สวัสดีครับ อันนี้น้องไฟไง 😀 เมื่อปลายปีที่แล้วมีความนึกสนุกอยากเปลี่ยนลุคตัวเอง เลยจัดแจงกระทำการกัดสีผม ผลที่ได้คือ
“แซ่บลื่มมมม !!”
นี่น้องไง ... นี่น้องเองงงง 😀
*** ขอฝาก Blog ของน้องไฟไว้ในอ้อมอกอ้อมใจลุงป้าน้าอาด้วยนะคร้าบ
***
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Facebook : https://www.facebook.com/FirexJourney
Instagram : https://www.instagram.com/firexjourney
=====
อารัมภบทนิดนึง … แต่อยากให้อ่านมาก ๆ เลยครับ
ฟี้ดแบ็คจากการเปลี่ยนลุคครั้งนี้ของน้องเป็นไปในทิศทางที่ดีครับ … ส่งผลให้น้องติดอกติดใจการกัดสีผมให้ขาวโพลนมากเป็นระยะเวลานึงเลยทีเดียว ชนิดที่ว่าถ้าโคนผมน้องไฟงอกขึ้นมาซักเซน 2 เซนนี่จะอยากไปเติมโคนมาก ช่างทำผมก็บอกเหมือนกันว่าหนังหัวเราไม่แดงไม่พังไม่เป็นอะไรเลยนะ บางคนนี่กัดจน “หัวถลอก” แต่นี่ยังดูโอเคอยู่เลย … น้องเองก็ย่ามใจ กัดซ้ำกัดซากอยู่ร่วม ๆ 3 ครั้ง ในระยะเวลาประมาณ 4 เดือน !! และแน่นอนว่าการกัดสีผมเป็นการทำเคมีที่ส่งผลรุนแรงสูงสุดต่อหนังศีรษะเป็นอย่างยิ่ง … ผลเสียที่เกิดจากการกัดสีผมครั้งที่ 3 คือ “หนังหัวถลอกจากผงกัดสี” เป็นแผลเหวอะมากครับ !! เจ็บมาก และมึนสารเคมีสุด ๆ !! … ช่างทำผมถึงขั้นตกใจกลัวทั้ง ๆ ที่ทิ้งไว้ไม่ถึง 10 นาทีดีด้วยซ้ำ … ถือเป็นผลพวงของการกัดสีที่รุนแรงจนน้องไฟเข็ดขยาดจากการทำเคมีเส้นผมทุกชนิดมาเกือบ ๆ ปี สภาพผมนี่ไม่ต้องพูดถึง … กลายเป็นวุ้นเมื่อโดนน้ำ พันเป็นสังกะตังเมื่อผมแห้ง คือไม่มีอะไรดีเลยครับ
หนังหัวเหวอะเบอร์นี้เลยจ้า ฮือออ
เมื่อหนังหัวพังขนาดหนัก งานซ่อม ปะ ชุน ก็ต้องมาขนานใหญ่ … ทั้งทายา ทั้งเปลี่ยนแชมพู จนแผลเริ่มดีขึ้น แต่ปัญหาต่อไปที่เกิดขึ้นก็คือ
“ผมดันร่วงเป็นกระจุก” … ในที่นี้คือ
“ร่วงเป็นกระจุกจริง ๆ ครับ” ร่วงมาเป็นกำมือ ร่วงจนน้องเครียด ร่วงจนต้องตัดผมสั้น เล็มไปเรื่อย ๆ จนหัวแทบโกร๋น … สาเหตุหลักจากการปรึกษาช่างทำผม คือ “หนังศีรษะเราอ่อนแอไม่ไหวแล้ว” ต้องบำรุงดูแลแบบจริงจังหลังทำลายมันมาเกือบ ๆ ครึ่งปี รวบรวมปัญหาที่มีได้ดังนี้ครับ
- หนังหัวเป็นแผลเพิ่งหาย มีอาการแดง เจ็บแปลบ ๆ เวลาลากมือผ่าน
- ผมร่วง หลุดเป็นหย่อม ๆ
- ผมเสียมาก แห้งพันกันเป็นสังกะตัง ถ้าเปียกจะขาดติดมือแม้แค่สางผมเบา ๆ ก็ตาม
ช่วงนั้นซื้อเกือบทุกอย่างที่เพื่อน ๆ รีวิวกันว่าดีว่าช่วย เปลี่ยนทั้งแชมพู คอนดิชันเนอร์ ทรีตเมนต์ วิตามิน คือทำทุกอย่าง ลองนู่นลองนี่ จนสุดท้ายได้ Combination 3 ไอเทมที่น้องไฟใช้แล้วได้ผลดีต่อเส้นผมและหนังหัว ตอนนี้สภาพดีขึ้นมากจนเรียกว่าสุขภาพดีเพียงพอจะทำลายได้อีกรอบแล้วครับ … ฮืออออออ
พลิกการ์ดป้องกัน !!
