ระบายความในใจของเมียหลวง

กระทู้คำถาม
สวัสดี เรามีชื่อว่า 'เมียหลวง'

คือ เรามีเรื่องมากมายอยากจะพูด อยากจะปรึกษา มันอึดอัดใจมานาน ประมาณจะเกือบ 1 ปี ได้มั้ง.......
.......เรื่องมีอยู่ว่า.......
เราคบกันกับแฟนเรามาตั้งแต่เราเรียนมัธยมตอนปลาย(ม.5) เราเป็นคนบ้านเดียวกัน บ้านใกล้กันนิดเดียวเอง ตอนเด็กๆเราไม่ค่อยถูกกัน เห็นหน้ากันนี่แทบอยากจะตบให้คว่ำเลย พอเค้าเรียนจบ ม.3 เค้าก็ได้ย้ายที่อยไปอยู่ในตัวเมือง เวลาผ่านไปเราไม่เคยคิดเลยว่าวันนึงเราตะได้มาเป็นแฟนกัน วันนั้นเป็นวันที่ 1กุมภาพันธ์ 2555 เป็นวันแรกที่เราได้คุยกัน คุยทั้งคืนเลยก็ว่าได้ คือเราสองคนก็ลืมไปเลยว่าเราเคยเกลียดกัน เราก็คุยกันเรื่อยมา พอมาถึงวันเกิดเรา เค้าก็กลับจากในเมืองเพื่อมาบ้าน เราเลยได้เจอหน้ากันเป็นครั้งแรก หลังจากที่ไม่ได้เจอกันนาน ตอนนั้นเรากับเค้าคบกันโดยที่ไม่มีใครรู้เลย จนมาถึงช่วงเเดือนเมษา คนแถวบ้านก็เริ่มรู้ว่าเราคุยกัน แต่แล้ววันนึงก็มีผู้หญิงคนนึงโทรมา บอกว่าเราไปแย่งแฟนเค้า คือเราก็งง พอพูดจบเค้าก็วาง แล้วผู้หญิงคนนั้นก็โทรไปหาแฟนเราว่า เราโทรไปด่าเค้า ทั้งๆที่เราไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนนั้นมาก่อน หลังจากนั้นเราก็ทะเลาะกันเรื่องนี้ แล้วก็ไม่ได้คุยกันเลย เราก็ถอดใจล่ะยังไงก็คงได้เลิกกัน จนวันนึงเค้าโทรกลับมา เราก็ได้คุยกันเหมือนเดิม แต่แล้วเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นอีก(แต่เป็นผู้หญิงคนใหม่นะ) แต่ก่อนจะมีงานทริปที่วัยรุ่นชอบขับรถคลาสสิกไปกัน วันนั้นเค้าโทรมาชวนเรา เราบอกไม่ไป เค้าเลยว่า ขอตังค์หน่อยเราเลยให้ไป(ลืมไปตั้งแต่เราคบกันเค้าก็เริ่มกลับมาอยู่บ้านบ่อยขึ้น) แต่แล้วคือพีคไปอีกคือเค้าไปกับผู้หญิงคนอื่นแทนเรา เป็นนักเรียน ม.ต้นแต่ผู้หญิงคนนั้นดันมาเป็นเพื่อนน้องเรา เราก็เริ่มมีปัญหากันอีกครั้ง หลังจากนั้นเค้าจบ ม.6 เค้าก็ได้ไปเรียนต่อ ปวส.1 เราก็เรียน ม.6(เราเป็นน้องเค้า1ปี) ปัญหาเดิมก็เกิดขึ้นอีกตามเคย จนเราชินและชาไปโดยไม่รู้ตัว เพราะเรารู้ตัวเลยว่าเรารักเค้ามากเลยยอม พอเค้าเรียนต่อ ปวส. เค้าก็ย้ายของจากในเมืองกลับมาอยู่บ้าน เราก็ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ตอนเย็นของทุกวันเค้าก็จะมาหาเราอยู่บ้าน เราก็คุยกันตามปกติ ทำแบบนี้เรื่อยมา จนเราจบ ม.6 เค้าก็ขึ้น ปวส.2 เราก็ไปเรียนต่อที่มหาลัย เราก็เทียวไปเรียน ไม่ได้อยู่หอ ขับมอไซต์ไปด้วยกันเกือบทุกวัน พอพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรู้ เราก็ไปนอนบ้านเค้าบ้างบ้านตัวเองบ้าง(พ่อแม่เค้าอยู่ต่างจังหวัดเค้าอยู่บ้านคนเดียว) หลังจากนั้นเราก็อยู่บ้านเค้าตลอด