ขอพื้นที่ระบายนิดนึงนะครับ!!!!!
อดทนมาเกือบ 1 ปี แล้ว (กรณีผ่อนผันทหารไปศึกษาต่อต่างประเทศ) เพื่อเป็นวิทยาทาน ละกันนะครับ
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อต้นปี ผมได้รับทุนนักศึกษาแลกเปลี่ยน ไปยังประเทศฮังการี แต่เนื่องด้วยผมยังทำการผ่อนผันทหารอยู่ เลยเดินทางไปพบสัสดีอำเภอ (บ้านเกิด) เพื่อขอคำแนะนำ พี่แกก็บอกว่า ให้กลับมาทำเรื่องกับทางมหาลัยฯ ผมก็เลยกลับมาทำตามคำแนะนำ โดยใช้สิทธินักศึกษา ตามมาตรา 27(2) การขอผ่อนผันไปศึกษาต่อต่างประเทศ ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559
จากนั้น ผมก็เดินทางไปศึกษาตามทุนที่ได้รับที่ประเทศฮังการี
และเมื่อถึงวันเข้าตรวจเลือกฯ ผมก็ได้ให้ผู้ปกครองไปยื่นและแสดงตัวตนแทน และได้คำตอบจากพี่ทหารคนนึง ว่า "หนังสือฯ มาไม่ถึงนะครับ" ผู้ปกครองของผมก็เลย ได้ยืนเอกสารดังกล่าวใหม่อีกชุด เพื่อแก้ปัญหา ซื่งประกอบด้วย 1) เอกสารหนังสือรับรองจากสถานศึกษาทั้ง 2 สถานศึกษา 2) สำเนา passport 3) บัญชีรายชื่อขอผ่อนผัน 4) สำเนาหมายเรียก 5) สำเนาการเปลี่ยนชื่อของผู้ปกครอง
6) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน/นักศึกษา และหลังจากนั้น ก็ได้ยืนหลังสือรับรองการไปศึกษาจริง จากสถานทูตไทยประจำฮังการี ตามมาอีกที
หลังจากนั้น ผมก็ได้รับหมายเรียกทหารฯ ของปี 2560 ก็เข้าใจว่าเรื่องคงจบแล้ว แต่หลังจากนั้น ก็มีหมายเรียกไปที่บ้านโดยตำรวจ ว่า มีหมายเรียก คดีหลีกเลี่ยงการเข้าตรวจเลือกฯ ทหาร ซึ่งก็งงมาก เพราะคิดว่าเรื่องจบไปแล้ว
จากนั้น ผมก็ได้รีบเดินทางไปยังสถานีตำรวจเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ว่าไม่ได้หลีกเลี่ยง และผมก็ได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่สัสดีคนนั้น ซึ่งได้คำตอบว่า หนังสือโดนตีกลับ (ซึ่งไม่ได้แจ้งให้ผมทราบเลย ว่ามีปัญหาอะไร)
สุดท้ายก็ต้องขึ้นศาล....จบศาลตัดสินให้รอลงอาญา เนื่องจาก จำเลยให้การรับสารภาพ
เมื่อเสร็จเรื่องจากศาล ผมก็รีบนำหลักฐานคำพิพากษา มาแจ้งแก่ เจ้าหน้าที่สัสดี (ที่รับผิดชอบ)
หลังจากนั้น ผมก็ได้รับแจว่า เอกสารไม่ครบ เนื่องจาก ขาดสำเนาการเปลี่ยนชื่อ (ของผู้ปกครอง) ผมก็ได้ส่งเอกสารดังกล่าวไปให้ (อีกครั้ง เป็นครั้งที่ 2)
ผ่านไป 2 อาทิตย์....แล้วผมก็โทรศัพท์ไปสอบถามความคืบหน้า ก็ได้คำตอบจากพี่สัสดี ว่า "แปปนึงนะน้อง พี่ยังไม่ได้ดูให้เลย พอดีพี่ทำงานคนเดียว" ผมก็เลยถามว่าขาดอะไรอีกครับ พี่แกก็บอกว่า "พี่ยังไม่ได้ดูให้เลย ค่อยโทรมาหาใหม่นะครับ อีก 2 วัน"
หลังจากนั้น ผมก็โทรไปถาม พี่แกก็ไม่รับสายอีกเลย....
