ดิเอโก้ มาราโดน่า ตอนเป็นโค้ชทีมชาติอาเจนติน่า ถูกแฟนบอลในประเทศวิจารย์เยอะเท่าซิโก้ของไทยหรือเปล่าครับ ?

ช่วงนี้แม้พึ่งได้แชมป์อาเซียนคัพมา แต่เหมือนว่ากระแสวิจารย์ซิโก้จะรุนแรงขึ้นไปอีก เพราะถึงได้แชมป์แต่ก็ดูจะมีข้อผิดพลาดอยู่พอสมควร มันทำให้ผมนึกถึงคนๆหนึ่ง .. มาราโดน่า
มาราโดน่า ? มายังไง มีอะไรเชื่อมโยง ? มีเหตุผลครับ

นั่นคือ ดิเอโก้ มาราโดน่า มีความคล้ายคลึงกับซิโก้อย่างหนึ่ง คือเป็นนักเตะตำนานของทีมชาติ แล้วมาคุมทีมชาติในภายหลังนั่นเอง
อย่างที่ทราบดีว่าอาเจนติน่าภายใต้เสือเตี้ยทำผลงานไม่ดีจนตกรอบบอลโลก 2010 แบบถูกเยอรมันยิง 4-0 อยากทราบว่าตอนนั้นมาราโดน่าถูกแฟนบอลวิจารย์รุนแรงมากมั้ยครับ หรือยังเชียร์อยู่ ?
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
ถ้าจะเทียบ ผมว่าลองเทียบกับพวกโฟลเลอร์ คลิ้นซี่ ตอนคุมทีมชาติดีกว่า โดยเฉพาะคลิ้นซี่นี่ชัดเจนมาก มีอะไรคล้ายๆซิโก้อยู่ (ไม่ใช่เรื่องฝีเท้านะ)


คือคลิ้นซี่เป็นตำนานกองหน้าของเยอรมันที่คนรุ่น 80-90 จะจับต้องได้ เห็นผลงานชัด โดดเด่นเรื่องทัศนคติการเล่นฟุตบอลเกมรุก ซึ่งค่อนข้างแอนตี้ระบบการเล่นฟุตบอลเก่าๆของเยอรมันยุคนั้นที่เน้นระบบการขึ้นบอลจากแดนหลังมากเกินไป คลิ้นซี่เป็นคนที่เข้ามาปฏิรูปวงการฟุตบอลเยอรมันและระบบการเล่นฟุตบอลในแง่ของการกระตุ้นให้ยกเลิก 3-5-2 แบบลิเบอโร่ แล้วปรับมาเป็น 4-2-3-1 เน้นฟุตบอลวันทัช เล่นเกมเร็วมากขึ้น พยายามดันพวกดาวรุ่งจากชุด U19-U23 ขึ้นมาเป็นตัวแทนพวกชุดใหญ่เก่าๆที่โรยรา และเป็นพวกสตาร์ที่อีโก้แรง สมัยนั้นพวกสตาร์เก่าๆบางคน เจอคลี้นซีถอดออก แล้วใส่นักเตะที่ตัวเองเห็นว่ามีทัศนคติใหม่ๆเข้าไปหลายคน แล้วคลิ้นซี่ก็ให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งบางคนเช่น ชไวนี่ โพลดี้ ขึ้นมาเป็นหลัก โดยไม่สนใจฟอร์มในบอลลีกมากนัก แต่เห็นว่าเล่นเข้าระบบกีบทีมชาติดี แล้วกลายเป็นว่าพวกนี้มาดังเอาหลังจากบอลโลก 2006