ไปไหนไปด้วยกันตลอดไม่เคยห่างกัน แต่ปัญหาผู้หญิงก็ยังไม่หมดไป เค้าก็ไปแอบคุยกับผู้หญิงคนนึงที่อยู่แถวบ้าน อีกคนก็เลยบ้านเราไปประมาณ5กิโได้ เราไว้ใจเชื่อใจเค้ามาตลอด(ตอนเย็นๆเค้าชอบไปเล่นเกมกลับทีก็ตี2ตี3) เราก็นอนอยู่บ้านคนเดียว เค้าก็เอาเวลาตรงนี้แหละไปแอบคุยกัน เราจับได้ก็ทะเลาะกันตามเคย แล้ววันนึงเราไปเรียนคนเดียว เราประสบอุบัติเหตุ หบังจากวันนั้นมาแม่เราเลยให้เราย้ายจากบ้านเค้ามาอยู่บ้านเราแทน แล้วแม่ก็ให้รถยนต์เราขับไปเรียนกับเค้า แม่เรามีลูก3คน พอเค้ามาอยู่ด้วย แม่เราก็เหมือนมีลูกเพิ่มอีก1คน พอเค้าใกล้เรียนจบเค้าก็ต้องได้ฝึกงาน ตอนเช้าเราก็ไปเรียนด้วยกันตามปกติแต่ตอนเย็นเราจะได้ขึ้นรถโดยสารกลับ เพราะเค้าเลิกฝึกงานเวลา2ทุ่ม แล้วปัญหาเดิมก็กลับมาอีกครั้ง เราเลยทะเลากันหนักและรุนแรงขึ้น ถึงกลับใช้กำลัง ตั้งแต่เค้ามาอยู่บ้านเรา เวลาเรา3คนพี่น้องได้อะไร แม่เราก็มักจะซื้อให้เค้าด้วย อีกอย่างแม่เรายังส่งเค้าเรียนหนังสืออีกด้วย งานในบ้านแม่เราก็ไม่เคยให้ทำ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ พอเค้าเรียนจบแม่เราก็พาเค้าไปสมัครและสอบติดนายสิบ แม่เราทำทุกอย่างเพื่ออยากให้ลูกตัวเองมีอนาคตที่ดี ที่แม่ทำทุกอย่างก็เพราะเรา พอเค้าติดนายสิบเค้าก็ต้องได้ไปฝึก ทำให้เราต้องห่างกันแบบไม่ได้ติดต่อกันนานถึง2เดือนเต็มๆ(บางทีเค้าก็แอบโทรหาเรา30วินาทีก็เอา) ตอนที่เค้าไปฝึกก็เริ่มมีผู้ชายเค้าหาเราเยอะมากนะ เราได้คุยกับน้องคนนึงแล้วแบบรู้สึกดี แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไร พอเค้ากลับมา เค้าเห็นว่าเราคุยกับน้องคนนั้น เราก็เลยทะเลาะกัน(เค้าได้พักแค่10วัน) หลังจากนั้นเค้าก็ไปเรียนตามหลักสูตรของทหาร ครั้งนี้ไปนานกว่าครั้งก่อน ติดต่อกันไม่ได้เลย คือเราก็ได้แค่รอวันที่เค้าฝึกเสร็จแล้วกลับมาบ้าน เค้าใช้เวลาเรียนเต็มหลักสูตรเป็นเวลา1ปี พอเค้าเรียนจบเราก็ได้ไปจดทะเบียนสมรสกัน(ลืมบอกไปเราหมั้นกันแล้ว) เราก็เลื่อนจากแฟนมาเป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แล้วแม่เราก็สมัครเรียนปริญญาตรีภาคพิเศษให้เค้า ส่งเสียเค้าทุกอย่าง แต่แล้ววันนึงปัญหาเดิมๆก็กลับมาเยือนเราอีกครั้ง มันทำให้เราถึงกับท้อและอย่างถอยออกจากชีวิตเค้าเลยแหละ ตอนนั้นความรู้สึกเรามันไม่โอเครกับเค้าแล้ว แต่แล้ววันนึงก็มีผู้ชายคนนึงก้าวเข้ามาในชีวิตเรา เค้าพูดดีทำดีกับเราทุกอย่าง ซึ่งสามีที่แท้จริงไม่เคยทำให้เลย จนเราเผลอใจไป แล้วเราก็ทะเลาะกันแบบรุนแรง หนักขึ้นๆ จนได้เอาผู้ใหญ่มาคุยกัน แต่หลังจากนั้น