ปี 2016 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป ก็เกิดเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ในส่วนของข่าวคราวในวงการการ์ตูนรอบปีที่ผ่านมา ก็มีเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นหลายอย่าง
สำนักข่าว K-D News ได้รวบรวมเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวงการการ์ตูนประจำปี 2016 มาสรุปกันให้ได้รับทราบพอสังเขป ในตอนแรกนี้ จะเป็นการสรุปข่าวและเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในวงการการ์ตูนญี่ปุ่นตลอดทั้งปี 2016 จะมีอะไรบ้างนั้น เราไปทบทวนกันเลยครับ!!!
สรุปข่าวเด่น เหตุการณ์สำคัญ วงการการ์ตูนประจำปี 2559
Kadokawa รุกคืบสยามประเทศ + ร้านค้ามังงะ-อนิเมจากญี่ปุ่น บุกเมืองไทย!!
หนึ่งในข่าวที่คอยสร้างความสุข ความฮือฮาให้แก่คอการ์ตูนบ้านเราตลอดทั้งปี 2016 คงจะเป็นการบุกเบิกเข้ามาทำธุรกิจอย่างจริงๆจังของ Kadokawa บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสื่อสิ่งพิมพ์ของญี่ปุ่น ซึ่งการมาของ Kadokawa นั้น ก็มีสัญญาณมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2015 เมื่อพวกเขาได้จับมือกับสนพ.พันธมิตรอย่าง Shueisha , Shogakukan , Kodansha ในการเป็นตัวตั้งตัวตีในการนำร้าน Animate ร้านค้าสินค้าที่ระลึกลิขสิทธิ์จากการ์ตูนอนิเมดัง ที่มีอยู่หลายสาขาในญี่ปุ่น มาเปิดสาขานอกประเทศ ณ กรุงเทพ ประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่บน ชั้น 7 ของห้าง MBK (มาบุญครอง) โดยการเปิดร้าน Animate สาขาประเทศไทยนั้น ก็มีเป้าหมายอย่างหนึ่งนั่นคือ การขจัดปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ที่กำลังเรื้อรังในไทย รวมถึงยังเล็งเห็นว่า ไทยนั้น เป็นตลาดการ์ตูนที่กำลังเติบโต และคอการ์ตูนบ้านเราก็พอมีกำลังการซื้อเสียด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Animate สาขากรุงเทพ เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือน ก.พ. 2016 ...ตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปี ของร้านสาขานี้ ก็ได้รับการตอบรับจากคนท้องถิ่นเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการเข้าชมซื้อสินค้า รวมถึง กิจกรรมอีเว้นต์ต่างๆ ที่เรียกลูกค้ามากันเต็มร้านเลย ไม่เพียงแค่นั้น ร้าน Animate กทม. ยังเป็นหนึ่งในจุดสนใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ด้วยเช่นกัน โดยรวมก็ถือว่าทางร้านเอาตัวรอดไปได้ ท่ามกลางความวิตกกังวลของใครหลายคนๆในช่วงที่ร้านเปิดตัวใหม่ๆ ที่ตอนนั้นยังไม่ลงตัวนัก ทั้งราคาสินค้าที่หลายคนมองว่าสูงเกินไป (ทั้งๆที่เรตนั้นค่อนข้างจะมาตรฐาน) รวมถึง สถานที่ตั้งของร้านค่อนข้างจะเป็นมุมอับผู้คน (แต่ยังดีที่ตั้งในโซนใกล้เคียงกะร้านเกม เมดคาเฟ่ เลยกลายเป็นการสร้างจุดขายของโซนนี้ที่มีกลิ่นอายคล้ายกับย่านอากิฮาบาระของญี่ปุ่น ไปในตัว)