(จริงๆ แค่ส่งเรื่องให้นายอำเภอ เดินไปส่งหนังสือห้องนายอำเภอ เรื่องก็จบแล้วครับ อำนาจสุดท้ายอยู่ที่นายอำเภอ)
สรุป ผมต้องทำยังไงครับ .....?
เรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า บางหน่วยงานราชการ (บางที่ บางคน) ก็ไม่ได้สร้างมาเพื่ออำนวยความสะดวก ตามกฎหมายเลย แต่เป็นการสร้างความลำบากมากกว่าเดิม ต่างหาก
ต่อไป มีลูกมีหลานเจอแบบนี้อีก ก็ระมัดระวังกันดีๆ นะครับ
แนบเอกสารเพิ่มเติม (คู่มือเกณฑ์ทหาร)
http://www.engrdept.com/Burachat/sadsadee_army.htm ( ข้อที่ ๕. การขอผ่อนผันการตรวจเลือกทหารเพื่อไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ)
ทำตามระเบียบ ขั้นตอนทุกอย่าง แต่ก็เรื่องก็ไม่ สิ้นสุดสักที จริงๆ ผมก็ตั้งใจจะสมัครอยู่แล้ว เมื่อเรียนจบ
ปล. เรียนหนังสือ ก็อาจติดคุกได้นะครับ ระมัดระวังกันด้วย ^_^
Update!! และเมื่อเร็วๆ นี้ (วันที่ 23 ธันวาคม 2559) ผมได้ไปสอบถามอีกครั้งว่าได้ดำเนินการให้แล้วยัง ซึ่งก็ได้คำตอบเดิมกลับมาว่า "ผมยังไม่มีเวลาดูให้เลยครับ พอดีลูกน้องผมกูย้ายไปแล้ว" แล้วเขาก็พูดต่ออีกในทำนองต่อรองอะไรสักอย่าง (ไม่สามารถเผยแพร่ได้ครับ) ซึ่งผมคิดว่าทุกคนก็คงรู้ว่าเรื่องอะไร
โดนดำเนินคดีข้อหาหลีกเลี่ยงการตรวจคัดเลือกทหาร กรณีผ่อนผันทหารไปศึกษาต่อต่างประเทศ
อดทนมาเกือบ 1 ปี แล้ว (กรณีผ่อนผันทหารไปศึกษาต่อต่างประเทศ) เพื่อเป็นวิทยาทาน ละกันนะครับ
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อต้นปี ผมได้รับทุนนักศึกษาแลกเปลี่ยน ไปยังประเทศฮังการี แต่เนื่องด้วยผมยังทำการผ่อนผันทหารอยู่ เลยเดินทางไปพบสัสดีอำเภอ (บ้านเกิด) เพื่อขอคำแนะนำ พี่แกก็บอกว่า ให้กลับมาทำเรื่องกับทางมหาลัยฯ ผมก็เลยกลับมาทำตามคำแนะนำ โดยใช้สิทธินักศึกษา ตามมาตรา 27(2) การขอผ่อนผันไปศึกษาต่อต่างประเทศ ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559
จากนั้น ผมก็เดินทางไปศึกษาตามทุนที่ได้รับที่ประเทศฮังการี
และเมื่อถึงวันเข้าตรวจเลือกฯ ผมก็ได้ให้ผู้ปกครองไปยื่นและแสดงตัวตนแทน และได้คำตอบจากพี่ทหารคนนึง ว่า "หนังสือฯ มาไม่ถึงนะครับ" ผู้ปกครองของผมก็เลย ได้ยืนเอกสารดังกล่าวใหม่อีกชุด เพื่อแก้ปัญหา ซื่งประกอบด้วย 1) เอกสารหนังสือรับรองจากสถานศึกษาทั้ง 2 สถานศึกษา 2) สำเนา passport 3) บัญชีรายชื่อขอผ่อนผัน 4) สำเนาหมายเรียก 5) สำเนาการเปลี่ยนชื่อของผู้ปกครอง
6) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน/นักศึกษา และหลังจากนั้น ก็ได้ยืนหลังสือรับรองการไปศึกษาจริง จากสถานทูตไทยประจำฮังการี ตามมาอีกที
