ตัดสินใจชมภาพยนตร์แบบไม่ลังเลเพราะสร้างจากนวนิยายชื่อดัง “ซาเสี่ยว
” ของโกวเล้ง อำนวยการสร้างโดยฉีเคอะ หนังจอมยุทธเป็นหนังที่นิยมชมชอบมาตั้งแต่เด็ก และตามด้วยนักแสดงที่เราชื่นชม พอเห็นตัวอย่างก็ โอ้ ภาพสวยมากๆเลย
ก่อนโรสจะเขียนกระทู้ได้อ่านข้อมูลจากเว็บต่างๆรวมทั้งคำวิจารณ์หนังมาพอสมควรมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ ซึ่งมันก็เป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการพิสูจน์ด้วยสายตาและความรู้สึกของตนเอง ชื่อภาษาไทยอาจจะขัดใจหลายๆท่าน เพราะตัวเอกทั้งสองท่านเป็นเทพกระบี่ ไม่ใช่เทพดาบ
เรื่องย่อก็มีอยู่ว่า คุณชายสามจอมยุทธกระบี่เทพเจ้าได้รับการขนานนามว่าเก่งที่สุดในปฐพีเกิดเบื่อหน่ายวิถีมือกระบี่เปื้อนเลือด จึงตัดสินใจหนีทุกสิ่งเพื่อเป็นบุคคลสาบสูญ ข่าวแพร่สะพัดว่าเขาตายแล้วและหลบซ่อนตัวในหอนางโลม ใช้ชื่อว่า อากิก จนมีความรู้สึกพิเศษแก่นางโลมนามว่า เสี่ยวลี่ ข่าวการดับสูญของคุณชายสามยังความขมขื่นมาสู่อี้จับซามือกระบี่ฝีมือฉกาจ เพราะความเติมเต็มในจิตวิญญาณที่จะได้ดวลกระบี่กับสุดยอดมือกระบี่นั้นล่มสลาย ส่วนอดีตคนรักของคุณชายสาม ฉิวตี้ แทบคลั่งด้วยความทั้งรักทั้งแค้น จวบจนโชคชะตาให้อี้จับซาพานพบกับอากิก เขาได้สอนเคล็ดเพลงกระบี่ให้ และแล้วความจริงก็ถูกเปิดเผยขึ้นว่าคุณชายสามยังมีชีวิตอยู่ วิถีชีวิตของคนทั้งสี่จะเป็นอย่างไร อยากให้ลองไปดูกันเอาเองนะคะ
ท่านใดที่ไปชมมาแล้วอีกทั้งอ่านฉบับนวนิยายชมเสร็จคงจะมีความรู้สึกที่ไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน ฉีเคอะต้องการทิ้งท้ายตีความให้แตกต่างไปจากนวนิยายต้นฉบับ แต่โดยรวมก็ไม่ถึงกับทำร้ายความรู้สึกของแฟนโกวเล้ง เป็นการสร้างความแปลกใหม่และตีแผ่มิติมุมมองที่ไม่มีในฉบับนวนิยาย ด้านการกำกับภาพสวยงาม ฉากดวลกระบี่ล้ำลึกกำลังดี ซีจีบางจุดอาจจะขัดใจแต่พอรับได้ การออกแบบเครื่องแต่งกายเหมาะกับเนื้อเรื่องและยุคสมัยมีความสวยงามและประณีต ดนตรีประกอบที่บรรเลงในแต่ละช่วงบรรยายถึงความสิ้นหวัง ความหวาดหวั่น และความคลั่งแค้นได้เป็นอย่างดี อารมณ์ตลกพอประมาณ ในส่วนของนักแสดงแต่ละท่านแสดงได้ดีกันทุกคน น้าฉีเส้าเฉียนที่รับบทเป็นพ่อของคุณชายสาม หล่อสมวัยไม่ต้องพูดอะไรมากแต่ทุกครั้งที่เห็นในฉาก นักแสดงท่านอื่นก็ข่มแกไม่ลงจริงๆ ชอบฉากที่แกแทงดาบศัตรูเป็นลูกชิ้นปิ้ง โอ้ เด็ดดวงมาก
