Trail 6 – Cortina D’ Empesso – Dolomite ที่ยังค้างคา
ไปยังไง ขึ้นรถไฟจาก Bolzano ไปยังเส้น Brenner ไปลงสถานี Fortezza/Franzensfeste (อย่าเลยนะ ถ้าเลยนี่ไปจบที่ Brenner สถานีสุดท้ายเข้า Innsbruck ประเทศออสเตรีย เลยนะท่าน ทำไมรู้หล่ะ อิอิ ไปมาแล้ว นั่งกลับมาอีก 1 ชม. 555) ณ สถานีนี้ เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟท้องถิ่น (ตอนแรกนึกว่าเป็นรถไฟฉึกฉัก 555 ที่ไหนได้ หรูมากกกกกกก) สายที่จะไป Lienz หรือ San Candido ก็ได้ ไปได้ทั้งสองสายเลย (ให้เลือกนั่งทางด้านซ้ายมือของขบวน วิวสวยมากกกกกก อีกและ) โดยลงที่สถานี Dobbiaco/Toblach เมื่อออกจากสถานี ด้านหลังสถานีรถไฟ จะเป็นป้ายรถเมล์ รอรถเมล์สาย 445 เพื่อไปยัง Cortina D’ Empesso นั่งยาวไปสุดสาย ไม่มีหลงค่า หรือจะไป สาย 444 ไปยัง Misurina ก็ได้นะ
เนื่องด้วยว่า Dolomite นั้นกว้างใหญ่ไพศาล ดังนั้น คนไร้รถอย่างเรา ควรศึกษาก่อนว่าอยากจะไปเริ่มต้นที่จุดไหน wikipedia ช่วยคุณได้
https://en.wikipedia.org/wiki/Dolomites
หลังจากได้จุดเริ่มต้นแล้ว ศึกษาเส้นทางโดย
https://www.sii.bz.it/en/south-tyrol-integrated-transportation
http://www.suedtirolmobil.info/en/south-tyrol-integrated-transportation-network
จริงๆ มันก็มีทางไปของมันแหละ เพราะว่า ฝรั่งก็ไม่มีรถเหมือนเรานี่แหละ 555 เค้าก็ยังไปกันได้นะ สู้ๆ นะ
เดินไปด้านหลังสถานี จะเป็นป้ายรถเมล์ สาย 445 ไป Cortina d’Empesso และสาย 444 ไปยัง Misurina
ตารางเดินรถจาก Bolzano ไป Cortina
ตารางเดินรถ Cortina และ Misurina
ระยะเวลา เดินได้ทั้งวัน เพราะว่า อากาศดีมากกกกกกก มีแดดนะแต่ไม่ร้อน และตอนเย็นหนาวทีเดียว
ระยะทาง มี 2 เส้นทาง โดยเอา สถานี บขส. เป็นเกณฑ์แบ่ง และกันนะ
ถ้าหันหน้าให้ บขส. ถ้าเลี้ยวซ้าย จะเป็นป่าสน ซึ่งระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ทางนี้จะเป็นทางเดินและทางจักรยาน (คนปั่นจักรยานเยอะ) สิ้นสุดที่ Faimes (ไม่รู้อะไรเหมือนกัน แต่เป็น เหมือนโบสถ์เล็กๆ)
ถ้าเดินไปขวามือ ข้างๆ บขส. จะเป็นสถานี Cable Car สังเกตได้ง่ายๆ จะเห็นสะพานเหล็กสีเขียว เดินข้ามสะพานไป จะเห็นเส้นทางสำหรับเดิน ระยะทางก็ประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งสุดสายปลายทางจะเป็นทะเลสาบ Lago D’ Ajal หรือ Lago Pianozes (ซึ่งไปไม่ถึงซักที่ 555) เดินไปเดินมา เริ่มหนาว หน้าชา ป้ายอมค่ะ 555 ยกทัพกลับโรงแรม
