สวัสดีชาวพันทิปครับ ผมอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ความรักของผม เป็นความรักวัยรุ่นแบบนักเรียนมัธยมปลายน่ะครับ กิกิ
อาจจะดูยาวเหมือนเรื่องสั้นพอสมควร ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่สอนผมหลายๆอย่างเหมือนกัน เริ่มกันเลยดีกว่าครับ
ป.ล. นี่เป็นกระทู้แรกของผม เขียนไม่น่าอ่านยังไงก็ช่วยแนะนำได้นะครับ
ผมเรียนอยู่โรงเรียนประจำอำเภอโรงเรียนหนึ่ง ช่วงนั้นผมเรียนอยู่ชั้น ม.4 ก็ได้แอบชอบเพื่อนผู้หญิงคนนึงครับ ผมก็ไม่ได้จีบหยอดแบบออกตัวอะไรมากมาย เราก็คุยกัน แรกๆก็คุยแบบเพื่อน พอคุยกันมากๆเข้า ผมตัดสินใจที่จะบอกชอบเขา ก็ถือว่าโชคดีแหละครับ 555 ที่เขาตอบรับผมด้วยความรู้สึกแบบเดียวกัน ก็ยังไม่ได้ขอคบนะครับ ช่วงนั้นเราคุยกันมากขึ้น ตกเย็นเลิกเรียนผมก็ส่งเขาขึ้นรถแล้วเดินกลับบ้านทุกวัน ผลัดกันบ้างเวลาเขาอยากเดินมาส่งผมครับ เพราะบ้านผมอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียน และด้วยความที่บ้านผมอยู่ใกล้ ทางบ้านทั้งคู่ต่างก็รู้ว่าเราคุยกัน ทั้งที่บ้านของผมและแฟน ตอนแรกผมเองก็หวั่นใจที่จะบอกกับที่บ้าน เพราะเหมือนว่าทางบ้านของผมและแฟนยังไม่ค่อยไว้ใจในตัวเราสองคนไว้ใจได้หรือเปล่า
แต่นั่นก็ไม่มีปัญหาอะไร
ด้วยความที่เราอยู่โรงเรียนเดียวกันระดับชั้นเดียวกัน แต่ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันนะครับ แต่ก็เหมือนว่าโชคชะตามันลิขิตมา(หรออออออออออ)ในแต่ละคาบเรียน เราจะเรียนใกล้ๆกันตลอด จะเดินสวนกันบ่อยเรียกได้ว่า เจอกันแทบตลอดเวลาถึงแม้ว่าจะอยู่คนละห้องก็ตาม ความสัมพันธ์เราเองก็ถือว่าค่อนข้างใกล้ชิดกัน แต่ทั้งผมและแฟนก็มีที่ว่างให้กันและกัน เพราะเราทั้งคู่ก็ชอบที่จะอยู่กับเพื่อน ไปไหนมาไหนกับเพื่อน กินข้าวกลางวันที่โรงอาหารกับกลุ่มเพื่อน เวลาอยู่ในโรงเรียนหรือเวลาว่าง เราก็จะมีช่องว่างให้กันและกันไม่ก้าวก่ายพื้นที่กันเกินไป ให้ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนกันไป แล้วถ้ายามว่างจริงๆหรือเลิกเรียนถึงจะอยู่ด้วยกัน แต่ก็คุยเท่าที่มีโอกาส ส่วนมากจะคุยกันทางแชทหรือโทรศัพท์ตอนอยู่บ้านมากกว่าครับ แต่ว่าตอนเรียนนั้นด้วยความที่เรียนห้องใกล้ๆกันตลอด เราเลยมักจะได้เดินไปเรียนด้วยกัน ผมก็จะเป็นฝ่ายไปส่งแฟนถึงห้องเรียนตลอด (คือผมจะเข้าห้องเรียนสายตลอด 5555 พอครูถามก็บอกไปห้องน้ำมาอิอิ) และไปไหนมาไหนด้วยกันหลังจากกินข้าวช่วงพักกลางวัน ซึ่งสำหรับผมและแฟนคุยกันแล้วก็ถือว่ามันพอดีเราทั้งคู่พอใจที่เป็นแบบนี้ ช่วงเย็นหลังเลิกเรียนก็มีนั่งรถไปร้านของหวานไปนั่งกิน ไปเดินเล่นที่ต่างๆแถวๆโรงเรียนด้วยกัน เพราะต่างคนก็ต่างอยากใช้เวลาหลังเลิกเรียนอยู่ด้วยกันครับ ปกติแล้วเวลาว่างหลังเลิกเรียนของเราก็มีอยู่เท่านี้แหละครับ .. เอ้ออ ลืมบอกไป พวกเราชอบออกกำลังกายกันมาก