ปิดกันตัวเอง เพราะคนรอบตัว

สวัสดีทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ

ใครเป็นแบบนี้บ้าง?

จากเด็กร่าเริง ยิ้มเก่ง เข้ากับคนได้ทุกคน มีแต่คนรัก เป็นคนเก่งทุกด้าน มั่นใจตัวเองสูง กลับกลายเป็น เด็กขี้กลัว อมทุกข์ ยิ้มไม่ออก เข้าสังคมไม่เก่ง รู้สึกไร้ค่า และกลัวทุกครั้งที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว สังคม หน้าที่การงาน
      
          ผมรู้นะว่าสาเหตุที่ผมเปลี่ยนไปเป็นเพราะอะไร  

-ครอบครัว พ่อแม่ตีกันตั้งแต่เด็ก เห็นแม่เลือดอาบประจำ ด่ากันทุกวันผมเหนื่อยใจมากเครียด มีหลายครั้งที่ต้องกอดน้องไว้ดูพ่อตีแม่จนกว่าจะหนำใจ
พ่อติดนักร้อง กู้เงินมา 4-5 แสนก็เอาเงินไปโปยให้นักร้อง ใช้อาทิตย์เดียวหมด เป็นแบบนี้ประจำ ผมไม่เคยได้อะไรจากเขาเลยตั้งแต่เด็ก แม้กระทั้งอุปกรณ์  
การเรียน(ผมอยู่กับพ่อสองคนไม่ได้ ตีผมตลอด มีครั้งนึงทุ่มพัดผมมาใส่ผมจนขาแพลงเลือดไหล) ตอนรู้ว่าพี่ผมท้องก็เหมือนกัน ปากระถางมาตรงท้อง แต่น้องคนเล็กเอาตัวไปบังท้องไว้เลยโดนเต็มๆเลือดน้องไหลมาเต็มเลย คิดแล้วเศร้า เป็นแบบนี้จนผมโต และอื่นๆอ่นมากมาย ผมเชื่อว่าถ้าเรียบเรียงจริงๆ ไม่หมดไม่สิ้นแน่นอน วีระกรรมพ่อผมเยอะ