ว่ากันด้วยเรื่องที่ยังค้างคา 555 ก็เพราะว่า ฝันแรกที่พัง อยากไปฟินแบบนี้ ที่ Lake Braise แต่มันดันหาป้ายรถเมล์ไม่เจอ 55555
พลาดเพราะว่า วันที่จะไป Lake Braise เป็นวันเสาร์ Tourist Info ปิด ซึ่งจากที่ศึกษามาบอกว่า มีรถเมล์จาก Dubbiaco ไปถึง Lake เลย
อ่อ คนที่นี่ เหมือนมีปัญหาอะไรกับป้ายรถเมล์ซักอย่าง ส่วนใหญ่ไม่มีชื่อป้าย และถ้ามีมันก็เล็กมาก มองไม่เห็น หรือว่า เราแก่เองก็ไม่รู้ได้
และฝันที่สองที่พัง คือ อยากไปเดิน Misurina แต่หาข้อมูลไม่ดี เลยเลือกที่จะนอนที่ Cortina d’ Empesso แค่ 2 วัน คิดว่ามันไปไม่ได้ แต่จริงๆ มันไปง่ายมาก และคนไปเดิน Misurina เยอะมาก (อันนี้ขอร้องไห้ดังๆ และ ไว้อาลัยให้ตัวเอง) อันนี้เสียใจจริงจังยิ่งกว่าโดนเท
และฝันที่สามที่พัง คือ Cable Car ทางฝั่ง Tofana di mezzo ปิด ฝันที่จะขึ้นไปฟินบนเขาและมอง Dolomite แบบใกล้ชิดจบสิ้น พลาดแรงๆ !!!!
เริ่มต้นเส้นทางเดิน
ป่าสน
อันนี้ คือ บขส. เห็นทางม้าลาย ไม่ต้องข้าม หันหน้าให้ บขส. แล้วเดินมาทางซ้ายมือ
จนถึงอนุสาวรีย์ของท่านผู้นี้ (ใครก็ไม่รู้) จะเห็นสวนสาธารณะเล็กๆ ข้างหน้าจะเป็นทางเล็กๆ บนเนินเขาซึ่งเป็นทางสำหรับเดิน
เห็นป้ายแบบนี้ เดินไปโลด
ทางเดินเป็นลักษณะนี้
เข้าป่า
ถึงแยก ให้เดินตรงไป อย่าเลี้ยวซ้าย ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปออกถนน
อันนี้คือ จุดสิ้นสุดทางเดินตามที่ Tourist Info บอก แต่ว่าจริงๆ แล้วเดินต่อไปได้อีก
ทะเลสาบ
เดินตรงมาทางขวามือของ บขส. จะเจอสถานี Cable car และจะเจอสะพานนี้ เดินข้ามสะพานไปโลด สุดสะพานจะเห็นถนนเส้นเล็กๆ ให้เลี้ยวซ้าย แล้วเดินยาวไปค่า เพราะเส้นนี้จะเป็นเส้นสำหรับเดิน อยู่แล้ว ฉะนั้น ไม่มีหลง
Trail 6 - เดิน Cinque Terre – เมื่อป้าเปรี้ยวรวบ 2 Trail ใน 1 วัน สภาพสุดท้ายร่างแทบแหลก 555
ไปยังไง จาก Florence นั่งรถไฟไปยังสถานีปลายทาง Spezia Centrale และต่อรถไฟไปยังสถานีปลายทาง Levanto โดยสามารถเลือกลงสถานี Monterosso แล้วเดินกลับมาที่ Vernazza และเดินจาก Vernazza มายัง Corniglia (หรือเดินจาก Corniglia ไป Vernazza ไป Monterosso ได้) ส่วนเส้นทางจาก Corniglia มา Maranola และจาก Maranola ไปยัง Riomaggiore นั้นปีนี้ปิดครัช
ระยะเวลา จาก Monterosso ไป Vernazza ประมาณ 2.30 ชม.