นอกจากร้าน Animate แล้ว Kadokawa ยังรุกคืบทำธุรกิจเกี่ยวกับการ์ตูน-อนิเมเพิ่มเติมในไทย ด้วยการเปิดตัวโรงเรียนสอนการทำอนิเมชั่นและการออกแบบ Kadokawa Animation and Design School เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะการวาดมังงะ กับ การออกแบบตัวละครการ์ตูนของคนท้องถิ่น ซึ่งสาขาประเทศไทยนั้น จัดเป็นสาขาที่ 2 ของโรงเรียนที่ตั้งในต่างประเทศ ต่อจาก สาขาไต้หวัน, สตูดิโออนิเมชั่น , รวมถึง ข่าวที่สร้างความสั่นสะเทือนวงการสิ่งพิมพ์ในเมืองไทย ด้วยการจับมือกับ สนพ.อมรินทร์ ร่วมกันจัดตั้งบริษัท Kadokawa Amarin ขึ้น เพื่อร่วมกันขยายศักยภาพของคอนเทนท์ต่างๆของเครือ Kadokawa ในไทย ที่มีตั้งแต่การผลิตสื่อในรูปแบบไลท์โนเวล การ์ตูน และแอนิเมชั่นในภาษาไทย รวมทั้งพัฒนาระบบข้อมูลการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น และสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลในรูปแบบต่างๆ ซึ่งการที่ Kadokaw ตัดสินใจเลือก อมรินทร์ มาเป็นพันธมิตรกันนั้น ก็เพราะ อมรินทร์ เป็นสนพ.เก่าแก่ มีประสบการณ์ด้านสื่อสิ่งพิมพ์ในไทยมานาน รวมถึง Kadokawa เล็งเห็นว่า ไทยเป็นตลาดสิ่งพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย Kadokawa Amarin ได้ทำการเปิดค่ายหนังสือของตัวเองออกมาแล้ว ในชื่อ Phoenix Next พร้อมกับเปิดตัว LC การ์ตูน-ไลท์โนเวลจำนวนหนึ่ง ที่เรียกได้ว่า เป็นสนพ.น้องใหม่ที่ได้รับการจับตามอง และสร้างความหวั่นเกรงให้แก่สนพ.คู่แข่งหลายค่ายที่ออกมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะกับเรื่อง LC กับ คุณภาพหนังสือ นั้นแทบจะหายห่วงเลย!!!!
นอกจากในปีนี้ บ้านเราจะได้ต้อนรับการมาของ Kadokawa แล้ว บ้านเรายังได้ต้อนรับการมาเปิดสาขาที่ไทยของ One Piece Mugiwara Store ร้านสินค้าที่ระลึกจากการ์ตูนวันพีซ ซึ่งตั้งอยู่ ณ ชั้น 2 ของห้าง Gateway Ekamai กทม. โดยเป็นสาขาต่างประเทศ สาขาที่ 2 ของร้านนี้ ต่อจาก ไต้หวัน เมื่อปี 2015 อีกทั้งยังได้ต้อนรับการมาเยือนประเทศไทยครั้งแรก ของ อ.โยอิจิ ทาคาฮาชิ ผู้แต่งมังงะกัปตันซึบาสะ ในคราวโปรโมทฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกรอบ 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น โดยการมาในครั้งนั้น ก็มีการเปิดเผยเบื้องลึกเบื้องหลังหลายๆเรื่อง ทะเงมุมมองเกี่ยวกับฟุตบอลไทย แล้วก็ ที่มาของ 'บุนนาค' ตัวละครคนไทย ที่ปรากฏในการ์ตูนเรื่องนี้ นอกจากนี้ ก็ยังมีนักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่น ศิลปินจากญี่ปุ่น มาปรากฏตัวตามงานอีเว้นต์ต่างๆในบ้านเรา เป็นระยะๆ............
=====================================================
Kimi no Na Wa. ..... ไม่ต้องหลับตาฝัน ทุบรายได้ซะกระเจิง!!!!!
