วันส่งท้ายปี ไทเปฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝนแบบนี้ ต้องเขียนงานอะไรสักหน่อยแล้ว T^T (ปกติไทเปจะฝนตกรัวๆ)
วันนี้จะมาต่อเรียนต่อไต้หวัน part 2
ภาคหนึ่งอยู่ที่นี้
http://ppantip.com/topic/35893672
1.หลังจากเอนต์ติดได้ทุนแล้ว คำถามต่อไปที่เจอคือ ต้องไปถึงไต้หวันวันไหน? คำตอบนี้ขึ้นอยู่กับมหาลัยที่แต่ละคนเอนต์ติด แต่ส่วนตัวแนะนำว่าให้ไปถึงก่อนวันที่เขาแนะนำสักวันสองวัน เช่น ถ้าทางมหาลัยแนะนำให้เดินทางวันที่6 กันยา เราก็เดินทางวันที่4เลย เพราะว่าพอเราไปถึงไต้หวันจะมีภารกิจมากมายต้องทำ ถ้าไปตามที่มหาลัยกำหนดจะยุ่งและเหนื่อยมากกกกกก อย่างน้อยไปก่อนก็ไม่ฉุกละหุกมาก
2.จงใช้สกิลและเทคนิคที่มีซื้อตั๋วเครื่องบินมาที่ไต้หวัน วีซ่านักเรียนมีทั้งแบบsingle entryและmultiple เลือกทำได้ตามใจชอบ เราเลือกแบบsingle entryแล้วซื้อตั๋วขาไปไม่มีขากลับ
สิ่งที่ต้องระวังก่อนการเดินทาง : น้ำหนักกระเป๋า!!!! เราแนะนำว่าให้เอาของที่หาซื้อไม่ได้ที่ไต้หวันมาให้หมด (น้ำหนักกระเป๋าของเรา30กิโลกรัม ส่วนมากเป็นหนังสือวิจัยภาษาไทย ยาธาตุน้ำขาว ของกินจากไทย เสื้อผ้าทางการ) เพราะที่ไต้หวันมีร้านขายของใช้ชีวิตประจำวันแบบครอบจักรวาล (生活百貨) อยู่ ไปหาซื้อเอาที่นั้นก็สะดวกดี
ปล. ไต้หวันไม่อนุญาตให้เอาผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์เข้าประเทศ ระวังจะโดนน้องหมาตัวน้อยๆเห่าใส่เด้อ
พอบินมาถึงไต้หวัน สิ่งที่ต้องทำคือ
1. ไปเช็คอินหอพัก หรือบ้านเช่าอะไรก็ว่าไป
2. ทำบัตรARC อารมณ์บัตรคนต่างด้าว (ต้องทำภายใน15วัน สำคัญมากกกกกกกกกกกกกกกก)
3. ลงทะเบียนนักเรียน (註冊) (ยื่นเอกสาร ทำบัตรนักเรียน ทำประกันสุขภาพและอื่นๆ)
4. ตรวจสุขภาพ
5. เปิดบัญชีธนาคาร (ต้องไปทำARCก่อน ถึงไปเปิดได้)
6. กิจกรรมอื่นๆที่ทางภาค ทางคณะหรือทางหน่วยนักเรียนต่างชาติจัดให้ (พวกงานปฐมนิเทศล้านแปด)
พอลงเครื่องปุ๊บมา เราจะอยู่ที่เมืองเถาหยวน เมืองอุตสากรรมแห่งไต้หวัน เราต้องหาพาหนะนั่งเข้ามาในไทเป อนาคตไต้หวันจะเปิดเส้นทางรถไฟใต้ดิน(อารมณ์แอร์พอร์ตลิงก์)จากไทเปไปเถาหยวน ในช่วงที่ยังไม่เปิดใช้ เราก็หาช่องทางอื่นเดินทางมาไทเปก่อน วิธีเดินทางเข้าไทเปมีหลากหลายมากมาย