จาก Vernazza ไป Corniglia ประมาณ 1.30 ชม.
ระยะทาง ประมาณ 5 กิโลเมตร (แต่ข้ามภูเขาหลายลูกมากหล่ะ)
ค่าใช้จ่าย ค่าเดิน 7 Euroes เสียครั้งเดียว ตรงทางเข้า
เริ่มต้นเส้นทางเดิน เมื่อถึงสถานี Moterosso เดินออกจากสถานีรถไฟ เลี้ยวซ้าย เดินไปตามถนนเลียบชายหาด
เดินตามชาวบ้านเค้าไปแบบนี้แหละ และมองหาสัญญลักษณ์ เส้นทาง Hiking ตรงกำแพงซ้ายมือ จะบอกเส้นทางเดินเอาไว้
เมื่อเดินไปประมาณ 500 เมตร จะเจออุโมงค์ เดินลอดอุโมงค์เข้าไป เมื่อผ่านอุโมงค์ไปแล้วให้เลี้ยวขวา เดินตรงไปเรื่อยๆ
จะเจอเส้นทางเดินเล็กๆ เป็นทางเดินขึ้นเขา เดินไปตามทางเดิน จะเจอซุ้มเก็บเงินค่าผ่านทาง จ่ายค่าเข้าแล้วเดินต่อไป
Trail นี้ เหนื่อยมากแต่คุ้มกับหยาดเหงื่อและแรงงาน เป็น Trail ที่หรรษามาก เพื่อนร่วมทางจะเฮฮา เป็นพิเศษ เนื่องจากว่าเส้นทางอันทุรกันดาร ทำให้เกิดความเข้าใจกัน เพียงแค่มองตา ใบหน้าอันซีดเผือดและเหงื่อที่ไหลท่วมร่างแทบไม่ต้องเอ่ยวาจา มองหน้ากันก็ขำแล้ว 555 (ตอนแรกป้าเห็นเด็กน้อยประมาณ หกขวบ เดินสวนมา แอบยิ้มในใจ เส้นนี้เด็กๆ หว่ะ เฮ้ย 20 นาทีต่อมา อิป้า ควักยาดม นั่งดมยาอยู่ริมโขดหิน ฝรั่งผู้ 2 นางเห็นสภาพ ก็กล่าวล่อลวงว่า เลยเนินนี้ไปก็ไม่มีอะไรแล้ว รวบรวมกำลังขา ลุกขึ้น คลานต่อ ผ่านไป 1 ชม. คิดในใจ ชีวิตนี้กรูจะไม่มีขาลงบ้างหรอวะ ทำไมมันมีแต่ขาขึ้นตลอด และแล้วก็มารู้ความตอนหลังว่า ถ้าเดินมาจาก Vernazza จะเหนื่อยน้อยกว่า เพราะว่าเป็นเส้นทางเดินลงเขา 555 มิน่าหล่ะ คนเยอะเชียว (ถ้าถามว่าท้อไหม ฉันตอบเลยว่ามาก 555)
Monterosso
Vernazza
Vernazza จะเป็นตรอกซอกซอยแบบนี้ ให้ดูป้ายรูปคนเดิน แล้วเดินตามป้ายไป
เมื่อเดินออกไปจะเจอถนนเส้นเดียว แล้วเดินตรงไปทาง ภูเขาที่เห็นด้านหน้า เดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ
อย่าลืม หันกลับมา Say Hello กับ Vernazza แบบเต็มๆ แบบนี้ สวยมาก หายเหนื่อยไปชั่วขณะ
แล้วก็เดินต่อไปยัง Corniglia
Corniglia อยู่ใกล้ๆ (แต่จังหวะนี้ ใกล้แค่ไหนคือไกล)
ถนนคนเดินจริงๆ
ถึงแล้ว Corniglia
แล้วยังไงต่อดี Cinque Terre ยังไม่สุด 555 ยังไงดี ขึ้นรถไฟไป Maranola ดีกว่า มองหาป้ายรถไฟ ดีใจเหลือเกิน อุ๊ยตาย ใกล้ๆ แค่นี้เอง มีฝรั่งเดินตามมาอีก 4-5 คน และแล้วสิ่งที่เห็น 5555 ฝรั่งถึงกับ Ohh my goshh 555