ปี 2016 ก็มีหนังอนิเมออกสู่สายตาผู้ชมมากมายหลายเรื่อง ...มาถึงตรงนี้ เชื่อว่าร้อยทั้งร้อย คงจะเทใจให้ Kimi no Na wa หรือ your name (หรือ หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ) เป็นสุดยอดหนังอนิเมประจำปีนี้ โดยไม่มีข้อสงสัยใดๆ !!!!! เพราะนับตั้งแต่ที่หนังอนิเมเรื่องล่าสุดจากการกำกับของ มาโคโตะ ชินไค เรื่องนี้ ได้เข้าฉายบนโรงทั่วญี่ปุ่นเมื่อ ส.ค. 2016 นี้เอง ตัวหนังได้ กวาดรายได้อย่างมหาศาล และสร้างสถิติใหม่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง นับจนถึงขณะนี้ ตัวหนังกวาดรายได้ในญี่ปุ่นมากกว่า 20,500,000,000 เยน และจำหน่ายยอดขายตั๋วมากกว่า 16 ล้านใบ โดยทำสถิติครองอันดับที่ 1 ในญี่ปุ่นถึง 12 สัปดาห์ (อันดับ 1 9 สัปดาห์ติดต่อกัน นับตั้งแต่หนังออกฉายครั้งแรก) และด้วยยอดรายได้ขนาดนี้ ก็ส่งผลให้ ตัวหนังทำสถิติ หนังอนิเมรายได้สูงสุดประจำปี 2016 , เป็นหนังอนิเมนอก Studio Ghibli เรื่องแรก ที่ทำรายได้ทะลุ 1 หมื่นล้านเยน ,หนังอนิเมเรื่องแรกในรอบ 3 ปี ที่ทำรายได้มากกว่า 1 หมื่นล้านเยน ต่อจาก The Wind Rises อีกทั้งยังกวาดรายได้แซงหน้าหนังดังหลายๆเรื่อง ขึ้นแท่นเป็นหนังที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลในญี่ปุ่น ในอันดับ 4 , หนังญี่ปุ่น รายได้สูงสุดตลอดกาล อันดับ 2 และ หนังอนิเมญี่ปุ่น ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล อันดับ 2 เช่นกัน โดยเป็นรองเพียง Spirited Away เรื่องเดียวเท่านั้น (หากรวมหนังอนิเมชั่นสัญชาติอื่นๆด้วย เรื่องนี้จะอยู่ที่ 3 เป็นรอง Frozen)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ไม่เพียงแค่ตัวหนังจะกวาดรายได้มหึมาในญี่ปุ่นแล้ว your name ยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟนๆต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศแถบเอเชีย ที่ตัวหนังสามารถทำรายได้เปิดตัวเป็นอันดับหนึ่งในหลายประเทศ เช่น ไต้หวัน,เกาหลีใต้ , ไทย แล้วก็ จีน ซึ่งตัวหนังยังสร้างสถิติเป็นหนังญี่ปุ่นที่ทำรายได้สูงที่สุดตลอดกาล ทั้งในไทยและจีน อีกด้วย เท่านั้นไม่พอ ตัวหนังยังประกาศศักดาคว้ารางวัลระดับนานาชาติมาประดับจนมันส์มือ ทั้งปูซาน , สเปน รวมถึงอเมริกา กับรางวัล LA Film Critic อีกทั้ง ยังมีโอกาสที่จะติดเป็นหนึ่งในผู้เข้าชิงรางวัล Oscar 2017 สาขาภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยม อีกด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกัน กระแสหนังเรื่องนี้ในไทยนั้น ถือว่า เป็นหนังที่มีการตอบรับดีเกินคาด จนกลายเป็นหนังญี่ปุ่นที่ทำรายได้สูงที่สุดตลอดกาลในไทย ตามที่กล่าวมาข้างต้น โดยบทความบนเว็บไซต์ The Momentum ได้วิเคราะห์ถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นของหนังเรื่องนี้ในไทย ที่ทำให้หนังอนิเมเรื่องนี้ประสบความสำเร็จจนผู้ชมเต็มโรง ประกอบด้วย กระแสปากต่อปากในอินเตอร์เนต, มีการเรียกร้องให้เพิ่มโรงฉายและค่ายหนัง (Major) ก็มีการตอบรับที่ทันท่วงที,มีคนดูแอนิเมชันจากญี่ปุ่นมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา,เป็นแอนิเมชันที่สามารถทะลุกรอบ 