ผมจะเข้าฟิตเนสเข้ายิมอยู่เสมอ ส่วนเธอ ผมก็เป็นคนคอยแนะนำหรือพาออกกำลังกายเหมือนกัน เพราะเธอก็ชอบเต้น cover dance มักจะออกงานโรงเรียนอยู่เสมอ การออกกำลังกายเลยเป็นเรื่องปกติสำหรับเราทั้งคู่ เราก็ได้ใช้เวลาช่วงนี้อยู่ด้วยกันด้วยครับ หรือบางทีถ้าวันไหนเราไม่ได้ออกกำลังกาย เราก็จะหาสถานที่เงียบๆมานั่งทำการบ้านกัน ช่วยกันทำการบ้าน เราก็มักจะทำการบ้านด้วยกันบ่อยๆช่วยกันสอนช่วยกันดู โครตเป็นอะไรที่ดูปกติธรรมดาและไม่หวือหวา 555555555 ก็จับมือกันบ้างเล่นแตะเนื้อต้องตัวกันบ้าง แต่ก็ไม่เยอะ
เราใช้ชีวิตวนลูปแบบนี้ไปจนถึงช่วง ม.6 โครตธรรมด๊าธรรมดา แต่มันมีความสุขมากเลยนะ อิอิ มันไม่มีอะไรให้ต้องคิดมาก เวลาว่างเราก็อยู่ด้วยกัน อยากไปอยู่กับเพื่อนเราก็ต่างเข้าใจกันและกัน และเพื่อนเราก็สนิทกันทุกคนรู้จักกันคุ้นหน้าคุ้นตากัน เพราะชอบแซวคู่ผมอยู่บ่อยๆ เพราะเวลาเราชอบไปเดินด้วยกัน นั่งทำการบ้าน มันก็หาว่า เฮ๊ยมีไรกันป่าวเนี่ย หรือบางทีแบบ เห้ยเห็นผมเดินกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ ก็แซวกันสนุกๆครับพวกเราก็ไม่ได้คิดอะไร เราก็ต่างรู้กันก็เล่นไปตามที่เพื่อนแซว เพราะพวกเราคบกันถือว่าค่อนข้างนานแล้วสำหรับชีวิตมัธยมเราเลยแบบเชื่อใจกันมาก.. ในตอนนั้นคือผมรักผู้หญิงคนนี้มาก ผมเชื่อใจเขา ไว้ใจ และให้ใจทุ่มไปสุดๆทุกอย่าง โดยคิดว่านี่คือคนสุดท้ายที่เราจะอยู่ด้วยไปจนแก่
แต่แล้ววันหนึ่ง ผมทักแชทไป ไม่อ่านไม่ตอบ ตอนแรกผมก็ไม่อะไร คนเราอะไรจะอยู่กับโทรศัพท์ได้ตลอด สัก 1 ชม. ผ่านไป ก็ยังไม่อ่านเหมือนเดิม พอดีว่าตอนนั้นมีเรื่องงานที่ต้องคุยกัน ผมเลยโทรไป ปรากฎว่าโทรไม่ติดครับ ผมเลยเอะใจว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ก็เลยโทรไปหาทางบ้านแฟนครับ พี่สาวแฟนรับผมก็ขอสายแฟน พี่สาวบอกว่าไม่รู้ไปไหนเห็นกลับมาแล้วก็ออกไปพี่ก็ไม่ได้ถามว่าจะไปไหน ผมก็วางสายแล้วก็ไม่ได้คิดอะไรก็กลับไปทำงานเล่นเกมแล้วก็นอน วันต่อมาเธอก็มาโรงเรียนปกติ เราก็คุยกันว่าเมื่อคืนเกิดไรขึ้นทำไมโทรไม่ติด แฟนก็เล่าให้ฟังว่าโทรศัพท์มันเป็นไรไม่รู้ดับไปเลย แล้วช่วงนั้นก็ไปทำงานกลุ่มอยู่บ้านเพื่อนในห้องคนหนึ่งพอดี ซึ่งเราก็รู้จักกันหมดผมก็เลยไม่ได้ว่าอะไร แฟนก็เลยฝากให้ผมเอาไปซ่อมเพราะแฟนไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับพวกนี้ ผมก็เลยโอเคๆ เดี๋ยวผมเอาไปหาร้านซ่อมที่รู้จักกันให้ พอซ่อมเสร็จแล้วช่างซ่อมก็ลองเอามาให้ลองใช้ดูว่าเป็นยังไงบ้าง ผมก็เลยลองเปิดลองใช้แอพนู้นนี่ ด้วยความที่เป็นของแฟน ความขี้เผือกของผมจึงบังเกิด ผมนี่เปิดดูประวัติแชทเลยครับ(ด้วยความสงสัยว่าทำไมเมื่อคืนไม่ตอบกูววว55555) ตอนนั้นกะดูแบบเฉยๆว่าคุยกับเราเยอะขนาดไหน5555 ก็เยอะจริงๆครับ แต่เพื่อนผู้หญิงเยอะกว่า ก็ไม่แปลกครับ ที่แปลกก็คือ มันมีแชทที่คุยกับเพื่อนผู้ชายคนนึงในห้องผม ผมก็สนิทกันพอสมควร เพื่อนผู้ชายในห้องจะสนิทกันมากครับอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ๆเลย ซึ่งประวัติแชทมันโครตเยอะ ทั้งๆที่ในห้องมันก็ไม่ได้คุยกันเท่าไหร่ ผมเลยลองเปิดอ่านแชทนั้นดู