เดินลงเขาไปอีก 1 ลูก
นั่งรถไฟไปประมาณ 3 นาที 555
ถึง Maranola ใครเปรี้ยวซ่า ออกจากอุโมงค์สถานีรถไฟ ให้เลี้ยวขวา เดินขึ้นเขาผ่านไร่องุ่นไปค่ะ ข้ามเขาไปอีก 1 ลูก ขึ้นไปจุดชมวิว สวยทีเดียว ส่วนคนปกติจะเดินเลี้ยวซ้ายผ่านร้านอาหารไปก็ถึงแล้วจุดชมวิวเดียวกันเป๊ะ 555 (เพลียกะความง่าว ของตัวเอง)
ขณะนี้ก็ปาไป เกือบ 1 ทุ่ม ยังคงลั้นลาอยู่ หารู้ไม่ว่า รถไฟจาก Spezia ไป Florence หมดแล้ว แล้วยังไง? 555 ก็นั่งรถไฟจาก Spezia ไป Pisa และต่อจาก Pisa ไป Florence โดยรถเที่ยวสุดท้ายประมาณ ตีหนึ่ง ป้าโชคดีไปทันเที่ยว 5 ทุ่ม ถึง Florence เกือบตีหนึ่ง อันนี้เป็นข้อมูลเผื่อใครอยากจะชม Sunset ทะเลอิตาลี อิอิ (โรแมนติกจริงๆนะเธอ)
เหลืออีก 1 Trail โหด นะคะ Paht of God - Amalfi Coast
[CR] ขุ่นป้าสายเดินแบกเป้คนเดียว เที่ยว Zurich + Italy - Hiking Trail # 4 อิตาลี Cortina + Cinque Terre สายแข็งไม่ควรพลาด
ไปยังไง ขึ้นรถไฟจาก Bolzano ไปยังเส้น Brenner ไปลงสถานี Fortezza/Franzensfeste (อย่าเลยนะ ถ้าเลยนี่ไปจบที่ Brenner สถานีสุดท้ายเข้า Innsbruck ประเทศออสเตรีย เลยนะท่าน ทำไมรู้หล่ะ อิอิ ไปมาแล้ว นั่งกลับมาอีก 1 ชม. 555) ณ สถานีนี้ เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟท้องถิ่น (ตอนแรกนึกว่าเป็นรถไฟฉึกฉัก 555 ที่ไหนได้ หรูมากกกกกกก) สายที่จะไป Lienz หรือ San Candido ก็ได้ ไปได้ทั้งสองสายเลย (ให้เลือกนั่งทางด้านซ้ายมือของขบวน วิวสวยมากกกกกก อีกและ) โดยลงที่สถานี Dobbiaco/Toblach เมื่อออกจากสถานี ด้านหลังสถานีรถไฟ จะเป็นป้ายรถเมล์ รอรถเมล์สาย 445 เพื่อไปยัง Cortina D’ Empesso นั่งยาวไปสุดสาย ไม่มีหลงค่า หรือจะไป สาย 444 ไปยัง Misurina ก็ได้นะ
เนื่องด้วยว่า Dolomite นั้นกว้างใหญ่ไพศาล ดังนั้น คนไร้รถอย่างเรา ควรศึกษาก่อนว่าอยากจะไปเริ่มต้นที่จุดไหน wikipedia ช่วยคุณได้
https://en.wikipedia.org/wiki/Dolomites
หลังจากได้จุดเริ่มต้นแล้ว ศึกษาเส้นทางโดย
https://www.sii.bz.it/en/south-tyrol-integrated-transportation
