สวัสดีค่ะ วันนี้ได้ไปเป็นจิตอาสาแจกอาหารและเครื่องดื่มที่สนามหลวง อยากมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังนะคะ สำหรับคนที่กำลังจะไปแจกของ หรือคนที่กำลังจะไปเข้ากราบพระบรมศพ
ขอกล่าวก่อนนะคะว่าทางทีมงานได้เตรียมหมี่กรอบ ข้าวเหนียวไก่ น้ำเกล็ดหิมะ น้ำเปล่า และส้มโอ เพื่อไปแจกค่ะ เต็นท์จะเป็นการวนรอบกันนะคะ แต่ละทีมงานแจกของจะมีเวลารอบของตนเอง รอบที่ทีมดิฉันได้คือ11.00-14.00น. ค่ะ ซึ่งต้องรอให้ทีมงานรอบก่อนหน้า แจกของให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ถึงจะเริ่มแจกค่ะ
จากนี้จะเล่าประสบการณ์ในฐานะทีมงานแจกของนะคะ (เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงและความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริงๆค่ะ ถ้าไม่พอใจหรือรู้สึกไม่ดีกับใครก็ขอโทษนะคะ)
พอถึงเวลาแจก11.00น. ด้วยความที่ไม่อยากวางส้มโอไว้บนพื้น เพราะกลัวคนเหยียบแล้วจะช้ำ เลยวางไว้บนโต๊ะ คู่กับหมี่กรอบ แล้วบอกคนที่ต่อแถวรอว่า ส้มยังไม่แจกนะคะ แจกหมี่กรอบก่อน (อาจจะเป็นความผิดพลาดทางทีมงานเรา ที่ทำให้คนที่มาต่อแถวรอเข้าใจผิด ทำให้มีคนมาต่อแถวรอรับส้มโอกันเป็นจำนวนมาก) พอคนที่ต่อแถวรับหมี่กรอบกันแล้วก็มารอรับส้มโอ เราก็บอกว่ายังไม่แจกนะคะ ขอแจกหมี่กรอบก่อน ก็ได้ถ้อยคำกลับมาว่า ไม่แจกแล้วจะวางไว้ทำไม เราก็รู้สึกผิด เลยยกถุงส้มโอทั้งหมดวางไว้ที่พื้นข้างล่าง แล้วแจกแค่หมี่กรอบ แรกๆก็จะมีเจ้าหน้าที่แขวนป้ายว่าจิตอาสาบ้าง ป้ายเขียวบ้าง มาช่วยแจก ช่วยดูว่ามีคนมาวนรับซ้ำซ้อนหรือไม่ ถึงบางครั้งคำพูดของเจ้าหน้าที่จิตอาสาจะรุนแรงไปบ้าง จนบางทีเราเองยังฉุนเลย แต่ก็มีจริงๆค่ะ คนที่แซงคิวมาขอ เป็นคุณตา คุณยายบ้าง ยอมรับว่าก็สงสาร แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าให้คนนึง อีกหลายๆคนที่เหลือก็จะแซงคิว มันจะเสียระบบได้ จากนั้นก็แจกน้ำเปล่า คนหายเงียบ ต่างจากแจกของกินเลยค่ะ พอเริ่มแจกน้ำเปล่า พักเบรกให้พ่อครัวผัดหมี่กรอบ ก็เริ่มเอาน้ำเกล็ดหิมะมาแจก คนต่อแถวกันหนาตาเช่นเคย เจ้าหน้าที่ก็มาขอบ้าง เข้าใจค่ะว่าเจ้าหน้าที่ก็ทำงานเหนื่อย คนที่มาต่อคิวก็เหนื่อย เราเลยยอมลัดคิวแยกแถวให้เจ้าหน้าที่ต่างหากอีกแถวหนึ่ง (เจ้าหน้าที่ที่ว่าคือจิตอาสา เจ้าหน้าที่กาชาด ตำรวจ คนดูแลสวน และแจกแบบยื่นหมูยื่นแมวกับเต็นท์อาหารรอบข้าง) ก็เกิดการแซงคิวบ้าง ส่งคำขอทางสายตาบ้าง หรือแม้กระทั่งส่งเด็กตัวเล็กๆเข้ามาในแถว เราพยายามขอร้องให้ต่อคิว เพื่อรักษาสิทธิกับคนที่ต่อคิวก่อนหน้า