สิ่งที่ผมเห็นก็คุยกันแหละครับ คุยแบบคุย คุยถามทำไร กินข้าวกับไร ไปนู้นนี่นั่นกี่โมง ไปไหนกันดี หูววว คุยกันเหมือนผมคุยกับแฟนเลยครับ แล้วผมก็ดูช่วงเวลา ตอนนั้นจำได้ว่าแชทกับแฟนอยู่แล้วแฟนบอกแปบนึงนะไปทำงานแปบ ว้าว งานนี่มันน!! ผมก็เลื่อนอ่านไปแบบในใจก็คิดว่ามันคุยกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า? ก็เลื่อนไปเรื่อยๆ สิ่งที่พีคสุดคือการแลกรูปครับ แลกรูปกันและกัน แต่เป็นรูปของการ 18+ ฝั่งแฟนผมก็เปิดอก ฝั่งเพื่อนผมก็ไม่น้อยหน้า เปิดใจชายเลยครับ บทสนทนาก็ 18+ นั่นแหละนะ ผมก็อ่านไปเรื่อย เอ้อมันเยอะเหมือนกันนี่นา ตอนนั้นไม่รู้เพราะอะไร ผมก็เอาโทรศัพท์กับไปคืนแฟนแบบไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมคิดว่าเออปล่อยมันไป อย่างที่เป็นน(เพลงมา) ผมก็ยังคุยกับแฟนเหมือนเดิมนะ ยังเดินด้วยกันจับมือกันปกติ ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไรแล้วแหละ กับเพื่อนคนนั้นผมก็คุยเหมือนเดิมสนิทกันเหมือนเดิม (ลองมองย้อนกลับไปเพราะอะไรผมก็งงทำไมผมถึงปล่อยให้ผ่านไปแบบไม่โกรธเอ่ออ.. มันก็โกรธแหละ แต่ทำไมถึงหายไวได้ขนาดนี้ 5555) (ตรงส่วนนี้เพื่อนๆคิดว่ายังไงครับถ้าเป็นเพื่อนๆจะเลือกปล่อยไปแล้วคุยกันกับแฟนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่ผมทำหรือเปล่า) แล้วเรื่องราวมันก็เงียบไปจนผมลืมไปแล้วเรื่องนี้
หลังจากนั้นประมาณเดือนกว่าๆ มีวันหนึ่งที่ผมไปส่งเธอขึ้นรถกลับบ้านปกติ แล้วก็ไปออกกำลังกายเหมือนที่ทำประจำทุกๆวันและก็กลับบ้านเย็นๆ จนเวลาประมาณ 2 ทุ่ม จู่ๆพี่สาวของแฟนโทรมาหาผม ถามว่าแฟนได้อยู่กับผมรึเปล่า ผมก็งง (เอ้า ส่งกลับบ้านไปแล้วหนิ) ก็เลยตอบไปว่าไม่ได้อยู่ครับ พี่สาวก็บอกว่ายังไม่กลับมาจากโรงเรียนเลย พี่เขาเป็นห่วงนี่มันจะ 3 ทุ่มแล้วทำไมยังไม่เห็นกลับมาเลย ทีนี้ผมก็คิดแล้วว่าไปไหน ทำไมยังไม่กลับ ผมก็เลยวางสายไปแล้วก็ขี่มอเตอร์ไซค์ลองตามหาตามทางดูครับ (วินาทีนั้นคือคิดว่าโดนจับตัวไปหรือเปล่า เพราะช่วงที่ส่งกลับบ้านไปมันก็เย็นอยู่พอสมควร เลยกลัวจะเป็นอันตรายอะไร) ผมก็ขี่วนอยู่ถนนเส้นที่ผ่านบ้านแฟน 2 รอบ ไม่เจอ เลยมาจอดอยู่หน้าหมู่บ้านแฟนแล้วพยายามโทรหา ก็ไม่รับ ผมก็รออยู่ประมาณ 3 ทุ่มกว่า ก็เห็นแฟนกลับมาครับ(ประเด็นคือออ ผมส่งกลับบ้านตั้งแต่ประมาณ 6 โมง แล้ว ตอนนี้ 3 ทุ่มกว่าแล้วครับ เธออออ เธออหายไปไหนนมา) ซึ่งภาพที่เห็นก็คือเธอกำลังซ้อนรถมอเตอร์ไซค์อีกคันมา ผมจำรถได้ และจำคนขับได้ด้วยครับ นั่นเพื่อนคนนั้นของผมเอง