http://www.suedtirolmobil.info/en/south-tyrol-integrated-transportation-network
จริงๆ มันก็มีทางไปของมันแหละ เพราะว่า ฝรั่งก็ไม่มีรถเหมือนเรานี่แหละ 555 เค้าก็ยังไปกันได้นะ สู้ๆ นะ
เดินไปด้านหลังสถานี จะเป็นป้ายรถเมล์ สาย 445 ไป Cortina d’Empesso และสาย 444 ไปยัง Misurina
ตารางเดินรถจาก Bolzano ไป Cortina
ตารางเดินรถ Cortina และ Misurina
ระยะเวลา เดินได้ทั้งวัน เพราะว่า อากาศดีมากกกกกกก มีแดดนะแต่ไม่ร้อน และตอนเย็นหนาวทีเดียว
ระยะทาง มี 2 เส้นทาง โดยเอา สถานี บขส. เป็นเกณฑ์แบ่ง และกันนะ
ถ้าหันหน้าให้ บขส. ถ้าเลี้ยวซ้าย จะเป็นป่าสน ซึ่งระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ทางนี้จะเป็นทางเดินและทางจักรยาน (คนปั่นจักรยานเยอะ) สิ้นสุดที่ Faimes (ไม่รู้อะไรเหมือนกัน แต่เป็น เหมือนโบสถ์เล็กๆ)
ถ้าเดินไปขวามือ ข้างๆ บขส. จะเป็นสถานี Cable Car สังเกตได้ง่ายๆ จะเห็นสะพานเหล็กสีเขียว เดินข้ามสะพานไป จะเห็นเส้นทางสำหรับเดิน ระยะทางก็ประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งสุดสายปลายทางจะเป็นทะเลสาบ Lago D’ Ajal หรือ Lago Pianozes (ซึ่งไปไม่ถึงซักที่ 555) เดินไปเดินมา เริ่มหนาว หน้าชา ป้ายอมค่ะ 555 ยกทัพกลับโรงแรม
ว่ากันด้วยเรื่องที่ยังค้างคา 555 ก็เพราะว่า ฝันแรกที่พัง อยากไปฟินแบบนี้ ที่ Lake Braise แต่มันดันหาป้ายรถเมล์ไม่เจอ 55555
พลาดเพราะว่า วันที่จะไป Lake Braise เป็นวันเสาร์ Tourist Info ปิด ซึ่งจากที่ศึกษามาบอกว่า มีรถเมล์จาก Dubbiaco ไปถึง Lake เลย
อ่อ คนที่นี่ เหมือนมีปัญหาอะไรกับป้ายรถเมล์ซักอย่าง ส่วนใหญ่ไม่มีชื่อป้าย และถ้ามีมันก็เล็กมาก มองไม่เห็น หรือว่า เราแก่เองก็ไม่รู้ได้
และฝันที่สองที่พัง คือ อยากไปเดิน Misurina แต่หาข้อมูลไม่ดี เลยเลือกที่จะนอนที่ Cortina d’ Empesso แค่ 2 วัน คิดว่ามันไปไม่ได้ แต่จริงๆ มันไปง่ายมาก และคนไปเดิน Misurina เยอะมาก (อันนี้ขอร้องไห้ดังๆ และ ไว้อาลัยให้ตัวเอง) อันนี้เสียใจจริงจังยิ่งกว่าโดนเท
และฝันที่สามที่พัง คือ Cable Car ทางฝั่ง Tofana di mezzo ปิด ฝันที่จะขึ้นไปฟินบนเขาและมอง Dolomite แบบใกล้ชิดจบสิ้น พลาดแรงๆ !!!!