'ความเฉพาะกลุ่ม' ออกมาได้ และ ผู้กำกับ ชินไค และจากกระแสของหนังเรื่องนี้ในบ้านเรา ก็ทำให้โอกาสของหนังญี่ปุ่นเรื่องอื่นๆ ทั้งหนังอนิเม และ หนังคนแสดงจากการ์ตูน ก็มีโอกาสที่จะได้รับชมกันบนโรงบ้านเรา มากขึ้นเช่นกัน (เห็นได้จากหนังอนิเม Koe no Katachi หรือ รักไร้เสียง ที่มีกระแสเรียกร้องจากแฟนๆให้เข้ามาฉายในบ้านเราเยอะๆ ในขณะที่ your name กำลังออกฉายบ้านเราพอดี ซึ่งตัวหนังรักไร้เสียง ก็จะได้รับชมกันช่วงต้นปี 2017)
และด้วยความฟีเวอร์ของตัวหนังเรื่องนี้ ยังส่งผลถึงสื่อต่างๆที่เกี่ยวข้องกับตัวหนังเรื่องนี้ ที่ต่างก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฉบับไลท์โนเวลนั้น สามารถครองแชมป์ไลท์โนเวลขายดีที่สุดประจำปี 2016 ของญี่ปุ่น ไปแบบไร้คู่ต่อกร อีกทั้ง เพลงประกอบหนังอย่าง Zen Zen Zense ที่ขับร้องโดยวง RADWIMPS สามารถคว้ารางวัลแผ่นเสียงทองคำ และครองอันดับ 1 เพลงอนิเมยอดฮิตประจำปี 2016 ของ Billboard Japan ...เท่านั้นไม่พอ สถานที่ต่างๆที่ถูกใช้เป็นฉากหลังในหนังอนิเม มีผู้คนแห่มาเยือนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมืองฮิดะ ทางตอนเหนือของ จ.กิฟุ ที่ถูกใช้เป็นต้นแบบฉากหลังของบ้านเกิดมิตซึฮะ มีรายได้สะพัดจากการท่องเที่ยวเป็นจำนวนถึง 18.5 พันล้านเยน ซึ่งสถานที่ในเมืองอย่าง สถานีรถไฟ Hida-Furukawa , ศาลเจ้า , ป้ายรถเมล์ร้าง และ ห้องสมุด มีผู้มาเยี่ยมเยียนเป็นจำนวนมาก รวมถึง บันไดที่ตั้งอยู่ตรงหน้าศาลเจ้าสึงะ ในเขตโยทสึยะ กรุงโตเกียว ซึ่งถูกใช้ให้เป็นฉากสำคัญของหนังเรื่องนี้ ก็มีผู้มาแวะเวียนมากขึ้นๆ ซึ่งยังรวมถึงบริเวณสถานที่บ้านเกิดของผกก.ชินไคด้วย
=====================================================
Shin Godzilla การกลับมาอาละวาดอย่างยิ่งใหญ่ของ Godzilla ต้นฉบับญี่ปุ่น
ปี 2016 นี้ เรียกว่าเป็นปีแห่งความสำเร็จอย่างสูงของค่ายหนัง TOHO ของญี่ปุ่น นอกจากพวกเขาจะโกยตังค์มหาศาลจากหนังอนิเม your name แล้ว ก็มีหนังอีกเรื่องหนึ่ง ที่ถือเป็นหมัดเด็ดของพวกเขาในการกวาดรายได้หนังโรง นั่นก็คือ การกลับมาของเจ้าอสูร Godzilla ต้นฉบับญี่ปุ่น ภาคแรกในรอบ 12 ปี กับ Shin Godzilla ( Godzilla: Resurgence) โดยหนังเรื่องนี้ ออกฉายที่ญี่ปุ่นครั้งแรก เมื่อ 29 ก.ค. 2016 และสามารถกวาดรายได้มากกว่า 9 พันล้านเยน สร้างสถิติเป็นหนัง live action ที่กวาดเงินสูงที่สุดในญี่ปุ่น ประจำปี 2016 รวมถึงยังเป็นหนัง Godzilla ต้นฉบับญี่ปุ่นที่มีรายได้สูงที่สุดในบรรดาทุกภาคด้วย โดย หนัง Godzilla ญี่ปุ่น ทั้ง 29 ภาค สามารถจำหน่ายตั๋วได้มากกว่า 100 ล้านใบ ในญี่ปุ่นแล้ว และจัดเป็นหนังคนแสดงญี่ปุ่นเรื่องแรกที่สามารถทำยอดขายตั๋วได้ถึงระดับนี้ โดย TOHO คาดการณ์ว่า จากกระแสตอบรับของ your name กับ Shin Godzilla จะทำให้พวกเขามีกำไรเพิ่มขึ้น 28% ถึงระดับ 33 พันล้านเยน เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ ก.พ. 2017
