สวัสดีครับชาวพันทิป กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผมที่จะได้มารีวิวทริปการท่องเที่ยวนี้ ก็จะเป็นการเที่ยวแบบ Backpack นั่นก็คือ ไม่เน้นกิน ไม่เน้นที่พัก เน้นลุยเที่ยวอย่างเดียว 555 โดยเฉพาะในการรีวิวนี้น่าจะเหมาะกับชาวมุสลิมนะครับเพราะเป็นการ Backpack แบบฮาลาล ทั้งผมและแฟนเป็นมุสลิมทั้งคู่และแต่งงานกันแล้วนะ (เดี๋ยวจะมีคนคิดว่ายังไม่แต่งแล้วไปเที่ยวด้วยกันได้ไง)
    
       ขอเกริ่นเรื่อง Halal Backpack สักนิดนะครับ
    การ Backpack แบบฮาลาลคืออะไร คนต่างศาสนาอาจจะยังไม่เข้าใจจุดนี้สักเท่าไรนะครับ ผมจะอธิบายง่ายๆละกันนะครับ ที่รู้ๆกันอยู่นั่นก็คือศาสนาอิสลามเนี่ยค่อนข้างจะเคร่งครัดในเรื่องของหลักการมากอย่างเช่น ใน 1 วันเราต้องละหมาดให้ครบ 5  เวลาห้ามขาดถ้าขาดเป็นบาป ถึงแม้จะไปเที่ยวก็ต้องละหมาดให้ครบ อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญคือ อาหารการกิน ไม่ใช่เฉพาะห้ามกินหมูอย่างเดียวนะ ไก่หรือเนื้อที่ไม่ใช่มุสลิมเชือดก็ไม่สามารถกินได้นะครับ เวลาไปเที่ยวต่างประเทศที่ไม่ค่อยมีชาวมุสลิมจึงค่อนข้างลำบากในการหาของกิน
    ในกระทู้นี้ผมจะมารีวิวการ Backpack เที่ยวฮ่องกง + มาเก๊า แบบไม่ขาดละหมาดและกินอาหารฮาล้าลทั้งทริป และที่สำคัญคือ ประหยัดมาก!!! น่าจะตรงกับคอนเซปต์ของ backpack นะ 555
      
       ผมจะบอกแผนคร่าวๆก่อนนะครับว่าแต่ละวันไปเที่ยวที่ไหนบ้าง
วันที่ 6 ธันวาคม 2559 (ถึงสนามบินฮ่องกง 7.30 น. เวลาฮ่องกง)
สนามบิน >>>ขึ้นกระเช้านองปิง (Ngong ping 360) >>> เข้าเช็คอินที่พักแถวTsim sha tsui >>> ดู Symphony of light (จริงๆจะไปเดินเล่น Avenue of star แต่เขาปิดปรับปรุง) >>> ช็อปปิ้งแถว Mongkok >>> กลับที่พัก
วันที่ 7 ธันวาคม 2559
สวนสนุก Oceanpark  >>> ขึ้นไปจุดชมวิว The peak โดยนั่งรถราง peak tram >>> กลับที่พัก
วันที่ 8 ธันวาคม 2559 (มาเก๊า)
นั่งเรือจากฝั่งเกาลูนไปท่าเรือมาเก๊า >>>The venetian >>> City of dreams >>> Macau tower >>> วัดอาม่า >>> เดินเล่น Senado square >>> ซากประตูโบสถ์ St.Paul >>> ถ่ายรูปเล่นกับแสงไฟยามค่ำคืนของมาเก๊า >>> นั่งเรือกลับจากท่าเรือไทปาไปลงฝั่งเกาลูน >>> เดินเล่นห้างแถว Tsim sha tsui >>> ตลาด Temple street night market แถว Jordan>>> กลับที่พัก
วันที่ 9 ธันวาคม 2559
หาด Repulse bay >>> ช็อปปิ้งแถว Tsim sha tsui ซื้อของฝาก >>> แวะช็อปห้าง Citygate outlet >>> กลับบ้านของสองเรา