เริ่มต้นเส้นทางเดิน
ป่าสน
อันนี้ คือ บขส. เห็นทางม้าลาย ไม่ต้องข้าม หันหน้าให้ บขส. แล้วเดินมาทางซ้ายมือ
จนถึงอนุสาวรีย์ของท่านผู้นี้ (ใครก็ไม่รู้) จะเห็นสวนสาธารณะเล็กๆ ข้างหน้าจะเป็นทางเล็กๆ บนเนินเขาซึ่งเป็นทางสำหรับเดิน
เห็นป้ายแบบนี้ เดินไปโลด
ทางเดินเป็นลักษณะนี้
เข้าป่า
ถึงแยก ให้เดินตรงไป อย่าเลี้ยวซ้าย ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปออกถนน
อันนี้คือ จุดสิ้นสุดทางเดินตามที่ Tourist Info บอก แต่ว่าจริงๆ แล้วเดินต่อไปได้อีก
ทะเลสาบ
เดินตรงมาทางขวามือของ บขส. จะเจอสถานี Cable car และจะเจอสะพานนี้ เดินข้ามสะพานไปโลด สุดสะพานจะเห็นถนนเส้นเล็กๆ ให้เลี้ยวซ้าย แล้วเดินยาวไปค่า เพราะเส้นนี้จะเป็นเส้นสำหรับเดิน อยู่แล้ว ฉะนั้น ไม่มีหลง
Trail 6 - เดิน Cinque Terre – เมื่อป้าเปรี้ยวรวบ 2 Trail ใน 1 วัน สภาพสุดท้ายร่างแทบแหลก 555
ไปยังไง จาก Florence นั่งรถไฟไปยังสถานีปลายทาง Spezia Centrale และต่อรถไฟไปยังสถานีปลายทาง Levanto โดยสามารถเลือกลงสถานี Monterosso แล้วเดินกลับมาที่ Vernazza และเดินจาก Vernazza มายัง Corniglia (หรือเดินจาก Corniglia ไป Vernazza ไป Monterosso ได้) ส่วนเส้นทางจาก Corniglia มา Maranola และจาก Maranola ไปยัง Riomaggiore นั้นปีนี้ปิดครัช
ระยะเวลา จาก Monterosso ไป Vernazza ประมาณ 2.30 ชม.
จาก Vernazza ไป Corniglia ประมาณ 1.30 ชม.
ระยะทาง ประมาณ 5 กิโลเมตร (แต่ข้ามภูเขาหลายลูกมากหล่ะ)
ค่าใช้จ่าย ค่าเดิน 7 Euroes เสียครั้งเดียว ตรงทางเข้า
เริ่มต้นเส้นทางเดิน เมื่อถึงสถานี Moterosso เดินออกจากสถานีรถไฟ เลี้ยวซ้าย เดินไปตามถนนเลียบชายหาด
เดินตามชาวบ้านเค้าไปแบบนี้แหละ และมองหาสัญญลักษณ์ เส้นทาง Hiking ตรงกำแพงซ้ายมือ จะบอกเส้นทางเดินเอาไว้
เมื่อเดินไปประมาณ 500 เมตร จะเจออุโมงค์ เดินลอดอุโมงค์เข้าไป เมื่อผ่านอุโมงค์ไปแล้วให้เลี้ยวขวา เดินตรงไปเรื่อยๆ
จะเจอเส้นทางเดินเล็กๆ เป็นทางเดินขึ้นเขา เดินไปตามทางเดิน จะเจอซุ้มเก็บเงินค่าผ่านทาง จ่ายค่าเข้าแล้วเดินต่อไป
