หลายๆคนเมื่อได้ไปเยือน Seoul ครั้งแรก  จบทริปกลับบ้านมา น่าจะมีอาการแบบเดียวกับ จขกท. นั่นคือ...
หาตั๋วเครื่องบินเถอะ อยากกลับไปอีก ไปอีก ไปอีก ไปอีก
อยากไปกิน
อยากไปช๊อป
อยากไปที่โน้น
อยากไปที่นี่
โอ้ย ยังไปไม่ทั่วเลย ไปอีกรอบแล้วกัน...

ไม่แปลกค่ะ หากคุณก็เป็นอีกคนที่มี “อาการ” แบบนี้
ครั้งที่แล้วไปเกาหลีช่วงเดือนกรกฏาคม ที่ผ่านมา...ตอนนั้นอากาศค่อนข้างร้อน ไปเที่ยวก็หลายที่อยู่ กลับไปส่องกระทู้ที่เคยรีวิวไว้ได้ที่นี่เลยค่ะ...  http://ppantip.com/topic/35382035

เวลาผ่านไปไม่กี่เดือน...Seoul เรียกร้องให้เรากลับไปอีกครั้ง แต่ไปคราวนี้ อากาศหนาวแล้ว...บรรยากาศก็แตกต่างจากครั้งก่อนโดยสิ้นเชิง อาจจะมีบางที่ที่คงต้องขอไปซ้ำ แต่ก็มีอีกหลายต่อหลายที่ ที่เป็นที่ใหม่ (สำหรับเรา) ที่รอให้เราไปเยือนอยู่
ทริปนี้รวมๆแล้วไป 5 คืน 6 วันค่ะ  ไป Busan 1 คืน 2 วัน  /  ไป Suwon & Songdo แบบ day-trip จาก Seoul อีก 1 วัน  เวลาที่เหลือคืออยู่ Seoul ถึงแม้ว่าอาจจะไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็เยอะพอให้ชาร์ตแบตชีวิตเต็มที่ กลับเมืองไทยมาลุยงานต่อได้รัวรัว...
ดูรีวิว ทริป BUSAN ได้ที่ http://ppantip.com/topic/35908433
ดูรีวิว ทริป Suwon & Songdo ได้ที่ http://ppantip.com/topic/35931216

หลายที่ เพื่อนๆอาจจะเคยไปกันมาบ้างแล้ว ไปครั้งนี้เลยอยากเอาบรรยากาศในช่วงต้นฤดูหนาวที่ Seoul มาฝากกันค่ะ
ใครชอบที่ไหนก็ไปตามรอยกันได้แบบรัวรัว หากมีคำถาม ไปพูดคุยกันได้ใน facebook fanpage : เที่ยวรัวรัว นะคะ
www.facebook.com/travelruarua



