ปกติจะรีวิวพวกร้านอาหาร แต่ครั้งนี้ขอรีวิวหนังหน่อยล่ะกันคะ เราจะไม่เขียนอารัมภบทมีหลักแบบนักเขียนรีวิวหนังนะคะ จะเขียนเล่าตามความรู้สึกไป
ตอนที่ดูตัวอย่างหนังเรื่องนี้ครั้งแรก เดือนไหนจำไม่ได้ สะดุดตาตรงเห็นแม็ตต์ เดม่อน กับเฮียหลิวเต๋อหัว ก็รู้สึกน่าสนใจดี...แต่ก็กลัวใจว่าจะเป็นหนังเกรด A- ไปหรือเปล่า ช่วงนั้นได้ยินกระแสหนังว่าจะมีนักร้องจากวงเกาหลี ลู่ฮาน มาแสดงด้วย...แต่ก็คิดสไตล์ว่ามันจะเป็นภาพยนตร์แบบมารับเชิญน้อยๆ โผล่มา 5 นาทีตาย แบบนักร้องเกาหลีที่ไปโผล่ในทรานฟอเมอร์หรือเปล่า เพราะกลัวใจหนังฝรั่งที่ชอบให้บทคนเอเชียน้อย...จนได้มาดูในวันนี้ ก็ยังไม่มีความคาดหวังอะไรมากนัก แถมวันนี้ที่ดูค่อนข้างจะไม่มีอารมณ์ดูหนังด้วย แต่ในเมื่อเพื่อนลากเพื่อนชวน ก็ไปหน่อยล่ะกัน กลัวเป็นโรคซึมเศร้า
หนังเปิดเรื่องเป็นสไตล์แบบพระเอกชาวยูโรเปี้ยน มาเป็นผู้กอบกู้สถานการณ์ให้ชาวเอเชีย แบบพล็อตหนังเดอะลาสต์ ซามูไร ซึ่งก็เป็นพล็อตที่ไม่ต่างจากที่คาดหมายนัก พระเอกเป็นทหารรับจ้าง นามวิลเลี่ยม หนีการถูกตามล่ากับเพื่อน จนมาถึงกำแพงเมืองจีน เล่าที่มาของพระเอกไม่ค่อยชัดเจนนัก เหมือนให้คนดูจินตนาการกันเอง รู้แต่ว่าเก่งเวอร์ มีอดีตที่ไม่ไว้ใจใคร และมาใจละลายเมื่อเจอความดีของนางเอก ตามแบบพล็อตแนวนี้เด๊ะๆ
แต่ฉากแสดงความอลังการของกองทัพจีนที่ประจำอยู่บนกำแพง สีชุดเสื้อผ้าที่แบ่งเป็นกองทัพอย่างชัดเจน ฟ้า แดง เหลือง ม่วง เงิน(ระดับสูง) เรียกความตื่นเต้น (เน้นสีเป็นประกายกระแทกตามาก) เหมือนกำลังดูการจัดโชว์โอลิมปิกของจีน (เพิ่งมารู้ตอนหลังว่า ผกก.คือจางอี้โหมว ก็ไม่แปลกใจแล้ว ขานี้การันตีความอลังการจินตนการระดับโอลิมปิกได้เลย) การออกแบบเสื้อผ้าอาวุธอยู่ในขั้นดีมาก มีหลายซีนที่โชว์ให้เห็นรายละเอียดแม้กระทั่งปลายด้ามหอกที่อลังการงานสลักมีลวดลายเลยเชียว สมราคาผกก.ระดับงานโชว์โอลิมปิก
