ช่วงนี้เป็นช่วงสิ้นปี หลายคนคงจะได้ซื้อของขวัญไปจับสลากในงานเลี้ยงปีใหม่
หรือซื้อให้กับคนใกล้ชิด เช่น คนในครอบครัว คนรัก ฯลฯ และส่วนมากแล้วเมื่อเราซื้อของขวัญแล้ว เราก็จะมักห่อด้วยกระดาษห่อของขวัญด้วย
ดังนั้นวันนี้มารู้จักกับเรื่องราวของการห่อของขวัญ และกระดาษห่อของขวัญกันนิดหน่อยดีกว่า
การห่อของขวัญให้กันนั้นกล่าวกันว่ามีมาตั้งแต่ยุคโบราณ ในเมืองจีนสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ ก็มีบันทึกว่าผู้คนมักจะนำเงินหรือของมีค่าใส่ซองหรือห่อกระดาษมอบให้แก่กันในเทศกาลสำคัญ เช่น ตรุษจีน เป็นต้น
ส่วนในยุโรป มีบันทึกว่าเมื่อปี 1509 ในอังกฤษได้มีการนำกระดาษปิดฝาผนัง มาใช้ในการห่อกล่องของขวัญให้กัน แสดงว่าตอนนั้นคงต้องมีการมอบของขวัญระหว่างกันบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก เพราะกระดาษปิดฝาผนังมักจะฉีกขาดได้ง่ายเวลาพับเพื่อจะห่อกล่อง ต่อมาจึงมีการนำกระดาษห่อของสีน้ำตาลมาใช้แทน ต่อมาในปี 1857 ก็มีผู้ทดลองนำกระดาษทิชชูชนิดเหนียวนุ่มมาใช้ในการห่อของขวัญ
ในยุควิคตอเรีย เมื่อเริ่มมีการไปรษณีย์ในอังกฤษและในยุโรป ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายในการส่งจดหมายและพัสดุถูกลง ทำให้ผู้คนนิยมส่งของขวัญให้กันมากขึ้น กระดาษห่อของขวัญในยุคนี้เริ่มมีการพิมพ์ลวดลายสวยงามมากขึ้น แต่คุณภาพยังไม่ดีมากนัก
จนกระทั่งในปี 1917 บริษัทฮอลมาร์กของอเมริกา จึงได้ผลิตสำหรับห่อของขวัญโดยเฉพาะออกจำหน่ายเป็นครั้งแรก กระดาษชนิดนี้นอกจากจะมีความเหนียวสามารถพับได้ดีโดยไม่ฉีกขาดแล้ว ก็ยังใช้หมึกที่คงทนไม่เลอะเปื้อนเมื่อถูกน้ำ จึงทำให้ได้รับความนิยมนำมาใช้ในการห่อของขวัญกันทั่วไป
และในปี 1930 เมื่อมีการผลิตเทปกาวใส (สก็อตเทป) ออกจำหน่าย ก็ทำให้การห่อกล่องของขวัญทำได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะสามารถใช้เทปกาวปิดตามรอยเชื่อมกันได้แทนการทากาวแบบเดิม ทำให้มีการพัฒนาการห่อของขวัญเป็นรูปร่างแปลก ๆ แทนที่จะเป็นรูปกล่องเพียงอย่างเดียว
ทุกวันนี้การห่อกล่องของขวัญกลายเป็นที่นิยมกันไปทั่วโลก มีการประมาณว่าแต่ละปีมีการผลิตกระดาษสำหรับห่อของขวัญมากกว่า 85 ล้านตัน โดยจำนวนนี้เกือบครึ่งเป็นการใช้ในสหรัฐอเมริกาประเทศเดียว
นอกจากการห่อกล่องของขวัญแล้ว ในปัจจุบันก็ยังมีการบรรจุของขวัญในรูปแบบอื่น เช่น การจัดเป็นกระเช้าหรือตะกร้า (ส่วนมากจะเป็นของขวัญสำหรับผู้ใหญ่) การใส่ถุงผ้า เป็นต้น
มีหลายคนสงสัยว่า ทำไมคนเราถึงต้องห่อกล่องของขวัญกันด้วย ทั้งที่กระดาษที่ห่อของขวัญมาเมื่อแกะออกแล้วก็ไม่สามารถเอาไปทำอะไรได้ เป็นการสิ้นเปลืองเปล่า ๆ
มีนักจิตวิทยาให้คำตอบว่า การที่คนส่วนใหญ่นิยมห่อกล่องของขวัญนั้นก็เพื่อเพิ่มความคุณค่าทางจิตใจให้กับของชิ้นนั้น เป็นเพราะการห่อกล่องของขวัญจะทำให้เกิดความรู้สึกว่า ของที่มอบให้มีความสำคัญในโอกาสพิเศษ ไม่ใช่ของที่ซื้อให้กันทั่วไปในเวลาอื่น
และอีกอย่างหนึ่งก็คือ การห่อของขวัญนั้น จะทำให้ผู้รับรู้สึกประทับใจและตื่นเต้นในเวลาที่กำลังแกะห่อกล่องของขวัญนั้นว่า ตัวเองจะได้รับอะไรเป็นของขวัญนั้นเอง
ที่มา
http://www.props.eric-hart.com/education/a-brief-history-of-gift-wrap/
http://www.theatlantic.com/technology/archive/2012/12/wrappers-delight-a-brief-history-of-wrapping-paper/266599/
