ปกติผู้ชายอย่างผมก็ไม่ค่อยพิถีพิถันเรื่องเวชสำอางมากเท่าไหร่ เจออะไรราคาไม่แพงมากก็ซื้อมาบำรุงพอถูไถกันเป็นพิธี ก่อนหน้านั้นก็ใช้พวกครีมทาผิวแนว For Men ทั้งหลาย แต่พอดีช่วงนี้ผมงบกระจ้อยร่อย ก็เลยหาสกินแคร์ดีๆ ที่แบบหาเจอง่าย ขายคล่องมาใช้ พอเดินไปในร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 หรือร้าน Watson ก็เห็นหลายยี่ห้อเต็มไปหมด แต่มาสะดุดตากับแพ็คเกจของแบรนด์
Dermadict ที่ออกมาได้ดูเป็นสินค้าน่าจะดูแพง แต่ราคาบอกตรงๆ โคตรรับได้ สำหรับกระเป๋าสตางค์ของคุณ ผมก็เลยจัดมาลอง 3 ตัว ได้แก่
Dermadict Natural Moisturizer Complex, Dermadict Smooth Acne Control และ
Dermadict Whitening Serum
จะบอกก่อนรีวิวว่าสภาพผิวหน้าของผมเองก็จะหน้ามันปานกลางนะครับ
มาดูตัวแรกกันดีกว่า
Dermadict Natural Moisturizer Complex
ขนาด 15 กรัม ราคา 149 บาท
วิธีใช้: เกลี่ยครีมบางๆ ตามจุดทั่วใบหน้าเป็นประจำ เช้าและเย็น
ครีมบำรุงผิว เพื่อผิวหน้าดูเนียนใสและกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมช่วยปกป้องความหมองคล้ำ จุดด่างดำ ฝ้า กระ และลดเลือนริ้วรอยหมองคล้ำ รวมถึงการแก้ไขการลดเลือน 10 ปัญหาผิว อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีสารสกัดจากสวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส ซึ่งเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
ผมพยายามจับคุณสมบัติที่มีอยู่บนกล่องมายำรวมให้เห็นภาพมากที่สุด ซึ่งถ้าอยากอ่านครบถ้วนต้องลองหาซื้อแล้วอ่านให้เต็มที่ครับ วันเดือนปีที่ผลิต รวมไปถึงส่วนผสมต่างๆ เต็มมากครับ
ด้านทางกายภาพและเนื้อครีมมีสีขาวแบบครีมทั่วไป ออกจะกึ่งเซรั่มนิดๆ ด้วยซ้ำ ฟีลลิ่งเหมือนกับแบรนด์ดังๆที่ผมเคยลองใช้ มีกลิ่นหอมจางๆ แต่ถ้าบางคนไม่ชอบน้ำหอมก็พาปวดหัวได้นะ พอลงทาก็รู้สึกได้ว่าซึมซับสู่ผิวได้ง่าย ไม่มีคำว่าเหนียวเลย และเป็นครีมที่มาทั้ง Anti-Aging และ Whitening ในคราเดียวกัน ด้วยราคาแบบนี้บอกได้คำเดียวถูกมาก ส่วนข้อเสียนิดหน่อยที่ผมพอจะนึกออกคือว่ามันไม่มีค่า SPF เลย คุณคงหาต้องครีมกันแดดมาร่วมด้วยแล้ว
ผลการทดลองด้วยตัวเองมา 1 อาทิตย์
1. ก็ไม่ได้มีอาการแพ้อะไรสำหรับตัวเอง
2. เรื่องพวกรอยสิว ริ้วรอยทั้งหลาย ก็ไม่เห็นผลมาก ต้องลองใช้ต่อเนื่องขึ้นไปกว่านี้