- คอมบิเนชั่นนี้เป็นการทดลองใช้ไอเทมเหล่านี้เป็นระยะเวลาต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงประมาณเดือนสิงหาคม 2559 – ปัจจุบันนี้ (ธันวาคม 2559) ก็ยังใช้ครับ ความเห็นส่วนตัวพบว่าช่วยลดปัญหาน่ากังวลข้างต้นที่เกิดขึ้นกับน้องได้ดีมากครับ
- แน่นอนว่าไอเทมทุกตัวอาจใช้ได้ผลดีงามเลอค่ากับน้อง แต่อาจไม่ได้ผลน่าประทับใจเหมือนที่น้องรู้สึกกับพี่ ๆ เพื่อน ๆ … ขอให้การแชร์นี้เป็นการแชร์ทางเลือกเผื่อเพื่อน ๆ ที่ประสบปัญหาเดียวกันจะได้ลองนำไปใช้กันดูแล้วกันนะครับ
- สุดท้ายนี้ ด่าน้องได้ แต่ขอ LINE น้องด้วยนะ 😀
=====
หมวดแชมพูและครีมนวดผม
Zenze Herbal Shampoo : แชมพูน้ำมันมะพร้าวและข้าวหอมนิล
คำเคลม : เหมาะกับผมทำสี ผมดัด ผมย้อม ผมแห้งเสีย และลดผมหงอกก่อนวัย มีส่วนผสมเคมีเล็กน้อยเช่น Phenoxythanol และ Lodopropynyl Butylcarbamate แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเฉพาะทางแนะนำให้ใช้ได้เนื่องจากก่อให้เกิดอาการแพ้น้อยมาก
อันนี้เกิดจากที่คุยกับช่างทำผมว่าหัวเราโดนเคมีกัดกร่อนมาเยอะเกินไปแล้ว ต้องพยายามหาแชมพูอ่อน ๆ แชมพูสมุนไพร อะไรที่ Less Chemical มาใช้แทนพวกลักษณะครีมต่าง ๆ จะดีมาก … ซึ่งแชมพูตัวนี้ได้ไปรู้จักครั้งแรกในเน็ต เปิดเจอใน Facebook Page นี่แหละครับ โดยเค้าเคลมว่าแพทย์ผิวหนังแนะนำให้ใช้ และสูตรของแชมพูได้มาจากโครงการพระราชดำริสวนป่าสมุนไพร จากตำราสมุนไพรของสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ … ในใจก็นึกครึ้มว่าท่านทรงเป็นถึงพระถึงเจ้า ทรงเป็นพระสังฆราชด้วย พระต้องไม่หลอกน้องแน่ ๆ ฮืออออ
ตัวแชมพูเป็นเนื้อใส ๆ คล้าย ๆ กับพวกแชมพูเด็ก มีกลิ่นหอมของน้ำมันมะพร้าวแต่ก็ไม่ได้เข้มข้นจนน่ากลัวครับ (สำหรับน้อง แชมพูเด็กใช้แล้วผมพันกันหนักมาก ส่อให้เกิดการขาดร่วงได้ง่ายขึ้นอีก) รวมทั้งสูตรแชมพูพูดถึงเรื่องของสมุนไพร มากกว่าการเคลมชื่อสารเคมีแฟนซีที่น้องควรหลีกเลี่ยงที่สุดในช่วงนี้ ตอนสระให้ Feeling สะอาดสุด ๆ ไม่ทิ้งความมัน ความลื่นเอาไว้แบบที่หลาย ๆ แบรนด์เป็น คือใช้เพื่อการสระผมให้สะอาดแบบประนีประนอมได้ถูกใจน้องมากครับ รวมทั้งหลังสระผมน้องไม่พันกันจนต้องสางแล้วหลุดร่วง ถือว่าให้ผ่าน 3 ตัวเลยครับ !!