1. แท็กซี่ (ค่าโดยสารหลักพันเป็นอย่างต่ำ)
2. รถไฟความเร็วสูง (ต้องนั่งบัสจากสนามบินไปที่สถานีก่อน)
3. รสบัส (มีหลายบริษัท ส่วนมากพามาลงที่台北車站)
4. ลากเพื่อนคนไต้หวันมารับ (กร๊ากกกกกกกกกกกกกกก)
5. เทคนิคส่วนตัวอื่นๆ (ถ้ามี)
หลายคนอาจจะสงสัยว่าในไทเปก็มีสนามบิน ทำไมไม่ลงเครื่องตรงนั้นละ คำตอบคือสถานบินในไทเปเป็นไฟลต์บินในประเทศ ส่วนเถาหยวนเป็นไฟลต์บินระหว่างประเทศเน้อออออ
เมื่อเช็คอินที่พักแล้ว ภารกิจต่อไปคือทำบัตรARC วิธีทำบัตรARCสำหรับนักเรียนมีหลักๆสองทางคือ
1. ทำกับทางโรงเรียน มหาลัย สะดวก ไม่ต้องไปไกล แต่ได้ช้าหน่อย
2. ไปทำกับ内政部เลย เดินทางไกลหน่อย แต่ได้เร็ว
ถ้าตัดสินใจเลือกข้อสอง ก็นั่งรถไฟใต้ดินไปที่สถานี小南門 แล้วเดินตามป้ายไปที่กรมได้เลย (ปล. ประตูหน้ากรมไม่เปิดให้เข้า ต้องเข้าประตูด้านข้าง ไม่รู้ทำไม)
เวลาทำบัตรARC เตรียมเอกสารให้พร้อม พวกใบadmission พาสปอร์ต เอกสารรับรองต่างๆ ถือติดมือเอาไว้ตลอด แล้วก็ที่อยู่หอพัก เบอร์โทรศัพท์ไต้หวันต้องมีพร้อม (จดเก็บไว้เลย) แล้วตอนกรอกทำบัตรเราต้องกรอกว่าเหตุผลที่อยู่ไต้หวันคืออะไร แนะนำว่ากรอกว่ามาเรียน แล้วเรียนที่ไหน บลาๆๆๆ (มีผลต่อการได้ทุน) ถ้ากรอกผิดชีวิตพังไม่รู้ตัว
พอกรอกเสร็จเจ้าหน้าที่จะถามว่าทำแบบกี่ปี แล้วแต่ชอบเลย เราทำ2ปี สองพันหยวนไต้หวัน
ช่วงระหว่างที่รอบัตรแข็งARC เจ้าหน้าที่จะให้กระดาษเอสี่ที่มีรหัสต่างด้าวมาให้ เราสามารถเอากระดาษใบนั้นเป็นหลักฐานแทนบัตรARC ตอนเปิดบัญชีธนาคารได้
ตรวจสุขภาพ
ที่ไต้หวันมีประกันสุขภาพถ้วนหน้า แต่ว่าต้องอยู่ไต้หวันให้ครบ6เดือนก่อนถึงจะทำได้ นั้นเท่ากับว่า6เดือนแรกที่อยู่ไต้หวันต้องอึด ถึก ทนหน่อยนะคะพี่น้อง (จริงๆมหาลัยก็จะเสนอประกันสุขภาพช่วง6เดือนแรกให้ แต่ก็ไม่แจ่มจ๊าบเท่าของรัฐบาล)
พอมาถึงไต้หวัน ทางมหาลัยจะให้เราไปตรวจสุขภาพอีกรอบ (ว่าไงน้า) เราไปตรวจที่台大醫院
