามากิน
แต่กินข้าวกับแฟนไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ เพราะเขาไม่ค่อยเรื่องเยอะกับเรา แต่พอไปกินที่บ้านแฟนนี่สิ...แม่เขาไล่ให้ไปอุ่นทุกอย่าง ก๋วยเตี๋ยว (อาหารหลักของบ้านเขา) นี่อุ่นซะเดือดค่ะ แล้วก็ยกมากินกันเดี๋ยวนั้น แล้วชอบเร่งเราให้กินเลยๆ บอกกินร้อนๆ จะได้อร่อยๆ ซึ่งเราไม่เห็นจะอร่อยตรงไหนเลย มันลวกปาก ลิ้น คอ ทรมานไปหมด ไม่รู้สึกถึงรสชาติของอะไรทั้งนั้นค่ะ (ครั้งแรกที่กินตามนี่นึกถึงตามโพทกนรกในไตรภูมิพระร่วงเลย ที่ให้ดื่มน้ำจากกระทะทองแดงอ่ะค่ะ 555) แถมหลังจากนั้นลิ้นพอง เพดานปากพอง รู้สึกบวมขึ้นมาแถมเป็นขุยๆ อีก แสบปากแสบลิ้น กินอะไรก็ไม่อร่อยไปอีกหลายวัน T^T
ล่าสุดปีใหม่ไปกินโต๊ะจีนที่ภัตตาคารแห่งหนึ่งค่ะ อาหารอร่อยสุดยอดแค่ไหนเราไม่รู้เลย รับรสไม่ได้ รับรู้แต่ความโครตร้อนของกระเพาะปลา เต้าหู้ และเนื้อปลาเจี๋ยนที่นึ่งมาอย่างเดือด (ซึ่งจากการคะเนด้วยสายตา ทิ้งไว้ให้เย็นซัก 15 นาทีน่าจะอร่อยมากค่ะ)
เลยอยากถามว่าคนจีนบ้านอื่นกินของร้อนกันโหดขนาดนี้มั้ยคะ แล้วปากคอไม่พองกันเหรอคะ หรือว่ามันฝึกกันได้เกิดเป็นความเคยชิน? (แต่เราก็ไม่คิดจะฝึกหรอกค่ะ ลองทุกครั้ง ทรมานทุกครั้ง กินอุ่นๆ หรือเย็นๆ มันก็อร่อยดีอยู่แล้ว) แล้วระยะยาวจะไม่มีผลต่อระบบทางเดินอาหารอะไรใช่มั้ยคะ?