แต่ก็มีบ้างคนต่อคิววนสองถึงสามรอบ เห็นใส่ถุงจนน้ำแข็งละลายก็มี แจกจนน้ำเกล็ดหิมะหมด ก็ทันพอดีกับผัดหมี่กรอบเสร็จ ก็เลยนำหมี่กรอบแจกคู่กับข้าวเหนียวไก่ ตามคาดหมี่กรอบก็หมดอีกเช่นกัน แต่เหลือบไปเห็นถุงพลาสติกหูหิ้วในมือคนนึง มีหมี่กรอบถึง4กล่อง ไม่รวมที่มารับเพิ่มไปอีกหนึ่งกล่อง ผิดพลาดจริงๆค่ะ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
มาถึงพีคสุดของเรื่องก็คือส้มโอเจ้าปัญหา เลือกแจกเป็นอย่างสุดท้ายค่ะ คือเป็นส้มโอแพคใหญ่มาก แพคเท่ากับราคา40-50บาทในกรุงเทพค่ะ(เจ้าของกระทู้เป็นคนต่างจังหวัด นำมาจากต่างจังหวัดค่ะ) พอเริ่มวาง แถวก็เริ่มยาวอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จิตอาสาที่คุมอยู่ที่เต็นท์พอเห็น รีบจองเลยค่ะ ก็เกรงใจที่เขามาช่วยดูแลคิวให้ก็เลยให้ไปค่ะ พยายามขอร้องให้ทุกๆคนต่อคิว ซึ่งก็ให้ความร่วมมือดีค่ะ บ้างก็มีมาแซงคิว เพราะบอกว่าส้มโอแพง บ้างก็มีส่งเด็กน้อยเข้ามาจากไหนก็ไม่รู้ โดนจิตอาสาตอกหน้ากลับไปเลยค่ะ ว่า "เด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า อย่าสอนให้ลูกหลานเป็นคนไม่มีมารยาทตั้งแต่เด็กเลยนะครับ" ยอมรับว่ามันแรงเกินไป แต่มันก็ถูกส่วนหนึ่งที่เขาพูด จากนั้นก็มีคุณตา คุณยายร้องขอส้มโอ เราก็แจกไป เพราะเราอยากแจก รู้ว่าผิดที่ให้คนนอกคิวค่ะ แต่จิตอาสาก็ว่าเราอีกตามเคยว่าอย่าทำให้เสียระบบ รู้ว่าอยากแจกมาก(ยอมรับว่าก็รู้สึกไม่ดี บางทีก็บ่นเยอะไป ใครที่จะมาก็เตรียมใจนะคะ จิตอาสาที่นี่เป็นคนค่อนข้างพูดตรง ให้เจ็บใจหรือรู้สึก พยายามระงับอารมณ์หากเราโกรธหรือไม่พอใจ เพราะเขาก็ช่วยเราได้เยอะค่ะ ในการดูแลความเรียบร้อย) จนกระทั่งเหลือแพคสุดท้าย ตั้งใจจะเก็บไว้ให้เจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลรอบๆ ปรากฎว่ามีชาวเอเชียท่านหนึ่งเดินเข้ามา ใช้ภาษามือ พร้อมกับหยิบออกไปจากมือเราเลย ด้วยความงงๆ เราก็งงๆ
ก็สรุปการมาเป็นผู้ให้นะคะ ก็มีความสุขที่ได้ให้ ถึงแม้จะไม่ทั่วถึง แต่อย่างน้อยเราก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของการให้ ได้ช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆ ก็ยินดีและเต็มใจค่ะ สำหรับใครที่ตั้งใจจะเข้าไปที่สนามหลวงนะคะ อยากให้ช่วยกันดูแลความสะอาด คอยแบ่งปันผู้อื่น ช่วยต่อคิว อย่าวนซ้ำ แล้วก็ถ้าไม่จำเป็นอย่ารับอาหารไปเกินที่จะทานไหวเลยค่ะ เพราะว่ามีคนที่รอทานอาหารอยู่เยอะจริงๆ มีหลายเต็นท์คอยให้บริการอยู่ตลอดเวลานะคะ