ตอนแฟนเข้าหมู่บ้านแฟนกับเพื่อนไม่ได้สังเกตผมเพราะผมใส่หมวกกันน็อค แล้วด้วยความที่ ผมไม่ค่อยขี่มอไซค์ ไม่ขนาดที่ว่าเพื่อนและแฟนยังไม่เคยเห็น ผมเลยขี่ตามไป แฟนลงจากรถก่อนถึงบ้านแฟน แล้วเดินต่อไปจนถึงบ้าน เพื่อนก็ขี่สวนผมไปโดยที่มันก็ไม่รู้ตัว ผมก็เลยขี่ไปหาแฟนที่หน้าบ้าน แล้วถามว่าไปไหนมาทำไมกลับดึกจัง แฟนบอกว่าไปบ้านเพื่อนอีกห้องนึงที่เต้น cover dance ด้วยกัน นั่นแหละครับ ผมก็ถามว่าแล้วกลับมายังไง แฟนบอกนั่งรถตู้กลับมาแล้วก็เดินเข้ามา ผมบอกว่า อ้าวเห็นเพื่อนคนนั้นเข้ามาส่ง ตกลงไปไหนมา แฟนก็ช็อคไปสักครู่นึง ผมก็ถามย้ำเข้าไปอีกว่าไปไหนมา มันก็บอกว่าไปนั่งรถเล่นมา ผมก็ว่านั่งรถเล่นตั้งแต่ 6 โมงอ่ะหรอ นี่มัน 3 ทุ่มครึ่งเนี่ยนะ แฟนก็เงียบไป ผมเลยบอกว่า โอเค ไม่ต้องบอกอะไรแล้วแหละ แค่นี้ก็รู้แล้วล่ะ โชคดี แล้วก็บิดรถกลับบ้านทันที
หลังจากที่ผมกลับบ้านมา ผมก็ได้เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง ได้รู้ว่า เขาไม่ได้มีเราแค่คนเดียว เวลาที่ผมคุยกับแฟน เขาก็คุยกับผู้ชายคนอื่นไปด้วย ที่ผ่านมามันเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นซ้ำวนลูปอยู่หลายครั้งมาก แต่ผมก็เลือกที่จะให้อภัยเขา โดยคิดซะว่า เดี๋ยวเขาก็คงปรับตัวให้ดีกว่าเดิม คงไม่ทำอีกแล้ว คงจะเชื่อฟังคำที่ผมบอก เพราะตั้งแต่ที่คุยกันมา ผมไม่เคยคุยกับผู้หญิงคนไหน หรือว่าคุยซ้อนเลย เวลาที่เราจะรักใครสักคนเราก็ควรทุ่มใจให้หมด แต่ก็ด้วยความทุ่มเทของผมนี่ล่ะครับ ที่ทำให้ผมเจ็บแล้วเจ็บอีกวนซ้ำไปซ้ำมา แล้วก็ได้แต่พูดซ้ำๆกับเขาว่า ไม่เป็นไรนะ เรื่องแค่นี้ ให้อภัยได้...
หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นจบลงผมกับแฟนเก่าก็มาโรงเรียนปกติ แต่เราไม่ได้คุยกันเลย ผมไม่คุยเองแหละครับ 55555 (คือความไว้เนื้อเชื่อใจความซื่อสัตย์ทุกสิ่งที่อย่างที่เรามีให้เขา เขาได้ทำลายมันไปหมดแล้ว มันไม่สร้างสามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้อีกแล้ว) ส่วนกับเพื่อนคนนั้น ผมก็คุย บ้าง คุย แต่ไม่เหมือนเดิม ผมก็คิดว่าต่อไปนี้ก็คงเฉยๆไว้ (ผมเป็นคนใจเย็นมากๆครับ จะทำอะไรก็จะคิดก่อนเสมอว่ามันจะมีผลอะไรตามมาหรือเปล่า แต่สุดท้าย ผมก็จะเป็นคนที่เจ็บเสมอ T^T55555) เพราะนี่ก็ใกล้จะเรียนจบกันแล้ว เดี๋ยวก็คงแยกย้ายกันไป ผมก็ไม่ค่อยได้เล่าเรื่องที่เลิกกับแฟนให้ใครฟังครับ ผมก็โดนเพื่อนแฟนที่อยู่ต่างห้อง แซะบ้าง แขวะบ้าง บอกว่าผมเหิ้ยบ้างล่ะ อยู่ดีๆก็เลิก เห็นแก่ตัวบ้างล่ะ เพราะเรื่องนี้ผมไม่ได้เล่าให้ใครฟัง คนอื่นๆที่ไม่รู้เรื่องก็เลยคิดว่า ผมเหิ้ยทำไมทิ้งไป ทำไมเห็นบอกรักกันดีแต่จู่ๆก็เลิก เพื่อนในห้องก็ไม่ค่อยพูดถึงพวกผมเท่าไหร่ เพราะทุกคนก็เห็นว่าผมเป็นคนยังไง ผมก็ทำใจไม่สนใจครับมันแค่เสียงนกเสียงกา ผมไม่มีไอพวกนี้ผมก็อยู่ได้ เดี๋ยวมันก็คงจบแล้ว..