น้องชายคนกลางเราประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่เค้าตั้งใจขึ้นมาหาเราเพื่อที่จะมาหย่าแต่บังเอิญน้องเราเสียก่อน พอเวลาผ่านไปเราก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะกำลังเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ ตอนนั้นเราก็ได้ใช้ชีวิตคนเดียวเรื่อยมา จนมาถึงเดือนสิงหาคม(วันแม่) เค้าบอกจะมาหย่า เราเลยไปคุยกับแม่เรา แล้วก็รู้ว่าเค้าไปคบกับผู้หญิงคนนึงซึ่งเป็นนักศึกษาเหมือนกันกับเรา เรียนอยู่ปี2(ผู้หญิงคนนี้เป็นน้องเรา1ปี) เรียนอยู่มหาลัยแห่งหนึ่งอยู่ที่ร้อยเอ็ด เค้าใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเหมือนสามีภรรยาเลย เราเลยตัดสินใจทักหาผู้หญิงคนนั้น คุยในแชทไม่เข้าใจเค้าเลยขอเบอร์เพื่อโทรมาหาเรา เราก็คุยกัน ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าเค้าบอกว่าเค้าจะกลับบ้านมาเอาเอกสารสำคัญ ผู้หญิงคนนั้นก็ว่าให้เราเอาคืนเค้า เราเลยว่าเราไม่มีอะไรสำคัญเกี่ยวกับเค้าหรอก ผู้หญิงคนนั้นเลยตอบว่าจเลิกกันไปแล้วจะมายื้อมารั้งไว้ทำไม เสียดายหรอ เราเลยตอบกลับไปว่า อยากรู้ไหมเอกสารสำคัญนั้นคืออะไร ทะเบียนสมรสไง เคยรู้จักบ้างไหม พอได้ยินเราพูดเค้าก็เงียบไปสักพักแล้วตอบกลับมาว่าเดี๋ยวขอปรึกษาและคุยกับผู้ชายก่อน แล้วก็วางสายไป หลังจากนั้นเค้าก็โพสต์ด่าเราในเฟสบุ๊ค พอตกเย็นมาเค้าก้ให้พี่สาวเค้าทักมาหาเรา ว่าเราสารพัด บอกว่าเรายิ้ม เสแสร้ง อยากได้ผู้ชายกลับคืน(นั้นผัวเราไหม) เลิกไปแล้วก็ควรจบ เราก็เงียบฟัง เค้าเลยถามว่าถ้ามีทะเบียนสมรสจริง ส่งรูปมาดูสิ เราเลยว่าจะเอาไปทำไม เค้าก็มาว่าเราอีกว่าเราโกหก เราเลยพูดให้แม่ฟัง แม่เลยบอกส่งให้มันดูไปเลย พอเราส่งไปเค้าเห็น เค้าก็พากันบล็อกทุกอย่างเกี่ยวกับเรา เราเลยไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเค้าเลย ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ส่วนผู้ชายก็โทรหาแม่บอกจะมาหย่ากับเราแม่เราแค้นใจและเสียความรู้สึกมากที่เค้าทำแบบนี้กับครอบครัวเรา แม่เลยบอกให้มาคุยกับเราเอง แต่เราก็รับสายแค่ฟังเค้าพูดแล้วก็ตัดสายทิ้งแค่นั้น หลังจากนั้นเค้ากับเราก้ไม่ติดต่อกันเลย แต่เค้า2คนนั้นก้ยังพากันให้ชีวิตแบบแฟนกันตามปกติ แต่เราไม่รู้ว่านอกจากพี่สาวของผู้หญิงคนนั้นรู้ว่ามีทะเบียนสมรสแล้ว ครอบครัวเค้ารุ้ด้วยไหมอันนี้เราก็ไม่ทราบ.........

ขอคำปรึกษาด้วยนะคะ.....ใครมีประสบการณ์ตรงกันก็ให้คำปรึกษาด้วยนะคะ

....ฝากแชร์ประสบการณ์นี้คนอื่นได้อ่านด้วยนะคะ.........
ขอบคุณค่ะ🙏🙏🙏
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่