ใกล้จะปีใหม่ 2560 แล้วนะคะเพื่อนๆ พวกเราไปเที่ยวเชียงใหม่กันดีกว่า วัตถุประสงค์หลักของการไปเที่ยวครั้งนี้คือเราจะไปร่วมงานเมืองไทยเชียงใหม่มาราธอน 2016 กันค่ะ แต่ก่อนอื่นฝากรีวิวกระทู้เก่าๆของเค้าด้วยนะ
ทริปเวียงจันทน์-วังเวียง-หลวงพระบาง http://ppantip.com/topic/35171034
ทริปเชียงราย http://ppantip.com/topic/35303343
ทริปกระบี่ http://ppantip.com/topic/35613581
ทริปเชียงคาน http://ppantip.com/topic/35852678
พร้อมแล้วก็มาเริ่มรีวิวกันเลยค่ะ

วันที่ 16 ธันวาคม 2559 สุวรรณภูมิ – เชียงใหม่ – แกรนด์แคนยอน – พระธาตุดอยสุเทพ – ถนนนิมมานฯ

ทริปนี้เราเดินทางวันที่ 16 – 18 ธันวาคม 2559 ด้วยสายการบินไทยสไมล์  ขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ
เราเดินทางด้วยกันทั้งหมด 3 คน มีแพร, ตั๊ก, และเบนซ์ (จขกท.)

เช็คอิน โหลดกระเป๋าเรียบร้อย โชว์ตั๋วกันหน่อยคร้าบ
เราออกเดินทางเวลา 10.20 น. ตามกำหนดจะถึงเชียงใหม่เวลา 11.35 น. แต่เครื่องเกิดดีเลย์ ทำให้เราถึงช้ากว่ากำหนดไป 25นาที พอถึงเชียงใหม่เราก็โทรหาน้องรถแดงที่เราติดต่อจองไว้ตั้งแต่ก่อนเดินทางให้มารับเราที่สนามบินเพื่อไปส่งที่โรงแรมที่อยู่ในเมืองแถวๆประตูท่าแพ

ได้ขึ้นรถแล้วจ้า มุ่งหน้าสู่ที่พักเช็คอินเก็บกระเป๋ากันก่อน จากสนามบินใช้เวลาประมาณ20นาทีก็ถึงที่พักละ

ทริปนี้เราพักที่ “Little Home Guest House” อยู่ถนนคชสารซอย 3 ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากประตูท่าแพ สถานที่จัดงานเชียงใหม่มาราธอน สามารถเดินไปกลับได้สะดวก 5 นาทีก็ถึง ที่พักที่นี่สะอาด บริการดีเหมือนเป็นครอบครัว ราคาก็ไม่แพง หากใครหาที่พักใกล้ๆประตูท่าแพ ที่นี่ก็เป็นอีกตัวเลือกนึงเลยนะ
หลังจากเช็คอินเรียบร้อย เราก็เตรียมตัวออกไปลั้ลลากันดีกว่า ที่แรกที่เราจะไปคือ..............ยังดีกว่า ยังไม่เที่ยวเพราะท้องเริ่มหิว ไม่ใช่หิวธรรมดา หิวมากกกกกก(ก.ไก่ล้านตัว) เราเลยให้น้องรถแดงคันเดิมพาเราไปกินอาหารพื้นเมืองอร่อยๆก่อน ก็เลยสรุปมาที่ร้านนี้ “ข้าวซอยฟ้าฮ่าม” อยู่ห่างจากโรงแรมประมาณ 15 นาที

เรากินขนมจีนน้ำเงี้ยว ไส้อั่ว ข้าวซอยไก่ อืมมมม ที่นี่อร่อยดีนะ ราคาก็ไม่แพง ใครผ่านมาแวะเลยค่ะ ไม่ผิดหวัง
หลังจากอิ่มท้องเราก็ออกเดินทางไป “แกรนด์แคนยอนเชียงใหม่” ใช้เวลาจากร้านอาหารเมื่อกี๊แค่แป๊บเดียวเองก็ถึง บอกก่อนเลยว่าอากาศที่เชียงใหม่ ณ วันที่เรามาไม่หนาวเลย อุณหภูมิช่วงเช้าอยู่ที่ประมาณ 16-18 องศา บ่ายๆอากาศก็เลยค่อนข้างจะร้อน
ถึงแล้วจ้า แกรนด์แคนยอนเชียงใหม่ เสียค่าผ่านเข้าประตูคนละ 50 บาท ที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นต่างชาติเข้ามาเล่นกระโดดน้ำกัน ตอนนี้มีความปลอดภัยมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอำนวยความสะดวก

แต่ขอแอบแนะนำนิดนึงนะ อย่าเอ็ดไป!!! ถ้าจะมาแล้วไม่ได้เล่นกระโดดน้ำ ก็เปลี่ยนโปรแกรมไปที่อื่นดีกว่า เพราะไม่มีอะไรเลย ร้อนด้วยอ่ะ
เราอยู่ที่นี่ไม่นานก็กลับออกมา เวลาก็ล่วงเลยไปสี่โมงเย็นแล้ว ที่ต่อไปคือเราจะขึ้นไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพกัน แต่ ณ ตอนนี้สายฝนเริ่มโปรยปราย ท้องฟ้ามืดครึ้ม แต่เราตั้งใจมาแล้วยังไงก็ต้องไป
ก่อนที่จะขึ้นไปสักการะพระธาตุดอยสุเทพ เราต้องแวะไหว้ครูบาศรีวิชัยกันก่อน ซึ่งอยู่บริเวณทางขึ้นเขา

ซื้อดอกไม้บูชามีทั้งชุดเล็กชุดใหญ่ กราบไหว้ขอพรเสร็จ เราก็แอบแว่บข้ามถนนไปแป๊บนึง

ก็เพื่อไปขอตราประทับอุทยานฯ มาเก็บไว้ในสมุดสะสมของเรา ระหว่างนี้สายฝนก็ยังตกลงมาปรอยๆพอชุ่มฉ่ำ แล้วเราก็ขึ้นเขาไปไหว้พระธาตุฯกัน ถนนตอนฝนตกนี่ลื่นชะมัด ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับรถด้วย ขับรถขึ้นเขามาสักพักก็ถึง
การที่จะขึ้นไปไหว้พระธาตุมีด้วยกันสองวิธีคือ 1. เดินขึ้นบันได (ฟรี)  2. ขึ้นลิฟท์ (เสียเงิน) ซึ่งวัยอย่างเรานั้น อย่าไปพูดถึงเลยเรื่องการเดินขึ้นบันไดหลายร้อยขั้น ฝนก็ตกด้วย ขึ้นลิฟท์กันเถอะ

ซื้อตั๋วขึ้นลิฟท์ คนละ 20 บาท

ได้ตั๋วมาแล้ว

รอเข้าคิวขึ้นลิฟท์

และแล้วเราก็ได้ขึ้นมาสมความตั้งใจ พระธาตุดอยสุเทพ
เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ไม่นาน เพราะฝนเริ่มตกแรงขึ้น เวลาประมาณห้าโมงเย็น แต่ท้องฟ้ามืดเร็วมากเหมือนสามทุ่ม ในความเป็นจริงแล้วท้องก็เริ่มหิวแล้วด้วย เราไปหาอะไรกินกันที่ “ถนนนิมมานฯ” กันดีกว่า ว่าแล้วก็โทรตามน้องรถแดงคันเดิมมารับ
ช่วงเวลาเย็นๆแถวถนนนิมมานฯ รถจะติดมาก หาที่จอดรถก็ยาก หากตั้งใจจะไปร้านไหนก็ต้องตรงไปร้านนั้นเลย เพราะถ้าเลยร้านเลยซอย กว่าจะวนกลับมาได้มันจะใช้เวลานาน เพราะฉะนั้นเราตั้งใจจะไปเชคอินกันที่ร้าน “iberry เชียงใหม่” เราก็มุ่งหน้าไป Let’s go!!!
จากวัดพระธาตุดอยสุเทพใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง เราก็มาถึงร้าน iberry