Zenze Herbal Shampoo : ครีมนวดผมอัญชันกลีบซ้อน น้ำมันมะกรูด น้ำมันมะกอก
คำเคลม : ปรับสภาพผมให้นุ่ม ชุ่มชื่น เหมาะกับผมทำสี และเหมาะกับทุกสภาพผม ผมแตกปลายนี่ใช้ดีเชียว มีสารเคมีบางตัวผสมเหมือนตัวแชมพูซึ่งก่อให้เกิดอาการแพ้น้อยมาก ๆ แพทย์ผิวหนังจึงแนะนำให้ใช้ได้
ตัวนี้เป็นครีมนวดผมที่เนื้อไม่หนักเหมือนหลาย ๆ ยี่ห้อครับ เนื้อคล้าย ๆ กับครีมบำรุงผิวประเภทน้ำนมมากกว่า คือไม่ได้แว๊กซ์ ไม่ได้เคลือบซะจนผมลีบแบน ออกแนวปรับสภาพผมที่ถูกสระสะอาดให้นุ่มลื่นขึ้น เลเวลความนุ่มลื่นอยู่ที่ระดับลื่นปกติ ไม่ได้ลื่นปรื้ดแบบไอโฟนอะไรแบบนั้น ซึ่งสำหรับหัวพัง ๆ ของน้องไฟ สภาวะปกติคือเรื่องดีมากเลยครับ !!
ตัวนี้กลิ่นหอมดอกไม้ครับ ไม่รู้เหมือนกันว่ากลิ่นอัญชันเป็นยังไง แต่หลังใช้ไม่ได้เป็นอารมณ์ “ผมหอมจังเล้ยยยย !!” (แบบนั้นไม่ตรงวัตถุประสงค์น้องเท่าไหร่ อันตรายว่าน้ำหอมจะเยอะ) … แต่ให้ Feeling ผมนุ่ม สะอาด ไม่ชี้ฟู แต่ก็ไม่ลีบแบน และที่สำคัญคือ ช่วยบำรุงหนังศีรษะน้องได้ดีมากครับ หนังหัวสภาพโอเคขึ้น ไม่มัน ไม่แห้งด้วยครับ เลิฟ <3
ซึ่งหลังจากที่เส้นผมและหนังหัวสภาพโอเคขึ้นมากแล้ว … น้องไฟเป็นเด็กที่มีสภาพผมตรงสุดฤทธิ์ การใช้ครีมนวดบางทีจะยิ่งทำให้เซ็ตผมแบบมีวอลุ่มได้ยากขึ้นมากอีก 50 เลเวลคุ้กกี้รัน … แต่ด้วยความที่ครีมนวดอัญชันอันนี้ไม่ได้เป็นเนื้อครีมหนัก ๆ ทำให้ไม่ส่งผลต่อการเซ็ตผมสูงของน้องไฟเลยครับ !! … เหมือนเป็นครีมนวดอันแรกที่สามารถใช้ได้ทุกวันโดยที่หัวไม่หลิม เซ็ตผมไม่ยาก ตัวนี้ประทับใจเลยครับ น้องแนะนำ 😀
=====
หมวดวิตามิน อาหารเสริมเพื่อเส้นผม
Mega : Regenez อาหารเสริมเพื่อเส้นผม
อันนี้เกิดจากการปรึกษากับพี่นุ้ย Sononui เรื่องหนังหัวพัง ผมพัง ทุกอย่างพัง !! … พี่นุ้ยเลยแนะนำให้ลองกินอาหารเสริมตัวนี้ดูครับ … คือการสระ การนวด เป็นเหมือนการบำรุงจากภายนอก แต่ความสวย เราควรสวยจากข้างในออกมาด้วย (เนี่ยยยยย !!)
