ขอบอกก่อนว่ากระทู้นี้ผมยืม ID น้องมารีวิวนะครับ

พอดีเมื่อวานนี้ผมมีโอกาสได้มาทานอาหารที่ห้องอาหารวันรัชดาที่โรงแรมแกรนด์เมอร์เคียวกรุงเทพฟอร์จูนเนื่องจากมีน้องคนนึงที่เคยทำงานด้วยกันชวนมากินข้าวบอกวันนี้ผมเป็นเจ้ามือเองครับพี่ ผมเลยไม่ขัดศรัทธาน้องเค้าพอมาถึงก็หยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปเล่นกันตามประสาคนไม่ได้เจอกันนาน ถ่ายไปถ่ายมาไหนๆก็มาแล้วเลยถือโอกาสอยากที่จะลองรีวิวดูเห็นบอกมีอาหารน่าสนใจเยอะ เลยขอยืมIDน้องอีกคนมารีวิวเลยแล้วกันผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับเนื่องจากเป็นการรีวิวครั้งแรกของผม

ก่อนอื่นไปดูบรรยากาศห้องอาหารก่อนนะครับ
                 


ส่วนอันนี้เป็นด้านนอกสำหรับคนที่อยากจะรับลมหนาว(ในกรุงเทพจะมีไหมนะ)


ก่อนจะเข้าห้องอาหารเห็นของรางวัลอยู่หน้าห้องอาหารเลยแอบถามพนักงานว่านี่คืออะไรหรอครับ

น้องพนักงานบอกว่าในคืนวันที่31ธันวาคมนี้ จะมีการจับแจกรางวัลสำหรับท่านที่มารับประทานอาหารที่ห้องอาหารวันรัชดา

มาเริ่มกันเลยดีกว่านี่เลยครับจานแรกของผมไม่รู้เป็นอะไร กินบุฟเฟ่ต์เมื่อไหร่ผมชอบที่จะกินสลัดบาร์ประเดิมก่อนทุกทีเลย


ต่อมานี่เลยครับออยสเตอร์มีความสดดีครับไม่มีกลิ่นคาวเหมือนบางที่ ทีเด็ดนี่ต้องน้ำจิ้มซีฟู๊ดเลยครับ เผ็ด เด็ด แซ่บ รสชาติจะเผ็ดบวกเปรี้ยวแซ่บมาก


จานต่อมาพักความเผ็ดไปหยิบพิซซ่าแล้วก็สั่งสปาเก็ตตี้มากิน พิซซ่ารสชาติดีชีสนี่ยืดมาก ส่วนสปาเก็ตตี้ที่นี่เราสามารถเลือกเส้น ซอส แล้วก็ส่วนผสมอย่างอื่นได้เช่นปลา หมู ซีฟู๊ด



ระหว่างกินไปสักพักมีปู อลาสก้ามาเสริฟให้ที่โต๊ะ ว้าวเจ๋งเลยอ่ะ แถมตัด สับ ทุบ แกะมาให้เรียบร้อย(สบายล่ะ) ถือว่าเป็นไฮไลท์เลยก็ว่าได้ เนื้อปูหวานๆบวกน้ำจิ้มแซ่บๆ ผมว่าไม่มีอะไรที่จะเข้ากันไปกว่านี้อีกแล้ว(แอบกระซิบว่าปู อลาสก้าสามารถขอเพิ่มได้นะครับเสริฟไม่อั้น)


หลังจากเดินดูอาหารไปเรื่อยๆเห็นเนื้อเลยลองสั่งสเต็กเนื้อมาชิมอีกดีกว่าขอของหนักเลยแล้วกัน

สเต็กเนื้อราดด้วยซอยพริกไทยดำรสชาติดีเลยครับ เนื้อนุ่มไม่เหนียวมาก


รู้สึกขาดอะไรไปสักอย่างเลยเดินไปเล็งหอยแมลงภู่นึ่งสักหน่อยมีกั้งด้วยนะเนี่ยสั่งมากินสักชุดแล้วกัน


ผมว่าหอยแมลงภู่แห้งไปหน่อยสงสัยเล็งนานไปก็พนักงานน่ารักนี่นา ที่นี่มีกั้งด้วยนะครับกั้งนี่หากินยากนิดนึงอาจต้องไปหากินแถวใกล้ทะเลแต่นี่ยกมาไว้ใจกลางกรุงเทพให้เราเลย


อิ่มหนำสำราญไปกับอาหารคาวบัดนี้ไปเดินดูอาหารหวานกันดีกว่า

ส่วนตัวผมไม่สันทัดด้านอาหารหวานสักเทาไหร่เลยเลือกมาชิมสัก2-3 อย่างแล้วกัน ตบท้ายด้วยไอศกรีมมีท๊อปปิ้งให้เลือกตกแต่งกันตามใจชอบ


ตอนนี้มีโปรโมชั่นFree Flow ด้วยนะครับสำหรับใครที่ชอบดื่มถ้ามาเวลา 17.30-20.00 บุฟเฟ่ต์เบียร์และไวด์ในราคา 400บาท


สรุปสั้นๆนะครับ
ส่วนตัวผมว่ารสชาติอาหารถือว่าดีมากโดยเฉพาะในส่วนของอาหารซีฟู๊ดเหมาะสำหรับคนที่ชอบทานอาหารซีฟู๊ดเพราะอาหารสดใหม่มีเติมตลอด แถมมีปูอลาสก้าเสริฟให้ที่โต๊ะแบบไม่อั้นนี่มันสวรรค์ชัดๆทีเด็ดคือน้ำจิ้มซีฟู๊ดที่เผ็ดแซ่บได้ใจส่วนอาหารอื่นๆก็ไม่ต่างจากบุฟเฟ่ต์ในโรงแรมทั่วไปแอบถามเจ้ามือว่ามื่อนี้ราคาเท่าไหร่น้องบอกว่าประมาณคนละ1000บาทครับพี่  ในส่วนราคาผมว่าสูงไปนิดนึงเปรียบเทียบจากอาหารที่มีให้เลือกน้อยไปหน่อย สถานที่ไปมาสะดวกมากครับมาได้ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีพระราม9 รถยนต์ส่วนตัวมีที่จอดมากมายสะดวกมากครับและอีกอย่างถ้าปีใหม่นี้ยังไม่รู้จะไปฉลองปีใหม่ที่ไหนก็อยากจะแนะนำให้มาลองชิมอาหารที่นี่ได้นะครับน้องพนักงานบอกว่าคุณจะได้ทานอาหารซีฟู๊ดเปรียบเหมือนกับได้ลงไปกินอาหารซีฟู๊ดสดๆใต้ท้องทะเลกันเลยทีเดียวในคืนวันที่31ธันวานี้แถมมีการแจกรางวัลด้วยนะครับคุณอาจโชคดีรับปีใหม่นี้ก็เป็นได้

ปล.เวลาเปิด-ปิดห้องอาหารคือ 17.30-22.30 น.


ผมขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ครับ