คุณชายสาม รับบทโดย หลินเกิงซิน ดาวรุ่งแห่งยุค เป็นคนหล่อสะอาดสะอ้าน สวมชุดมอซอก็ยังดูหล่ออยู่ดี เล่นได้ดีในบทของมือกระบี่ผู้โหยไห้กับความผิดพลาด หน้าตาแกไม่เหมาะเล่นเป็นคนร้ายจริงๆ ฝีมือพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ อี้จับซา รับบทโดย Peter Ho ดารา นักร้อง โปรดิวเซอร์มากฝีมือและอนาคตไกล เป็นผู้ชายหล่อเท่และมีเสน่ห์ในรอยยิ้ม เป็นคนยิ้มสวย นอกจากร้องเพลงเพราะแล้ว ฝีมือในฐานะการเป็นโปรดิวเซอร์ก็น่าจับตามอง ที่สำคัญฝีมือการแสดงหน่วยก้านไปได้อีกไกล เล่นบทไหนก็ตีบทแตก การแต่งตัวแต่งหน้าฉบับนี้ดูทะมึนดีแต่เท่ การเพ้นท์หน้ากับหุ่นสูงๆ ทำให้นึกถึงแบรนดอน ลี ที่เล่นเป็น อีริค ดราเวน ใน The Crow เหมือนนักร้องเพลงร็อคเลย แม้บางท่านมองว่าการเพ้นท์หน้าทำไม่เห็นสีหน้าของนักแสดง แต่นักแสดงเก่งไม่เก่งไม่ได้ดูจากสีหน้า แต่หากดูจากประกายตาในการแสดงออก โดยเฉพาะฉากที่บุกสำนักของคุณชายสามและทำลายป้ายวิญญาณแสดงออกถึงความสิ้นหวังอย่างรุนแรง เรื่องนี้ชอบเฮียมากเลย เป็นตัวตลกเป็นระลอกอีกด้วยนะ
ด้านนักแสดงหญิง 2 ท่าน ฉิวตี้ รับบทโดย เจียง อวี้เหยียน เธอสวยสง่าและดุดัน แสดงได้ดีกับบททั้งรักทั้งแค้น เสี่ยวลี่ รับบทโดย เจียง เมิ่งเจี๋ย หน้าตาเธอสวยใสดูคล้ายยิปโซมาก เธอแสดงออกถึงความถ่อมตนในฐานะและหัวใจรักที่บริสุทธิ์ได้เป็นอย่างไม่สงสัย ดังนั้นการคัดเลือกนักแสดงแต่ละท่านมารับบทล้วนเหมาะสม และพวกเขาสามารถสื่อสารต่อกันและเล่นได้เข้าขากันอย่างกลมกลืน
โรสได้ดู 2 รอบ รอบแรกดูพากษ์ไทย ส่วนรอบสองดูเสียงจีน บอกได้คำเดียวว่าอารมณ์แตกต่างกันมาก ดูเสียงจีนทำให้เกิดความลุ่มลึกในอารมณ์ของนักแสดงและเข้าถึงเนื้อหนังของนวนิยาย โรสได้วางแผนเตรียมสั่งซื้อฉบับนวนิยายมาอ่านแล้ว ชอบอารมณ์นวนิยายที่มีจุดหมายการค้นหาความสุขที่แท้จริงของชีวิต เอกลักษณ์ของโกวเล้งก็คือ นวนิยายที่แม้จะยืนหยัดกับเพลงกระบี่เป็นจุดหลัก แต่มักจะสอดแทรกความงามของปรัชญาชีวิตและความคมคายเอาไว้เสมอ
นี่จึงเป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากนวนิยายชื่อดังที่นับเป็นผลงานสร้างที่ดีและทำให้คลายความคิดถึงหนังเพลงกระบี่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคตภายภาคหน้าจะได้ดูอีกเรื่อยๆนะ
แล้วเรื่องนี้ต้องการสอนอะไรคนดูล่ะ ไม่รู้สินะดูมาสองรอบรู้แต่เพียงว่า “อย่าละทิ้งอุดมการณ์ของชีวิตหากนั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ทุกคนล้วนมีความผิดพลาดในอดีตแต่ควรให้โอกาสตนเองได้แก้ไข ความรักที่ดีงามย่อมผลักดันชีวิตให้พานพบแต่สิ่งที่ดีงาม ในชีวิตคนเราการสวมหัวโขนสำคัญในสังคมแต่ไม่สำคัญไปกว่าการถอดหัวโขนให้กับชีวิตตนเอง ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการทำชีวิตตนให้มีความสุขตามครรลองคลองธรรม ความตายมิอาจพลัดพรากมิตรภาพในใจ”
