คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ความคิดส่วนตัวนะครับ
การที่จับเข่าคุยกัน เปิดใจเคลียร์ความรู้สึกนึกคิดกันขนาดนี้แล้ว
แต่ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกดีขึ้น ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์กลับมาดีขึ้น
ผมว่า...ต่อให้คุณตื้อเขาต่อไป เขาก็คงไม่กลับมาแล้วหละครับ
เพราะเขาค่อนข้างชัดเจนในความรู้สึกแล้วครับ ว่าตอนนี้ความรู้สึกของเขา "เปลี่ยนไปแล้ว"
และเขาได้บอกชัดเจนมาแล้วครับ ว่า "ไม่สามารถให้คำว่าแฟน" กับคุณได้อีกแล้ว
แต่ถ้าคุณอยากจะลองพยายาม ลองสู้อีกสักตั้ง ลองดูก็ได้ครับ...แต่ผมกลัวว่าคุณจะเหนื่อยเกินไปรึเปล่าครับ
ในช่วงเวลา 8 เดือนที่คุณเล่ามา ผมไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกรึเปล่า
แต่ผมเข้าใจว่า ช่วง 8 เดือนนั้น คุณคงเห็นว่าแฟนเก่าของคุณยุ่งๆ เรื่องเรียน เรื่องทำเล่ม เรื่องทำพรีเซนต์
อีกทั้งสองคนคงอยู่ในช่วง "พักความสัมพันธ์" แต่ยังไม่ได้เลิกกัน เหมือนแค่ห่างกันสักพัก
คุณเลยหวังดี อยากให้พื้นที่ว่าง ให้เวลาว่าง ลดการติดต่อ ลดการพบปะ ลดการทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน
เพื่อให้แฟนเก่าของคุณได้ทุ่มเท และใช้เวลากับการเรียนต่อปริญญาโท และการทำเล่มได้อย่างเต็มที่
แต่มันกลับกลายเป็นว่า แฟนเก่าของคุณคงค้นพบว่า การใช้ชีวิตอยู่คนเดียว
โดยที่ไม่ต้องคิดเรื่องความรัก ไม่ต้องทะเลาะกันคุณ ไม่ว่าจะเรื่องใหญ่หรือเรื่องงี่เง่าไม่เป็นเรื่องก็ตาม
มันมีความสุขมากกว่า สบายตัวสบายใจมากกว่าตอนที่เขารักกับคุณ
ผมว่าช่วง 8 เดือน ที่คุณลดการปฏิสัมพันธ์ลงระหว่างคุณกับแฟนเก่า (ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้เลิกกัน)
คงเป็นอีกตัวแปรสำคัญ ที่ทำให้แฟนเก่าของคุณ ไม่อยากกลับมารีเทิร์นกับคุณก็เป็นได้ครับ
สุดท้ายผมอยากจะบอกว่า ถ้าคุณอยากลองตื้อ อยากลองสู้อีกสักรอบ
คุณลองทำดูก็ได้ครับ ทำให้ดี ทำให้เต็มที่ ทำจนคุณเหนื่อยเต็มที่แล้ว เสียใจเต็มที่แล้ว
ถึงเวลานั้น คุณจะหยุดทำ หยุดตื้อได้เองครับ
ตอนนี้ถ้ามีคนมาบอกคุณว่า "หยุดตื้อเถอะ เหนื่อยเปล่าๆ" คุณยังหยุดไม่ได้หรอกครับ
เพราะคุณยังอยากทำอยู่ ยังอยากสู้อยู่ ยังเห็นว่าเวลาที่ผ่านมา ที่คุณและแฟนเก่าของคุณทำร่วมกันมา
มันน่าจะมีความหมายอะไรสักอย่างสิ แฟนเก่าคุณต้องกลับมารักคุณได้สิ
ให้มีกี่คนมาบอกให้คุณหยุดทำหยุดตื้อตอนนี้ คุณยังหยุดไม่ได้หรอกครับ
เพราะฉะนั้นทำในสิ่งที่ใจคุณและตัวคุณอยากทำ เดี่ยวพอคุณเหนื่อยคุณเจ็บเต็มที่คุณจะหยุดได้เองครับ
แต่ผมอยากให้คุณระวังอะไรไว้สักอย่างครับ คือ ตอนนี้เขาให้คุณเป็นพี่น้องกับเขาได้
