ทำไมโรงงานผลิตครีม สบู่ กลูต้า ยาลด ผุดขึ้นเยอะยิ่งกว่าดอกเห็ดอีกคะ
จากที่เล่นโซเชียลมาค่อนข้างจะหลายแอพ ทั้งเฟชบุ๊ค ทวิตเตอร์ อินสตราแกรม ไลน์ กาเกา บีทอค ฯลฯ
จะมีช่วงนึงที่เน็ตไอดอลเกิดเยอะๆ(หมายถึงคนที่มียอดแชร์ยอดติดตามในเฟชบุ๊คเยอะๆนะ) ทำท่าถือครีมนั้น สบู่นี้โชว์บอกสรรพคุณเสร้จสรรพ ลดสิว ลดฝ้า หน้ากระจ่างใส อ่อนกว่าเยาว์ ประดุจสาวเกาหลี กินกลูต้ายี่ห้อนี้แล้วขาวจริงขาวไวภายใน7วัน พอเน็ตไอดอลรีวิวเยอะๆเข้าแบรนด์ดัง คนก็แห่ไปหามาใช้เพราะคิดว่าคงไม่อันตราย
แต่หลายคนก็ใช้แล้วหน้าพังอ่ะ
เดี๋ยวนี้มันมีวิธีขายใหม่แล้วเหวย บัญชีสนับสนุนอะไรนั่นแหละในเฟชบุ๊ค เลื่อนๆฟีดข่าวไปก็เจอแล้วค่า... โรงงานผลิตครีม สบู่ นั่นนู่นนี่ เปิดไปดูก็จะมีสบู่สีๆอ่ะคะสีแดงสูตรสตอเบอร์รี่ สีขาวขุ่นสูตรนมสด สีส้มสูตรแครรอท สีม่วงสูตรองุ่น
ครีมก็จะแบบครีมกิโล ที่สีลูกกวาดๆหน่อยสรรพคุณล้นเหลือค่ะรักษาได้ทุกสรรพสิ่งบนใบหน้าแต่ราคาโลละไม่ถึง100 สงสัยมากเลยว่ามันทำง่ายขนาดนั้นเลยหรอ สงสัยตั้งแต่เอาสารสกัดจากสตอเบอร์รี่มาทำสบู่แล้ว คือ? คือประเทศเราไม่ใช่เมืองหนาวไงไม่ใช่ประเทศที่มีสตอเบอร์รี่หรือกินหรือใช้อย่างญี่ปุ่นเกาหลีถึงกับขนาดเหลือเอามาทำสบู่นี่คงไม่ใช่แล้ว ยิ่งถ้าบอกว่านำเข้ายิ่งแล้วใหญ่เลย นำเข้ามาต้องเสียภาษีนั่นนู่นนี่ มาทำขายก้อนะไม่กี่ตังค์นี่นะ คุ้มหรอ? แล้วบางรายมีบอกทำแบรนด์ได้มีเลขอย.ให้เสร็จสรรพ
เลขอย.มันได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรอค่ะ (เลขอย.หรือเลขจดแจ้งอะไรนี่แหละ)อันนี้ไม่รู้จริงๆ บางคนไม่น่ามีความรู้พอที่จะทำครีมทำสบู่มาขายได้อ่ะคะ แต่ทำไมกลับทำมาขายกันเป็นว่าเล่นเลย เรามีมาตราการป้องกันอะไรแบบนี้มั้ย หรือว่ทป้องกันไม่ได้เพราะด้วยข้อกฎหมายอะไรบางอย่าง ที่ถามเพราะว่าเคยหน้าพังเพราะครีมในเน็ตนี่แหละค่ะทั้งครีมทั้งสบู่เลย อาจารย์ก็บอกมานะคะว่ามันไม่ดีอย่างนั้นมีข้อเสียอย่างนี้แต่เราคิดแค่ว่าถ้าเลิกใช้แล้วมันจะเป็นสิวหรือหน้าดำกว่าเดิมจริงๆเราก็อย่าเลิกใช่สิ่
ทีนี้แบรนด์นั้นหายไปเราเลยหาซื้อใช้ต่อไม่ได้หน้าเลยพังแบบเจ็บมาก มันเป็นสิวเห่อสิวสารพัดทั่วหน้าเลยอ่ะคะ เลยอยากถามถึงมาตราการควบคุมหน่อยว่าเราควบคุมได้มั้ยคะ หรือว่ามีการควบคุมแล้ว อะไรยังไง
ขออภัยหากภาษาวัยรุ่นไปนิสนะคะ อาจจะพิมพ์ถูกๆผิดๆบ้าง