เรามีผลตรวจจากจุฬามาอยู่แล้ว เลยไม่ต้องเอกซเรย์ปอดซ้ำ แต่ว่าต้องตรวจเลือด ปัสสาวะ สายตา การได้ยิน วัดรอบเอวใหม่ พยาบาลที่นี้โหดใช่ได้ จิ้มเข็มทีอย่างกับตอกเสาบ้าน T^T ต้องดึงเข็มออกอย่างกับชักดาบเอกซ์คาลิเบอร์ วิธีตรวจปัสสาวะที่นี้จะไม่เหมือนที่ไทย ที่นี้ต้องฉี่ใส่ถ้วยพลาสติกก่อน แล้วค่อยเทใส่ขวดแก้วอีกที -_________- เวลาตรวจสายตาไม่ได้ตรวจแบบอ่านตัวเลข เขาจะให้เราดูภาพจากกล้องแล้วบอกว่าสัญลักษณ์ที่เห็นมันชี้ไปทางไหน (อันเล็กมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก) การได้ยินก็ฟังว่าได้ยินเสียงตี๊ดๆๆๆจากหูข้างไหน (เสียงเบามากเช่นกัน)
ปล ต้องจ่ายค่าตรวจสุขภาพเองเด้อ เราจ่ายไป700หยวนไต้หวัน
ปล2 ผลตรวจรอนานมาก เป็นหลักสิบวัน
บัตรนักเรียน
บัตรนักเรียนที่นี้สะดวกสบายมาก กดเงินได้ เป็นบัตรรถไฟฟ้าได้ เป็นบัตรเข้าหอได้ เข้าห้องสมุดได้ ติ๊ดบาร์โค้ดจองที่นั่งโต๊ะอ่านหนังสือได้ เป็นส่วนลดร้านค้า และอื่นๆอีกมากมาย แนะนำว่าอย่าทำหาย หายทีความสะดวกสบายข้างต้นจะหายไปทันที ตรึงงงงงงงงงงง
ช่วงเดือนกันยามีไต้ฝุ่นเยอะ ถ้ามาเรียนแล้วเจอทางการประกาศหยุดเรียนก็เป็นเรื่องปกติ แล้วเดือนกันยาเจอเทศกาลไหว้พระจันทร์ (เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่นี้) เดือนแรกที่เปิดเทอมก็หยุดรัวๆแล้วจ้า
หนังสือเรียน
เรื่องหนังสือเรียน ที่ไต้หวันหนังสือเรียนแพงพอสมควร แล้วใช้วิธีซีรอกซ์ทั้งเล่มแบบที่ไทยไม่ได้ (ที่นี้เคร่งเรื่องลิขสิทธิ์มากๆ) รอบๆมหาลัยจะมีร้านหนังสือมือสองอยู่ แนะนำว่าให้ไปหาจากร้านพวกนี้ก่อน ถ้าไม่มีก็สั่งซื้อออนไลน์ ถ้ายังไม่มีอีกไปหาร้านหนังสือ ถ้ายังไม่มีอีกค่อยไปถามอาจารย์ แต่เราแนะนำว่าถ้าโหลดเป็นpdfได้จะประเสริฐศรีมณีเด้งมาก (แต่สุดท้ายเราชอบเป็นเล่มๆมากกว่า เดี๋ยวค่อยมานั่งคิดวิธีขนกลับไทยทีหลัง)
ที่ไต้หวัน คาบเรียนแรกอาจารย์จะบอกเงื่อนไขการเรียนว่าเราทำอะไรได้บ้าง ทำอะไรไม่ได้บ้าง แต่ปกติส่วนใหญ่ตอนเรียนหนังสือไม่มียูนิฟอร์ม ใส่อะไรก็ได้ (เราเคยใส่เสื้อยืด ขาสั้น รองเท้าแตะไปเรียน) ใช้คอม เล่นมือถือได้(ห้ามเสียงดัง) กินข้าวกินขนมได้(แบบพองาม) หลับได้ คุยได้เบาๆและไม่ถี่มากนัก การเรียนที่นี้เน้นการแสดงออก ถกเถียงอภิปราย จงถามไปเถอะ อย่าได้กลัว อย่าได้แคร์ ฝึกฝนตนให้คิด วิเคราะห์ แยกแยะให้เป็น ฮ่า
วันนี้พอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวเตรียมตัวไปเคาน์ดาวน์ที่ไทเป101แปป ไว้มาต่อภาคหน้าเน้ออออออ