แต่ถ้าวันหนึ่งคุณตื้อเขามากๆ คุณเข้าหาครอบครัวเขามากๆ เขาจะรู้สึกว่าไม่เป็นส่วนตัว
เขาจะรู้สึกว่าทำไมคุณต้องเข้ามายุ่มย่ามกับเขาและคนในครอบครัวของเขามากมายขนาดนี้รึเปล่า
ซึ่งเขาอาจจะคิดแบบนี้ หรืออาจจะไม่คิดแบบนี้ก็ได้นะครับ
จากตอนแรกที่ยังเป็นพี่น้องกันได้ ช่วยเหลือให้คำปรึกษากันได้
เดี๋ยวมันจะกลายเป็นเขารำคาญ ไม่อยากเจอหน้าคุณ
ไม่อยากให้คุณเข้ามาข้องแวะกับคนในครอบครัวเขารึเปล่า
กลายเป็นว่าเดี๋ยวมันจะยิ่งแย่มากกว่าเดิมรึเปล่าครับ
เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าทั้งคุณและแฟนเก่าต้องกลายเป็นคนอื่นกันไปรึเปล่าครับ
(ขอโทษที่ผมต้องบอกแบบนี้ แต่ผมคิดในกรณีที่สถานการณ์มันแย่ที่สุดนะครับ)
...แต่ยังไงก็สุ้ๆ นะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ
การที่จับเข่าคุยกัน เปิดใจเคลียร์ความรู้สึกนึกคิดกันขนาดนี้แล้ว
แต่ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกดีขึ้น ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์กลับมาดีขึ้น
ผมว่า...ต่อให้คุณตื้อเขาต่อไป เขาก็คงไม่กลับมาแล้วหละครับ
เพราะเขาค่อนข้างชัดเจนในความรู้สึกแล้วครับ ว่าตอนนี้ความรู้สึกของเขา "เปลี่ยนไปแล้ว"
และเขาได้บอกชัดเจนมาแล้วครับ ว่า "ไม่สามารถให้คำว่าแฟน" กับคุณได้อีกแล้ว
แต่ถ้าคุณอยากจะลองพยายาม ลองสู้อีกสักตั้ง ลองดูก็ได้ครับ...แต่ผมกลัวว่าคุณจะเหนื่อยเกินไปรึเปล่าครับ
ในช่วงเวลา 8 เดือนที่คุณเล่ามา ผมไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกรึเปล่า
แต่ผมเข้าใจว่า ช่วง 8 เดือนนั้น คุณคงเห็นว่าแฟนเก่าของคุณยุ่งๆ เรื่องเรียน เรื่องทำเล่ม เรื่องทำพรีเซนต์
อีกทั้งสองคนคงอยู่ในช่วง "พักความสัมพันธ์" แต่ยังไม่ได้เลิกกัน เหมือนแค่ห่างกันสักพัก
คุณเลยหวังดี อยากให้พื้นที่ว่าง ให้เวลาว่าง ลดการติดต่อ ลดการพบปะ ลดการทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน
เพื่อให้แฟนเก่าของคุณได้ทุ่มเท และใช้เวลากับการเรียนต่อปริญญาโท และการทำเล่มได้อย่างเต็มที่
แต่มันกลับกลายเป็นว่า แฟนเก่าของคุณคงค้นพบว่า การใช้ชีวิตอยู่คนเดียว
โดยที่ไม่ต้องคิดเรื่องความรัก ไม่ต้องทะเลาะกันคุณ ไม่ว่าจะเรื่องใหญ่หรือเรื่องงี่เง่าไม่เป็นเรื่องก็ตาม
มันมีความสุขมากกว่า สบายตัวสบายใจมากกว่าตอนที่เขารักกับคุณ
ผมว่าช่วง 8 เดือน ที่คุณลดการปฏิสัมพันธ์ลงระหว่างคุณกับแฟนเก่า (ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้เลิกกัน)
คงเป็นอีกตัวแปรสำคัญ ที่ทำให้แฟนเก่าของคุณ ไม่อยากกลับมารีเทิร์นกับคุณก็เป็นได้ครับ
สุดท้ายผมอยากจะบอกว่า ถ้าคุณอยากลองตื้อ อยากลองสู้อีกสักรอบ