ทำไมโรงงานผลิตครีม สบู่ ผุดขึ้นเยอะกว่าดอกเห็ดอีกคะ
จากที่เล่นโซเชียลมาค่อนข้างจะหลายแอพ ทั้งเฟชบุ๊ค ทวิตเตอร์ อินสตราแกรม ไลน์ กาเกา บีทอค ฯลฯ
จะมีช่วงนึงที่เน็ตไอดอลเกิดเยอะๆ(หมายถึงคนที่มียอดแชร์ยอดติดตามในเฟชบุ๊คเยอะๆนะ) ทำท่าถือครีมนั้น สบู่นี้โชว์บอกสรรพคุณเสร้จสรรพ ลดสิว ลดฝ้า หน้ากระจ่างใส อ่อนกว่าเยาว์ ประดุจสาวเกาหลี กินกลูต้ายี่ห้อนี้แล้วขาวจริงขาวไวภายใน7วัน พอเน็ตไอดอลรีวิวเยอะๆเข้าแบรนด์ดัง คนก็แห่ไปหามาใช้เพราะคิดว่าคงไม่อันตราย
แต่หลายคนก็ใช้แล้วหน้าพังอ่ะ
เดี๋ยวนี้มันมีวิธีขายใหม่แล้วเหวย บัญชีสนับสนุนอะไรนั่นแหละในเฟชบุ๊ค เลื่อนๆฟีดข่าวไปก็เจอแล้วค่า... โรงงานผลิตครีม สบู่ นั่นนู่นนี่ เปิดไปดูก็จะมีสบู่สีๆอ่ะคะสีแดงสูตรสตอเบอร์รี่ สีขาวขุ่นสูตรนมสด สีส้มสูตรแครรอท สีม่วงสูตรองุ่น
ครีมก็จะแบบครีมกิโล ที่สีลูกกวาดๆหน่อยสรรพคุณล้นเหลือค่ะรักษาได้ทุกสรรพสิ่งบนใบหน้าแต่ราคาโลละไม่ถึง100 สงสัยมากเลยว่ามันทำง่ายขนาดนั้นเลยหรอ สงสัยตั้งแต่เอาสารสกัดจากสตอเบอร์รี่มาทำสบู่แล้ว คือ? คือประเทศเราไม่ใช่เมืองหนาวไงไม่ใช่ประเทศที่มีสตอเบอร์รี่หรือกินหรือใช้อย่างญี่ปุ่นเกาหลีถึงกับขนาดเหลือเอามาทำสบู่นี่คงไม่ใช่แล้ว ยิ่งถ้าบอกว่านำเข้ายิ่งแล้วใหญ่เลย นำเข้ามาต้องเสียภาษีนั่นนู่นนี่ มาทำขายก้อนะไม่กี่ตังค์นี่นะ คุ้มหรอ? แล้วบางรายมีบอกทำแบรนด์ได้มีเลขอย.ให้เสร็จสรรพ
เลขอย.มันได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรอค่ะ (เลขอย.หรือเลขจดแจ้งอะไรนี่แหละ)อันนี้ไม่รู้จริงๆ บางคนไม่น่ามีความรู้พอที่จะทำครีมทำสบู่มาขายได้อ่ะคะ แต่ทำไมกลับทำมาขายกันเป็นว่าเล่นเลย เรามีมาตราการป้องกันอะไรแบบนี้มั้ย หรือว่ทป้องกันไม่ได้เพราะด้วยข้อกฎหมายอะไรบางอย่าง ที่ถามเพราะว่าเคยหน้าพังเพราะครีมในเน็ตนี่แหละค่ะทั้งครีมทั้งสบู่เลย อาจารย์ก็บอกมานะคะว่ามันไม่ดีอย่างนั้นมีข้อเสียอย่างนี้แต่เราคิดแค่ว่าถ้าเลิกใช้แล้วมันจะเป็นสิวหรือหน้าดำกว่าเดิมจริงๆเราก็อย่าเลิกใช่สิ่
ทีนี้แบรนด์นั้นหายไปเราเลยหาซื้อใช้ต่อไม่ได้หน้าเลยพังแบบเจ็บมาก มันเป็นสิวเห่อสิวสารพัดทั่วหน้าเลยอ่ะคะ เลยอยากถามถึงมาตราการควบคุมหน่อยว่าเราควบคุมได้มั้ยคะ หรือว่ามีการควบคุมแล้ว อะไรยังไง
ขออภัยหากภาษาวัยรุ่นไปนิสนะคะ อาจจะพิมพ์ถูกๆผิดๆบ้าง