อาหารเสริมตัวนี้เป็นแคปซูลที่มีส่วนประกอบของสังกะสี และไบโอติน (หรือวิตามิน บี 7 นี่แหละครับ) … ซึ่งสารอาหาร 2 ตัวนี้ช่วยเรื่องการบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ลดอาการผมร่วง ซึ่งเป็นปัญหาที่น้องไฟกังวลที่สุด !! วิธีการรับประทานคือทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 – 2 ครั้ง … น้องไฟทานต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ก็เริ่มเห็นผลครับ ผมร่วงน้อยลงแบบเห็นได้ชัด รวมทั้งผมยาวเร็วขึ้นด้วยครับ ถือเป็นการบำรุงจากภายในจริงจัง
ตอนนี้น้องไฟไม่ได้ทานตัวนี้ต่อเนื่องนะครับ … เพราะนอกเหนือจากสังกะสีแล้ว อาหารเสริมตัวนี้มีส่วนประกอบของซิลิก้า, ทองแดง และเหล็ก ซึ่งเป็นโลหะหนักประกอบในส่วนผสมด้วย ซึ่งการทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของธาตุโลหะหนักเป็นระยะเวลานานไม่ส่งผลดีต่อร่างกายเลยครับ (ไม่เหมือนวิตามิน ซี อันนี้ทานได้ต่อเนื่อง) ดังนั้น ทานซักกล่อง 2 กล่องแล้วเว้นระยะไปซักพักใหญ่ ๆ ดีกว่าครับ
=====
หมวดทรีตเมนต์ครีม
Carring : Treatment Original สำหรับทุกสภาพผม
คำเคลม : เหมาะกับผมเสียสุด ๆ มีคอลลาเจนและวิตามิน E บำรุงล้ำลึกถึงโครงสร้างผม ทำให้ผมหนา นุ่ม ลื่น ไม่ลีบแบน และจัดทรงง่าย
สูตรหมักผมที่ติดบ้านน้องไฟมาตั้งแต่สมัยบรรพกาลแล้วล่ะครับ แม่กับพี่สาวชอบใช้กันมาก … คือเห็นมาตลอดในห้องน้ำ แต่ไม่เคยหยิบมาใช้เป็นเรื่องเป็นราวเลยในช่วงก่อนการกัดสีผมและเกิดความวิบัติขึ้น … รวมทั้งในพันทิป ในจีบัน ในเว็บบอร์ดความงามยืนยันว่าดีมาก และมันก็ดีมากจริง ๆ ครับบบบบ !! … อันนี้เป็นตัวที่น้องไฟใช้นวดปลายผม บริเวณที่ความวุ้นบรรลัยยังติดหัวอยู่ครับ ส่วนตัวคิดว่าดีกว่าครีมหมักผมแบรนด์อินเตอร์ทุกแบรนด์ที่มีขายใน Drug Store เลย !! … แต่ตัวนี้ใช้แล้วเหมือนแว๊กซ์เคลือบผมแน่นสุดในโลกา !! หนักหัวมาก คำเคลมไม่จริงเลย !! และด้วยความที่มันเคลือบหนาขั้นสุดขนาดนั้น น้องไฟเอาไว้ใช้สัปดาห์ละครั้งสองครั้งครับ … พบว่าช่วยให้เส้นผมเป็นเส้นผมมนุษย์ได้ดีมาก !! ฮือออออ … แต่ก็ไม่เหมาะกับการใช้ช่วงเช้า ช่วงที่ต้องเซ็ตผม เพราะแน่นอนว่า “เซ็ตไม่ขึ้นครับ” เคลือบดีเหลือเกิน ผมนุ่มลื่นมาก ถึงว่าสาว ๆ เลยชอบกันนัก ฮือออออ
ปกติตอนอาบน้ำ น้องเป็นคนชอบสระผมนวดผมให้เสร็จก่อน (นี่คืออธิบายวิธีการอาบน้ำเลยหรอ ? ฮือออ) หลังนวดด้วยครีมนวดตัวบนแล้วก็จะหมักตัวนี้ทิ้งไว้ แล้วก็อาบน้ำนู่นนี่นั่นให้เสร็จเรียบร้อย คือเหมือนทิ้งเอาไว้ให้มันหมักวุ้นเราให้เป็นผมนี่แหละ 5 นาที 10 นาทีค่อยล้างออก … เวิร์คดีมากครับ !!
=====
จบแล้วครับ 3 ไอเทมครอบคลุมทุกหมวดการดูแลเส้นผมและหนังหัวที่พังยับเยินของน้องไฟ บำรุงกันจนกลับเข้าสู่สภาพโอเคกันได้ขนาดนี้ หวังว่าแชร์นี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องเส้นผมและหนังศีรษะไม่มากก็น้อยนะครับ 😀
แล้วถ้าเพื่อน ๆ คนไหนมีไอเทมไหนที่ใช้แล้วเวิร์คมากกกกก … อย่าลืมมาแชร์ให้กันฟังตรงคอมเมนต์ด้านล่างนี้ด้วยนะครับ วันนี้ไปล้าววว บุยยยยย !!
