‘คอร์บิ้น’ แข้งลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ฉายานิวเบ็คแฮ่ม จ่อเซ็นเข้าอคาเดมีแมนฯยู แล้วมีความฝันอยากเล่นให้ทีมชาติไทย



คอร์บิ้น เมอร์เรย์ นักเตะลูกครึ่งที่มีพ่อเป็นชาวอังกฤษและแม่เป็นคนไทย ซึ่งตอนนี้อายุ 8 ขวบ และได้รับความสนใจจากหลายสโมสรในอังกฤษ เตรียมเซ็นสัญญาเป็นนักเตะเยาวชนในอคาเดมีของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากเคยร่วมฝึกซ้อมกับคาเดมีในระยะหนึ่ง

โดยแม่เก๋ แม่ของคอร์บิ้นซึ่งเป็นชาวไทยได้เปิดเผยผ่านอินสตาแกรม kiana_corbyn ว่า ลูกชายซึ่งเป็นแฟนลิเวอร์พูลเต็มตัว เริ่มเล่นฟุตบอลและใส่ชุดแข่งของลิเวอร์พูลเป็นทีมแรก แต่ต้องเลือกเซ็นสัญญากับแมนฯยู เนื่องจากครอบครัวอาศัยอยู่ที่เมืองแมนเชสเตอร์ และไม่เหมาะที่จะเดินทางไปฝึกซ้อมที่เมืองลิเวอร์พูลได้ทุกวัน เพราะยังต้องเรียนหนังสือ ทั้งๆ ที่ได้รับความสนใจในการเซ็นสัญญากับทีมหงส์แดงเช่นกัน โดยจะมีการเซ็นสัญญากับทีมปีศาจแดงในเร็วๆ นี้

“จะว่าไปจริงแล้วๆเราเองก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ Manchester United ซึ่งเป็นทีมที่ใหญ่และมีชื่อเสียงมากๆต้องการน้องไปอยู่ด้วย เราไม่ใช่ไม่ชอบทีมนี้ เพียงแต่เราเป็น Liverpool Supporter กันมาตลอด สถานที่ฝึกซ้อมก็ห่างจากบ้านเราแค่ 15 นาที และที่สำคัญที่สุด คือ คอร์บิ้นไม่มีปัญหาใดๆเลย ตอนนี้ทาง Liverpool เองก็ยังโทรมาถามคุณพ่อน้องแทบทุกวันว่าสรุปว่าคอร์บิ้นจะไปเซ็นสัญญากับเค้ามั๊ย เค้าถึงขนาดจะขับรถมาแมนเชสเตอร์เพื่อมาคุย (และโน้มน้าว) เก๋ เพราะเก๋เป็นคนยกประเด็นเรื่องการศึกษาขึ้นมาซึ่งเป็นเหตุผลหลักในการตัดสินใจในครั้งนี้ และคืนนี้ก็เป็นอีกครั้งที่โทรมาอีก เราจึงบอก final answerเค้าไปแล้วว่าเราคงไม่ไปแล้ว สิ่งที่ปลายสายตอบกลับมาคือ “We wish Corbyn all the best. And in 12 months time, if things don’t work out there, we’ll be more than happy to see Corbyn again. Tell him, he’ll never walk alone” เก๋ฟังคุณพ่อน้องเล่าให้ฟังจบแค่ประโยคนั้น เก๋น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้มีแค่ 2 ประโยคสั้นๆที่อยากจะบอกกลับไปคือ “Thank you Liverpool. You’ll always be with us”

ทั้งนี้ คอร์บิ้นเริ่มมีชื่อเสียงในวงการฟุตบอลระดับเยาวชนในอังกฤษและได้รับฉายาว่า “นิว เบ๊คแฮม” ตั้งแต่อายุไม่ถึง 7 ขวบ ได้รับความสนใจจากอคาเดมีหลายสโมสรทั้งแมนฯยู, ลิเวอร์พูล, แมนชสเตอร์ ซิตี้, เอฟเวอร์ตัน, บิวรี่ และมีความฝันว่าอยากจะเล่นฟุตบอลให้กับทีมชาติไทย







คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ที่มา ข่าวมติชน http://www.matichon.co.th/news/73090
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่