โดยเฉพาะฉากการโชว์อาวุธยุทธปกรณ์ ใครที่เป็นสายชอบหนัง เกม การ์ตูนแฟนตาซีแบบชุดเกราะสุดอลังการ โดยเฉพาะสะพานทัพกระเรียนของกองทัพนางเอก(สีฟ้า)น่าจะชอบไม่ใช่น้อย เป็นอาวุธที่ไม่เคยเห็น ชอบที่ให้เป็นทัพผู้หญิง เหมือนจะแสดงความเท่าเทียมของสตรี ที่เก่งไม่แพ้บุรุษ ชอบวิธีการออกแบบคิวบู๊การต่อสู้ที่แปลกใหม่ดี โดยเฉพาะฉากที่พระเอกต้องฝ่าหมอกลงไปสู้กับกองทัพสัตว์ประหลาด เทาเทียน ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากการที่สวรรค์ลงทัณฑ์ต่อมนุษย์ที่มีความโลภ โดยสวรรค์ส่งอุกาบาตลงมา (จริงๆมันอาจจเป็นเอเลี่ยนต่างดาวมากกว่า) ฉากการดิ่งลงไปในหมอกที่มองไม่เห็น ทำเอาคนดูรู้สึกลุ้นหวาดกลัวเหมือนตัวเองเป็นพระเอกลงไปสู้เอง...ถึงตัวพระเอกจะเก่งเวอร์ แต่ก็ไม่ได้เก่งชนิดว่า ข้าลุยเดี่ยวได้ เพราะยังต้องอาศัยเพื่อนร่วมชาติเดียวกัน ช่วยกันสู้เป็นดูโอ้...พระเอกเรื่องนี้แทบจะไม่ฉายเดี่ยวเลย ดูไม่ใช่ยอดมนุษย์ จะต้องมีผู้ช่วยมาช่วยเสริมทุกฉาก จึงทำให้ดูรู้สึกหมั่นไส้น้อยลง (ฮา)
ส่วนใครที่คิดว่าบทของพี่หลิวเต๋อหัว และลู่หาน จะน้อยแบบนักแสดงเอเชีย ออกมา 5 นาทีแล้วตายนั้น หายห่วง มีบทเยอะอยู่ ลองประมาณคร่าวๆ น่าจะออกรวมกันไม่เกินครึ่งชม. (แต่ยังไงก็บทรองจากแมตต์ เดมอน และนางเอกอยู่ดี) ลู่หานแม้จะเป็นบทลูกกระจ๊อกพระเอก แต่ก็ถือว่ามีบทช่วยพระเอกในตอนท้าย
หนังเรื่องนี้เหมือนเป็นการผสมแฟนตาซีกับความจริงจนอาจจะรู้สึกไม่ค่อยมีเหตุมีผลหน่อยที่เป็นส่วนตัด 1 คะแนน เช่น กุนซือ(พี่หลิว)เชื่อว่าเหล่า เทาเทียน คือปิศาจที่สวรรค์ส่งมาลงทัณฑ์ หาวิธีกำจัดไม่ได้ แต่พอได้หินแม่เหล็กที่วิลเลียมพกมาแบบไม่มีเหตุผล พี่ท่านกลับพูดเป็นหลักวิทยาศาสตร์ว่า หินแม่เหล็กจะขัดขวางคลื่นสัญญาณระหว่างเทาเทียนระดับต่ำและเทาเทียนระดับราชินีได้...ส่วนสัตว์ประหลาดในเรื่องนี้ ฉลาดแบบที่เรียกว่ามีวิวัฒนาการ ไม่ตายแบบโง่ๆด้วยนะ ซีจีสัตว์ประหลาดถือว่าออกแบบได้น่าเกลียดน่าชังน่ากลัว ฉากนองเลือดที่สัวต์ประหลาดรุมทึ้งเนื้อคนนั้นไม่มีให้สยองขนพองขนเกล้า เลือดไม่สาดกระจาย อาจผิดหวังสำหรับขาโหดได้...แต่เห็นฉากที่พวกมันช่วยกันทำตัวเป็นบันไดปีนขึ้นกำแพงเมืองจีนแล้ว ทำให้นึกถึงฉากซอมบี้ใน World War Z