ขอบคุณค่ะที่มาอ่าน มารับฟังความคิดเห็นกัน อาจมีข้อความใดที่ไม่ถูกต้อง หรือพาดพิงใครก็ขออภัยด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
แชร์ประสบการณ์การไปเป็นผู้ให้ที่สนามหลวงค่ะ
ขอกล่าวก่อนนะคะว่าทางทีมงานได้เตรียมหมี่กรอบ ข้าวเหนียวไก่ น้ำเกล็ดหิมะ น้ำเปล่า และส้มโอ เพื่อไปแจกค่ะ เต็นท์จะเป็นการวนรอบกันนะคะ แต่ละทีมงานแจกของจะมีเวลารอบของตนเอง รอบที่ทีมดิฉันได้คือ11.00-14.00น. ค่ะ ซึ่งต้องรอให้ทีมงานรอบก่อนหน้า แจกของให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ถึงจะเริ่มแจกค่ะ
จากนี้จะเล่าประสบการณ์ในฐานะทีมงานแจกของนะคะ (เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงและความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริงๆค่ะ ถ้าไม่พอใจหรือรู้สึกไม่ดีกับใครก็ขอโทษนะคะ)
พอถึงเวลาแจก11.00น. ด้วยความที่ไม่อยากวางส้มโอไว้บนพื้น เพราะกลัวคนเหยียบแล้วจะช้ำ เลยวางไว้บนโต๊ะ คู่กับหมี่กรอบ แล้วบอกคนที่ต่อแถวรอว่า ส้มยังไม่แจกนะคะ แจกหมี่กรอบก่อน (อาจจะเป็นความผิดพลาดทางทีมงานเรา ที่ทำให้คนที่มาต่อแถวรอเข้าใจผิด ทำให้มีคนมาต่อแถวรอรับส้มโอกันเป็นจำนวนมาก) พอคนที่ต่อแถวรับหมี่กรอบกันแล้วก็มารอรับส้มโอ เราก็บอกว่ายังไม่แจกนะคะ ขอแจกหมี่กรอบก่อน ก็ได้ถ้อยคำกลับมาว่า ไม่แจกแล้วจะวางไว้ทำไม เราก็รู้สึกผิด เลยยกถุงส้มโอทั้งหมดวางไว้ที่พื้นข้างล่าง แล้วแจกแค่หมี่กรอบ แรกๆก็จะมีเจ้าหน้าที่แขวนป้ายว่าจิตอาสาบ้าง ป้ายเขียวบ้าง มาช่วยแจก ช่วยดูว่ามีคนมาวนรับซ้ำซ้อนหรือไม่ ถึงบางครั้งคำพูดของเจ้าหน้าที่จิตอาสาจะรุนแรงไปบ้าง จนบางทีเราเองยังฉุนเลย แต่ก็มีจริงๆค่ะ คนที่แซงคิวมาขอ เป็นคุณตา คุณยายบ้าง ยอมรับว่าก็สงสาร แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าให้คนนึง อีกหลายๆคนที่เหลือก็จะแซงคิว มันจะเสียระบบได้ จากนั้นก็แจกน้ำเปล่า คนหายเงียบ ต่างจากแจกของกินเลยค่ะ พอเริ่มแจกน้ำเปล่า พักเบรกให้พ่อครัวผัดหมี่กรอบ ก็เริ่มเอาน้ำเกล็ดหิมะมาแจก คนต่อแถวกันหนาตาเช่นเคย เจ้าหน้าที่ก็มาขอบ้าง เข้าใจค่ะว่าเจ้าหน้าที่ก็ทำงานเหนื่อย คนที่มาต่อคิวก็เหนื่อย เราเลยยอมลัดคิวแยกแถวให้เจ้าหน้าที่ต่างหากอีกแถวหนึ่ง (เจ้าหน้าที่ที่ว่าคือจิตอาสา เจ้าหน้าที่กาชาด ตำรวจ คนดูแลสวน และแจกแบบยื่นหมูยื่นแมวกับเต็นท์อาหารรอบข้าง) ก็เกิดการแซงคิวบ้าง ส่งคำขอทางสายตาบ้าง หรือแม้กระทั่งส่งเด็กตัวเล็กๆเข้ามาในแถว เราพยายามขอร้องให้ต่อคิว เพื่อรักษาสิทธิกับคนที่ต่อคิวก่อนหน้า แต่ก็มีบ้างคนต่อคิววนสองถึงสามรอบ เห็นใส่ถุงจนน้ำแข็งละลายก็มี แจกจนน้ำเกล็ดหิมะหมด ก็ทันพอดีกับผัดหมี่กรอบเสร็จ ก็เลยนำหมี่กรอบแจกคู่กับข้าวเหนียวไก่ ตามคาดหมี่กรอบก็หมดอีกเช่นกัน แต่เหลือบไปเห็นถุงพลาสติกหูหิ้วในมือคนนึง มีหมี่กรอบถึง4กล่อง ไม่รวมที่มารับเพิ่มไปอีกหนึ่งกล่อง ผิดพลาดจริงๆค่ะ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