หลังจากนั้น ผมก็ได้รับหมายเรียกทหารฯ ของปี 2560 ก็เข้าใจว่าเรื่องคงจบแล้ว แต่หลังจากนั้น ก็มีหมายเรียกไปที่บ้านโดยตำรวจ ว่า มีหมายเรียก คดีหลีกเลี่ยงการเข้าตรวจเลือกฯ ทหาร ซึ่งก็งงมาก เพราะคิดว่าเรื่องจบไปแล้ว
จากนั้น ผมก็ได้รีบเดินทางไปยังสถานีตำรวจเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ว่าไม่ได้หลีกเลี่ยง และผมก็ได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่สัสดีคนนั้น ซึ่งได้คำตอบว่า หนังสือโดนตีกลับ (ซึ่งไม่ได้แจ้งให้ผมทราบเลย ว่ามีปัญหาอะไร)
สุดท้ายก็ต้องขึ้นศาล....จบศาลตัดสินให้รอลงอาญา เนื่องจาก จำเลยให้การรับสารภาพ
เมื่อเสร็จเรื่องจากศาล ผมก็รีบนำหลักฐานคำพิพากษา มาแจ้งแก่ เจ้าหน้าที่สัสดี (ที่รับผิดชอบ)
หลังจากนั้น ผมก็ได้รับแจว่า เอกสารไม่ครบ เนื่องจาก ขาดสำเนาการเปลี่ยนชื่อ (ของผู้ปกครอง) ผมก็ได้ส่งเอกสารดังกล่าวไปให้ (อีกครั้ง เป็นครั้งที่ 2)
ผ่านไป 2 อาทิตย์....แล้วผมก็โทรศัพท์ไปสอบถามความคืบหน้า ก็ได้คำตอบจากพี่สัสดี ว่า "แปปนึงนะน้อง พี่ยังไม่ได้ดูให้เลย พอดีพี่ทำงานคนเดียว" ผมก็เลยถามว่าขาดอะไรอีกครับ พี่แกก็บอกว่า "พี่ยังไม่ได้ดูให้เลย ค่อยโทรมาหาใหม่นะครับ อีก 2 วัน"
หลังจากนั้น ผมก็โทรไปถาม พี่แกก็ไม่รับสายอีกเลย....
(จริงๆ แค่ส่งเรื่องให้นายอำเภอ เดินไปส่งหนังสือห้องนายอำเภอ เรื่องก็จบแล้วครับ อำนาจสุดท้ายอยู่ที่นายอำเภอ)
สรุป ผมต้องทำยังไงครับ .....?
เรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า บางหน่วยงานราชการ (บางที่ บางคน) ก็ไม่ได้สร้างมาเพื่ออำนวยความสะดวก ตามกฎหมายเลย แต่เป็นการสร้างความลำบากมากกว่าเดิม ต่างหาก
ต่อไป มีลูกมีหลานเจอแบบนี้อีก ก็ระมัดระวังกันดีๆ นะครับ
แนบเอกสารเพิ่มเติม (คู่มือเกณฑ์ทหาร) http://www.engrdept.com/Burachat/sadsadee_army.htm ( ข้อที่ ๕. การขอผ่อนผันการตรวจเลือกทหารเพื่อไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ)
ทำตามระเบียบ ขั้นตอนทุกอย่าง แต่ก็เรื่องก็ไม่ สิ้นสุดสักที จริงๆ ผมก็ตั้งใจจะสมัครอยู่แล้ว เมื่อเรียนจบ
ปล. เรียนหนังสือ ก็อาจติดคุกได้นะครับ ระมัดระวังกันด้วย ^_^
Update!! และเมื่อเร็วๆ นี้ (วันที่ 23 ธันวาคม 2559) ผมได้ไปสอบถามอีกครั้งว่าได้ดำเนินการให้แล้วยัง ซึ่งก็ได้คำตอบเดิมกลับมาว่า "ผมยังไม่มีเวลาดูให้เลยครับ พอดีลูกน้องผมกูย้ายไปแล้ว" แล้วเขาก็พูดต่ออีกในทำนองต่อรองอะไรสักอย่าง (ไม่สามารถเผยแพร่ได้ครับ) ซึ่งผมคิดว่าทุกคนก็คงรู้ว่าเรื่องอะไร