อุทาหรณ์ เกือบเสียแมวที่รักมาก..จากการทำหมัน

กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรานะคะ ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
เราอยากแชร์ประสบการณ์ที่เกือบทำให้เราต้องเสียน้องแมวที่เรารักไป เพียงเพราะเริ่มต้นจากการพาไปทำหมัน
และดันติดโรคอื่นๆ ตามมาค่ะ

เริ่มเลยนะคะ...
เราเลี้ยงแมว 2 ตัวค่ะ พันธ์เปอร์เซียร์ เพศเมีย 1 ตัว พันธุ์สก๊อตติสโฟลด์ หูพับ เพศผู้ 1 ตัว อายุ 9 เดือนทั้งคู่
ฉีดวัคซีนครบ เลี้ยงในระปิด กินเก่ง ร่างกายแข็งแรง น่ารัก ขี้อ้อนสุดๆ ค่ะ

ต้นเดือน ธ.ค เรามีความคิดว่าอยากพาสก๊อตติสโฟลด์ไปทำหมัน เพราะเค้าเริ่มติดสัตว์แล้ว ร้องหง่าวๆ และไล่ปล้ำเปอร์เซียร์ทั้งวันเลยค่ะ
เรากลัวเค้าจะก้าวร้าวเลยตัดสินใจพาไปทำหมัน ที่โรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่ง (ขอไม่บอกชื่อนะคะ คับข้องใจกับที่นี่มาก)
โดยตั้งใจว่าหลังจากทำหมันสก๊อตติสโฟลด์เสร็จแล้วจะพาเปอร์เซียร์มาทำหมันต่อเลย (แต่คงไม่แล้วล่ะค่ะ)

วันที่ 11 ธ.ค เราพาน้องแมวไปตรวจร่างกาย เจาะเลือด อีกสองวันหมอโทรมาแจ้งผลเลือด น้องแมวสุขภาพดีมากอยู่ในเกณฑ์ระดับ 1
(เค้ามี 3 ระดับค่ะ แย่สุดคือระดับ 3) ทำหมันได้เลย เราจึงนัดทำหมันวันศุกร์ ที่ 16 ธ.ค เพราะจะได้ดูแลน้องแมววันเสาร์-อาทิตย์ ได้

15 ธ.ค หลังเที่ยงคืน เรางดน้ำงดอาหารน้องแมว

16 ธ.ค 7.30 น.พาน้องแมวไปส่งที่  รพส.  เจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะผ่าประมาณ 10 โมงกว่าค่ะ  
บ่าย 3 รพส. โทรแจ้งว่าน้องทำหมันเสร็จแล้ว ให้มารับกลับบ้านตอน 5 โมงเย็น เราจึงไปรับน้องตอน 4-5 โมงเย็น
น้องเพิ่งฟื้นจากยาสลบมีอาการเบลอๆ ซึมๆ  เราพาน้องใส่ตะกร้ากลับบ้าน
กลับมาถึงบ้านวันแรก น้องนั่งไม่ได้เลยค่ะ คงเพราะเจ็บแผล ส่งคลิปให้คนอื่นดูบอกว่าแมวเค้าที่ไปทำหมันก็นั่งได้ปกติ
แต่เราคิดว่าน้องคงเจ็บมาก ไม่กี่วันคงหายดี

17 ธ.ค น้องมีอาการซึมกว่าปกติ ตาข้างซ้ายบวมนิดหน่อย  เราโทรบอกหมอ

18 ธ.ค หมอนัดดูอาการ ตรวจไข่ที่ผ่าทำหมัน หมอบอกปกติ แผลดีมาก จะหายแล้ว น้องแมวนั่งได้แล้วค่ะ เราก็สบายใจ