มาถึงพีคสุดของเรื่องก็คือส้มโอเจ้าปัญหา เลือกแจกเป็นอย่างสุดท้ายค่ะ คือเป็นส้มโอแพคใหญ่มาก แพคเท่ากับราคา40-50บาทในกรุงเทพค่ะ(เจ้าของกระทู้เป็นคนต่างจังหวัด นำมาจากต่างจังหวัดค่ะ) พอเริ่มวาง แถวก็เริ่มยาวอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จิตอาสาที่คุมอยู่ที่เต็นท์พอเห็น รีบจองเลยค่ะ ก็เกรงใจที่เขามาช่วยดูแลคิวให้ก็เลยให้ไปค่ะ พยายามขอร้องให้ทุกๆคนต่อคิว ซึ่งก็ให้ความร่วมมือดีค่ะ บ้างก็มีมาแซงคิว เพราะบอกว่าส้มโอแพง บ้างก็มีส่งเด็กน้อยเข้ามาจากไหนก็ไม่รู้ โดนจิตอาสาตอกหน้ากลับไปเลยค่ะ ว่า "เด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า อย่าสอนให้ลูกหลานเป็นคนไม่มีมารยาทตั้งแต่เด็กเลยนะครับ" ยอมรับว่ามันแรงเกินไป แต่มันก็ถูกส่วนหนึ่งที่เขาพูด จากนั้นก็มีคุณตา คุณยายร้องขอส้มโอ เราก็แจกไป เพราะเราอยากแจก รู้ว่าผิดที่ให้คนนอกคิวค่ะ แต่จิตอาสาก็ว่าเราอีกตามเคยว่าอย่าทำให้เสียระบบ รู้ว่าอยากแจกมาก(ยอมรับว่าก็รู้สึกไม่ดี บางทีก็บ่นเยอะไป ใครที่จะมาก็เตรียมใจนะคะ จิตอาสาที่นี่เป็นคนค่อนข้างพูดตรง ให้เจ็บใจหรือรู้สึก พยายามระงับอารมณ์หากเราโกรธหรือไม่พอใจ เพราะเขาก็ช่วยเราได้เยอะค่ะ ในการดูแลความเรียบร้อย) จนกระทั่งเหลือแพคสุดท้าย ตั้งใจจะเก็บไว้ให้เจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลรอบๆ ปรากฎว่ามีชาวเอเชียท่านหนึ่งเดินเข้ามา ใช้ภาษามือ พร้อมกับหยิบออกไปจากมือเราเลย ด้วยความงงๆ เราก็งงๆ
ก็สรุปการมาเป็นผู้ให้นะคะ ก็มีความสุขที่ได้ให้ ถึงแม้จะไม่ทั่วถึง แต่อย่างน้อยเราก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของการให้ ได้ช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆ ก็ยินดีและเต็มใจค่ะ สำหรับใครที่ตั้งใจจะเข้าไปที่สนามหลวงนะคะ อยากให้ช่วยกันดูแลความสะอาด คอยแบ่งปันผู้อื่น ช่วยต่อคิว อย่าวนซ้ำ แล้วก็ถ้าไม่จำเป็นอย่ารับอาหารไปเกินที่จะทานไหวเลยค่ะ เพราะว่ามีคนที่รอทานอาหารอยู่เยอะจริงๆ มีหลายเต็นท์คอยให้บริการอยู่ตลอดเวลานะคะ
ขอบคุณค่ะที่มาอ่าน มารับฟังความคิดเห็นกัน อาจมีข้อความใดที่ไม่ถูกต้อง หรือพาดพิงใครก็ขออภัยด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