3. เนื้อครีมผสมน้ำหอมนิดจางๆ ใครแพ้พวก Fragrance ควรเทสต์ก่อนใช้จริง
สินค้าตัวต่อมา
Dermadict Smooth Acne Control
ขนาด 50 กรัม ราคาข้างกล่องเขียนว่า 800 บาท แต่ผมได้มาในราคาถูกเกือบครึ่ง (มีแบบ 12 กรัม ราคา 129 บาท)
วิธีใช้: เกลี่ยเจลบางๆ นวดย้ำเน้นจุดปัญหาสิวที่ใบหน้า ลูบไล้ทั่วหน้าได้ทั้งเช้าและเย็น
เจลใสบำรุงผิวให้กระจ่างใสและลดเลือนริ้วรอย รวมถึงการเกิดสิวอุดตันได้อย่างต่อเนื่อง ปราศจากสารทำให้ผิวบางและไม่ทำให้ผิวแสบแดง มีการทดสอบจากต่างประเทศเหมือนกับผลิตภัณฑ์ตัวแรก แพ็คเกจดูแพง แต่ราคาไม่แพงตามนะ ถึงข้อมูลต่างๆ ที่อยู่กล่องอาจจะไม่ได้จัดเต็มเหมือนตัวแรก แต่ข้อมูลการบ่งใช้ ส่วนผสม และคำเตือนต่างๆ ก็ชัดเจนดี เป็นเซรั่มที่นวดที่เหมาะสำหรับคนที่เป็นสิว
ลักษณะทางกายภาพเป็นเจลเนื้อใส ทาแป๊บเดียวก็ซึมซาบสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ไม่เหนียวเหมือนกับตัวแรก ยิ่งถ้าได้ลองเกลี่ยเพิ่มนี่รู้สึกถึงความเย็นนิดหน่อย ตัวนี้ไม่มีน้ำหอมผสมด้วย ข้อเสียก็ด้วยความที่มันซึบเร็วเกินไป ก็อาจจะต้องซ้ำหลายๆ ครั้งในการเกลี่ยเจลในครั้งถัดๆ ไป
ผลการทดลองด้วยตัวเองมา 1 อาทิตย์
1. เนื้อเจลซึมซาบเร็วดี แถมมีความเย็น
2. เรื่องสิวได้ลองทาจริงก็ดีขึ้นนะ คือสิวมันยุบไปเลย ไม่แน่ใจผมมโนไปเองหรือเปล่า
ตัวสุดท้าย
Dermadict Whitening Serum
ขนาด 50 กรัม ราคาข้างกล่องเขียนว่า 800 บาท อีกแล้ว ผมก็ได้มาในราครึ่งหนึ่งเหมือนเดิม (มีแบบ 15 กรัม ราคา 149 บาท)
วิธีใช้: เกลี่ยเซรั่มบางๆ ตามจุดทั่วใบหน้า ลูบไล้ให้ทั่วใบหน้าเป็นประจำเช้าและเย็น
ซีรั่มบำรุงผิวกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอยให้ผิวกระชับเต่งตึงกระชับรูขุมขนอย่างดีเยี่ยม แถมยังเคลมอีกว่าไม่มีสารระคายเคืองต่อผิว แพ็คเกจเปิดออกมากดลงเนื้อครีมก็ออกมาเหมือนกับตัวที่สอง ข้อมูลต่างๆ การบ่งใช้ ส่วนผสม และคำเตือนต่างๆ ก็ดูง่าย โดยเป็นเซรั่มแบบเทคโนโลยีใหม่มีโมเลกุลแบบนาโนกันเลยทีเดียว (เขาว่าแบบนั้น)
ลักษณะทางกายภาพเป็นเนื้อครีมใสๆ ลักษณะถ้าไม่รีบทานี้เหมือนน้ำเข้าไปทุกที ไม่รู้เป็นข้อเสียหรือเปล่า แต่สำหรับผมถือว่าผ่านนะ ที่สำคัญไม่มีกลิ่นน้ำหอมมากวนใจอีกแล้ว ใครผิวบอบบางอ่อนโยนแนะนำตัวนี้ ให้เป็นที่สุดสำหรับที่ผมได้มา
ผลการทดลองด้วยตัวเองมา 1 อาทิตย์
1. เนื้อครีมใส ทาทีหายไปอย่างรวดเร็ว ถือว่าซึมซาบดี