=====
ปล. น้องไฟมีกระทู้เรื่องท่องเที่ยวเยอะแยะเลยด้วยครับ 😀 ขอฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจพี่ ๆ ด้วยนะคร้าบบบ <3
เที่ยวเกาหลี : ติวเข้ม 5 ข้อควรรู้ เตรียมตัวรับมือ “ตม.เกาหลี”
http://ppantip.com/topic/35939296
ไปจริง ๆ ล้าววว ... บุยยยย
[CR] 3 ไอเทมซ่อมหนังหัวพัง : กัดสีผมจนหัวถลอก ซ่อมยังไงดี ?? มาดู !!
สวัสดีครับ อันนี้น้องไฟไง 😀 เมื่อปลายปีที่แล้วมีความนึกสนุกอยากเปลี่ยนลุคตัวเอง เลยจัดแจงกระทำการกัดสีผม ผลที่ได้คือ
“แซ่บลื่มมมม !!”
นี่น้องไง ... นี่น้องเองงงง 😀
*** ขอฝาก Blog ของน้องไฟไว้ในอ้อมอกอ้อมใจลุงป้าน้าอาด้วยนะคร้าบ ***
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
=====
อารัมภบทนิดนึง … แต่อยากให้อ่านมาก ๆ เลยครับ
ฟี้ดแบ็คจากการเปลี่ยนลุคครั้งนี้ของน้องเป็นไปในทิศทางที่ดีครับ … ส่งผลให้น้องติดอกติดใจการกัดสีผมให้ขาวโพลนมากเป็นระยะเวลานึงเลยทีเดียว ชนิดที่ว่าถ้าโคนผมน้องไฟงอกขึ้นมาซักเซน 2 เซนนี่จะอยากไปเติมโคนมาก ช่างทำผมก็บอกเหมือนกันว่าหนังหัวเราไม่แดงไม่พังไม่เป็นอะไรเลยนะ บางคนนี่กัดจน “หัวถลอก” แต่นี่ยังดูโอเคอยู่เลย … น้องเองก็ย่ามใจ กัดซ้ำกัดซากอยู่ร่วม ๆ 3 ครั้ง ในระยะเวลาประมาณ 4 เดือน !! และแน่นอนว่าการกัดสีผมเป็นการทำเคมีที่ส่งผลรุนแรงสูงสุดต่อหนังศีรษะเป็นอย่างยิ่ง … ผลเสียที่เกิดจากการกัดสีผมครั้งที่ 3 คือ “หนังหัวถลอกจากผงกัดสี” เป็นแผลเหวอะมากครับ !! เจ็บมาก และมึนสารเคมีสุด ๆ !! … ช่างทำผมถึงขั้นตกใจกลัวทั้ง ๆ ที่ทิ้งไว้ไม่ถึง 10 นาทีดีด้วยซ้ำ … ถือเป็นผลพวงของการกัดสีที่รุนแรงจนน้องไฟเข็ดขยาดจากการทำเคมีเส้นผมทุกชนิดมาเกือบ ๆ ปี สภาพผมนี่ไม่ต้องพูดถึง … กลายเป็นวุ้นเมื่อโดนน้ำ พันเป็นสังกะตังเมื่อผมแห้ง คือไม่มีอะไรดีเลยครับ
หนังหัวเหวอะเบอร์นี้เลยจ้า ฮือออ
เมื่อหนังหัวพังขนาดหนัก งานซ่อม ปะ ชุน ก็ต้องมาขนานใหญ่ … ทั้งทายา ทั้งเปลี่ยนแชมพู จนแผลเริ่มดีขึ้น แต่ปัญหาต่อไปที่เกิดขึ้นก็คือ “ผมดันร่วงเป็นกระจุก” … ในที่นี้คือ “ร่วงเป็นกระจุกจริง ๆ ครับ” ร่วงมาเป็นกำมือ ร่วงจนน้องเครียด ร่วงจนต้องตัดผมสั้น เล็มไปเรื่อย ๆ จนหัวแทบโกร๋น … สาเหตุหลักจากการปรึกษาช่างทำผม คือ “หนังศีรษะเราอ่อนแอไม่ไหวแล้ว” ต้องบำรุงดูแลแบบจริงจังหลังทำลายมันมาเกือบ ๆ ครึ่งปี รวบรวมปัญหาที่มีได้ดังนี้ครับ
- หนังหัวเป็นแผลเพิ่งหาย มีอาการแดง เจ็บแปลบ ๆ เวลาลากมือผ่าน
- ผมร่วง หลุดเป็นหย่อม ๆ
- ผมเสียมาก แห้งพันกันเป็นสังกะตัง ถ้าเปียกจะขาดติดมือแม้แค่สางผมเบา ๆ ก็ตาม
ช่วงนั้นซื้อเกือบทุกอย่างที่เพื่อน ๆ รีวิวกันว่าดีว่าช่วย เปลี่ยนทั้งแชมพู คอนดิชันเนอร์ ทรีตเมนต์ วิตามิน คือทำทุกอย่าง ลองนู่นลองนี่ จนสุดท้ายได้ Combination 3 ไอเทมที่น้องไฟใช้แล้วได้ผลดีต่อเส้นผมและหนังหัว ตอนนี้สภาพดีขึ้นมากจนเรียกว่าสุขภาพดีเพียงพอจะทำลายได้อีกรอบแล้วครับ … ฮืออออออ
พลิกการ์ดป้องกัน !!