มาเริ่มกันเลย
มาเกาหลีคราวนี้ สารภาพว่าแอบลุ้นว่าจะผ่าน ตม. มั้ย !!เพราะที่ผ่านมา ได้ข่าวคราวเกี่ยวกับความเข้มงวดของ ตม.เกาหลีมาแบบรัวรัว... ครั้งนี้เลยเตรียมเอกสารทุกอย่างติดตัวมาเต็มที่ ทั้งบัตรประชาชน บัตรพนักงาน จดหมายยืนยันการทำงาน และใบขับขี่ อะไรก็ได้ที่แสดงตัวตนได้ จัดมาหมดค่ะ รวมไปถึง แผนท่องเที่ยวทั้งหมด หลักฐานที่พัก ตั๋วเครื่องบินขากลับ
คราวนี้ได้มาเจอกับตัว เลยอยากมาเล่าให้ฟังกันนิดนึง...
เรามาถึงเกาหลีเวลาประมาณ 9 โมง คนต่อคิวผ่าน ตม.เยอะมากกกกกกกกกกก ส่วนมากก็จะเป็นคนไทยและชาวเอเชียกลางค่ะ
ใช้เวลาต่อคิวอยู่ประมาณ 1 ชม.เห็นจะได้
คิวขยับเรื่อยๆนะ ระหว่างที่ต่อคิวก็จะเห็น จนท.ตม.เชิญคนที่ต่อคิวเข้า "ห้องเย็น" อย่างต่อเนื่อง (ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไรนะคะ) เท่าที่เห็นที่โดนเรียกไปเป็นคนไทยไปแล้วเป็นสิบ !!! (อาจจะแค่เรียกเพื่อเข้าไปสอบถามหรือขอเอกสารเพิ่มเติมก็เป็นได้นะ อย่าเพิ่งตกอกตกใจไป...)
พอถึงคิวเราบ้าง ก็ทำใจดีสู้เสือ ถึงเคาเตอร์ก็ทักทาย ยิ้ม ไม่หลบตา เราบริสุทธ์ใจซะอย่าง ไม่น่ามีปัญหา
แต่ครั้งนี้เราตั้งใจเอาใบ immigration เสียบไว้หน้าที่มีตราประทับผ่านเกาหลีเมื่อครั้งก่อนให้ จนท. เห็นค่ะ
แล้วก็ผ่านมาได้แบบปรื๊ดๆเลย ไม่มีคำถาม ไม่มียึกยัก โล่งอก
เดินยิ้มไปรับกระเป๋าพร้อมตะลุยเกาหลีแบบรัวรัว

มาเล่าถึงวิธีการเดินทางจากสนามบิน Incheon จะเข้า Seoul กันบ้าง ไปยังไงดีนะ???
Airport Express (AREX) น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด!!
รถไฟสายพิเศษวิ่งตรงแบบ non-stop ไปจอดที่ Seoul Station สถานีปลายทาง ใช้เวลาในการเดินทางเพียง 43 นาทีเท่านั้น
ค่าตั๋วราคาเที่ยวละ 8,000 won/คน (ถ้าซื้อจากเคาเตอร์) แต่ถ้าซื้อตรงจากตู้อัตโนมัติจะได้ส่วนละอีกเที่ยวละ 500 won ค่ะ
จาก Arrival Hall ที่สนามบิน Incheon ให้เดินตามป้าย Airport Express มาเรื่อยๆ ลงมาที่ชั้น B1 ก็จะเจอเคาเตอร์ขายตั๋วค่ะ ดูภาพประกอบได้เลยนะคะ หาไม่ยากค่ะ
พอซื้อตั๋วแล้วจะได้รับตั๋วบัตรแข็ง 1 ใบเอาไว้ใช้ผ่านประตูทางเข้า และอีกใบเป็นคล้ายๆใบเสร็จจะระบุเบอร์โบกี้รถไฟและเลขที่นั่งค่ะ
ตรงชานชาลารถไฟ ก็จะมีลูกศรบอกชัดเจนว่ารถไฟมาฝั่งซ้ายหรือขวา
ภายในรถไฟ สะอาด เงียบสงบ คนไม่พลุกพล่าน  ส่วนกระเป๋าเดินทางก็มีที่วางไว้ตรงชั้นข้างๆกับประตูรถไฟเลยค่ะ สะดวกมากๆ ง่ายมากๆ แค่นี้ก็ตะลุยโซลได้แล้วววว...






ทริปนี้เลือกที่พักที่อยู่แถว Seoul Station ค่ะ เพราะคิดว่าอยู่ที่ Hub การเดินทางรถไฟกลางเมืองน่าจะสะดวกสุด และอีกอย่างคือวันกลับ fight บินค่อนข้างเช้าต้องรีบออกแต่เช้ามืด และต้องนั่ง AREX ซึ่งมีต้นสายจาก Seoul Station นั่นเอง... และก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องจริงๆค่ะ

เอาล่ะพอเราเข้าที่พัก check-in เรียบร้อยก็เริ่มออกตะลุย Seoul กันเลย อากาศตอนนั้นค่อนข้างหนาว ประมาณ 1-3 องศาค่ะ