ตอนแรกคิดมานานว่าจะโพสต์ดีไหม กลัวจะกลายเป็นการประจานกันและกันหลังชีวิตคู่เพิ่งจบลง แต่พอเห็นกระทู้แต่งงานแล้วชีวิตแย่ลงผมเลยตัดสินใจที่จะโพสต์บอกเล่าเรื่องราวสิ่งที่ผมเจอบ้างดีกว่า[ตอนแรกจะเม้นในกระทู้นั้น แต่คิดว่ามันคงยาวเกินไปแน่ๆ]
ผมเพิ่งจบคำว่าครอบครัวลง หลังจากระหองระแหงมานาน เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมานี้เองครับ [เรื่องมันอาจยาวไปนะครับ ขอเริ่มต้นตั้งแต่เริ่มรู้จักกัน]
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เริ่มรู้จักกันสู่การตัดสินใจแต่งงาน
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมกับแฟนรู้จักกันไม่ทันไรก็แต่งงานกัน นับจากวันเจอกันครั้งแรกถึงวันแต่งงาน ราวๆ3เดือน เธอท้องน่ะครับ ผมเองก็เอ้อระเหยมานานก็อยากมีครอบครัว เลยตัดสินใจแต่งงานรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ณ ตอนนั้น เงินเดือนผมน้อยกว่าเธอ เธอเปิดร้านขายมือถือ เสื้อผ้าเป็นธุรกิจครอบครัว ผมเองได้รับเงินเดือนไม่ถึงหมื่น แต่ตอนที่อยู่คนเดียวสามารถอยู่ได้สบายๆด้วยเงินเดือนอันน้อยนิด แต่รู้กินรู้ใช้ เหลือไปสังสรรค์ข้างนอกเดือนละ 2-3 หน
พอแต่งงานปีแรก เงินเดือนผมส่วนใหญ่คือเอาไปใช้หนี้สินที่ยืมมาจัดงานแต่ง โดยเมื่อเงินออกผมจะให้แฟนทั้งหมดบริหารจัดการหนี้สิน เงินใช้จ่ายภายในบ้านก็จะได้มาจากเธอเป็นส่วนใหญ่ ด้วยเพราะเธอเป็นคนขี้หึง เป็นลูกคนเดียว ผมเลยตัดปัญหาด้วยการให้เธอเช็คทุกๆอย่าง ทั้งมือถือ เฟซ เลิกออกไปสังสรรค์ที่ไหน ไปไหนผมก็จะต้องพาเธอไปด้วยไม่อยากจะไปเพียงคนเดียว
ระหว่างนั้นก็จะมีปัญหาที่ค้างๆคาๆอยู่เรื่องนึง คือแฟนเก่าผมคนนึงก่อนจะเจอแฟน เค้าบอกว่าเค้าท้องกับผมหลังเลิกกันไป และลูกคลอดออกมา แต่ไม่เคยให้ผมพบเจอ ทุกครั้งที่ผมคบใคร เค้าจะต้องโผล่มาแล้วมาพูดถึงเรื่องลูกที่มี ตลอดเวลาผมพยายามตามสืบ ทั้งถามจากเพื่อน จากคนรู้จักแต่ก็ไม่มีใครรู้อะไรเลย หลังแต่งงานก็เช่นกันเค้าก็โผล่มาด้วยการยกเอาเรื่องลูกที่มีกับเค้ามาพูดคุย มันเป็นปมของผมเองที่จะซีเรียสเรื่องลูกมาก เลยคุยกับเค้าพยายามหลอกถามว่าตกลงมีเด็กเกิดมาจริงๆรึเปล่า โดยทุกครั้งที่คุยจะมีรุ่นน้องคนนึงที่รู้จักกันทั้งสองฝ่ายรับทราบเรื่อง เพราะผมจะปรึกษากันตลอด วันนึงแฟนผมรู้เรื่องก็ทะเลาะกัน แต่ผมเองก็บอกเค้าตามความจริง แต่เค้าไม่เคยเชื่อ ทั้งๆที่ผมเองมีพยานที่จะยืนยัน
ตลอด 6 เดือนที่ผมต้องทนตอบคำถามเดิมๆ ทั้งเช้าและเย็น จนผมไม่ไหวอีกต่อไปกับคำดูถูกที่เค้าหาว่าเกาะเค้ากิน ผมตัดสินใจวางทุกอย่างที่ได้จากเค้า เดินออกมา แต่ทางบ้านเค้าขอไว้ให้คุยกันเพื่อเห็นแก่ลูกที่เพิ่งเกิดมา เหตุการณ์นั้นผ่านไปเรายังคงความเป็นครอบครัวไว้ได้อยู่