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอดทั้งทริป (1 คน)
1. ตั๋วเครื่องบิน(ไป-กลับ)+ที่พัก(3 คืน)     8,162       บาท
2. ตั๋วขึ้นกระเช้านองปิงแบบคริสตัล             900       บาท
3. ตั๋วรถราง peak tram + sky terrace        310       บาท
4. ตั๋ว Ocean park                               1,450       บาท
5. บัตร Octopus                                     690       บาท  (150 HKD ใช้ได้ 100 HKDค่าบัตร 50 HKD , 1 HKD = 4.6 บาท)
6. ค่าเรือไป-กลับมาเก๊า                          3,312       บาท
7. ค่าของกิน                                          920       บาท
                          
                          ***รวมทั้งหมด        15,744     บาท  ไม่รวมของฝากครับ
         ** ตั๋วขึ้นกระเช้านองปิง, ตั๋วรถราง peak tram + sky terrace, ตั๋ว Ocean park ซื้อจากร้าน Hongkong fanclub ตรงสถานีแอร์พอร์ตลิ้งค์สุวรรณภูมิครับ อยู่ใกล้ๆกับร้าน Superrich เขียว
         ** ส่วนการเดินทางต่างๆ ผมใช้บัตร Octopus คือหักจากบัตรที่เติมมา เลยไม่ได้เขียนค่าใช้จ่ายให้ดู แต่เดี๋ยวผมจะบอกรายละเอียดทีหลังครับ

การจองตั๋วเครื่องบิน+ที่พัก
    ผมได้จองไว้ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม จองกับทางเว็บ www.expedia.com จองแบบเที่ยวบินแบบไปกลับ+ที่พัก ได้สายการบิน Hongkong airline และพักที่ Bohol hotel ในแถว Tsim sha tsui ฝั่งเกาลูน เดินทางในวันที่ 6 ธันวาคม 2559 จองล่วงหน้า 3 เดือน เรียกว่ากว่าจะได้ไปนี่รอกันจนหายตื่นเต้นกันไปเลยครับ

เตรียมตัวกันก่อนออกเดินทาง
    - อย่างแรกเลยผมได้เตรียมอาหารซองที่มีตราฮาลาลไปเยอะพอสมควรก็จะมี กะเพราไก่ ไก่กระเทียม แกงเขียวหวานและข้าวสวย 2 ถุงไว้กินมื้อเที่ยงตอนไปถึง ผมซื้อเผื่อไว้ก่อนเพราะไม่รู้ว่าที่ฮ่องกงจะมีอะไรที่เรากินได้รึเปล่าและอีกอย่างคือประหยัดด้วยเพราะอาหารบ้านเค้าแพงกว่าไทยเราเยอะ เราแค่ซื้อข้าวเปล่ามากินกับกับข้าวของเราแค่นี้ก็อยู่ได้ละ และก็มีขนมปังโฮลวีต แยมสตรอเบอรี่ ขนมกรอบๆทั้งหลาย เรียกได้ว่าแทบจะไม่ต้องไปซื้อขนมกินที่นู่นกันเลย มีน้ำเปล่าด้วยนะขวดใหญ่อีก 2 ขวดจะเรียกงกหรือว่าประหยัดก็แล้วแต่ 555 ก็นี่มันทริป Backpack นี่หว่าอะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัดดิจริงป่ะ (ในรูปข้างล่างนี่คือใกล้จะหมดแล้วนะ ตอนแรกเยอะกว่านี้อีก )

                                  