19 ธ.ค น้องซึมๆ ไม่เล่น ไม่อ้อน กินน้อยลง เราคิดว่าคงเจ็บแผลจากการทำหมัน

20 ธ.ค ประมาณ 6.30 น. น้องอ๊วกเป็นสีเหลืองๆ มีฟอง เราเลยไปเขี่ยดู เห็นมีขนผสมในอ๊วกเลยคิดว่าเป็นก้อนขน  เราก็ออกไปทำงานปกติ
16.30 น. แฟนเรากลับบ้าน บอกแมวอ๊วก 2 กอง ต้องเป็นของสก๊อตติสโฟลด์แน่ๆ เพราะซึมผิดปกติ จึงรีบพาไปหาหมอ
หมอตรวจร่างกาย และเจาะเลือด ป้อนยา/ฉีดยา / ให้น้ำเกลือ และให้พาน้องแมวกลับบ้าน ตอน 6 โมงกว่า
ประมาณ 1 ทุ่ม กว่าหมอโทรมาแจ้งผลเลือด บอกว่าน้องติดเชื้อไวรัส เม็ดเลือดขาวต่ำมาก 1,200 เท่านั้น อาจเป็นเอดส์แมว หรือลูคีเมีย ให้เรารีบพาไป รพส. ด่วน เพราะอันตรายมาก เรารีบพาน้องแมวไป รพส.ตอน 2 ทุ่มกว่า หมอขอเจาะเลือดอีกครั้ง (เดี๋ยวนะได้ข่าวเมื่อกี้เจาะไปแล้ว) เราก็ต้องยอมให้เจาะค่ะ แมวร้องใหญ่เลย น่าสงสารมาก เจาะเลือดตรวจลูคีเมีย เอดส์แมว
ผลคือ -->  ไม่เป็นค่ะ

หมอยังบอกอีกว่าน้องน่าจะป่วยนานแล้วแต่ไม่แสดงอาการ พอทำหมันร่างกายอ่อนแอเลยแสดงอาการ เชื้ออาจจะแฝงในไขสันหลัง (หึหึ ค่ะ แมวเราอ่อนแอเองว่างั้น) เราเลยถามว่าถ้าแมวเราป่วยทำไมถึงบอกว่าผลเลือดดีมาก สุขภาพแข็งแรงมาก ให้ทำหมันได้ หมอบอกตรวจเลือดสำหรับทำหมันตรวจไม่ละเอียด ตรวจทั่วไปค่ะ (เพิ่งทราบนะคะเนี่ย)
น้องไข้สูง 103.4 หมอให้น้ำเกลือ / ฉีดยากระตุ้นภูมิ / ฉีดยาฆ่าเชื้อ / ลดไข้ (โดนไปหลายเข็มมาก)
และบอกว่า อาการ 50/50 (คืออะไร??? )
ช๊อคค่ะ เพราะวันก่อนทำหมันแมวเรายังดีๆ อยู่เลย หมอบอกไม่มียารักษาทำได้แค่รักษาตามอาการเท่านั้น  และที่ รพส. ไม่มีคนเฝ้าตอนกลางคืน ให้เราพาน้องกลับบ้าน แล้วพรุ่งนี้ค่อยพามาใหม่ตอน 7 โมงเช้า...
วันนั้นก็ต้องทำตามนั้น บอกตรงๆ กลัวค่ะ กลัวน้องจะเป็นอะไรตอนกลางคืน  น้องอ๊วกอีก 2 ครั้ง เดินวนไปมาในห้องมีอาการกระวนกระวาย ฉี่ไม่กลบ ซึ่งผิดวิสัยแมวค่ะ

21 ธ.ค เราพาน้องไปที่ รพส. เดิม 7.20 น. หมอรับแอดมิดตอนกลางวัน ให้น้ำเกลือทางเส้นเลือด ยังตรวจหาสาเหตุไม่เจอ ว่าเป็นอะไรกันแน่ วันนี้น้องไข้สูง 104.4 หมอฉีดยากันอ๊วก/ฉีดยาลดกรด/ฉีดยาฆ่าเชื้อ/ เจาะเลือดอีกแล้ววว ตรวจ Electrolytes (สงสารแมวมากเลยเจาะติดๆ กัน 3 ครั้ง) ....
หลังจากนั้นพาไปส่งห้อง ICU แมว ซึ่งมีแมวอีก 2- 3 ตัว อยู่ในห้อง