(ภาคสอง) เรียนต่อไต้หวัน
วันนี้จะมาต่อเรียนต่อไต้หวัน part 2
ภาคหนึ่งอยู่ที่นี้ http://ppantip.com/topic/35893672
1.หลังจากเอนต์ติดได้ทุนแล้ว คำถามต่อไปที่เจอคือ ต้องไปถึงไต้หวันวันไหน? คำตอบนี้ขึ้นอยู่กับมหาลัยที่แต่ละคนเอนต์ติด แต่ส่วนตัวแนะนำว่าให้ไปถึงก่อนวันที่เขาแนะนำสักวันสองวัน เช่น ถ้าทางมหาลัยแนะนำให้เดินทางวันที่6 กันยา เราก็เดินทางวันที่4เลย เพราะว่าพอเราไปถึงไต้หวันจะมีภารกิจมากมายต้องทำ ถ้าไปตามที่มหาลัยกำหนดจะยุ่งและเหนื่อยมากกกกกก อย่างน้อยไปก่อนก็ไม่ฉุกละหุกมาก
2.จงใช้สกิลและเทคนิคที่มีซื้อตั๋วเครื่องบินมาที่ไต้หวัน วีซ่านักเรียนมีทั้งแบบsingle entryและmultiple เลือกทำได้ตามใจชอบ เราเลือกแบบsingle entryแล้วซื้อตั๋วขาไปไม่มีขากลับ
สิ่งที่ต้องระวังก่อนการเดินทาง : น้ำหนักกระเป๋า!!!! เราแนะนำว่าให้เอาของที่หาซื้อไม่ได้ที่ไต้หวันมาให้หมด (น้ำหนักกระเป๋าของเรา30กิโลกรัม ส่วนมากเป็นหนังสือวิจัยภาษาไทย ยาธาตุน้ำขาว ของกินจากไทย เสื้อผ้าทางการ) เพราะที่ไต้หวันมีร้านขายของใช้ชีวิตประจำวันแบบครอบจักรวาล (生活百貨) อยู่ ไปหาซื้อเอาที่นั้นก็สะดวกดี
ปล. ไต้หวันไม่อนุญาตให้เอาผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์เข้าประเทศ ระวังจะโดนน้องหมาตัวน้อยๆเห่าใส่เด้อ
พอบินมาถึงไต้หวัน สิ่งที่ต้องทำคือ
1. ไปเช็คอินหอพัก หรือบ้านเช่าอะไรก็ว่าไป
2. ทำบัตรARC อารมณ์บัตรคนต่างด้าว (ต้องทำภายใน15วัน สำคัญมากกกกกกกกกกกกกกกก)
3. ลงทะเบียนนักเรียน (註冊) (ยื่นเอกสาร ทำบัตรนักเรียน ทำประกันสุขภาพและอื่นๆ)
4. ตรวจสุขภาพ
5. เปิดบัญชีธนาคาร (ต้องไปทำARCก่อน ถึงไปเปิดได้)
6. กิจกรรมอื่นๆที่ทางภาค ทางคณะหรือทางหน่วยนักเรียนต่างชาติจัดให้ (พวกงานปฐมนิเทศล้านแปด)
พอลงเครื่องปุ๊บมา เราจะอยู่ที่เมืองเถาหยวน เมืองอุตสากรรมแห่งไต้หวัน เราต้องหาพาหนะนั่งเข้ามาในไทเป อนาคตไต้หวันจะเปิดเส้นทางรถไฟใต้ดิน(อารมณ์แอร์พอร์ตลิงก์)จากไทเปไปเถาหยวน ในช่วงที่ยังไม่เปิดใช้ เราก็หาช่องทางอื่นเดินทางมาไทเปก่อน วิธีเดินทางเข้าไทเปมีหลากหลายมากมาย