ถ่ายรูปกันเพลินๆ ท้องก็ดันมาหิวซะนี่ เอ๊ะ!ได้กลิ่นอะไรหอมๆ เตะจมูกอยู่ใกล้ๆ อ่อ รู้แล้วกลิ่นก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ร้านข้างๆนี่เอง พวกเราไม่รอช้า แวะเข้าไปลิ้มลองกันซะหน่อย ไม่ใช่ร้านไหนอื่นไก่ ร้านที่ใครๆต้องมา
“ร้านคั่วไก่นิมมาน”

คนเยอะเชียว แต่เราก็รอคิวได้ ยืนรอพักนึงก็มีโต๊ะว่างให้เราพอดี

เราก็สั่งก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ซิกเนเจอร์ของร้าน สักพักก็ได้รับประทาน อร่อยดีนะ ไม่ต้องปรุงเพิ่มเลย แต่น้อยไปหน่อย คิดว่าถ้าจขกท.จะกินให้อิ่มต้องสักสามจาน 555
หลังจากเรารับประทานอาหารเรียบร้อย ร่างกายก็เหนื่อยล้าเต็มที เราเลยตกลงกันว่ากลับไปพักผ่อนกันดีกว่า เพราะพรุ่งนี้มีเที่ยวอีกหลายที่ เราก็โทรตามน้องรถแดงให้มารับเราไปส่งที่โรงแรม สำหรับคืนนี้ราตรีสวัสดิ์

วันที่ 17 ธันวาคม 2559 แม่กำปอง – เดอะไจแอ้นท์ – บ่อน้ำพุร้อนสันกำแพง – ประตูท่าแพ – ถนนคนเดินวัวลาย
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า วันนี้อุณหภูมิยังคงเท่าเดิม 16-18 องศา เราตื่นกันตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปแม่กำปอง ก่อนออกเดินทาง กองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ

อาหารเช้าของที่พักเช้านี้ ไข่ดาว ขนมปัง กล้วย กาแฟค่ะ พอเราอิ่มท้องก็โทรหาน้องรถแดงเพื่อมารับเรา โทรไปปุ๊บน้องบอกว่ามารอเราหน้าโรงแรมแล้ว เอ้ารออะไรหล่ะคะ ไปค่ะ “แม่กำปอง” รอเราอยู่

เราออกเดินทางประมาณ 8.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงโครงการหลวงตีนตก เป็นศูนย์พัฒนาของหมู่บ้านแม่กำปอง มีร้านกาแฟ ร้านขายของฝากของโครงการหลวง มีผักผลไม้สดๆจำหน่ายด้วยนะ

หลังจากแวะโครงการหลวงได้สักพักเราก็ไปต่อกันที่ บ้านแม่กำปอง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโครงการหลวง เนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่ค่อนข้างเยอะ ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับชาวบ้านที่จะได้มีรายได้ที่มากขึ้น

สงบร่มรื่นดีค่ะ แม่กำปอง มุมธรรมชาติเยอะ คนก็เยอะด้วยเช่นกัน เราถ่ายรูปเล่นเดินเล่นกันสักพัก ท้องก็เริ่มหิว ก็เลยแวะหาอะไรรองท้องกันที่ร้านนี้ เพื่อกินขนมจีนน้ำเงี้ยวกันอีกแล้วค่ะ บอกเลยของโปรด

ส่วนร้านข้างๆก็มีของขายค่ะ

นี่เลย “ไข่ป่าม” คือไข่ทรงเครื่องปรุงรสแล้วเอามาใส่ใบตองย่าง รสชาติก็จืดๆ แต่ก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเราก็เดินขึ้นไปเรื่อยๆ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ จนมาถึงวัดของบ้านแม่กำปอง “วัดคันธาพฤกษา”

ก็ไหว้พระขอพรกันตามประสา แล้วเราก็ขึ้นรถแดงเพื่อขึ้นเขาต่อไปอีกนิดก็จะเจอ “น้ำตกแม่กำปอง”

น้ำตกที่นี่สวยดี น้ำเย็นเชียบ มีหลายชั้นเลย แต่ต้องเดินเท้าขึ้นไปอีก แต่ทางมันชันมากเราเลยขอไม่ขึ้นไป ถ่ายรูปอยู่ข้างล่างก็พอ