ถึงตอนนี้เราเริ่มสงสัยแล้วค่ะ แมวเราป่วยได้ไง เมื่อ 5 วันที่แล้ว ยังแข็งแรงดีอยู่เลย เราสงสัยว่าในวันทำหมันเค้ารับแมวเราไปแล้วไปรวมกับแมวป่วยหรือเปล่า เพราะเราถามหมอเค้าบอกว่าเกิดจากการกัดจากแมวติดเชื้อ/กินอุจาระแมวติดเชื้อ/เลียน้ำลายแมวติดเชื้อ ซึ่งไม่มีทางติดจากที่บ้านแน่ๆ เพราะเราเลี้ยงระบบปิด และเราไม่ได้อุ้มแมวตัวอื่นเลย แต่ทาง รพส.บอกว่าไม่ใช่ ไม่ได้ติดจากที่นี่หรอก เพราะเค้าแยกแมวป่วยไปไว้ห้องอื่น (แต่วันแรกที่เราพาแมวมาส่งทำหมันเค้าเอาแมวเราไปรอผ่าที่ห้อง icu แมวค่ะ แอบเคือง แต่ทำอะไรไม่ได้) พอส่งน้องเสร็จเราต้องไปทำงานค่ะ ระหว่างนี้รอผลเลือดว่าน้องจะป่วยเป็นอะไรเพราะยังหาสาเหตุไม่เจอ

10 โมงกว่า ที่ รพส.โทรมาบอกผล ค่า electrolytes ต่ำ หมอฉีดแร่ธาตุวิตามินเข้าทางเส้นเลือดแล้ว  และตรวจอุจจาระน้องแมว สรุป น้องเป็นหัดแมวค่ะ และภูมิน้องต่ำมาก ต้องรักษาตามอาการเท่านั้น เราอึ้งเลยค่ะ!! ฉีดวัคซีนครบ แต่น้องยังเป็นหัดแมวได้  แต่เอ๊ะ เมื่อเช้าคุณพาน้องแมวเราไปอยู่ในห้อง icu แมว รวมกับตัวอื่นๆ แบบนี้แมวตัวอื่นจะมีโอกาสติดไหมนะ..

เราเล่าเรื่องนี้ให้น้องที่ออฟฟิศฟัง น้องๆ ก็ช่วยหาข้อมูลค่ะ ส่วนใหญ่แมวที่เป็นโรคนี้มักจะไม่รอด เราก็เริ่มใจไม่ดีค่ะ โทษตัวเองสารพัดว่าไม่น่าพาไปทำหมันเลย...T T
น้องๆ บอกหยุดเศร้าก่อน ถ้าทิ้งไว้ที่นี่ น้องไม่รอดแน่ ดูแล้วหมอไม่ค่อยเก่งเลย จึงช่วยกันหาข้อมูลใน pantip หลายๆ กระทู้ แนะนำให้พาไปรักษาที่ อารีย์สัตวแพทย์ หมอเกียรติปรีชา  เราจึงโทรไปสอบถามและนัดหมาย และตัดสินใจพาน้องออกจาก รพส.แรก ตอนบ่าย 4 ค่ะ ตอนไปรับน้อง น้องน่าสงสารมาก ซึม เพลีย และดูเครียดอย่างเห็นได้ชัด