1. แท็กซี่ (ค่าโดยสารหลักพันเป็นอย่างต่ำ)
2. รถไฟความเร็วสูง (ต้องนั่งบัสจากสนามบินไปที่สถานีก่อน)
3. รสบัส (มีหลายบริษัท ส่วนมากพามาลงที่台北車站)
4. ลากเพื่อนคนไต้หวันมารับ (กร๊ากกกกกกกกกกกกกกก)
5. เทคนิคส่วนตัวอื่นๆ (ถ้ามี)
หลายคนอาจจะสงสัยว่าในไทเปก็มีสนามบิน ทำไมไม่ลงเครื่องตรงนั้นละ คำตอบคือสถานบินในไทเปเป็นไฟลต์บินในประเทศ ส่วนเถาหยวนเป็นไฟลต์บินระหว่างประเทศเน้อออออ
เมื่อเช็คอินที่พักแล้ว ภารกิจต่อไปคือทำบัตรARC วิธีทำบัตรARCสำหรับนักเรียนมีหลักๆสองทางคือ
1. ทำกับทางโรงเรียน มหาลัย สะดวก ไม่ต้องไปไกล แต่ได้ช้าหน่อย
2. ไปทำกับ内政部เลย เดินทางไกลหน่อย แต่ได้เร็ว
ถ้าตัดสินใจเลือกข้อสอง ก็นั่งรถไฟใต้ดินไปที่สถานี小南門 แล้วเดินตามป้ายไปที่กรมได้เลย (ปล. ประตูหน้ากรมไม่เปิดให้เข้า ต้องเข้าประตูด้านข้าง ไม่รู้ทำไม)
เวลาทำบัตรARC เตรียมเอกสารให้พร้อม พวกใบadmission พาสปอร์ต เอกสารรับรองต่างๆ ถือติดมือเอาไว้ตลอด แล้วก็ที่อยู่หอพัก เบอร์โทรศัพท์ไต้หวันต้องมีพร้อม (จดเก็บไว้เลย) แล้วตอนกรอกทำบัตรเราต้องกรอกว่าเหตุผลที่อยู่ไต้หวันคืออะไร แนะนำว่ากรอกว่ามาเรียน แล้วเรียนที่ไหน บลาๆๆๆ (มีผลต่อการได้ทุน) ถ้ากรอกผิดชีวิตพังไม่รู้ตัว
พอกรอกเสร็จเจ้าหน้าที่จะถามว่าทำแบบกี่ปี แล้วแต่ชอบเลย เราทำ2ปี สองพันหยวนไต้หวัน
ช่วงระหว่างที่รอบัตรแข็งARC เจ้าหน้าที่จะให้กระดาษเอสี่ที่มีรหัสต่างด้าวมาให้ เราสามารถเอากระดาษใบนั้นเป็นหลักฐานแทนบัตรARC ตอนเปิดบัญชีธนาคารได้
ตรวจสุขภาพ
ที่ไต้หวันมีประกันสุขภาพถ้วนหน้า แต่ว่าต้องอยู่ไต้หวันให้ครบ6เดือนก่อนถึงจะทำได้ นั้นเท่ากับว่า6เดือนแรกที่อยู่ไต้หวันต้องอึด ถึก ทนหน่อยนะคะพี่น้อง (จริงๆมหาลัยก็จะเสนอประกันสุขภาพช่วง6เดือนแรกให้ แต่ก็ไม่แจ่มจ๊าบเท่าของรัฐบาล)
พอมาถึงไต้หวัน ทางมหาลัยจะให้เราไปตรวจสุขภาพอีกรอบ (ว่าไงน้า) เราไปตรวจที่台大醫院