- คอมบิเนชั่นนี้เป็นการทดลองใช้ไอเทมเหล่านี้เป็นระยะเวลาต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงประมาณเดือนสิงหาคม 2559 – ปัจจุบันนี้ (ธันวาคม 2559) ก็ยังใช้ครับ ความเห็นส่วนตัวพบว่าช่วยลดปัญหาน่ากังวลข้างต้นที่เกิดขึ้นกับน้องได้ดีมากครับ
- แน่นอนว่าไอเทมทุกตัวอาจใช้ได้ผลดีงามเลอค่ากับน้อง แต่อาจไม่ได้ผลน่าประทับใจเหมือนที่น้องรู้สึกกับพี่ ๆ เพื่อน ๆ … ขอให้การแชร์นี้เป็นการแชร์ทางเลือกเผื่อเพื่อน ๆ ที่ประสบปัญหาเดียวกันจะได้ลองนำไปใช้กันดูแล้วกันนะครับ
- สุดท้ายนี้ ด่าน้องได้ แต่ขอ LINE น้องด้วยนะ 😀
=====
Zenze Herbal Shampoo : แชมพูน้ำมันมะพร้าวและข้าวหอมนิล
อันนี้เกิดจากที่คุยกับช่างทำผมว่าหัวเราโดนเคมีกัดกร่อนมาเยอะเกินไปแล้ว ต้องพยายามหาแชมพูอ่อน ๆ แชมพูสมุนไพร อะไรที่ Less Chemical มาใช้แทนพวกลักษณะครีมต่าง ๆ จะดีมาก … ซึ่งแชมพูตัวนี้ได้ไปรู้จักครั้งแรกในเน็ต เปิดเจอใน Facebook Page นี่แหละครับ โดยเค้าเคลมว่าแพทย์ผิวหนังแนะนำให้ใช้ และสูตรของแชมพูได้มาจากโครงการพระราชดำริสวนป่าสมุนไพร จากตำราสมุนไพรของสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ … ในใจก็นึกครึ้มว่าท่านทรงเป็นถึงพระถึงเจ้า ทรงเป็นพระสังฆราชด้วย พระต้องไม่หลอกน้องแน่ ๆ ฮืออออ
ตัวแชมพูเป็นเนื้อใส ๆ คล้าย ๆ กับพวกแชมพูเด็ก มีกลิ่นหอมของน้ำมันมะพร้าวแต่ก็ไม่ได้เข้มข้นจนน่ากลัวครับ (สำหรับน้อง แชมพูเด็กใช้แล้วผมพันกันหนักมาก ส่อให้เกิดการขาดร่วงได้ง่ายขึ้นอีก) รวมทั้งสูตรแชมพูพูดถึงเรื่องของสมุนไพร มากกว่าการเคลมชื่อสารเคมีแฟนซีที่น้องควรหลีกเลี่ยงที่สุดในช่วงนี้ ตอนสระให้ Feeling สะอาดสุด ๆ ไม่ทิ้งความมัน ความลื่นเอาไว้แบบที่หลาย ๆ แบรนด์เป็น คือใช้เพื่อการสระผมให้สะอาดแบบประนีประนอมได้ถูกใจน้องมากครับ รวมทั้งหลังสระผมน้องไม่พันกันจนต้องสางแล้วหลุดร่วง ถือว่าให้ผ่าน 3 ตัวเลยครับ !!