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และจากความสำเร็จที่เกิดขึ้นของ Godzilla ก็เลยมีการต่อยอดในโปรเจ็คอื่นๆที่เกี่ยวข้องตามมา ทั้งการจัดทำรูปแบบหนังอนิเมญี่ปุ่นเต็มรูปแบบครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยจะได้รับชมกันในปี 2017 อีกทั้ง Godzilla ยังได้ปรากฏตัวบนอนิเมทีวีครั้งแรก กับอนิเมตอนหนึ่งของ Crayon Shinchan
ปัจจัยความสำเร็จที่เกิดขึ้นของ Shin Godzilla ส่วนหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้แก่ ผกก. ฮิเดอากิ อันโนะ (Evangelion) ที่ทำให้ Godzilla ญี่ปุ่น กลับมาได้อลังการขนาดนี้.....ถึงกระนั้น แฟนๆ ก็มิวายสอบถามถึง ผกก. อันโนะ เกี่ยวกับหนังอนิเมชุดที่ 4 ของ Rebuild of Evangelion ที่เจอโรคเลื่อนมาโดยตลอด ซึ่งจนถึงตอนนี้ เขาให้คำตอบออกมาในทำนอง จะทำต่อ หลังจากเสร็จสิ้น Shin Godzilla เรียบร้อย ซึ่งสอดคล้องกับบทสัมภาษณ์จากสื่ออังกฤษได้รายงานว่า ภาค 4 ของ Rebuild of Evangelion ได้เริ่มเดินหน้าทำกันแล้ว.......
=====================================================
สรุปข่าวการ์ตูนประจำปี 2016 : 10 ข่าวเด่น-เหตุการณ์สำคัญของวงการการ์ตูนญี่ปุ่นในรอบปี
ปี 2016 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป ก็เกิดเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ในส่วนของข่าวคราวในวงการการ์ตูนรอบปีที่ผ่านมา ก็มีเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นหลายอย่าง สำนักข่าว K-D News ได้รวบรวมเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวงการการ์ตูนประจำปี 2016 มาสรุปกันให้ได้รับทราบพอสังเขป ในตอนแรกนี้ จะเป็นการสรุปข่าวและเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในวงการการ์ตูนญี่ปุ่นตลอดทั้งปี 2016 จะมีอะไรบ้างนั้น เราไปทบทวนกันเลยครับ!!!
สรุปข่าวเด่น เหตุการณ์สำคัญ วงการการ์ตูนประจำปี 2559
Kadokawa รุกคืบสยามประเทศ + ร้านค้ามังงะ-อนิเมจากญี่ปุ่น บุกเมืองไทย!!
หนึ่งในข่าวที่คอยสร้างความสุข ความฮือฮาให้แก่คอการ์ตูนบ้านเราตลอดทั้งปี 2016 คงจะเป็นการบุกเบิกเข้ามาทำธุรกิจอย่างจริงๆจังของ Kadokawa บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสื่อสิ่งพิมพ์ของญี่ปุ่น ซึ่งการมาของ Kadokawa นั้น ก็มีสัญญาณมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2015 เมื่อพวกเขาได้จับมือกับสนพ.พันธมิตรอย่าง Shueisha , Shogakukan , Kodansha ในการเป็นตัวตั้งตัวตีในการนำร้าน Animate ร้านค้าสินค้าที่ระลึกลิขสิทธิ์จากการ์ตูนอนิเมดัง ที่มีอยู่หลายสาขาในญี่ปุ่น มาเปิดสาขานอกประเทศ ณ กรุงเทพ ประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่บน ชั้น 7 ของห้าง MBK (มาบุญครอง) โดยการเปิดร้าน Animate สาขาประเทศไทยนั้น ก็มีเป้าหมายอย่างหนึ่งนั่นคือ การขจัดปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ที่กำลังเรื้อรังในไทย รวมถึงยังเล็งเห็นว่า ไทยนั้น เป็นตลาดการ์ตูนที่กำลังเติบโต และคอการ์ตูนบ้านเราก็พอมีกำลังการซื้อเสียด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
=====================================================
Kimi no Na Wa. ..... ไม่ต้องหลับตาฝัน ทุบรายได้ซะกระเจิง!!!!!