         - ต่อจากเตรียมของกินแล้ว ผมก็จะมาดูว่าบริเวณไหนของฮ่องกงที่มีร้านอาหารมุสลิมและมัสยิดบ้าง เผื่อจะได้ไปแวะกินร้านอาหารดีๆสักมื้อนึงและก็หาที่ละหมาดด้วย เวลาไปเที่ยวไหนจะได้วางแผนถูกเพื่อไม่ให้ขาดละหมาดและรูปด้านล่างก็คือ มัสยิดเกาลูน อยู่ใกล้ๆกับที่พักเลยเดินสักแปปก็ถึงแล้ว

                          

        - วางแผนค่าใช้จ่ายในทริปนี้ ผมก็ได้ประมาณดูว่าจะต้องใช้เงินประมาณเท่าไรและก็ไปแลกเงินที่ Superrich สาขา Paradise park ศรีนครินทร์ แลกเงินไทยไป 20,000 บาท อัตราแลกเปลี่ยนตอนนั้นคือ 1 เหรียญฮ่องกง = 4.6 บาท เอาพาสปอร์ตไปด้วยนะครับเวลาแลกเงิน

         - Sim card ผมเลือกใช้ sim2fly ของ AIS ทีแรกว่าจะไปซื้อซิมที่นู่นใช้นั่นแหละ แต่ต้องไปมาเก๊าด้วย ไม่แน่ใจว่าซิมฮ่องกงจะใช้ที่มาเก๊าได้ไหมก็เลยซื้อจากไทยไปเลย sim2fly สามารถใช้ได้ทั้งฮ่องกงและมาเก๊าเลยครับ

      ภาพจาก https://www.google.co.th/search?q=sim2fly&espv=2&biw=1366&bih=613&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=0ahUKEwig7ZOw_4zRAhXMuo8KHYT_BVEQ_AUIBigB#imgrc=t5AH67q8nPaXMM%3A
        
       - หัวปลั๊กตัวแปลง ต้องเตรียมไปด้วยนะครับเพราะช่องเสียบไม่เหมือนไทยเราหรือจะไปซื้อที่นู่นก็ได้ มีขายอยู่ตลอดทางประมาณ 10 เหรียญราคาไม่แพงครับ ผมเตรียมไปแต่ว่ามันพังครับเลยต้องไปซื้อใหม่

       ภาพจาก https://www.google.co.th/search?q=sim2fly&espv=2&biw=1366&bih=613&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=0ahUKEwig7ZOw_4zRAhXMuo8KHYT_BVEQ_AUIBigB#tbm=isch&q=adapter+plug&imgrc=RIhjeWK0GE9cCM%3A


มาเริ่มออกเดินทางกันเลย
    ไฟล์ทบินนี้จะออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ 4.00 น.ของวันที่ 6 ธันวาคม ก็เลยต้องไปตั้งแต่คืนวันที่ 5 ธันวาคมตอน 5 ทุ่ม ผมได้ทำการเช็คอินล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์ไปก่อนแล้วไปที่เคาน์เตอร์สายการบิน Hongkong airline เอา Boarding pass ที่ปริ้นมาให้พนักงานโหลดกระเป๋าแล้วก็เข้าไปนอนรอที่ gate เลยปรากฏว่านอนไม่หลับเลยครับ เสียงประกาศดังตลอดจนกระทั่งออกเดินทางเพิ่งได้หลับบนเครื่องบินประมาณชั่วโมงกว่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาทีถึงสนามบินฮ่องกงแล้วครับ
         ตม.ฮ่องกงผ่านสบายครับ ออกจากตม.มาผมกับแฟนก็หาห้องละหมาดเพื่อที่จะละหมาดในเวลาเช้า จริงๆหมดเวลาละหมาดไปแล้วแต่เนื่องจากอยู่บนเครื่องบิน ละหมาดไม่ได้ก็เลยต้องมาละหมาดใช้ ถามหาห้องละหมาดจากประชาสัมพันธ์ เดินไปมาก็เจอจนได้สบายใจละ
      สังเกตได้จากเซเว่นครับ ห้องละหมาดจะอยู่ข้างๆเลย