Trail นี้ เหนื่อยมากแต่คุ้มกับหยาดเหงื่อและแรงงาน เป็น Trail ที่หรรษามาก เพื่อนร่วมทางจะเฮฮา เป็นพิเศษ เนื่องจากว่าเส้นทางอันทุรกันดาร ทำให้เกิดความเข้าใจกัน เพียงแค่มองตา ใบหน้าอันซีดเผือดและเหงื่อที่ไหลท่วมร่างแทบไม่ต้องเอ่ยวาจา มองหน้ากันก็ขำแล้ว 555 (ตอนแรกป้าเห็นเด็กน้อยประมาณ หกขวบ เดินสวนมา แอบยิ้มในใจ เส้นนี้เด็กๆ หว่ะ เฮ้ย 20 นาทีต่อมา อิป้า ควักยาดม นั่งดมยาอยู่ริมโขดหิน ฝรั่งผู้ 2 นางเห็นสภาพ ก็กล่าวล่อลวงว่า เลยเนินนี้ไปก็ไม่มีอะไรแล้ว รวบรวมกำลังขา ลุกขึ้น คลานต่อ ผ่านไป 1 ชม. คิดในใจ ชีวิตนี้กรูจะไม่มีขาลงบ้างหรอวะ ทำไมมันมีแต่ขาขึ้นตลอด และแล้วก็มารู้ความตอนหลังว่า ถ้าเดินมาจาก Vernazza จะเหนื่อยน้อยกว่า เพราะว่าเป็นเส้นทางเดินลงเขา 555 มิน่าหล่ะ คนเยอะเชียว (ถ้าถามว่าท้อไหม ฉันตอบเลยว่ามาก 555)
Monterosso
Vernazza
Vernazza จะเป็นตรอกซอกซอยแบบนี้ ให้ดูป้ายรูปคนเดิน แล้วเดินตามป้ายไป
เมื่อเดินออกไปจะเจอถนนเส้นเดียว แล้วเดินตรงไปทาง ภูเขาที่เห็นด้านหน้า เดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ
อย่าลืม หันกลับมา Say Hello กับ Vernazza แบบเต็มๆ แบบนี้ สวยมาก หายเหนื่อยไปชั่วขณะ
แล้วก็เดินต่อไปยัง Corniglia
Corniglia อยู่ใกล้ๆ (แต่จังหวะนี้ ใกล้แค่ไหนคือไกล)
ถนนคนเดินจริงๆ
ถึงแล้ว Corniglia
แล้วยังไงต่อดี Cinque Terre ยังไม่สุด 555 ยังไงดี ขึ้นรถไฟไป Maranola ดีกว่า มองหาป้ายรถไฟ ดีใจเหลือเกิน อุ๊ยตาย ใกล้ๆ แค่นี้เอง มีฝรั่งเดินตามมาอีก 4-5 คน และแล้วสิ่งที่เห็น 5555 ฝรั่งถึงกับ Ohh my goshh 555
เดินลงเขาไปอีก 1 ลูก
นั่งรถไฟไปประมาณ 3 นาที 555
ถึง Maranola ใครเปรี้ยวซ่า ออกจากอุโมงค์สถานีรถไฟ ให้เลี้ยวขวา เดินขึ้นเขาผ่านไร่องุ่นไปค่ะ ข้ามเขาไปอีก 1 ลูก ขึ้นไปจุดชมวิว สวยทีเดียว ส่วนคนปกติจะเดินเลี้ยวซ้ายผ่านร้านอาหารไปก็ถึงแล้วจุดชมวิวเดียวกันเป๊ะ 555 (เพลียกะความง่าว ของตัวเอง)
ขณะนี้ก็ปาไป เกือบ 1 ทุ่ม ยังคงลั้นลาอยู่ หารู้ไม่ว่า รถไฟจาก Spezia ไป Florence หมดแล้ว แล้วยังไง? 555 ก็นั่งรถไฟจาก Spezia ไป Pisa และต่อจาก Pisa ไป Florence โดยรถเที่ยวสุดท้ายประมาณ ตีหนึ่ง ป้าโชคดีไปทันเที่ยว 5 ทุ่ม ถึง Florence เกือบตีหนึ่ง อันนี้เป็นข้อมูลเผื่อใครอยากจะชม Sunset ทะเลอิตาลี อิอิ (โรแมนติกจริงๆนะเธอ)
เหลืออีก 1 Trail โหด นะคะ Paht of God - Amalfi Coast