เรามีผลตรวจจากจุฬามาอยู่แล้ว เลยไม่ต้องเอกซเรย์ปอดซ้ำ แต่ว่าต้องตรวจเลือด ปัสสาวะ สายตา การได้ยิน วัดรอบเอวใหม่ พยาบาลที่นี้โหดใช่ได้ จิ้มเข็มทีอย่างกับตอกเสาบ้าน T^T ต้องดึงเข็มออกอย่างกับชักดาบเอกซ์คาลิเบอร์ วิธีตรวจปัสสาวะที่นี้จะไม่เหมือนที่ไทย ที่นี้ต้องฉี่ใส่ถ้วยพลาสติกก่อน แล้วค่อยเทใส่ขวดแก้วอีกที -_________- เวลาตรวจสายตาไม่ได้ตรวจแบบอ่านตัวเลข เขาจะให้เราดูภาพจากกล้องแล้วบอกว่าสัญลักษณ์ที่เห็นมันชี้ไปทางไหน (อันเล็กมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก) การได้ยินก็ฟังว่าได้ยินเสียงตี๊ดๆๆๆจากหูข้างไหน (เสียงเบามากเช่นกัน)
ปล ต้องจ่ายค่าตรวจสุขภาพเองเด้อ เราจ่ายไป700หยวนไต้หวัน
ปล2 ผลตรวจรอนานมาก เป็นหลักสิบวัน
บัตรนักเรียน
บัตรนักเรียนที่นี้สะดวกสบายมาก กดเงินได้ เป็นบัตรรถไฟฟ้าได้ เป็นบัตรเข้าหอได้ เข้าห้องสมุดได้ ติ๊ดบาร์โค้ดจองที่นั่งโต๊ะอ่านหนังสือได้ เป็นส่วนลดร้านค้า และอื่นๆอีกมากมาย แนะนำว่าอย่าทำหาย หายทีความสะดวกสบายข้างต้นจะหายไปทันที ตรึงงงงงงงงงงง
ช่วงเดือนกันยามีไต้ฝุ่นเยอะ ถ้ามาเรียนแล้วเจอทางการประกาศหยุดเรียนก็เป็นเรื่องปกติ แล้วเดือนกันยาเจอเทศกาลไหว้พระจันทร์ (เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่นี้) เดือนแรกที่เปิดเทอมก็หยุดรัวๆแล้วจ้า
หนังสือเรียน
เรื่องหนังสือเรียน ที่ไต้หวันหนังสือเรียนแพงพอสมควร แล้วใช้วิธีซีรอกซ์ทั้งเล่มแบบที่ไทยไม่ได้ (ที่นี้เคร่งเรื่องลิขสิทธิ์มากๆ) รอบๆมหาลัยจะมีร้านหนังสือมือสองอยู่ แนะนำว่าให้ไปหาจากร้านพวกนี้ก่อน ถ้าไม่มีก็สั่งซื้อออนไลน์ ถ้ายังไม่มีอีกไปหาร้านหนังสือ ถ้ายังไม่มีอีกค่อยไปถามอาจารย์ แต่เราแนะนำว่าถ้าโหลดเป็นpdfได้จะประเสริฐศรีมณีเด้งมาก (แต่สุดท้ายเราชอบเป็นเล่มๆมากกว่า เดี๋ยวค่อยมานั่งคิดวิธีขนกลับไทยทีหลัง)
ที่ไต้หวัน คาบเรียนแรกอาจารย์จะบอกเงื่อนไขการเรียนว่าเราทำอะไรได้บ้าง ทำอะไรไม่ได้บ้าง แต่ปกติส่วนใหญ่ตอนเรียนหนังสือไม่มียูนิฟอร์ม ใส่อะไรก็ได้ (เราเคยใส่เสื้อยืด ขาสั้น รองเท้าแตะไปเรียน) ใช้คอม เล่นมือถือได้(ห้ามเสียงดัง) กินข้าวกินขนมได้(แบบพองาม) หลับได้ คุยได้เบาๆและไม่ถี่มากนัก การเรียนที่นี้เน้นการแสดงออก ถกเถียงอภิปราย จงถามไปเถอะ อย่าได้กลัว อย่าได้แคร์ ฝึกฝนตนให้คิด วิเคราะห์ แยกแยะให้เป็น ฮ่า
วันนี้พอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวเตรียมตัวไปเคาน์ดาวน์ที่ไทเป101แปป ไว้มาต่อภาคหน้าเน้ออออออ