ส่วนตัดอีก 1 คะแนน อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวตอนเห็น Ending แนะนำนักแสดง อย่างเช่นนักแสดงเป็นฮ่องเต้ เป็นที่ปรึกษา ก็ไปไว้ซะเด่นใน Ending ทั้งที่ออกฉากแค่ 5 นาที แต่เล่นมีภาพโปสเตอร์ซะหลอกว่าเป็นตัวเด่น...แต่พวกนักแสดงทหารที่เป็นแม่ทัพ ขาโอปป้าขวัญใจบอยแบรนด์เอเชียอาจจะชอบก็ได้ ส่วนตัวไม่รู้จักว่ามีใครบ้าง รู้แต่มีลู่หานนั้นแหละตามกระแส ซึ่งขนมาเยอะแบบเอาใจสาวๆไอดอลเอเชียตะวันออก แม้จะออกกันไม่ถึง 15 นาที ก็น่าจะให้กลุ่มคนดูสาวๆกลุ่มนี้ฟินได้
ส่วนใครมาหวังเลิฟซีนระหว่างพระเอกกับนางเอก แบบว่าต่อให้เป็นหนังสงครามจะฆ่ากันตายแค่ไหน ก็ต้องมีฉากเปลือยเข้าพระเข้านาง....ขอบอกว่าฝันสลายได้ เพราะเหมือนหนังเน้นมิตรภาพระหว่างสงครามกันมากกว่า...พอไม่มีแล้วรู้สึกดีมาก ดูไม่เป็นหนังพล็อตนั้นจ๋าไป เพราะสภาวะนั้นจะตายกันอยู่แล้ว ใครจะไปมีอารมณ์มาเข้าพระเข้านางกันอยู่ได้
โดยรวมแล้วดำเนินเรื่องกระชับ ไม่เยิ้นเย่อมากความ แม้จะไร้เหตุผลที่มาที่ไปบ้าง แต่ถ้าทำใจว่ามันเป็นแฟนตาซีก็พอปล่อยวางได้ ส่วนที่ดีที่สุดของหนังคือความอลังการของเสื้อผ้า ฉากอาวุธ ซีจีสัตว์ประหลาด ความไม่นองเลือดเต็มจอ เหมือนดูหนังสงครามเกมออนไลน์...สรุปเข้าไปดูแล้วคุ้ม 140 บาทที่ลงทุนไป ให้ระดับหนังอยู่ที่เกรด A ขึ้นมาจาก A- หน่อย
[CR] The great wall แฟนตาซีกึ่งวิทยาศาสตร์แบบโอลิมปิกจีนๆ 8/10
ตอนที่ดูตัวอย่างหนังเรื่องนี้ครั้งแรก เดือนไหนจำไม่ได้ สะดุดตาตรงเห็นแม็ตต์ เดม่อน กับเฮียหลิวเต๋อหัว ก็รู้สึกน่าสนใจดี...แต่ก็กลัวใจว่าจะเป็นหนังเกรด A- ไปหรือเปล่า ช่วงนั้นได้ยินกระแสหนังว่าจะมีนักร้องจากวงเกาหลี ลู่ฮาน มาแสดงด้วย...แต่ก็คิดสไตล์ว่ามันจะเป็นภาพยนตร์แบบมารับเชิญน้อยๆ โผล่มา 5 นาทีตาย แบบนักร้องเกาหลีที่ไปโผล่ในทรานฟอเมอร์หรือเปล่า เพราะกลัวใจหนังฝรั่งที่ชอบให้บทคนเอเชียน้อย...จนได้มาดูในวันนี้ ก็ยังไม่มีความคาดหวังอะไรมากนัก แถมวันนี้ที่ดูค่อนข้างจะไม่มีอารมณ์ดูหนังด้วย แต่ในเมื่อเพื่อนลากเพื่อนชวน ก็ไปหน่อยล่ะกัน กลัวเป็นโรคซึมเศร้า
หนังเปิดเรื่องเป็นสไตล์แบบพระเอกชาวยูโรเปี้ยน มาเป็นผู้กอบกู้สถานการณ์ให้ชาวเอเชีย แบบพล็อตหนังเดอะลาสต์ ซามูไร ซึ่งก็เป็นพล็อตที่ไม่ต่างจากที่คาดหมายนัก พระเอกเป็นทหารรับจ้าง นามวิลเลี่ยม หนีการถูกตามล่ากับเพื่อน จนมาถึงกำแพงเมืองจีน เล่าที่มาของพระเอกไม่ค่อยชัดเจนนัก เหมือนให้คนดูจินตนาการกันเอง รู้แต่ว่าเก่งเวอร์ มีอดีตที่ไม่ไว้ใจใคร และมาใจละลายเมื่อเจอความดีของนางเอก ตามแบบพล็อตแนวนี้เด๊ะๆ