2. อันนี้ลองดูแล้วเหมือนหน้าจะดูโอเคขึ้น แต่แค่สำหรับ 1 อาทิตย์ถือว่าผ่าน
ใครอยากลองเวชสำอางราคาไม่แรงมากลองดู
Dermadict นะครับ ของเขาพอใช้ได้เลยนะ สำหรับมุมมองผู้ชายอย่างผมที่ลองใช้ และผลิตภัณฑ์ก็ขึ้นอยู่ที่สภาพผิวแต่ละท่านยังไงก็ลองทดสอบก่อนใช้ครับ
[CR] เวชสำอางในราคาจับต้องได้ (หาสกินแคร์ต้อนรับปีใหม่)
จะบอกก่อนรีวิวว่าสภาพผิวหน้าของผมเองก็จะหน้ามันปานกลางนะครับ
มาดูตัวแรกกันดีกว่า
Dermadict Natural Moisturizer Complex
ขนาด 15 กรัม ราคา 149 บาท
วิธีใช้: เกลี่ยครีมบางๆ ตามจุดทั่วใบหน้าเป็นประจำ เช้าและเย็น
ครีมบำรุงผิว เพื่อผิวหน้าดูเนียนใสและกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมช่วยปกป้องความหมองคล้ำ จุดด่างดำ ฝ้า กระ และลดเลือนริ้วรอยหมองคล้ำ รวมถึงการแก้ไขการลดเลือน 10 ปัญหาผิว อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีสารสกัดจากสวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส ซึ่งเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
ผมพยายามจับคุณสมบัติที่มีอยู่บนกล่องมายำรวมให้เห็นภาพมากที่สุด ซึ่งถ้าอยากอ่านครบถ้วนต้องลองหาซื้อแล้วอ่านให้เต็มที่ครับ วันเดือนปีที่ผลิต รวมไปถึงส่วนผสมต่างๆ เต็มมากครับ
ด้านทางกายภาพและเนื้อครีมมีสีขาวแบบครีมทั่วไป ออกจะกึ่งเซรั่มนิดๆ ด้วยซ้ำ ฟีลลิ่งเหมือนกับแบรนด์ดังๆที่ผมเคยลองใช้ มีกลิ่นหอมจางๆ แต่ถ้าบางคนไม่ชอบน้ำหอมก็พาปวดหัวได้นะ พอลงทาก็รู้สึกได้ว่าซึมซับสู่ผิวได้ง่าย ไม่มีคำว่าเหนียวเลย และเป็นครีมที่มาทั้ง Anti-Aging และ Whitening ในคราเดียวกัน ด้วยราคาแบบนี้บอกได้คำเดียวถูกมาก ส่วนข้อเสียนิดหน่อยที่ผมพอจะนึกออกคือว่ามันไม่มีค่า SPF เลย คุณคงหาต้องครีมกันแดดมาร่วมด้วยแล้ว
ผลการทดลองด้วยตัวเองมา 1 อาทิตย์
1. ก็ไม่ได้มีอาการแพ้อะไรสำหรับตัวเอง
2. เรื่องพวกรอยสิว ริ้วรอยทั้งหลาย ก็ไม่เห็นผลมาก ต้องลองใช้ต่อเนื่องขึ้นไปกว่านี้
3. เนื้อครีมผสมน้ำหอมนิดจางๆ ใครแพ้พวก Fragrance ควรเทสต์ก่อนใช้จริง
สินค้าตัวต่อมา Dermadict Smooth Acne Control
ขนาด 50 กรัม ราคาข้างกล่องเขียนว่า 800 บาท แต่ผมได้มาในราคาถูกเกือบครึ่ง (มีแบบ 12 กรัม ราคา 129 บาท)
วิธีใช้: เกลี่ยเจลบางๆ นวดย้ำเน้นจุดปัญหาสิวที่ใบหน้า ลูบไล้ทั่วหน้าได้ทั้งเช้าและเย็น