ก็ อ่านจบแล้วก็อยากฝากไว้เป็นข้อคิดนะครับ สำหรับชีวิตคู่ของวัยรุ่นวัยเรียนวัยใสวัยมัธยมมันก็มีหลายๆคู่ที่รักกันตั้งแต่มอปลาย แล้วรักกันไปยันแต่งงาน ที่เขารักกันได้นานเพราะว่าเขาไว้ใจกัน เชื่อใจกันใส่ใจกัน ละที่สำคัญคือ ซื่อสัตย์ซึ่งกันและกัน ยังไงก็พยายามคบกันด้วยความซื่อสัตย์ดีกว่าเนาะ คุยทีละคน ยังไงมันก็ดีกว่าคบซ้อนหรือคุยซ้อนอยู่ดี ผลลัพธ์ที่ตามมามันไม่ดีหรอกครับ แม้ว่าวันนี้เขาจะไม่รู้ว่าเราคุยกับใครบ้าง แต่ยังไงสักวันหนึ่งเขาก็ต้องรู้อยู่ดี แล้วการที่เขามารู้ทีหลังว่าเขาโดนหลอกหรือทำอะไรแบบนี้ มันเจ็บมาก เหมือนกับการโดนสวมเขาให้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น อยากจะรักกับใครนานๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ “ความซื่อสัตย์”
เรื่องของผมกับแฟน แล้วก็เพื่อนในห้อง เจอแบบนี้บายเลยครับ
ป.ล. นี่เป็นกระทู้แรกของผม เขียนไม่น่าอ่านยังไงก็ช่วยแนะนำได้นะครับ
ผมเรียนอยู่โรงเรียนประจำอำเภอโรงเรียนหนึ่ง ช่วงนั้นผมเรียนอยู่ชั้น ม.4 ก็ได้แอบชอบเพื่อนผู้หญิงคนนึงครับ ผมก็ไม่ได้จีบหยอดแบบออกตัวอะไรมากมาย เราก็คุยกัน แรกๆก็คุยแบบเพื่อน พอคุยกันมากๆเข้า ผมตัดสินใจที่จะบอกชอบเขา ก็ถือว่าโชคดีแหละครับ 555 ที่เขาตอบรับผมด้วยความรู้สึกแบบเดียวกัน ก็ยังไม่ได้ขอคบนะครับ ช่วงนั้นเราคุยกันมากขึ้น ตกเย็นเลิกเรียนผมก็ส่งเขาขึ้นรถแล้วเดินกลับบ้านทุกวัน ผลัดกันบ้างเวลาเขาอยากเดินมาส่งผมครับ เพราะบ้านผมอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียน และด้วยความที่บ้านผมอยู่ใกล้ ทางบ้านทั้งคู่ต่างก็รู้ว่าเราคุยกัน ทั้งที่บ้านของผมและแฟน ตอนแรกผมเองก็หวั่นใจที่จะบอกกับที่บ้าน เพราะเหมือนว่าทางบ้านของผมและแฟนยังไม่ค่อยไว้ใจในตัวเราสองคนไว้ใจได้หรือเปล่า
แต่นั่นก็ไม่มีปัญหาอะไร
ด้วยความที่เราอยู่โรงเรียนเดียวกันระดับชั้นเดียวกัน แต่ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันนะครับ แต่ก็เหมือนว่าโชคชะตามันลิขิตมา(หรออออออออออ)ในแต่ละคาบเรียน เราจะเรียนใกล้ๆกันตลอด จะเดินสวนกันบ่อยเรียกได้ว่า เจอกันแทบตลอดเวลาถึงแม้ว่าจะอยู่คนละห้องก็ตาม ความสัมพันธ์เราเองก็ถือว่าค่อนข้างใกล้ชิดกัน แต่ทั้งผมและแฟนก็มีที่ว่างให้กันและกัน เพราะเราทั้งคู่ก็ชอบที่จะอยู่กับเพื่อน ไปไหนมาไหนกับเพื่อน กินข้าวกลางวันที่โรงอาหารกับกลุ่มเพื่อน เวลาอยู่ในโรงเรียนหรือเวลาว่าง เราก็จะมีช่องว่างให้กันและกันไม่ก้าวก่ายพื้นที่กันเกินไป ให้ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนกันไป แล้วถ้ายามว่างจริงๆหรือเลิกเรียนถึงจะอยู่ด้วยกัน แต่ก็คุยเท่าที่มีโอกาส ส่วนมากจะคุยกันทางแชทหรือโทรศัพท์ตอนอยู่บ้านมากกว่าครับ แต่ว่าตอนเรียนนั้นด้วยความที่เรียนห้องใกล้ๆกันตลอด เราเลยมักจะได้เดินไปเรียนด้วยกัน ผมก็จะเป็นฝ่ายไปส่งแฟนถึงห้องเรียนตลอด (คือผมจะเข้าห้องเรียนสายตลอด 5555 พอครูถามก็บอกไปห้องน้ำมาอิอิ) และไปไหนมาไหนด้วยกันหลังจากกินข้าวช่วงพักกลางวัน