แต่ฉากแสดงความอลังการของกองทัพจีนที่ประจำอยู่บนกำแพง สีชุดเสื้อผ้าที่แบ่งเป็นกองทัพอย่างชัดเจน ฟ้า แดง เหลือง ม่วง เงิน(ระดับสูง) เรียกความตื่นเต้น (เน้นสีเป็นประกายกระแทกตามาก) เหมือนกำลังดูการจัดโชว์โอลิมปิกของจีน (เพิ่งมารู้ตอนหลังว่า ผกก.คือจางอี้โหมว ก็ไม่แปลกใจแล้ว ขานี้การันตีความอลังการจินตนการระดับโอลิมปิกได้เลย) การออกแบบเสื้อผ้าอาวุธอยู่ในขั้นดีมาก มีหลายซีนที่โชว์ให้เห็นรายละเอียดแม้กระทั่งปลายด้ามหอกที่อลังการงานสลักมีลวดลายเลยเชียว สมราคาผกก.ระดับงานโชว์โอลิมปิก
โดยเฉพาะฉากการโชว์อาวุธยุทธปกรณ์ ใครที่เป็นสายชอบหนัง เกม การ์ตูนแฟนตาซีแบบชุดเกราะสุดอลังการ โดยเฉพาะสะพานทัพกระเรียนของกองทัพนางเอก(สีฟ้า)น่าจะชอบไม่ใช่น้อย เป็นอาวุธที่ไม่เคยเห็น ชอบที่ให้เป็นทัพผู้หญิง เหมือนจะแสดงความเท่าเทียมของสตรี ที่เก่งไม่แพ้บุรุษ ชอบวิธีการออกแบบคิวบู๊การต่อสู้ที่แปลกใหม่ดี โดยเฉพาะฉากที่พระเอกต้องฝ่าหมอกลงไปสู้กับกองทัพสัตว์ประหลาด เทาเทียน ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากการที่สวรรค์ลงทัณฑ์ต่อมนุษย์ที่มีความโลภ โดยสวรรค์ส่งอุกาบาตลงมา (จริงๆมันอาจจเป็นเอเลี่ยนต่างดาวมากกว่า) ฉากการดิ่งลงไปในหมอกที่มองไม่เห็น ทำเอาคนดูรู้สึกลุ้นหวาดกลัวเหมือนตัวเองเป็นพระเอกลงไปสู้เอง...ถึงตัวพระเอกจะเก่งเวอร์ แต่ก็ไม่ได้เก่งชนิดว่า ข้าลุยเดี่ยวได้ เพราะยังต้องอาศัยเพื่อนร่วมชาติเดียวกัน ช่วยกันสู้เป็นดูโอ้...พระเอกเรื่องนี้แทบจะไม่ฉายเดี่ยวเลย ดูไม่ใช่ยอดมนุษย์ จะต้องมีผู้ช่วยมาช่วยเสริมทุกฉาก จึงทำให้ดูรู้สึกหมั่นไส้น้อยลง (ฮา)
ส่วนใครที่คิดว่าบทของพี่หลิวเต๋อหัว และลู่หาน จะน้อยแบบนักแสดงเอเชีย ออกมา 5 นาทีแล้วตายนั้น หายห่วง มีบทเยอะอยู่ ลองประมาณคร่าวๆ น่าจะออกรวมกันไม่เกินครึ่งชม. (แต่ยังไงก็บทรองจากแมตต์ เดมอน และนางเอกอยู่ดี) ลู่หานแม้จะเป็นบทลูกกระจ๊อกพระเอก แต่ก็ถือว่ามีบทช่วยพระเอกในตอนท้าย