Zenze Herbal Shampoo : ครีมนวดผมอัญชันกลีบซ้อน น้ำมันมะกรูด น้ำมันมะกอก
ตัวนี้เป็นครีมนวดผมที่เนื้อไม่หนักเหมือนหลาย ๆ ยี่ห้อครับ เนื้อคล้าย ๆ กับครีมบำรุงผิวประเภทน้ำนมมากกว่า คือไม่ได้แว๊กซ์ ไม่ได้เคลือบซะจนผมลีบแบน ออกแนวปรับสภาพผมที่ถูกสระสะอาดให้นุ่มลื่นขึ้น เลเวลความนุ่มลื่นอยู่ที่ระดับลื่นปกติ ไม่ได้ลื่นปรื้ดแบบไอโฟนอะไรแบบนั้น ซึ่งสำหรับหัวพัง ๆ ของน้องไฟ สภาวะปกติคือเรื่องดีมากเลยครับ !!
ตัวนี้กลิ่นหอมดอกไม้ครับ ไม่รู้เหมือนกันว่ากลิ่นอัญชันเป็นยังไง แต่หลังใช้ไม่ได้เป็นอารมณ์ “ผมหอมจังเล้ยยยย !!” (แบบนั้นไม่ตรงวัตถุประสงค์น้องเท่าไหร่ อันตรายว่าน้ำหอมจะเยอะ) … แต่ให้ Feeling ผมนุ่ม สะอาด ไม่ชี้ฟู แต่ก็ไม่ลีบแบน และที่สำคัญคือ ช่วยบำรุงหนังศีรษะน้องได้ดีมากครับ หนังหัวสภาพโอเคขึ้น ไม่มัน ไม่แห้งด้วยครับ เลิฟ <3
ซึ่งหลังจากที่เส้นผมและหนังหัวสภาพโอเคขึ้นมากแล้ว … น้องไฟเป็นเด็กที่มีสภาพผมตรงสุดฤทธิ์ การใช้ครีมนวดบางทีจะยิ่งทำให้เซ็ตผมแบบมีวอลุ่มได้ยากขึ้นมากอีก 50 เลเวลคุ้กกี้รัน … แต่ด้วยความที่ครีมนวดอัญชันอันนี้ไม่ได้เป็นเนื้อครีมหนัก ๆ ทำให้ไม่ส่งผลต่อการเซ็ตผมสูงของน้องไฟเลยครับ !! … เหมือนเป็นครีมนวดอันแรกที่สามารถใช้ได้ทุกวันโดยที่หัวไม่หลิม เซ็ตผมไม่ยาก ตัวนี้ประทับใจเลยครับ น้องแนะนำ 😀
=====
Mega : Regenez อาหารเสริมเพื่อเส้นผม
อันนี้เกิดจากการปรึกษากับพี่นุ้ย Sononui เรื่องหนังหัวพัง ผมพัง ทุกอย่างพัง !! … พี่นุ้ยเลยแนะนำให้ลองกินอาหารเสริมตัวนี้ดูครับ … คือการสระ การนวด เป็นเหมือนการบำรุงจากภายนอก แต่ความสวย เราควรสวยจากข้างในออกมาด้วย (เนี่ยยยยย !!)