ปี 2016 ก็มีหนังอนิเมออกสู่สายตาผู้ชมมากมายหลายเรื่อง ...มาถึงตรงนี้ เชื่อว่าร้อยทั้งร้อย คงจะเทใจให้ Kimi no Na wa หรือ your name (หรือ หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ) เป็นสุดยอดหนังอนิเมประจำปีนี้ โดยไม่มีข้อสงสัยใดๆ !!!!! เพราะนับตั้งแต่ที่หนังอนิเมเรื่องล่าสุดจากการกำกับของ มาโคโตะ ชินไค เรื่องนี้ ได้เข้าฉายบนโรงทั่วญี่ปุ่นเมื่อ ส.ค. 2016 นี้เอง ตัวหนังได้ กวาดรายได้อย่างมหาศาล และสร้างสถิติใหม่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง นับจนถึงขณะนี้ ตัวหนังกวาดรายได้ในญี่ปุ่นมากกว่า 20,500,000,000 เยน และจำหน่ายยอดขายตั๋วมากกว่า 16 ล้านใบ โดยทำสถิติครองอันดับที่ 1 ในญี่ปุ่นถึง 12 สัปดาห์ (อันดับ 1 9 สัปดาห์ติดต่อกัน นับตั้งแต่หนังออกฉายครั้งแรก) และด้วยยอดรายได้ขนาดนี้ ก็ส่งผลให้ ตัวหนังทำสถิติ หนังอนิเมรายได้สูงสุดประจำปี 2016 , เป็นหนังอนิเมนอก Studio Ghibli เรื่องแรก ที่ทำรายได้ทะลุ 1 หมื่นล้านเยน ,หนังอนิเมเรื่องแรกในรอบ 3 ปี ที่ทำรายได้มากกว่า 1 หมื่นล้านเยน ต่อจาก The Wind Rises อีกทั้งยังกวาดรายได้แซงหน้าหนังดังหลายๆเรื่อง ขึ้นแท่นเป็นหนังที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลในญี่ปุ่น ในอันดับ 4 , หนังญี่ปุ่น รายได้สูงสุดตลอดกาล อันดับ 2 และ หนังอนิเมญี่ปุ่น ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล อันดับ 2 เช่นกัน โดยเป็นรองเพียง Spirited Away เรื่องเดียวเท่านั้น (หากรวมหนังอนิเมชั่นสัญชาติอื่นๆด้วย เรื่องนี้จะอยู่ที่ 3 เป็นรอง Frozen)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
=====================================================
Shin Godzilla การกลับมาอาละวาดอย่างยิ่งใหญ่ของ Godzilla ต้นฉบับญี่ปุ่น
ปี 2016 นี้ เรียกว่าเป็นปีแห่งความสำเร็จอย่างสูงของค่ายหนัง TOHO ของญี่ปุ่น นอกจากพวกเขาจะโกยตังค์มหาศาลจากหนังอนิเม your name แล้ว ก็มีหนังอีกเรื่องหนึ่ง ที่ถือเป็นหมัดเด็ดของพวกเขาในการกวาดรายได้หนังโรง นั่นก็คือ การกลับมาของเจ้าอสูร Godzilla ต้นฉบับญี่ปุ่น ภาคแรกในรอบ 12 ปี กับ Shin Godzilla ( Godzilla: Resurgence) โดยหนังเรื่องนี้ ออกฉายที่ญี่ปุ่นครั้งแรก เมื่อ 29 ก.ค. 2016 และสามารถกวาดรายได้มากกว่า 9 พันล้านเยน สร้างสถิติเป็นหนัง live action ที่กวาดเงินสูงที่สุดในญี่ปุ่น ประจำปี 2016 รวมถึงยังเป็นหนัง Godzilla ต้นฉบับญี่ปุ่นที่มีรายได้สูงที่สุดในบรรดาทุกภาคด้วย โดย หนัง Godzilla ญี่ปุ่น ทั้ง 29 ภาค สามารถจำหน่ายตั๋วได้มากกว่า 100 ล้านใบ ในญี่ปุ่นแล้ว และจัดเป็นหนังคนแสดงญี่ปุ่นเรื่องแรกที่สามารถทำยอดขายตั๋วได้ถึงระดับนี้ โดย TOHO คาดการณ์ว่า จากกระแสตอบรับของ your name กับ Shin Godzilla จะทำให้พวกเขามีกำไรเพิ่มขึ้น 28% ถึงระดับ 33 พันล้านเยน เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ ก.พ. 2017
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
=====================================================