ประมาณ 5 โมงเย็น น้องถึงมือหมอเกียรติปรีชาค่ะ หมอเอามือจับน้อง บอกน้องมีไข้นะ(ไม่ต้องเอาปรอทจิ้มก้น) หมอให้ถอดคอลล่าออก เพราะแมวจะเครียด (ตอนแรกหมอนึกว่าน้องมีแผล หรือดุ ถึงต้องใส่คอลล่า เราเห็น ที่ รพส.แรกใส่ให้แมวทุกตัวเลย ทั้งๆ ที่เราเพิ่งซื้อใหม่ตอนทำหมัน แต่นี่ก็เค้าก็ใส่อันใหม่ให้แมวเราและเก็บเงินรวมไปกับบิลค่ายาไปเรียบร้อย )  หมอดูใบส่งตัวจาก รพส. แรก ก็บอกฉีดยาอะไรเยอะแยะ เกินความจำเป็น และ รพส. แรก เค้าเอาที่ตรวจหัดหมา มาตรวจหัดแมว (หมอบอกก็อาจจะใช้ด้วยกันได้ แต่ไม่ควรใช้ เหมือนเอาของลิงมาตรวจให้คนอ่ะค่ะ)  หมอยังบอกอีกหลายเรื่องได้ความรู้เยอะเลย ไปส่งวันแรกหมอไม่เรียกเก็บค่ามัดจำ เราเป็นคนถามเองว่าขอจ่ายไว้ได้ไหม หมอจึงบอกมัดจำไว้ 2,000 ค่ะ  ต่างจากที่เราเคยพาน้องไปรักษามาก ทุกอย่างดูเป็นธุรกิจไปหมด ไม่ได้ดูแลด้วยใจด้วยความรักแบบคุณหมอเลยค่ะ
ตอน 1 ทุ่ม หมอโทรมาบอกว่า น้องถ่ายเป็นเลือดสดๆ เยอะมาก อาการหนักนะ โอกาสรอด 40% หมอจะเริ่มให้ยาแล้ว และพรุ่งนี้จะโทร update อาการอีกครั้ง T T คืนนั้นนอนร้องไห้หนักเลยค่ะ  แต่ก็เชื่อมั่นในตัวหมอว่าจะช่วยรักษาแมวเราได้  
สรุป น้องอยู่ที่อารีย์สัตวแพทย์ 6 วันค่ะ เราไปเยี่ยมแทบทุกวัน เอาแคทนิปไปป้อน น้องอาการดีขึ้น หมอบอกเป็นทั้งหัดแมวและหวัดแมว แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว ให้รับกลับบ้านได้... เราดีใจมากๆ ค่ะ คุณหมอคิดค่ารักษาอีก 5,000 บาท เท่านั้น (รพส.แรก เฉลี่ยวันละเกือบ 3,000 รักษา 2 วันที่ไม่ได้แอดมิดหมดไปหลายตังค์มากกก มากกว่ารักษา 6 วันกับหมอเกียรติปรีชาอีก  คงไม่พาแมวไปรักษาหรือฉีดวัคซีนที่นี่อีกแล้วค่ะ ลาขาด)

ตอนนี้เราก็ต้องคอยดูแลอาการเปอร์เซียร์ที่บ้านว่าจะติดด้วยหรือไม่ เพราะน้องวัคซีนครบและแข็งแรงดีค่ะ ตอนนี้ยังไม่แสดงอาการอะไร

กระทู้นี้เขียนมาเพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนรักแมว โรคบางโรคก็ติดง่ายมาก รักษาก็ยากถ้าหมอไม่เก่งจริง โอกาสรอดก็น้อย ถ้าเราไม่ได้ข้อมูลดีๆ จากเพื่อนๆ ใน pantip แมวเราคงไม่รอดค่ะ ขอบคุณที่แชร์ข้อมูลดีๆ นะคะ และสุดท้ายอยากขอบคุณ คุณหมอเกียรติปรีชา ที่ช่วยต่อชีวิตให้น้องแมวตัวน้อยๆ ตัวนี้ค่ะ (หมอยังชมว่านางอึดมาก ปกติแมวนอกจะใจเสาะ ไม่อึดเท่าแมวไทย แต่นี่ตกเลือด 2 ครั้ง นางยังสู้เลย)

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบนะคะ หวังว่ากระทู้นี้คงเป็นประโยชน์สำหรับคนรักแมวไม่มากก็น้อยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ

รูปแมวเราก่อนทำหมันค่ะ


รูปนี้ก่อนทำหมัน 1 วันค่ะ คืนนี้งดน้ำ งดอาหาร

นี่รูปหลังจากป่วยค่ะ รพส.แรก โกนขนออกเพื่อแทงน้ำเกลือค่ะ


ภาพวันรับกลับบ้านค่ะ 26 ธ.ค 59
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่