-สังคม สังคมที่ผมอยู่ถ้าไม่รวยไม่มีที่ยืนแน่ มีแต่คนคอยนินทา บ้านผมโดนนินทาทุกวันและก็มีคนมาเล่าให้ฟังทุกวัน ใส่สีตีไข่กันไม่ยั้ง ถ้าครอบครัวผมโวย ก็จะมีปัญหากับหลายคนและหลายครอบครัว ก็เลยต้องปล่อยเขาไป ต้องทำใจและที่นินทาญาติๆทั้งนั้น(ญาติพ่อแต่เกลียดพวกผม) ผมเรียนตั้งแต่เด็กได้เกรดเกือบ 4.00 ตลอด ซึ่งจะมีญาติเลวๆบางคนเห็นผมเรียนเก่ง ก็เอาผมไปเทียบกับลูกเขา ว่าลูกเค้าซื้อนี่ใหม่ ได้นี่ใหม่ ได้ของเล่นชิ้นนี้ ทุกอย่างที่จะยกระดับลูกเขาเขาจะมาพูดกับผมตลอด และทำให้ผมน้อยใจทุกครั้ง และรู้สึกไร้ค่ามากขึ้นทุกที เพราะไม่มีเหมือนเขา แม้กระทั้งของที่มันจำเป็นต้องมีในการใช้ในการเรียน แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ผมเปลี่ยนไปเท่าไหร่ จุดพีคสุดคือคน ปวช เพื่อนมีรถขับ มีเงินเที่ยว ได้โน่น ได้นี่ พวกญาติเจ้าเดิมก็มาพูดใส่ผมตลอดว่าทำไมไม่ซื้อมาบ้าง ทั้งๆที่รู้ว่าผมไม่มีปัญญาซื้อของแพงๆขนาดนั้นหรอก จนผมเริ่มเกลียดญาติ ก็เลยไม่ยกมือไหว้ ไม่พูดไม่คุยถามอะไรตอบอะไรก็เงียบเดินผ่านมาเฉยๆ ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเพราะไม่ต้องมาคุยกันคนที่เกลียดซังผม
    อีกเรื่องคือเรื่องที่จอดรถพ่อผมมีเรื่องกับประธานหมูบ้านซึง่เป็นญาติห่างๆ วันนั้นจำได้แม่นฝนตก ผมเห็นพ่อไปเคลียร์นานเลยตามไปดู ฝ่ายนู้นพวกเต็มเลย แถมมีปืนด้วย ชักพักลูกประธานหมูบ้านก็หยิบปืนมาจะยิงพ่อผม เพราะไม่พอใจเรื่องที่จอดรถ ซึ่งแกผิดเต็มเต็มและไม่ยอมรับ นัดแรกยิงขึ้นฟ้า ผมตกใจมาก พอเล็งมาที่พ่อผม ผมรู้ว่าว่ามันจะยิงเลยไปบังพ่อไว้ สรุปมันยิงจริงๆกระสุนผ่านหูผมไปเลย ซึ่งมันทำให้ผมช็อกไปหลายวันเลย ไม่คิดว่าจะยิงนัดที่สองมาตรงๆ ถ้าขยับไปอีกนิดก็ตายไปแล้ว ลืมเล่าว่าผมโดนปู่ กับลูกของปู่ต่อยด้วย โดนคนละหมัดตอนนั้นเอาตัวไปบังพ่อไว้ ด้วยความโมโหผมเลยบอกว่าจะไปแจ้งตำรวจเรื่องปืนกับตอนที่โดนต่อย มันบอกว่าถ้าไปบอกตำรวจพ่อก็นอนคุกเหมือนกัน(มันรู้ว่าพ่อผมติดยา) ผมเลยเงียบและจูงมือพ่อกลับบ้านทั้งน้ำตา เจ็บใจแต่ทำอะไรไม่ได้ ผมเก็บเรื่องนี้มา 7 ปีโดยไม่เล่าให้ใครฟังแม้กระทั้งแม่ผม ผมรู้แม่ผมต้องปรี่เข้าไปแน่ แต่ด้วยกลัวแม่เป็นอะไรไปเลยขอเก็บเรื่องคืนนั้นไว้คนเดียว
    
-เพื่อน ช่วงประถม กับ ม.ต้น ผมเป็นคนเพื่อนเยอะมาก แต่พอ ปวช กลับเจอแต่เพื่อนที่เห็นแก่ตัว แถมเพื่อนที่สนิทพอเลิกคบกัน ก็เอาเรื่องส่วนตัวที่ผมเคยเล่าให้มันฟัง ไปเล่าให้คนอื่นฟัง เลยรู้สึกเสียใจมาก เลยไม่ค่อยไว้ใจเล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครฟัง(ทุกคน)  และผมก็มักจะเป็นคนที่เพื่อนเอาเปรียบตลอด ช่วงนั้นเลยลองเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยการนึ่งเงียบ เฉยๆ พูดไรก็พูดไม่เกรงใจ คบกับเพื่อนที่คบได้พอ ส่วนคนที่ไม่น่าคบก็ตัดออกไปจากชีวิตเลย แม้จะดูเหงาๆแต่ก็ดีกว่าคอยโดนเอาเปรียบ

     ปล.อยู่ในสภาพจิตใจที่แย่ๆและเครียดมากๆมา20กว่าปี แต่ตอนนี้กลับมายิ้มได้แล้ว เพราะไม่ได้อยู่กับครอบครัวที่เป็นแบบนั้น ไม่ได้อยู่กับเสียงนินทา ไม่ได้เจอกับเพื่อนๆที่ไม่โอเคร ไม่ได้พบหน้าคนที่ทำร้ายเรา ไม่ได้ยินเสียงแบบที่เคย ไม่ต้องมาตอบคำถามใคร ไม่ต้องมีใครมาพูดให้เราดูต่ำต่อยไร้ค่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่