อาหารเสริมตัวนี้เป็นแคปซูลที่มีส่วนประกอบของสังกะสี และไบโอติน (หรือวิตามิน บี 7 นี่แหละครับ) … ซึ่งสารอาหาร 2 ตัวนี้ช่วยเรื่องการบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ลดอาการผมร่วง ซึ่งเป็นปัญหาที่น้องไฟกังวลที่สุด !! วิธีการรับประทานคือทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 – 2 ครั้ง … น้องไฟทานต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ก็เริ่มเห็นผลครับ ผมร่วงน้อยลงแบบเห็นได้ชัด รวมทั้งผมยาวเร็วขึ้นด้วยครับ ถือเป็นการบำรุงจากภายในจริงจัง
ตอนนี้น้องไฟไม่ได้ทานตัวนี้ต่อเนื่องนะครับ … เพราะนอกเหนือจากสังกะสีแล้ว อาหารเสริมตัวนี้มีส่วนประกอบของซิลิก้า, ทองแดง และเหล็ก ซึ่งเป็นโลหะหนักประกอบในส่วนผสมด้วย ซึ่งการทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของธาตุโลหะหนักเป็นระยะเวลานานไม่ส่งผลดีต่อร่างกายเลยครับ (ไม่เหมือนวิตามิน ซี อันนี้ทานได้ต่อเนื่อง) ดังนั้น ทานซักกล่อง 2 กล่องแล้วเว้นระยะไปซักพักใหญ่ ๆ ดีกว่าครับ
=====
Carring : Treatment Original สำหรับทุกสภาพผม
สูตรหมักผมที่ติดบ้านน้องไฟมาตั้งแต่สมัยบรรพกาลแล้วล่ะครับ แม่กับพี่สาวชอบใช้กันมาก … คือเห็นมาตลอดในห้องน้ำ แต่ไม่เคยหยิบมาใช้เป็นเรื่องเป็นราวเลยในช่วงก่อนการกัดสีผมและเกิดความวิบัติขึ้น … รวมทั้งในพันทิป ในจีบัน ในเว็บบอร์ดความงามยืนยันว่าดีมาก และมันก็ดีมากจริง ๆ ครับบบบบ !! … อันนี้เป็นตัวที่น้องไฟใช้นวดปลายผม บริเวณที่ความวุ้นบรรลัยยังติดหัวอยู่ครับ ส่วนตัวคิดว่าดีกว่าครีมหมักผมแบรนด์อินเตอร์ทุกแบรนด์ที่มีขายใน Drug Store เลย !! … แต่ตัวนี้ใช้แล้วเหมือนแว๊กซ์เคลือบผมแน่นสุดในโลกา !! หนักหัวมาก คำเคลมไม่จริงเลย !! และด้วยความที่มันเคลือบหนาขั้นสุดขนาดนั้น น้องไฟเอาไว้ใช้สัปดาห์ละครั้งสองครั้งครับ … พบว่าช่วยให้เส้นผมเป็นเส้นผมมนุษย์ได้ดีมาก !! ฮือออออ … แต่ก็ไม่เหมาะกับการใช้ช่วงเช้า ช่วงที่ต้องเซ็ตผม เพราะแน่นอนว่า “เซ็ตไม่ขึ้นครับ” เคลือบดีเหลือเกิน ผมนุ่มลื่นมาก ถึงว่าสาว ๆ เลยชอบกันนัก ฮือออออ
ปกติตอนอาบน้ำ น้องเป็นคนชอบสระผมนวดผมให้เสร็จก่อน (นี่คืออธิบายวิธีการอาบน้ำเลยหรอ ? ฮือออ) หลังนวดด้วยครีมนวดตัวบนแล้วก็จะหมักตัวนี้ทิ้งไว้ แล้วก็อาบน้ำนู่นนี่นั่นให้เสร็จเรียบร้อย คือเหมือนทิ้งเอาไว้ให้มันหมักวุ้นเราให้เป็นผมนี่แหละ 5 นาที 10 นาทีค่อยล้างออก … เวิร์คดีมากครับ !!
=====
จบแล้วครับ 3 ไอเทมครอบคลุมทุกหมวดการดูแลเส้นผมและหนังหัวที่พังยับเยินของน้องไฟ บำรุงกันจนกลับเข้าสู่สภาพโอเคกันได้ขนาดนี้ หวังว่าแชร์นี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องเส้นผมและหนังศีรษะไม่มากก็น้อยนะครับ 😀
แล้วถ้าเพื่อน ๆ คนไหนมีไอเทมไหนที่ใช้แล้วเวิร์คมากกกกก … อย่าลืมมาแชร์ให้กันฟังตรงคอมเมนต์ด้านล่างนี้ด้วยนะครับ วันนี้ไปล้าววว บุยยยยย !!
=====
ปล. น้องไฟมีกระทู้เรื่องท่องเที่ยวเยอะแยะเลยด้วยครับ 😀 ขอฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจพี่ ๆ ด้วยนะคร้าบบบ <3
เที่ยวเกาหลี : ติวเข้ม 5 ข้อควรรู้ เตรียมตัวรับมือ “ตม.เกาหลี”
http://ppantip.com/topic/35939296
ไปจริง ๆ ล้าววว ... บุยยยย