แต่ถามว่ากว่าจะปรับเปลีย่นอะไรแบบนี้ คลิ้นซี่โดนด่าเยอะมากครับ คือเราเห็นว่าซิโก้โดนเยอะแบบนี้ แต่สมัยคลิ้นซ่คุมเยอรมันก่อนจะลุยบอลโลก 2006 คนในวงการฟุตบอลโดยเฉพาะพวกเก๋าๆนี่มีแต่ด่าแกเละเทะครับ เซป ไมเออร์ นี่แตกหักกับแก ลาออกจากโค้ชประตูทีมชาติเลย เพราะคลิ้นซี่ไปดันเลห์มันขึ้นมาแทนคาห์น แล้วคลิ้นซี่แกไปโละขั้วนักเตะบาเยิร์นในทีมชาติออก ไม่ว่าจะนักเตะหรือสตาฟโค้ช เหลืออยู่แค่ไม่กี่คน แล้วเอาไปโค้ชฟิตเนสจากอเมริกามาช่วยเป็นครั้งแรก คือมันมีเรื่องการเมืองด้วย จะว่าไปก็แบบของไทยเลย แล้วแกไปเอาพวกเพื่อนๆแกสมัยเล่นทีมชาติมาช่วยทำทีมชาติ เช่น เบียร์โฮฟ ซึ่งก็ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้เท่าไหร่เลย แต่ทำงานดี แล้วเอา โยอัคคิม เลิฟ ที่ตอนนั้นฉายแววว่าจะเก่งด้านแท็คติคมาเป็นผู้ช่วย ต่อมาจึงรัช่วงคุมทีมชาติต่อ เลิฟเป็นคนที่เข้ามาช่วยปรับระบบการเล่นทีมชาติใหม่หมด ส่วนคลิ้นซี่รับหน้าเสื่อปะทะกับสื่อและเหล่าคนดังในวงการที่ด่าแกยิ้มวายป่วง สำหรับพวกตัวผู้เล่น ส่วนหนึ่งมันเป็นอานิสงฆ์มาจากสมัยที่เดเอฟเบปั้นเยาวชนรุ่นใหม่หลังจากการตกต่ำในบอลยูโร 2000 ด้วย แล้วผลผลิตชุดแรกๆจากการพัฒนาระบบเยาวชนของเยอรมันอย่างพวก ชไวนี่ โพลดี้ ลาห์ม โกเมซ คูรานี่ เคดิร่า ฮิงเกล เริ่มมาทันช่วงคลิ้นซี่คุมพอดี (โคลเซ่นี่เผ่าเหล่าผ่ากอมา เป็นพวกมาดังเอาเองจากบอลโลก 2002 และผลงานในสโมสร) แต่บางคนใช่ว่าจะเล่นดีอะไรในลีกนักนะครับ คือนักเตะเยอรมันบางคนนี่เป็นนักเตะที่เหมือนจะเกิดมาเพื่อเล่นดีกับทีมชาติเป็นหลัก อย่างชไวนี่กับโพลดี้นี่เล่นในบอลลีก ฟอร์มไม่สม่ำเสมออย่างแรง ตอนอยู่บาเยิร์นนี่โพลดี้ตอนยิงเข้าสักลูกนี่แทบจะกราบเป็นนักเตะเทวดาเลย แต่นอกนั้นสากลงจ้า ส่วนชไวนี่ฟอร์มลุ่มๆดอนตลอด ยิงไกลแรง แต่ไม่ค่อยเข้าเป้า แถมเป็นปีกซ้ายที่อืดมาก แต่ไอ้ทั้งหมดที่ว่ามานี่ พอมาเล่นในทีมชาติแทบจะเป็นคนละคน คือไอ้คำว่าเล่นเข้าระบบนี่ อยากให้คนชอบแขวะมาดูสองคนนี้ตอนเล่นทีมชาติเยอรมันครับ นี่แหละตัวอย่างของเล่นเข้าระบบทีมชาติจริงๆ ก่อนจะมีพวก นอยเออร์ โอซิล มุลเลอร์ บัวเต็ง โครส พวกนี้เป็นรุ่น 2-3 ตามมาติดๆทีหลัง