หนังเรื่องนี้เหมือนเป็นการผสมแฟนตาซีกับความจริงจนอาจจะรู้สึกไม่ค่อยมีเหตุมีผลหน่อยที่เป็นส่วนตัด 1 คะแนน เช่น กุนซือ(พี่หลิว)เชื่อว่าเหล่า เทาเทียน คือปิศาจที่สวรรค์ส่งมาลงทัณฑ์ หาวิธีกำจัดไม่ได้ แต่พอได้หินแม่เหล็กที่วิลเลียมพกมาแบบไม่มีเหตุผล พี่ท่านกลับพูดเป็นหลักวิทยาศาสตร์ว่า หินแม่เหล็กจะขัดขวางคลื่นสัญญาณระหว่างเทาเทียนระดับต่ำและเทาเทียนระดับราชินีได้...ส่วนสัตว์ประหลาดในเรื่องนี้ ฉลาดแบบที่เรียกว่ามีวิวัฒนาการ ไม่ตายแบบโง่ๆด้วยนะ ซีจีสัตว์ประหลาดถือว่าออกแบบได้น่าเกลียดน่าชังน่ากลัว ฉากนองเลือดที่สัวต์ประหลาดรุมทึ้งเนื้อคนนั้นไม่มีให้สยองขนพองขนเกล้า เลือดไม่สาดกระจาย อาจผิดหวังสำหรับขาโหดได้...แต่เห็นฉากที่พวกมันช่วยกันทำตัวเป็นบันไดปีนขึ้นกำแพงเมืองจีนแล้ว ทำให้นึกถึงฉากซอมบี้ใน World War Z
ส่วนตัดอีก 1 คะแนน อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวตอนเห็น Ending แนะนำนักแสดง อย่างเช่นนักแสดงเป็นฮ่องเต้ เป็นที่ปรึกษา ก็ไปไว้ซะเด่นใน Ending ทั้งที่ออกฉากแค่ 5 นาที แต่เล่นมีภาพโปสเตอร์ซะหลอกว่าเป็นตัวเด่น...แต่พวกนักแสดงทหารที่เป็นแม่ทัพ ขาโอปป้าขวัญใจบอยแบรนด์เอเชียอาจจะชอบก็ได้ ส่วนตัวไม่รู้จักว่ามีใครบ้าง รู้แต่มีลู่หานนั้นแหละตามกระแส ซึ่งขนมาเยอะแบบเอาใจสาวๆไอดอลเอเชียตะวันออก แม้จะออกกันไม่ถึง 15 นาที ก็น่าจะให้กลุ่มคนดูสาวๆกลุ่มนี้ฟินได้
ส่วนใครมาหวังเลิฟซีนระหว่างพระเอกกับนางเอก แบบว่าต่อให้เป็นหนังสงครามจะฆ่ากันตายแค่ไหน ก็ต้องมีฉากเปลือยเข้าพระเข้านาง....ขอบอกว่าฝันสลายได้ เพราะเหมือนหนังเน้นมิตรภาพระหว่างสงครามกันมากกว่า...พอไม่มีแล้วรู้สึกดีมาก ดูไม่เป็นหนังพล็อตนั้นจ๋าไป เพราะสภาวะนั้นจะตายกันอยู่แล้ว ใครจะไปมีอารมณ์มาเข้าพระเข้านางกันอยู่ได้
โดยรวมแล้วดำเนินเรื่องกระชับ ไม่เยิ้นเย่อมากความ แม้จะไร้เหตุผลที่มาที่ไปบ้าง แต่ถ้าทำใจว่ามันเป็นแฟนตาซีก็พอปล่อยวางได้ ส่วนที่ดีที่สุดของหนังคือความอลังการของเสื้อผ้า ฉากอาวุธ ซีจีสัตว์ประหลาด ความไม่นองเลือดเต็มจอ เหมือนดูหนังสงครามเกมออนไลน์...สรุปเข้าไปดูแล้วคุ้ม 140 บาทที่ลงทุนไป ให้ระดับหนังอยู่ที่เกรด A ขึ้นมาจาก A- หน่อย