ต่อจากกระทู้ทีแล้วนะคะ เพราะความจุกระทู้ไม่พอ  เราเน้นรูป http://ppantip.com/topic/35939326
มาต่อกันที่พระราชวังชางด็อกค่ะ ซึ่งอยู่ติดกับหมู่บ้านบุคชอนฮันอก (ขออนุญาตเจ้าของภาพแผนที่นะคะ พอดีใช้แผนที่นี้เป็นหลักเพราะดูง่าย แต่จำไม่ได้ว่าเอามาจากเวปไหน)

ทางด้านหน้าวังจะมีที่ขายตั๋วและห้องน้ำไว้บริการค่ะ ตั้งแต่เข้าห้องน้ำสาธารณะที่เกาหลีมา สะอาดมากๆ ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ













พอเลยจุดนี้ไปจะเป็นทางเข้าสวนลับฮูวอน (ซึ่งเราซื้อตั๋วเหมามาสามารถเข้าได้ แต่เขาจะเปิดเป็นบางเวลา เราขี้เกียจรอเลยตรงไป พระราชวังชางกยอง ซึ่งอยู่ติดกันเลยค่ะ)











แล้วเราก็เดินวนหาสวนพฤกษศาสตร์ อยากไปดูต้นไม้สวยๆ เจอค่ะแต่เข้าไม่ได้ เพราะปิดปรับปรุง เราเลยเดินกลับมาทางพระราชวังชางด็อกค่ะ มาทางเดินกลับทางเดิมจะได้ไม่หลง พระราชวังชางกยองนี้มีสวนที่ใหญ่มาก ถ้ามาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะเต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ลค่ะ แต่เราไปเหี่ยวหงิกเกือบหมดแล้ว



เราไม่มีทักษะในการถ่ายภาพให้สวยงาม  เราเน้นเจออะไรก็ถ่ายไปเรื่อยๆ นะ



แล้วก็เข้ามาในพระราชวังชางด็อกอีกครั้ง Hahaha



ตอนสายๆ เริ่มมีคนแต่งชุดฮันบกมากขึ้น สวยดีค่ะ เราได้แต่มอง แต่ไม่กล้าใส่
เราเดินออกจากพระราชวังชางด็อก เพื่อย้อนไปลงสถานี Anguk ซึ่งกะจะนั่งไป 1 สถานีเพื่อไปสถานี Gyeongbokgung เพราะเริ่มล้าขา แล้วก็อยากจะไปถ่ายรูปกะอนุสาวรีย์พระเจ้าเซจง และแม่ทัพยีซุนชิน ที่จตุรัสควางฮวามุน แต่พอเจอทางออก 6 ที่ชี้ไป อินซาดง เราก็เปลี่ยนแผนทันที

ในสถานี Anguk ก็มีร้านเช่าชุดฮันบก นะคะ (เผื่อเพื่อนๆ ไปแถวนั้นแล้วกังวลว่าจะหาร้านเช่าไม่เจอ)


พอขึ้นจากทางออก 6 ก็จะเจอย่านอินซาดงเลยค่ะ




เป็นแหล่งขายของที่ระลึกค่ะ เราซื้อพวกพวงกุญแจ ที่ห้อยโทรศัพท์ ไปฝากเพื่อนๆ ด้วยค่ะ เขาขายเป็นแพ็ค ไม่แพงมากค่ะ ประมาณ 20-30 บาท ต่อ ชิ้น





แล้วก็จะเจอ "ซัมจีกิล" Ssamziegil เป็นแหล่งขายสินค้าแฮนด์เมด และงานไอเดีย ที่มีวัยรุ่นมาเดินเยอะมาก

และที่พลาดไม่ได้ ในกระทู้พันทิพหลายๆ กระทู้รีวิวว่ามาแล้วต้องกินขนมปังรูป... จัดไปค่ะ Hahaha (1,500 KRW)



แล้วเราก็เดินมาตามถนน Jongno เพื่อไปยังจตุรัสควางฮวามุนกันต่อ ก็จะเจอหอระฆังโพซินกัก (เดินไปถ่ายรูปไม่ไหวแล้ว) และก็ตึก Jongno Tower


จักรยานให้เช่า และร้านค้าริมถนน (เป็นซุ้มลักษณะเดียวกัน แต่จะขายแตกต่างกันไป)






และแล้วก็เห็นท่านแม่ทัพยืนตระหง่านอยู่ไกลๆ


ช่วงนั้นมีการชุมนุมค่ะ


ถัดจากท่านแม่ทัพก็จะเจอพระเจ้าเซจงค่ะ (ผู้ประดิษฐ์อักษรฮันกึล)


จากนั้นเราก็เดินมุดช่องใต้ดินระหว่างพระเจ้าเซจง กับท่านแม่ทัพยีซุนชิน  ไปโผล่ที่คลองชองเกชอน

ว้าววววว  หอยม่วง





ในน้ำมีปลา



พอเดินผ่านผนังกระเบื้องที่มีลายการยกทัพ จะมีเพลงประกอบค่ะ

จะเดินสุดทางก็ไม่ไหวค่ะ ประมาณ 6 กิโลเมตร ด้วยความล้าขาก็รีบขึ้นและหาทางไปสถานีรถไฟ เดินไปสักพักหาสายสีเขียว
จาก สถานี Euijiro 3 (sam)-ga ไป สถานี Dongdaemun History & Culture Park เพื่อไปดูดอกกุหลาบ LED เริ่มมืดแล้วค่ะ







เดินวนหาทุ่งดอกกุหลาบ Hahaha







แล้วก็กลับมาลงรถไฟไป Chungmoro เพื่อกลับที่พัก

และหาร้านกินข้าวแถวๆ ที่พัก มื้อนี้ 8,000 KRW (ครั้งเดียวพอค่ะ)

และที่ขาดไม่ได้  นมกล้วยค่ะ  (1,300 KRW)

จบวันที่ 2 ติดตามกระทู้วันที่ 3 >>>>