คือจะสื่อว่า สมัยนั้นคลิ้นซี่โดนถล่มเยอะครับ ผมมองว่าหนักกว่าซิโก้ตอนนี้อีก เพราะพวกสโมสรใหญ่ กระทั่งเดเอฟเบ แทบจะไม่มีเข้าข้างแกเลย ขนาดคนใหญ่สุดอย่างเบคเคนบาวเออร์ก็ออกมาว่าแก พวกขั้วบาเยิร์นนี่สับแกเละครับ โดยเฉพาะเฮอเนส เรียกว่าเขากะว่าจบบอลโลก 2006 นี่สมาคมเอาแกออกแน่ๆ แล้วแกก็ตั้งใจว่าจะไปอยู่แล้วเหมือนกัน แล้วผลงานอุ่นเครื่องต่างๆไม่ค่อยดีเท่าไหร่ด้วย เรียกว่าบางนัดนี่เน่าด้วยซ้ำ แต่ปรากฏว่าระหว่างจบบอลโลก ผลงานมันออกมาดีทะลุปล้องเกินคาด แถมบอลเยอรมันเล่นสนุกที่สุดในรอบไม่รู้กี่สิบปี ตอนหลังพวกดังๆหลายๆคนเลยเงียบไป กลายเป็นมีกระแสตีกลับอยากให้แกอยู่ต่อ แต่คลิ้นซี่แกเบื่อการเมืองในวงการลูกหนังเยอรมันเลยไม่เอาแล้ว ไปอยุ่อเมริกาดีกว่า แล้วกลายเป็นว่าประวัติศาสตร์ลูกหนังเยอรมันก็บันทึกว่า แกกลายเป็นคนปฏิรูปฟุตบอลเยอรมันให้กลับมายิ่งใหญ่ ทั้งๆที่ถ้าเอาความสามารถด้านแท็คติคแกค่อนข้างพื้นๆ ต้องอาศัยเลิฟช่วยเยอะ แต่ที่คลิ้นซี่เด่นคือ บารมี ทัศนคติด้านบวก การกระตุ้นนักเนะ การเน้นวินัย เน้นความฟิตมากถึงมากๆอย่างไม่เคยมีมาก่อน และที่สำคัญคือแนวคิดเรื่องฟุตบอลเชิงรุกที่ทำให้พวกโค้ชกับคนในวงการหน้าใหม่ๆหนุนแกมากกว่าหน้าเก่าๆ



อ่านดูแล้ว รู้สึกว่าคล้ายๆกันไหมครับ เพียงแต่ว่าเปลี่ยนจากระดับความคาดหวังของทีมชาติเท่านั้นเอง แต่คลิ้นซี่แกติสต์กว่า บวกกับพวกเบิ้มๆในเยอรมันหลายคนไม่ชอบแกจริงๆ แกเลยไปเลย ส่วนแฟนๆเยอรมันถึงจะเสียดายตอนนั้น แต่เผอิญตัวแทนอย่างเลิฟทำได้ดีกว่า แล้วอีกข้อคือ คลิ้นซี่ประสบการณ์คุมทีมโคตรน้อยตอนที่มาคุมทีมชาติ (ซิโกจะยังไงก็มีประสบการณ์ทำชลบุรีบินสูงอยู่พักนึง) คนเขาเลยมองว่าคลิ้นซี่คุมต่อไปก็คงพัฒนายาก เพราะถ้าคุณคิดว่าซิโกดื้อรั้น มีระบบลูกรัก จะบอกว่าคลิ้นซี่นี่หนักกว่าอีกครับ อีโก้ตัวพ่อเลย แถมที่หนักมากๆคือ ปากหมามาก โดนใครด่ามาแกด่ากลับ ถอนหงอกตำนานอย่างเซป ไมเออร์ก็ทำมาแล้ว ลุงไมเออร์แกถึงขนาดประกาศจะไม่กลับไปช่วยทีมชาติถ้าคลิ้นซี่ยังคุมทีมแล้วไม่ใช้คาห์นตัวจริง

เรื่องการวางตัวสัมภาษณ์สื่อนี่ เลิฟเบากว่าล้านปีแสง ก็เป็นอีกสาเหตุว่าทำไมคนเยอรมันไม่ค่อยบ่นเลิฟ จนแกคุมทีมชาติมาจะ12ปีเข้าไปแล้ว ทั้งๆที่คอนตกรอบยูโร2012นี่ก็มีกระแสให้แกออกเหมือนกันนะ ข้ออ่างเดียวกันกับของเราเลยครับคือ "ทำเรื่องเดิมๆก็จะได้แบบเดิม" คือเลิฟแค่พาทีมเฉียดถ้วยแชมป์ ไม่ได้สักที แต่ยังดีที่เดเอฟเบอดทนรอ เพราะเห็นว่าผลงานในสนามโอเคอยู่ เยอรมันแพ้ตกรอบก็เพราะเจอเก่งๆสุดยอดอย่างสเปน อิตาลีเท่านั้นเอง เขาก็เลยมองว่า เออ. ถ้าแพ้ตกรอบเพราะพวกนี้ แต่สไตล์และระบบการเล่นชัดเจน ไม่อิงยึดติดกับสตาร์เกินไป มันยังใช้ได้ดี เล่นสนุก งั้นก็คุมต่อเลย กลัวว่าถ้าเปลี่ยนแล้วจะเสียหายมากกว่าดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่