ทำอัปปนาสมาธิได้ก็ทำ ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าฝืน มันจะกลายเป็นอัปลักษณ์สมาธิ


ประมวลธรรมเทศนา 2 (หน้า 74) - ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
http://media.dhamma.com/pramote/books/Pramountam2.pdf
http://ia600306.us.archive.org/10/items/pramote_cd_25/510628.mp3




อมยิ้ม19
......หน้าตาแบบพวกเราเข้าฌานยาก  หน้าตาฟุ้งซ่าน ฯลฯ  
http://ppantip.com/topic/35536132




อมยิ้ม31
คนไหนทำสมถะได้ก็ทำไป ทำสมถะแล้วอย่าติดในความสงบ
http://ppantip.com/topic/35922973





อมยิ้ม31
ในสมัยครูบาอาจารย์นั้น ท่านจะใช้สมาธินำปัญญามาก เพราะชีวิตท่านไม่มีความเร่งร้อนอะไร คนสมัยก่อนปีหนึ่งทำนา
ก็รอเวลาไปเกี่ยวข้าว ข้าวสุกก็ไปเกี่ยวข้าว
ชีวิตของพวกเราทุกวันนี้มีแต่ความเร่าร้อนรีบร้อนตลอดเวลา หาอยู่หากินกัน
วุ่นวายตลอดเวลา เราจะเอาเวลาที่ไหน เราจะเอากำลังใจที่ไหน มานั่งสมาธินานๆ ให้จิตมีความสุขความสงบ
เพราะฉะนั้นกรรมฐานนั่งสมาธิมากนี้ ไม่เหมาะกับคนยุคเราแล้ว แต่ยังเหมาะกับคนบางคนที่เขาทำได้
เหมาะกับบางคน


เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่สิ่งที่เราจะทำลายไปนะ ธรรมะของพระพุทธเจ้าจะต้องรักษาไว้ให้ครบเลย จริตนิสัยของคนไม่เหมือนกัน
ยกตัวอย่างคนรุ่นเรา เป็นพวกคิดมากเยอะ เจริญทางวัตถุรุนแรง สิ่งที่มากระทบกับตาหูจมูกลิ้นกายใจรุนแรง
ให้ไปนั่งสมาธิก็ไม่ไหวแล้วนะ คนโบราณไปหว่านข้าวไถนาเสร็จนะ มีเวลาก็นั่งสมาธิได้ทั้งๆวัน นั่งได้หลายๆวัน ไม่มีอะไรทำ
คอยดูนกดูหนูไม่ให้มากินข้าวเท่านั้น เดินดูนก ไล่หนู อะไรอย่างนี้ ก็เจริญสติไปได้นะ ถึงเวลาก็เข้าใต้ต้นไม้นั่งสมาธิ
ชีวิตไม่ได้เร่งร้อนอะไร


- หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช -
http://www.dhammada.net/2013/10/02/23281/






อมยิ้ม31
ทุกวันนี้คนที่ไปเรียนกับหลวงพ่อ ก็มีหลายแบบนะ บางคนหลวงพ่อก็ให้ดูกาย บางคนก็ดูจิต แล้วแต่ แต่ละคนไม่เหมือนกัน
ทางใครทางมัน ถ้าคนไหนเป็นพวกคิดมาก คนส่วนใหญ่ทุกวันนี้เป็นพวกคิดมากนะ คิดมาก ทำมาหากินก็ใช้คิด ๆ เอา
ไม่ได้ทำไร่ทำนาอะไร คนที่คิดมาก ๆ วุ่นวายอยู่กับการคิดนี่ เหมาะที่จะดูจิตใจตนเอง


-หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช-
http://www.dhammada.net/2013/04/01/20505/





อมยิ้ม31
แต่เดิมสังคมเราเป็นสังคมเกษตร คนชนบทเยอะ คนทำไร่ทำนาอะไรอย่างนี้ สิ่งที่เขาปราถนาในชีวิตนะ
คือความสุขความสงบในชีวิต อะไรอย่างนี้ วัน ๆ ไม่อยากจะคิดมาก
จิตใจที่เป็นพวกตัณหาจริตเนี่ย
รักความสุขรักความสงบรักความสบาย อะไรพวกนี้ ต้องพิจารณากาย ต้องมารู้กาย
เพราะฉะนั้นคำสอนรุ่นก่อนที่ครูบาอาจารย์พาทำมาก็คือ ทำความสงบเข้ามา
แล้วมาพิจารณากาย ถูกต้องเหมาะสมกับการปฏิบัติของคนกลุ่มหนึ่งนะ กลุ่มที่เป็นตัณหาจริต


-หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช-
http://www.dhammada.net/2011/07/24/10284/




อมยิ้ม19
[ดูสภาวะ].......ปรมัตถ์ - สภาพธรรม - สภาวธรรม...... ฯลฯ
http://ppantip.com/topic/35680954









อมยิ้ม33
พระพุทธเจ้าสอนว่า...



อมยิ้ม33
ภิกษุบางรูปในธรรมวินัยนี้ เป็นคนโง่  ไม่ฉลาด ไม่รู้จักเขต ไม่เข้าใจที่จะสงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน.......จตุตถฌาน
http://ppantip.com/topic/34618120




อมยิ้ม33
เธอตั้งอยู่ในจตุตถฌานนั้น ย่อมถึงความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย...
- ฌานสูตร -
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=23&A=9041&Z=9145




อมยิ้ม33
....มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่...
http://ppantip.com/topic/34618021



เม่าฝึกจิต


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่