ซึ่งสำหรับผมและแฟนคุยกันแล้วก็ถือว่ามันพอดีเราทั้งคู่พอใจที่เป็นแบบนี้ ช่วงเย็นหลังเลิกเรียนก็มีนั่งรถไปร้านของหวานไปนั่งกิน ไปเดินเล่นที่ต่างๆแถวๆโรงเรียนด้วยกัน เพราะต่างคนก็ต่างอยากใช้เวลาหลังเลิกเรียนอยู่ด้วยกันครับ ปกติแล้วเวลาว่างหลังเลิกเรียนของเราก็มีอยู่เท่านี้แหละครับ .. เอ้ออ ลืมบอกไป พวกเราชอบออกกำลังกายกันมาก ผมจะเข้าฟิตเนสเข้ายิมอยู่เสมอ ส่วนเธอ ผมก็เป็นคนคอยแนะนำหรือพาออกกำลังกายเหมือนกัน เพราะเธอก็ชอบเต้น cover dance มักจะออกงานโรงเรียนอยู่เสมอ การออกกำลังกายเลยเป็นเรื่องปกติสำหรับเราทั้งคู่ เราก็ได้ใช้เวลาช่วงนี้อยู่ด้วยกันด้วยครับ หรือบางทีถ้าวันไหนเราไม่ได้ออกกำลังกาย เราก็จะหาสถานที่เงียบๆมานั่งทำการบ้านกัน ช่วยกันทำการบ้าน เราก็มักจะทำการบ้านด้วยกันบ่อยๆช่วยกันสอนช่วยกันดู โครตเป็นอะไรที่ดูปกติธรรมดาและไม่หวือหวา 555555555 ก็จับมือกันบ้างเล่นแตะเนื้อต้องตัวกันบ้าง แต่ก็ไม่เยอะ
เราใช้ชีวิตวนลูปแบบนี้ไปจนถึงช่วง ม.6 โครตธรรมด๊าธรรมดา แต่มันมีความสุขมากเลยนะ อิอิ มันไม่มีอะไรให้ต้องคิดมาก เวลาว่างเราก็อยู่ด้วยกัน อยากไปอยู่กับเพื่อนเราก็ต่างเข้าใจกันและกัน และเพื่อนเราก็สนิทกันทุกคนรู้จักกันคุ้นหน้าคุ้นตากัน เพราะชอบแซวคู่ผมอยู่บ่อยๆ เพราะเวลาเราชอบไปเดินด้วยกัน นั่งทำการบ้าน มันก็หาว่า เฮ๊ยมีไรกันป่าวเนี่ย หรือบางทีแบบ เห้ยเห็นผมเดินกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ ก็แซวกันสนุกๆครับพวกเราก็ไม่ได้คิดอะไร เราก็ต่างรู้กันก็เล่นไปตามที่เพื่อนแซว เพราะพวกเราคบกันถือว่าค่อนข้างนานแล้วสำหรับชีวิตมัธยมเราเลยแบบเชื่อใจกันมาก.. ในตอนนั้นคือผมรักผู้หญิงคนนี้มาก ผมเชื่อใจเขา ไว้ใจ และให้ใจทุ่มไปสุดๆทุกอย่าง โดยคิดว่านี่คือคนสุดท้ายที่เราจะอยู่ด้วยไปจนแก่
แต่แล้ววันหนึ่ง ผมทักแชทไป ไม่อ่านไม่ตอบ ตอนแรกผมก็ไม่อะไร คนเราอะไรจะอยู่กับโทรศัพท์ได้ตลอด สัก 1 ชม. ผ่านไป ก็ยังไม่อ่านเหมือนเดิม พอดีว่าตอนนั้นมีเรื่องงานที่ต้องคุยกัน ผมเลยโทรไป ปรากฎว่าโทรไม่ติดครับ ผมเลยเอะใจว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ก็เลยโทรไปหาทางบ้านแฟนครับ พี่สาวแฟนรับผมก็ขอสายแฟน พี่สาวบอกว่าไม่รู้ไปไหนเห็นกลับมาแล้วก็ออกไปพี่ก็ไม่ได้ถามว่าจะไปไหน ผมก็วางสายแล้วก็ไม่ได้คิดอะไรก็กลับไปทำงานเล่นเกมแล้วก็นอน วันต่อมาเธอก็มาโรงเรียนปกติ เราก็คุยกันว่าเมื่อคืนเกิดไรขึ้นทำไมโทรไม่ติด แฟนก็เล่าให้ฟังว่าโทรศัพท์มันเป็นไรไม่รู้ดับไปเลย แล้วช่วงนั้นก็ไปทำงานกลุ่มอยู่บ้านเพื่อนในห้องคนหนึ่งพอดี ซึ่งเราก็รู้จักกันหมดผมก็เลยไม่ได้ว่าอะไร แฟนก็เลยฝากให้ผมเอาไปซ่อมเพราะแฟนไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับพวกนี้ ผมก็เลยโอเคๆ เดี๋ยวผมเอาไปหาร้านซ่อมที่รู้จักกันให้ พอซ่อมเสร็จแล้วช่างซ่อมก็ลองเอามาให้ลองใช้ดูว่าเป็นยังไงบ้าง ผมก็เลยลองเปิดลองใช้แอพนู้นนี่ ด้วยความที่เป็นของแฟน