คุณลองทำดูก็ได้ครับ ทำให้ดี ทำให้เต็มที่ ทำจนคุณเหนื่อยเต็มที่แล้ว เสียใจเต็มที่แล้ว
ถึงเวลานั้น คุณจะหยุดทำ หยุดตื้อได้เองครับ
ตอนนี้ถ้ามีคนมาบอกคุณว่า "หยุดตื้อเถอะ เหนื่อยเปล่าๆ" คุณยังหยุดไม่ได้หรอกครับ
เพราะคุณยังอยากทำอยู่ ยังอยากสู้อยู่ ยังเห็นว่าเวลาที่ผ่านมา ที่คุณและแฟนเก่าของคุณทำร่วมกันมา
มันน่าจะมีความหมายอะไรสักอย่างสิ แฟนเก่าคุณต้องกลับมารักคุณได้สิ
ให้มีกี่คนมาบอกให้คุณหยุดทำหยุดตื้อตอนนี้ คุณยังหยุดไม่ได้หรอกครับ
เพราะฉะนั้นทำในสิ่งที่ใจคุณและตัวคุณอยากทำ เดี่ยวพอคุณเหนื่อยคุณเจ็บเต็มที่คุณจะหยุดได้เองครับ
แต่ผมอยากให้คุณระวังอะไรไว้สักอย่างครับ คือ ตอนนี้เขาให้คุณเป็นพี่น้องกับเขาได้
แต่ถ้าวันหนึ่งคุณตื้อเขามากๆ คุณเข้าหาครอบครัวเขามากๆ เขาจะรู้สึกว่าไม่เป็นส่วนตัว
เขาจะรู้สึกว่าทำไมคุณต้องเข้ามายุ่มย่ามกับเขาและคนในครอบครัวของเขามากมายขนาดนี้รึเปล่า
ซึ่งเขาอาจจะคิดแบบนี้ หรืออาจจะไม่คิดแบบนี้ก็ได้นะครับ
จากตอนแรกที่ยังเป็นพี่น้องกันได้ ช่วยเหลือให้คำปรึกษากันได้
เดี๋ยวมันจะกลายเป็นเขารำคาญ ไม่อยากเจอหน้าคุณ
ไม่อยากให้คุณเข้ามาข้องแวะกับคนในครอบครัวเขารึเปล่า
กลายเป็นว่าเดี๋ยวมันจะยิ่งแย่มากกว่าเดิมรึเปล่าครับ
เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าทั้งคุณและแฟนเก่าต้องกลายเป็นคนอื่นกันไปรึเปล่าครับ
(ขอโทษที่ผมต้องบอกแบบนี้ แต่ผมคิดในกรณีที่สถานการณ์มันแย่ที่สุดนะครับ)
...แต่ยังไงก็สุ้ๆ นะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ
แสดงความคิดเห็น
ตื้อแฟนเก่าที่หมดรัก จะสมหวังไหมครับ? (เกย์)
เข้าเรื่องเลยนะ...ผมกับแฟน(คู่เกย์) คบกันมาได้ 2ปี เขาเป็นแฟนคนแรกของผม ด้วยความที่ผมยังเป็น นศ แต่เขาวัยทำงาน เรื่องที่ทะเลาะกันมักเป็นเรื่องไร้สาระ เช่น เค้าไม่อยากให้ผมไปฟิตเนสเพราะหวง ไม่อยากให้เล่นเกมส์เพราะไม่รู้จักโต ไม่อยากให้ไปเที่ยวกินเหล้าเพราะมันไม่ดี บอกว่าผมติดเพื่อนมากไม่มีเวลาให้เขา ผมก็ประชดประชันในเฟสใส่เขาบ้าง(ตามจริตใจหญิง) เพราะผมโดนห้ามมาหลายครั้ง
...จนวันหนึ่งผมระเบิดออกมา บอกเลิกเขาเพราะอยากได้อิสระกลับคืนมา เขามาง้อมาขอคืนดีได้เป็นเดือน บอกเข้าใจแล้วทุกอย่างอธิบายว่าที่ผ่านมาเขาก็ทำเกินไป เพราะตอนเขาเป็น นศ เขาก็เคยเป็นแบบเดียวกัน เคยผ่านมาเหมือนกัน เขาบอกได้บทเรียนจะไม่เอาประสบการณ์ตัวเองไปสอนคนอื่น เราต้องค่อยๆเรียนรู้กันไป จนผมใจอ่อนกลับมคบกัน ได้ 2 เดือน
...จนวันหนึ่งเขาบอกว่าผมไม่เหมือนเดิม และเขาก็เหนื่อย งานก็ยุ่ง+เรียนต่อ ป.โท ด้วย จนเขาบอกว่า "เราเป็นพี่น้องกันก่อนเหอะ ช่วงนี้ยุ่งมากเครียดมาก็เยอะ ขอจัดการชีวิตดัวเองเรียนให้จบก่อน ช่วงนี้พักก่อนละกัน" ทันใดนั้น น้ำตาผมมันก็พุ่งพรวดออกมา วันนั้นเสียใจมาก มาคิดทบทวนตัวเองดูว่าที่ผ่านมา เราคงประชด คงงี่เง่ากับเค้าไว้มากจนกัดกร่อนความรู้สึกเขา และคิดมาตลอดว่าตอนที่ผมขอเลิก 1เดือนนั้น เขาคงตรอมใจมาก เพราะน้ำหนักก็ลด คงกินไม่ได้นอนไม่หลับเหมือนที่ผมเป็นในวันนี้
...ผมได้แต่คิดทบทวนถึงเรื่องแย่ จนมาสำนึกทุกอย่างว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมทำมันที่บั่นทอนความรู้สึกเขา ผมก็ได้แต่เฝ้ารอจนผ่านไป 8 เดือน ทุกคืนทุกวันมันแสนทรมานมาก มีคนเข้ามาจีบผมเยอะแยะ แต่ผมก็ตัดใจจากเขาไม่ได้เลย ไม่คิดจะเปิดใจให้ใครแม้แต่คนที่หล่อกว่า ดีกว่า ใส่ใจกว่า ทักแชทมาทุกวัน เพราะผมรักแฟนเก่าผมเหลือเกิน(คงเพราะแฟนคนแรกด้วยมั้ง) รักโดนไม่รู้เหตุผล ก็มันรักไปแล้วนิ ตอนนี้เขาใก้เรียนจบ ป.โท แล้วพรีเซนจบแล้ว เหลือแค่แก้รูปเล่มนิดหน่อยส่ง ผมเลยรู้สึกมีความหวัง
...ผมจึงเริ่มติดต่อเขามากขึ้น แต่เขาก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง บอกงานยุ่งตลอด ชวนไปกินข้าว ไปดูหนังก็ไม่ไปเลยสักครั้ง ทุกวันนี้ผมก็ไปมาบ้านเขา ไปเยี่ยมครอบครัวเขาบ่อยๆพวกท่านก็รักเหมือนเป็นลูกหลาน (เขาเป็นครูอยู่รอบนอก กลับบ้านเฉพาะ ส-อา) เพราะหวังให้เขารู้ว่าผมยังไม่ได้หายไปไหนนะ จนช่วงหลังๆนี้เขาไม่รับสาบ ทุกอย่างที่ทำที่พูดดูเย็นชามาก พูดแล้วใจจะขาดคุณเอ้ยยยย
...จนวันนี้ ตอนเย็นเมื่อกี้ ผมได้ขับมอไซด์ไปหาเขาถึงบ้านพักครูที่ รร ไกลมากหวังเครียให้ชัดเจน และก็ได้เจอได้คุยกัน ผมระบายความรู้สึกที่มีทั้งหมด ว่ารักมากเหลือเกิน พยายามเล่าความหลังที่เราเคยร่วมทุกข์รร่วมสุขกันมา ขอโทษทุกอย่างที่เคยทำให้เสียความรู้สึก พร้อมจะแก้ไข ขอโอกาส นั่นนี่ บลาๆๆยาววว
........แต่เขากลับตอบมาว่า "ตอนนี้เอาจริงๆนะ ความรู้สึกมันเปลี่ยนไปแล้ว ไม่สามารถให้คำว่าแฟนได้แล้ว แต่ยังเหลือความรู้สึกดีๆ ปรับเป็นพี่น้องกันจะดีกว่า เธอมีอนาคตอีกไกล ตอนนี้ก็ยังไมไ่ด้มีใครหรอกนะ และยังไม่อยากมีใคร ช่วงเวลาที่ผ่านมา การอยู่คนเดียวทำให้มีความสุขมาก ไม่อยากกลับไปทำไรซ้ำเดิมๆ ใครต่างคนต่างคิดจะมีใครใหม่มันก็เป็นสิทธิ์ส่วนตัว เราก็ไม่อยากกลับไปคบเธอแล้ว หรือบางทีอาจจะไม่คบใครเลยทั้งชีวิตก็ได้มั้ง แต่ยังเป็นพี่น้องกันได้อยู่ พูดคุยปรึกษา ช่วยเหลือได้ตลอด"
ผมนี่ล้มทั้งยืนเลย ร้องไห้ตลอดทางกลับ ทรมาเหลือเกินครับ ผมรักเค้ามากกกก ผมควรทำไงดี จะตื้อต่อไปเรื่อยๆ ไปมาหาครอบครัวเขาตลอด ให้เขากลับมารักจะเป็นไปได้ไหมครับ ทรมานเหลือเกินครับ TT TT