ปล. หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ จากผู้เขียนที่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกพอใจที่ได้รับนะครับ
ความเป็นมาของการห่อกล่องของขวัญ และกระดาษห่อของขวัญ
ดังนั้นวันนี้มารู้จักกับเรื่องราวของการห่อของขวัญ และกระดาษห่อของขวัญกันนิดหน่อยดีกว่า
การห่อของขวัญให้กันนั้นกล่าวกันว่ามีมาตั้งแต่ยุคโบราณ ในเมืองจีนสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ ก็มีบันทึกว่าผู้คนมักจะนำเงินหรือของมีค่าใส่ซองหรือห่อกระดาษมอบให้แก่กันในเทศกาลสำคัญ เช่น ตรุษจีน เป็นต้น
ส่วนในยุโรป มีบันทึกว่าเมื่อปี 1509 ในอังกฤษได้มีการนำกระดาษปิดฝาผนัง มาใช้ในการห่อกล่องของขวัญให้กัน แสดงว่าตอนนั้นคงต้องมีการมอบของขวัญระหว่างกันบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก เพราะกระดาษปิดฝาผนังมักจะฉีกขาดได้ง่ายเวลาพับเพื่อจะห่อกล่อง ต่อมาจึงมีการนำกระดาษห่อของสีน้ำตาลมาใช้แทน ต่อมาในปี 1857 ก็มีผู้ทดลองนำกระดาษทิชชูชนิดเหนียวนุ่มมาใช้ในการห่อของขวัญ
ในยุควิคตอเรีย เมื่อเริ่มมีการไปรษณีย์ในอังกฤษและในยุโรป ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายในการส่งจดหมายและพัสดุถูกลง ทำให้ผู้คนนิยมส่งของขวัญให้กันมากขึ้น กระดาษห่อของขวัญในยุคนี้เริ่มมีการพิมพ์ลวดลายสวยงามมากขึ้น แต่คุณภาพยังไม่ดีมากนัก
จนกระทั่งในปี 1917 บริษัทฮอลมาร์กของอเมริกา จึงได้ผลิตสำหรับห่อของขวัญโดยเฉพาะออกจำหน่ายเป็นครั้งแรก กระดาษชนิดนี้นอกจากจะมีความเหนียวสามารถพับได้ดีโดยไม่ฉีกขาดแล้ว ก็ยังใช้หมึกที่คงทนไม่เลอะเปื้อนเมื่อถูกน้ำ จึงทำให้ได้รับความนิยมนำมาใช้ในการห่อของขวัญกันทั่วไป
และในปี 1930 เมื่อมีการผลิตเทปกาวใส (สก็อตเทป) ออกจำหน่าย ก็ทำให้การห่อกล่องของขวัญทำได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะสามารถใช้เทปกาวปิดตามรอยเชื่อมกันได้แทนการทากาวแบบเดิม ทำให้มีการพัฒนาการห่อของขวัญเป็นรูปร่างแปลก ๆ แทนที่จะเป็นรูปกล่องเพียงอย่างเดียว
ทุกวันนี้การห่อกล่องของขวัญกลายเป็นที่นิยมกันไปทั่วโลก มีการประมาณว่าแต่ละปีมีการผลิตกระดาษสำหรับห่อของขวัญมากกว่า 85 ล้านตัน โดยจำนวนนี้เกือบครึ่งเป็นการใช้ในสหรัฐอเมริกาประเทศเดียว
นอกจากการห่อกล่องของขวัญแล้ว ในปัจจุบันก็ยังมีการบรรจุของขวัญในรูปแบบอื่น เช่น การจัดเป็นกระเช้าหรือตะกร้า (ส่วนมากจะเป็นของขวัญสำหรับผู้ใหญ่) การใส่ถุงผ้า เป็นต้น
มีหลายคนสงสัยว่า ทำไมคนเราถึงต้องห่อกล่องของขวัญกันด้วย ทั้งที่กระดาษที่ห่อของขวัญมาเมื่อแกะออกแล้วก็ไม่สามารถเอาไปทำอะไรได้ เป็นการสิ้นเปลืองเปล่า ๆ
มีนักจิตวิทยาให้คำตอบว่า การที่คนส่วนใหญ่นิยมห่อกล่องของขวัญนั้นก็เพื่อเพิ่มความคุณค่าทางจิตใจให้กับของชิ้นนั้น เป็นเพราะการห่อกล่องของขวัญจะทำให้เกิดความรู้สึกว่า ของที่มอบให้มีความสำคัญในโอกาสพิเศษ ไม่ใช่ของที่ซื้อให้กันทั่วไปในเวลาอื่น
และอีกอย่างหนึ่งก็คือ การห่อของขวัญนั้น จะทำให้ผู้รับรู้สึกประทับใจและตื่นเต้นในเวลาที่กำลังแกะห่อกล่องของขวัญนั้นว่า ตัวเองจะได้รับอะไรเป็นของขวัญนั้นเอง
ที่มา
http://www.props.eric-hart.com/education/a-brief-history-of-gift-wrap/
http://www.theatlantic.com/technology/archive/2012/12/wrappers-delight-a-brief-history-of-wrapping-paper/266599/
ปล. หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ จากผู้เขียนที่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกพอใจที่ได้รับนะครับ