          ห้องละหมาดสะอาด ดูดีครับ


มีที่อาบน้ำละหมาดให้ด้วย สะดวกมาก มีก๊อกสำหรับล้างเท้าด้วย


       ละหมาดกันเสร็จแล้วรีบออกเดินทางกันต่อเลยครับ ก่อนออกจากสนามบินผมก็ไปซื้อบัตร Octopus card ก่อนในราคา 150 HKD เพื่อเอาไว้ใช้ในการเดินทางต่างๆ เช่น MTR, รถบัส, เรือข้ามฟากยังใช้ได้เลยสะดวกจริงๆ อยากให้ประเทศไทยมีแบบนี้บ้างจัง
    หน้าตา Octopus card จะเป็นแบบนี้ครับ

      ภาพจาก https://www.google.co.th/search?q=sim2fly&espv=2&biw=1366&bih=613&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=0ahUKEwig7ZOw_4zRAhXMuo8KHYT_BVEQ_AUIBigB#tbm=isch&q=octopus+card&imgrc=9uxPmH4BOb7_yM%3A

       หลังจากได้บัตร Octopus card แล้ว ถึงเวลาที่จะต้องลุยทำเวลาเพื่อที่จะไป กระเช้านองปิง ให้เร็วที่สุด ไปก่อนเวลาเปิดยิ่งดี เพราะจากที่อ่านรีวิวมากระเช้านองปิง คนจะเยอะมาก

      หน้าที่เราตอนนี้คือ หาทางที่จะไปป้ายรถบัสให้ได้ ก็อาศัยป้ายบอกทางในสนามบินเอา เดินตามทางไปเรื่อยๆก็จะเจอกับป้ายนี้

       เป็นตารางการเดินทางของรถบัสในฮ่องกง เราจะไปกระเช้านองปิง ต้องขึ้นรถบัสสาย S1 จากสนามบินไปลงสถานี MTR Tung chung จะมีห้าง Citygate outlet อยู่ใกล้ๆกันเลย
       ใช้เวลานั่งสัก 20 นาทีได้ก็มาลงป้ายนี้ จริงๆต้องไปลงตรงห้างเลยนี่ลงมากันก่อนกลัวเลย แต่เดินไปข้างหน้าไม่ไกลก็ถึงห้าง Citygate outlet แล้ว

       ถึงห้าง Citygate outlet ก็รีบเอากระเป๋าไปฝากเลยเพราะมันจะเต็ม ที่ฝากจะอยู่ชั้นล่างๆ ฝากได้ 2 ชม. 20 HKD ใช้บัตร Octopus ได้เลยครับ

       หลังจากที่กดฝากเสร็จก็จะได้สลิปแบบนี้มา เก็บดีๆนะครับอย่าเพิ่งทิ้ง เพราะจะใช้อีกทีตอนมารับกระเป๋าคืน

       ฝากกระเป๋ากันเสร็จ ถึงเวลาที่จะได้ไปขึ้นกระเช้านองปิงกันแล้ว สถานีกระเช้านองปิงอยู่ใกล้ๆกับห้าง Citygate outlet เลยครับไม่มีทางที่จะหาไม่เจอ พอไปถึงคนเยอะพอสมควรเลยครับต้องต่อแถวประมาณครึ่งชั่วโมง นี่คิดในใจนะขนาดเป็นวันธรรมดาและก็มาถึงเช้าละคนยังเยอะเลยและซื้อตั๋วมาจากไทยแล้วด้วย ไม่อยากจะคิดเลยว่าตอนวันหยุดจะเป็นไง
    ตั๋วกระเช้านองปิงแบบคริสตัล พื้นจะใสมองเห็นด้านล่างได้ ซื้อจากไทยมาเลย

       คนเยอะอยู่นะ

       กระเช้ามาแล้วววว
       พื้นใส เห็นด้านล่างเลย
       นั่งมาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้วครับ หมู่บ้านนองปิง