Sword Master สมค่าโกวเล้งสมราคาฉีเคอะ (ชอบอี้จับซาฉบับ Peter Hoมากเลย)... By Rose
ก่อนโรสจะเขียนกระทู้ได้อ่านข้อมูลจากเว็บต่างๆรวมทั้งคำวิจารณ์หนังมาพอสมควรมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ ซึ่งมันก็เป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการพิสูจน์ด้วยสายตาและความรู้สึกของตนเอง ชื่อภาษาไทยอาจจะขัดใจหลายๆท่าน เพราะตัวเอกทั้งสองท่านเป็นเทพกระบี่ ไม่ใช่เทพดาบ
เรื่องย่อก็มีอยู่ว่า คุณชายสามจอมยุทธกระบี่เทพเจ้าได้รับการขนานนามว่าเก่งที่สุดในปฐพีเกิดเบื่อหน่ายวิถีมือกระบี่เปื้อนเลือด จึงตัดสินใจหนีทุกสิ่งเพื่อเป็นบุคคลสาบสูญ ข่าวแพร่สะพัดว่าเขาตายแล้วและหลบซ่อนตัวในหอนางโลม ใช้ชื่อว่า อากิก จนมีความรู้สึกพิเศษแก่นางโลมนามว่า เสี่ยวลี่ ข่าวการดับสูญของคุณชายสามยังความขมขื่นมาสู่อี้จับซามือกระบี่ฝีมือฉกาจ เพราะความเติมเต็มในจิตวิญญาณที่จะได้ดวลกระบี่กับสุดยอดมือกระบี่นั้นล่มสลาย ส่วนอดีตคนรักของคุณชายสาม ฉิวตี้ แทบคลั่งด้วยความทั้งรักทั้งแค้น จวบจนโชคชะตาให้อี้จับซาพานพบกับอากิก เขาได้สอนเคล็ดเพลงกระบี่ให้ และแล้วความจริงก็ถูกเปิดเผยขึ้นว่าคุณชายสามยังมีชีวิตอยู่ วิถีชีวิตของคนทั้งสี่จะเป็นอย่างไร อยากให้ลองไปดูกันเอาเองนะคะ
ท่านใดที่ไปชมมาแล้วอีกทั้งอ่านฉบับนวนิยายชมเสร็จคงจะมีความรู้สึกที่ไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน ฉีเคอะต้องการทิ้งท้ายตีความให้แตกต่างไปจากนวนิยายต้นฉบับ แต่โดยรวมก็ไม่ถึงกับทำร้ายความรู้สึกของแฟนโกวเล้ง เป็นการสร้างความแปลกใหม่และตีแผ่มิติมุมมองที่ไม่มีในฉบับนวนิยาย ด้านการกำกับภาพสวยงาม ฉากดวลกระบี่ล้ำลึกกำลังดี ซีจีบางจุดอาจจะขัดใจแต่พอรับได้ การออกแบบเครื่องแต่งกายเหมาะกับเนื้อเรื่องและยุคสมัยมีความสวยงามและประณีต ดนตรีประกอบที่บรรเลงในแต่ละช่วงบรรยายถึงความสิ้นหวัง ความหวาดหวั่น และความคลั่งแค้นได้เป็นอย่างดี อารมณ์ตลกพอประมาณ ในส่วนของนักแสดงแต่ละท่านแสดงได้ดีกันทุกคน น้าฉีเส้าเฉียนที่รับบทเป็นพ่อของคุณชายสาม หล่อสมวัยไม่ต้องพูดอะไรมากแต่ทุกครั้งที่เห็นในฉาก นักแสดงท่านอื่นก็ข่มแกไม่ลงจริงๆ ชอบฉากที่แกแทงดาบศัตรูเป็นลูกชิ้นปิ้ง โอ้ เด็ดดวงมาก