เจลใสบำรุงผิวให้กระจ่างใสและลดเลือนริ้วรอย รวมถึงการเกิดสิวอุดตันได้อย่างต่อเนื่อง ปราศจากสารทำให้ผิวบางและไม่ทำให้ผิวแสบแดง มีการทดสอบจากต่างประเทศเหมือนกับผลิตภัณฑ์ตัวแรก แพ็คเกจดูแพง แต่ราคาไม่แพงตามนะ ถึงข้อมูลต่างๆ ที่อยู่กล่องอาจจะไม่ได้จัดเต็มเหมือนตัวแรก แต่ข้อมูลการบ่งใช้ ส่วนผสม และคำเตือนต่างๆ ก็ชัดเจนดี เป็นเซรั่มที่นวดที่เหมาะสำหรับคนที่เป็นสิว
ลักษณะทางกายภาพเป็นเจลเนื้อใส ทาแป๊บเดียวก็ซึมซาบสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ไม่เหนียวเหมือนกับตัวแรก ยิ่งถ้าได้ลองเกลี่ยเพิ่มนี่รู้สึกถึงความเย็นนิดหน่อย ตัวนี้ไม่มีน้ำหอมผสมด้วย ข้อเสียก็ด้วยความที่มันซึบเร็วเกินไป ก็อาจจะต้องซ้ำหลายๆ ครั้งในการเกลี่ยเจลในครั้งถัดๆ ไป
ผลการทดลองด้วยตัวเองมา 1 อาทิตย์
1. เนื้อเจลซึมซาบเร็วดี แถมมีความเย็น
2. เรื่องสิวได้ลองทาจริงก็ดีขึ้นนะ คือสิวมันยุบไปเลย ไม่แน่ใจผมมโนไปเองหรือเปล่า
ตัวสุดท้าย Dermadict Whitening Serum
ขนาด 50 กรัม ราคาข้างกล่องเขียนว่า 800 บาท อีกแล้ว ผมก็ได้มาในราครึ่งหนึ่งเหมือนเดิม (มีแบบ 15 กรัม ราคา 149 บาท)
วิธีใช้: เกลี่ยเซรั่มบางๆ ตามจุดทั่วใบหน้า ลูบไล้ให้ทั่วใบหน้าเป็นประจำเช้าและเย็น
ซีรั่มบำรุงผิวกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอยให้ผิวกระชับเต่งตึงกระชับรูขุมขนอย่างดีเยี่ยม แถมยังเคลมอีกว่าไม่มีสารระคายเคืองต่อผิว แพ็คเกจเปิดออกมากดลงเนื้อครีมก็ออกมาเหมือนกับตัวที่สอง ข้อมูลต่างๆ การบ่งใช้ ส่วนผสม และคำเตือนต่างๆ ก็ดูง่าย โดยเป็นเซรั่มแบบเทคโนโลยีใหม่มีโมเลกุลแบบนาโนกันเลยทีเดียว (เขาว่าแบบนั้น)
ลักษณะทางกายภาพเป็นเนื้อครีมใสๆ ลักษณะถ้าไม่รีบทานี้เหมือนน้ำเข้าไปทุกที ไม่รู้เป็นข้อเสียหรือเปล่า แต่สำหรับผมถือว่าผ่านนะ ที่สำคัญไม่มีกลิ่นน้ำหอมมากวนใจอีกแล้ว ใครผิวบอบบางอ่อนโยนแนะนำตัวนี้ ให้เป็นที่สุดสำหรับที่ผมได้มา
ผลการทดลองด้วยตัวเองมา 1 อาทิตย์
1. เนื้อครีมใส ทาทีหายไปอย่างรวดเร็ว ถือว่าซึมซาบดี
2. อันนี้ลองดูแล้วเหมือนหน้าจะดูโอเคขึ้น แต่แค่สำหรับ 1 อาทิตย์ถือว่าผ่าน
ใครอยากลองเวชสำอางราคาไม่แรงมากลองดู Dermadict นะครับ ของเขาพอใช้ได้เลยนะ สำหรับมุมมองผู้ชายอย่างผมที่ลองใช้ และผลิตภัณฑ์ก็ขึ้นอยู่ที่สภาพผิวแต่ละท่านยังไงก็ลองทดสอบก่อนใช้ครับ