จากกระทู้แต่งงานแล้วชีวิตแย่ลง เลยขอถ่ายทอดเรื่องราวที่ผมเพิ่งจบชีวิตครอบครัวลงหมาดๆ
ผมเพิ่งจบคำว่าครอบครัวลง หลังจากระหองระแหงมานาน เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมานี้เองครับ [เรื่องมันอาจยาวไปนะครับ ขอเริ่มต้นตั้งแต่เริ่มรู้จักกัน]
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมกับแฟนรู้จักกันไม่ทันไรก็แต่งงานกัน นับจากวันเจอกันครั้งแรกถึงวันแต่งงาน ราวๆ3เดือน เธอท้องน่ะครับ ผมเองก็เอ้อระเหยมานานก็อยากมีครอบครัว เลยตัดสินใจแต่งงานรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ณ ตอนนั้น เงินเดือนผมน้อยกว่าเธอ เธอเปิดร้านขายมือถือ เสื้อผ้าเป็นธุรกิจครอบครัว ผมเองได้รับเงินเดือนไม่ถึงหมื่น แต่ตอนที่อยู่คนเดียวสามารถอยู่ได้สบายๆด้วยเงินเดือนอันน้อยนิด แต่รู้กินรู้ใช้ เหลือไปสังสรรค์ข้างนอกเดือนละ 2-3 หน
พอแต่งงานปีแรก เงินเดือนผมส่วนใหญ่คือเอาไปใช้หนี้สินที่ยืมมาจัดงานแต่ง โดยเมื่อเงินออกผมจะให้แฟนทั้งหมดบริหารจัดการหนี้สิน เงินใช้จ่ายภายในบ้านก็จะได้มาจากเธอเป็นส่วนใหญ่ ด้วยเพราะเธอเป็นคนขี้หึง เป็นลูกคนเดียว ผมเลยตัดปัญหาด้วยการให้เธอเช็คทุกๆอย่าง ทั้งมือถือ เฟซ เลิกออกไปสังสรรค์ที่ไหน ไปไหนผมก็จะต้องพาเธอไปด้วยไม่อยากจะไปเพียงคนเดียว
ระหว่างนั้นก็จะมีปัญหาที่ค้างๆคาๆอยู่เรื่องนึง คือแฟนเก่าผมคนนึงก่อนจะเจอแฟน เค้าบอกว่าเค้าท้องกับผมหลังเลิกกันไป และลูกคลอดออกมา แต่ไม่เคยให้ผมพบเจอ ทุกครั้งที่ผมคบใคร เค้าจะต้องโผล่มาแล้วมาพูดถึงเรื่องลูกที่มี ตลอดเวลาผมพยายามตามสืบ ทั้งถามจากเพื่อน จากคนรู้จักแต่ก็ไม่มีใครรู้อะไรเลย หลังแต่งงานก็เช่นกันเค้าก็โผล่มาด้วยการยกเอาเรื่องลูกที่มีกับเค้ามาพูดคุย มันเป็นปมของผมเองที่จะซีเรียสเรื่องลูกมาก เลยคุยกับเค้าพยายามหลอกถามว่าตกลงมีเด็กเกิดมาจริงๆรึเปล่า โดยทุกครั้งที่คุยจะมีรุ่นน้องคนนึงที่รู้จักกันทั้งสองฝ่ายรับทราบเรื่อง เพราะผมจะปรึกษากันตลอด วันนึงแฟนผมรู้เรื่องก็ทะเลาะกัน แต่ผมเองก็บอกเค้าตามความจริง แต่เค้าไม่เคยเชื่อ ทั้งๆที่ผมเองมีพยานที่จะยืนยัน
ตลอด 6 เดือนที่ผมต้องทนตอบคำถามเดิมๆ ทั้งเช้าและเย็น จนผมไม่ไหวอีกต่อไปกับคำดูถูกที่เค้าหาว่าเกาะเค้ากิน ผมตัดสินใจวางทุกอย่างที่ได้จากเค้า เดินออกมา แต่ทางบ้านเค้าขอไว้ให้คุยกันเพื่อเห็นแก่ลูกที่เพิ่งเกิดมา เหตุการณ์นั้นผ่านไปเรายังคงความเป็นครอบครัวไว้ได้อยู่