คุณชายสาม รับบทโดย หลินเกิงซิน ดาวรุ่งแห่งยุค เป็นคนหล่อสะอาดสะอ้าน สวมชุดมอซอก็ยังดูหล่ออยู่ดี เล่นได้ดีในบทของมือกระบี่ผู้โหยไห้กับความผิดพลาด หน้าตาแกไม่เหมาะเล่นเป็นคนร้ายจริงๆ ฝีมือพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ อี้จับซา รับบทโดย Peter Ho ดารา นักร้อง โปรดิวเซอร์มากฝีมือและอนาคตไกล เป็นผู้ชายหล่อเท่และมีเสน่ห์ในรอยยิ้ม เป็นคนยิ้มสวย นอกจากร้องเพลงเพราะแล้ว ฝีมือในฐานะการเป็นโปรดิวเซอร์ก็น่าจับตามอง ที่สำคัญฝีมือการแสดงหน่วยก้านไปได้อีกไกล เล่นบทไหนก็ตีบทแตก การแต่งตัวแต่งหน้าฉบับนี้ดูทะมึนดีแต่เท่ การเพ้นท์หน้ากับหุ่นสูงๆ ทำให้นึกถึงแบรนดอน ลี ที่เล่นเป็น อีริค ดราเวน ใน The Crow เหมือนนักร้องเพลงร็อคเลย แม้บางท่านมองว่าการเพ้นท์หน้าทำไม่เห็นสีหน้าของนักแสดง แต่นักแสดงเก่งไม่เก่งไม่ได้ดูจากสีหน้า แต่หากดูจากประกายตาในการแสดงออก โดยเฉพาะฉากที่บุกสำนักของคุณชายสามและทำลายป้ายวิญญาณแสดงออกถึงความสิ้นหวังอย่างรุนแรง เรื่องนี้ชอบเฮียมากเลย เป็นตัวตลกเป็นระลอกอีกด้วยนะ
ด้านนักแสดงหญิง 2 ท่าน ฉิวตี้ รับบทโดย เจียง อวี้เหยียน เธอสวยสง่าและดุดัน แสดงได้ดีกับบททั้งรักทั้งแค้น เสี่ยวลี่ รับบทโดย เจียง เมิ่งเจี๋ย หน้าตาเธอสวยใสดูคล้ายยิปโซมาก เธอแสดงออกถึงความถ่อมตนในฐานะและหัวใจรักที่บริสุทธิ์ได้เป็นอย่างไม่สงสัย ดังนั้นการคัดเลือกนักแสดงแต่ละท่านมารับบทล้วนเหมาะสม และพวกเขาสามารถสื่อสารต่อกันและเล่นได้เข้าขากันอย่างกลมกลืน
โรสได้ดู 2 รอบ รอบแรกดูพากษ์ไทย ส่วนรอบสองดูเสียงจีน บอกได้คำเดียวว่าอารมณ์แตกต่างกันมาก ดูเสียงจีนทำให้เกิดความลุ่มลึกในอารมณ์ของนักแสดงและเข้าถึงเนื้อหนังของนวนิยาย โรสได้วางแผนเตรียมสั่งซื้อฉบับนวนิยายมาอ่านแล้ว ชอบอารมณ์นวนิยายที่มีจุดหมายการค้นหาความสุขที่แท้จริงของชีวิต เอกลักษณ์ของโกวเล้งก็คือ นวนิยายที่แม้จะยืนหยัดกับเพลงกระบี่เป็นจุดหลัก แต่มักจะสอดแทรกความงามของปรัชญาชีวิตและความคมคายเอาไว้เสมอ
นี่จึงเป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากนวนิยายชื่อดังที่นับเป็นผลงานสร้างที่ดีและทำให้คลายความคิดถึงหนังเพลงกระบี่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคตภายภาคหน้าจะได้ดูอีกเรื่อยๆนะ
แล้วเรื่องนี้ต้องการสอนอะไรคนดูล่ะ ไม่รู้สินะดูมาสองรอบรู้แต่เพียงว่า “อย่าละทิ้งอุดมการณ์ของชีวิตหากนั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ทุกคนล้วนมีความผิดพลาดในอดีตแต่ควรให้โอกาสตนเองได้แก้ไข ความรักที่ดีงามย่อมผลักดันชีวิตให้พานพบแต่สิ่งที่ดีงาม ในชีวิตคนเราการสวมหัวโขนสำคัญในสังคมแต่ไม่สำคัญไปกว่าการถอดหัวโขนให้กับชีวิตตนเอง ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการทำชีวิตตนให้มีความสุขตามครรลองคลองธรรม ความตายมิอาจพลัดพรากมิตรภาพในใจ”