Maxus G10 เตรียมลุยตลาดรถ MPV ในไทยปี 2017




ถ้าพูดถึงรถอเนกประสงค์แบบ MPV ในบ้านเรา Hyundai H1 เป็นรุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในระดับราคาที่ไม่สูงเกินไป รุ่นที่ใกล้ๆ เคียงกันโดยอ้างอิงจากประเภทของรถและจำนวนที่นั่งประมาณ 11 ที่นั่ง ก็อย่างเช่น KIA Grand Carnival และในปี 2017 ค่อนข้างจะชัดเจนว่าอาจมีตัวเลือกใหม่เพิ่มขึ้นอีกรุ่นหนึ่งนั่นคือ Maxus G10

จากที่อัปเดตให้ทราบกันไปก่อนหน้านี้ว่าหลังจากที่ MG ทยอยเปิดตัวรถยนต์ในเซกเมนต์ต่างๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อลุยตลาดในเมืองไทย นอกจาก SUV หรือ MG GS ที่เปิดตัวไปแล้ว และเพิ่งอัปเดตเปิดตัวรุ่นย่อยในงาน Motor Expo 2016 กับรุ่น MG GS 1.5T ไม่แน่ว่าต่อไป เอ็มจี อาจจะทำตลาดรถกระบะขนาด 1 ตันด้วย โดยอาจจะนำเอา Maxus T60 เข้ามาเสริมทัพ

ในส่วนของการทำตลาดรถกระบะอาจยังไม่แน่นอนนัก เพราะต้องพิจารณาให้รอบด้านเนื่องจากการแข่งขันในบ้านเราค่อนข้างดุเดือดและผูกขาดอยู่ที่ 2 ค่ายใหญ่กว่า 70% ถ้าจะทำตลาดรถกระบะจริงๆ ก็คงไม่ใช่ปีหน้า แต่คงเป็นปี 2018 ไปแล้ว เพื่อรอให้อะไรหลายๆ อย่างลงตัวมากกว่านี้

แต่ที่ค่อนข้างจะแน่ชัดว่าเซกเมนต์ใหม่ที่ MG จะนำเข้ามาทำตลาดในไทยในปี 2017 ก็คือ รถอเนกประสงค์แบบ MPV โดยจะนำเอารถในเครืออย่าง Maxus G10 เข้ามา ซึ่งคู่แข่งที่ชัดเจนก็คงเป็น Hyundai H1 นั่นเอง

Maxus เป็นค่ายรถยนต์ในเครือ SAIC MOTOR เช่นเดียวกับ MG นอกจากนั้นก็ยังมี Roewe ด้วยอีกค่ายหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ แม็กซัส จี10 จึงมีโอกาสที่จะเข้ามาทำตลาดในไทย แต่จะเข้ามาขายในนามของ Maxus เอง หรือให้ MG ทำตลาด ก็คงต้องติดตามรายละเอียดกันอีกครั้งหนึ่ง แต่ในภาพรวมแล้ว MG ก็ดูจะมีความพร้อมมากกว่า มีการทำตลาดพร้อมกับขยายโชว์รูมและศูนย์บริการอย่างต่อเนื่อง

ถ้าเปรียบเทียบกับคู่แข่งในไทยแล้ว Hyundai H1 ดูจะเป็นคู่แข่งที่ถูกคู่กันที่สุดทั้งด้วยรูปแบบดีไซน์ ขนาดตัว และระดับราคา G10 มีความยาวตลอดคันอยู่ที่ 5,168 มม. ความกว้าง 1,980 มม. ความสูง 1,928 มม. และความยาวฐานล้อ 3,210 มม. ส่วน H1 มีมิติขนาดตัวในส่วนของความยาว 5,125 มม. ความกว้าง 1,920 มม. ความสูง 1,925 มม. และความยาวฐานล้อ 3,200 มม. เรียกว่ามีมิติขนาดตัวที่สูสีกันมาก

ทางด้านขุมพลัง H1 มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล A2 รหัส D4CB 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมเทอร์โบ และอินเตอร์คูลเลอร์ ปริมาตรกระบอกสูบ 2,497 ซีซี จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบ Commonrail Direct Injection (CRDI) มีกำลังงานสูงสุด 175 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 441 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 2,250 รอบ/นาที

ส่วน G10 มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินรหัส 20L4E 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ ปริมาตรกระบอกสูบ 1,995 ซีซี จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบ Gasoline Direct Injection (GDI) มีกำลังงานสูงสุด 225 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 345 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที
maxus-eg10-10
Maxus G10 มีแบบไหนรุ่นอะไรบ้าง

การไล่เรียงรุ่นต่อไปนี้เป็นข้อมูลของ G10 ที่จัดแสดงในงาน Guangzhou International Automobile Exhibition 2016 ซึ่งทีมงาน MotorShop มีโอกาสไปชมงานเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

G10 ที่นำมาแสดงในงานหากแบ่งตามเครื่องยนต์จะมี 2 รุ่นคือ รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ และรุ่นที่เป็นไฟฟ้ามีชื่อรุ่นว่า Maxus EG10 แต่หากแบ่งตามจำนวนที่นั่งจะมี 2 รุ่น เช่นกันคือ รุ่น 7 ที่นั่ง และรุ่น 11 ที่นั่ง

รุ่น 7 ที่นั่งดูเหมือนจะเป็นที่นิยมของคนจีนพอสมควร สังเกตุจากการที่มีรูปแบบและรุ่นย่อยให้เลือกมากกว่ารุ่นอื่น G10 รุ่น 7 ที่นั่งก็คือด้านหน้าจะมีเบาะ 2 ที่นั่งคือ เบาะนั่งคนขับกับผู้โดยสารด้านหน้า เบาะนั่งแถวที่ 2 มี 2 ที่นั่งเป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างจะพิเศษและนั่งสบายกว่าตำแหน่งอื่นๆ และเบาะนั่งแถวที่ 3  จะเป็นแบบ 3 ที่นั่ง

เบาะนั่งแถวที่ 2 ของรุ่น 7 ที่นั่งออกแบบมาให้นั่งค่อนข้างสบาย นอกจากเป็นเบาะที่แยกกันอิสระแล้ว ตัวเบาะยังมีหมอนรองศรีษะขนาดใหญ่ มีท้าวแขน และที่รองขาที่ค่อนข้างจะนั่งได้อย่างสบาย ภายในของรุ่น 7 ที่นั่งที่แสดงในงาน กวางโจว มอเตอร์โชว์ จะเป็นเบาะหนังที่มีทั้งแบบทูโทน สีดำ-น้ำตาล และสีครีม และมีซันรูฟทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

ในรุ่น 11 ที่นั่ง ตำแหน่งของเบาะนั่งจะมี 4 แถว ด้านหน้ามี 2 ที่นั่ง และ 3 แถวหลังมีแถวละ 3 ที่นั่ง โดยวัสดุหุ้มเบาะจะเป็นผ้าและไม่มีซันรูฟมาให้ ในมาเลซียมีการเปิดตัว Maxus G10 ราวเดือนสิงหาคม 2016 โดยเป็นรุ่น 10 ที่นั่ง ตำแหน่งของที่นั่งจะเป็น 2+3+2+3 โดยเบาะแถวที่ 3 จะเป็น 2 ที่นั่ง ในบ้านเราถ้ามีการเปิดตัวจริงๆ รูปแบบของเบาะนั่งจะเป็นอย่างไร มีแบบไหนให้เลือกบ้างต้องรอดูกัน

ที่มา : http://www.motorshop.online/community/maxus-g10-07122016/.html