ความขี้เผือกของผมจึงบังเกิด ผมนี่เปิดดูประวัติแชทเลยครับ(ด้วยความสงสัยว่าทำไมเมื่อคืนไม่ตอบกูววว55555) ตอนนั้นกะดูแบบเฉยๆว่าคุยกับเราเยอะขนาดไหน5555 ก็เยอะจริงๆครับ แต่เพื่อนผู้หญิงเยอะกว่า ก็ไม่แปลกครับ ที่แปลกก็คือ มันมีแชทที่คุยกับเพื่อนผู้ชายคนนึงในห้องผม ผมก็สนิทกันพอสมควร เพื่อนผู้ชายในห้องจะสนิทกันมากครับอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ๆเลย ซึ่งประวัติแชทมันโครตเยอะ ทั้งๆที่ในห้องมันก็ไม่ได้คุยกันเท่าไหร่ ผมเลยลองเปิดอ่านแชทนั้นดู
สิ่งที่ผมเห็นก็คุยกันแหละครับ คุยแบบคุย คุยถามทำไร กินข้าวกับไร ไปนู้นนี่นั่นกี่โมง ไปไหนกันดี หูววว คุยกันเหมือนผมคุยกับแฟนเลยครับ แล้วผมก็ดูช่วงเวลา ตอนนั้นจำได้ว่าแชทกับแฟนอยู่แล้วแฟนบอกแปบนึงนะไปทำงานแปบ ว้าว งานนี่มันน!! ผมก็เลื่อนอ่านไปแบบในใจก็คิดว่ามันคุยกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า? ก็เลื่อนไปเรื่อยๆ สิ่งที่พีคสุดคือการแลกรูปครับ แลกรูปกันและกัน แต่เป็นรูปของการ 18+ ฝั่งแฟนผมก็เปิดอก ฝั่งเพื่อนผมก็ไม่น้อยหน้า เปิดใจชายเลยครับ บทสนทนาก็ 18+ นั่นแหละนะ ผมก็อ่านไปเรื่อย เอ้อมันเยอะเหมือนกันนี่นา ตอนนั้นไม่รู้เพราะอะไร ผมก็เอาโทรศัพท์กับไปคืนแฟนแบบไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมคิดว่าเออปล่อยมันไป อย่างที่เป็นน(เพลงมา) ผมก็ยังคุยกับแฟนเหมือนเดิมนะ ยังเดินด้วยกันจับมือกันปกติ ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไรแล้วแหละ กับเพื่อนคนนั้นผมก็คุยเหมือนเดิมสนิทกันเหมือนเดิม (ลองมองย้อนกลับไปเพราะอะไรผมก็งงทำไมผมถึงปล่อยให้ผ่านไปแบบไม่โกรธเอ่ออ.. มันก็โกรธแหละ แต่ทำไมถึงหายไวได้ขนาดนี้ 5555) (ตรงส่วนนี้เพื่อนๆคิดว่ายังไงครับถ้าเป็นเพื่อนๆจะเลือกปล่อยไปแล้วคุยกันกับแฟนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่ผมทำหรือเปล่า) แล้วเรื่องราวมันก็เงียบไปจนผมลืมไปแล้วเรื่องนี้
หลังจากนั้นประมาณเดือนกว่าๆ มีวันหนึ่งที่ผมไปส่งเธอขึ้นรถกลับบ้านปกติ แล้วก็ไปออกกำลังกายเหมือนที่ทำประจำทุกๆวันและก็กลับบ้านเย็นๆ จนเวลาประมาณ 2 ทุ่ม จู่ๆพี่สาวของแฟนโทรมาหาผม ถามว่าแฟนได้อยู่กับผมรึเปล่า ผมก็งง (เอ้า ส่งกลับบ้านไปแล้วหนิ) ก็เลยตอบไปว่าไม่ได้อยู่ครับ พี่สาวก็บอกว่ายังไม่กลับมาจากโรงเรียนเลย พี่เขาเป็นห่วงนี่มันจะ 3 ทุ่มแล้วทำไมยังไม่เห็นกลับมาเลย ทีนี้ผมก็คิดแล้วว่าไปไหน ทำไมยังไม่กลับ ผมก็เลยวางสายไปแล้วก็ขี่มอเตอร์ไซค์ลองตามหาตามทางดูครับ (วินาทีนั้นคือคิดว่าโดนจับตัวไปหรือเปล่า เพราะช่วงที่ส่งกลับบ้านไปมันก็เย็นอยู่พอสมควร เลยกลัวจะเป็นอันตรายอะไร) ผมก็ขี่วนอยู่ถนนเส้นที่ผ่านบ้านแฟน 2 รอบ ไม่เจอ เลยมาจอดอยู่หน้าหมู่บ้านแฟนแล้วพยายามโทรหา ก็ไม่รับ ผมก็รออยู่ประมาณ 3 ทุ่มกว่า ก็เห็นแฟนกลับมาครับ(ประเด็นคือออ ผมส่งกลับบ้านตั้งแต่ประมาณ 6 โมง แล้ว ตอนนี้ 3 ทุ่มกว่าแล้วครับ เธออออ เธออหายไปไหนนมา) ซึ่งภาพที่เห็นก็คือเธอกำลังซ้อนรถมอเตอร์ไซค์อีกคันมา ผมจำรถได้ และจำคนขับได้ด้วยครับ นั่นเพื่อนคนนั้นของผมเอง ตอนแฟนเข้าหมู่บ้านแฟนกับเพื่อนไม่ได้สังเกตผมเพราะผมใส่หมวกกันน็อค แล้วด้วยความที่ ผมไม่ค่อยขี่มอไซค์ ไม่ขนาดที่ว่าเพื่อนและแฟนยังไม่เคยเห็น ผมเลยขี่ตามไป แฟนลงจากรถก่อนถึงบ้านแฟน แล้วเดินต่อไปจนถึงบ้าน เพื่อนก็ขี่สวนผมไปโดยที่มันก็ไม่รู้ตัว ผมก็เลยขี่ไปหาแฟนที่หน้าบ้าน แล้วถามว่าไปไหนมาทำไมกลับดึกจัง แฟนบอกว่าไปบ้านเพื่อนอีกห้องนึงที่เต้น cover dance ด้วยกัน นั่นแหละครับ ผมก็ถามว่าแล้วกลับมายังไง แฟนบอกนั่งรถตู้กลับมาแล้วก็เดินเข้ามา ผมบอกว่า อ้าวเห็นเพื่อนคนนั้นเข้ามาส่ง ตกลงไปไหนมา แฟนก็ช็อคไปสักครู่นึง ผมก็ถามย้ำเข้าไปอีกว่าไปไหนมา มันก็บอกว่าไปนั่งรถเล่นมา ผมก็ว่านั่งรถเล่นตั้งแต่ 6 โมงอ่ะหรอ นี่มัน 3 ทุ่มครึ่งเนี่ยนะ แฟนก็เงียบไป ผมเลยบอกว่า โอเค ไม่ต้องบอกอะไรแล้วแหละ แค่นี้ก็รู้แล้วล่ะ โชคดี แล้วก็บิดรถกลับบ้านทันที
หลังจากที่ผมกลับบ้านมา ผมก็ได้เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง ได้รู้ว่า เขาไม่ได้มีเราแค่คนเดียว เวลาที่ผมคุยกับแฟน เขาก็คุยกับผู้ชายคนอื่นไปด้วย ที่ผ่านมามันเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นซ้ำวนลูปอยู่หลายครั้งมาก แต่ผมก็เลือกที่จะให้อภัยเขา โดยคิดซะว่า เดี๋ยวเขาก็คงปรับตัวให้ดีกว่าเดิม คงไม่ทำอีกแล้ว คงจะเชื่อฟังคำที่ผมบอก เพราะตั้งแต่ที่คุยกันมา ผมไม่เคยคุยกับผู้หญิงคนไหน หรือว่าคุยซ้อนเลย เวลาที่เราจะรักใครสักคนเราก็ควรทุ่มใจให้หมด แต่ก็ด้วยความทุ่มเทของผมนี่ล่ะครับ ที่ทำให้ผมเจ็บแล้วเจ็บอีกวนซ้ำไปซ้ำมา แล้วก็ได้แต่พูดซ้ำๆกับเขาว่า ไม่เป็นไรนะ เรื่องแค่นี้ ให้อภัยได้...
หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นจบลงผมกับแฟนเก่าก็มาโรงเรียนปกติ แต่เราไม่ได้คุยกันเลย ผมไม่คุยเองแหละครับ 55555 (คือความไว้เนื้อเชื่อใจความซื่อสัตย์ทุกสิ่งที่อย่างที่เรามีให้เขา เขาได้ทำลายมันไปหมดแล้ว มันไม่สร้างสามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้อีกแล้ว) ส่วนกับเพื่อนคนนั้น ผมก็คุย บ้าง คุย แต่ไม่เหมือนเดิม ผมก็คิดว่าต่อไปนี้ก็คงเฉยๆไว้ (ผมเป็นคนใจเย็นมากๆครับ จะทำอะไรก็จะคิดก่อนเสมอว่ามันจะมีผลอะไรตามมาหรือเปล่า แต่สุดท้าย ผมก็จะเป็นคนที่เจ็บเสมอ T^T55555) เพราะนี่ก็ใกล้จะเรียนจบกันแล้ว เดี๋ยวก็คงแยกย้ายกันไป ผมก็ไม่ค่อยได้เล่าเรื่องที่เลิกกับแฟนให้ใครฟังครับ ผมก็โดนเพื่อนแฟนที่อยู่ต่างห้อง แซะบ้าง แขวะบ้าง บอกว่าผมเหิ้ยบ้างล่ะ อยู่ดีๆก็เลิก เห็นแก่ตัวบ้างล่ะ เพราะเรื่องนี้ผมไม่ได้เล่าให้ใครฟัง คนอื่นๆที่ไม่รู้เรื่องก็เลยคิดว่า ผมเหิ้ยทำไมทิ้งไป ทำไมเห็นบอกรักกันดีแต่จู่ๆก็เลิก เพื่อนในห้องก็ไม่ค่อยพูดถึงพวกผมเท่าไหร่ เพราะทุกคนก็เห็นว่าผมเป็นคนยังไง ผมก็ทำใจไม่สนใจครับมันแค่เสียงนกเสียงกา ผมไม่มีไอพวกนี้ผมก็อยู่ได้ เดี๋ยวมันก็คงจบแล้ว..