สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคน พอดีผมได้รับเครื่อง ASUS Zenfone 3 Deluxe จากผู้ใหญ่ใจดี ให้มาลองเล่นเป็นเวลา 1 สัปดาห์ได้ ก็เลยจะนำประสบการณ์มาแชร์ให้กับเพื่อน ๆ คนอื่น ว่าไอ้เจ้า ASUS Zenfone 3 Deluxe เป็นยังไง สเปคกับราคาคุ้มค่าหรือไม่ น่าซื้อไหมในราคา 23,990 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ผมว่าแรงใช้ได้ สำหรับมือถือ ASUS
ส่วนตัวผมติดตามแบรนด์ ASUS มาพอสมควร ตั้งแต่สมัย ASUS Zenfone 4, 5, 6 มาจนถึง Zenfone 2 อย่างตัว ASUS Zenfone 3 ผมก็ซื้อตัว Zenfone 3 Max 5.2 มาใช้เป็นเครื่องสำรอง รวมถึงซื้อ ASUS Zenfone 3 Ultra มาให้คุณแม่ใช้งานด้วย ลองหาดูจากรีวิวก่อนหน้านี้ก็ได้ครับ (อันที่จริงผมก็เปลี่ยนเครื่องสำรองจาก Zenfone 3 Max 5.2 เป็นรุ่น 5.5 นิ้วแล้วด้วย ไว้ว่าง ๆ จะมารีวิวให้อ่านกันอีกที)
ASUS Zenfone 3 Deluxe มาในกล่องแบบหรูหรา คนละเกรดกับ ASUS Zenfone 3 Max เลยทีเดียว แต่ตัวกล่องจะคล้าย ๆ กับ ASUS Zenfone 3 Ultra คือมีสีน้ำเงิน แล้วก็เปิดฝากล่องแบบเดียวกันเลย
ฝากล่องเปิดแบบนี้ เมื่อเปิดมาก็จะพบกับ ASUS Zenfone 3 Deluxe นอนรออยู่
บรรดาอุปกรณ์เสริมของ ASUS Zenfone 3 Deluxe จะอยู่ในลิ้นชักใต้กล่อง เมื่อดึงออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์เสริมแบบครบชุด ได้แก่ อะแดปเตอร์, หูฟัง ZenEar และสาย USB Type-C สำหรับเชื่อมต่อข้อมูล
มาดูหน้าตาของ ASUS Zenfone 3 Deluxe กันบ้างครับ สำหรับหน้าตาของ ASUS Zenfone 3 Deluxe จะฉีกแนวออกมาจากตอน Zenfone 2 พอสมควร แต่ถ้าเทียบกับรุ่นในซีรี่ส์อย่าง Zenfone 3 Laser, Zenfone 3 Max ก็ถือว่าออกมาในแนว ๆ เดียวกัน เน้นวัสดุที่เป็นโลหะมากขึ้น ภาพรวมดูหรูหราขึ้น แน่นอนว่าราคาก็แรงขึ้นเช่นกัน = =a
ASUS Zenfone 3 Deluxe มีหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Full HD รองรับมัลติทัช 5 จุด กระจกนิรภัย Gorilla Glass 4 สีสันหน้าจอสดตามสไตล์หน้าจอ AMOLED ล่ะครับ ความคมชัดผมว่าก็โอเคกับความละเอียด Full HD นะ
[SR] Review รีวิว ASUS Zenfone 3 Deluxe เซ็นโฟนที่จัดเต็มที่สุด และแรงที่สุดในโลก Ram 6 GB ราคา 23,990 บาท!!
สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคน พอดีผมได้รับเครื่อง ASUS Zenfone 3 Deluxe จากผู้ใหญ่ใจดี ให้มาลองเล่นเป็นเวลา 1 สัปดาห์ได้ ก็เลยจะนำประสบการณ์มาแชร์ให้กับเพื่อน ๆ คนอื่น ว่าไอ้เจ้า ASUS Zenfone 3 Deluxe เป็นยังไง สเปคกับราคาคุ้มค่าหรือไม่ น่าซื้อไหมในราคา 23,990 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ผมว่าแรงใช้ได้ สำหรับมือถือ ASUS
ส่วนตัวผมติดตามแบรนด์ ASUS มาพอสมควร ตั้งแต่สมัย ASUS Zenfone 4, 5, 6 มาจนถึง Zenfone 2 อย่างตัว ASUS Zenfone 3 ผมก็ซื้อตัว Zenfone 3 Max 5.2 มาใช้เป็นเครื่องสำรอง รวมถึงซื้อ ASUS Zenfone 3 Ultra มาให้คุณแม่ใช้งานด้วย ลองหาดูจากรีวิวก่อนหน้านี้ก็ได้ครับ (อันที่จริงผมก็เปลี่ยนเครื่องสำรองจาก Zenfone 3 Max 5.2 เป็นรุ่น 5.5 นิ้วแล้วด้วย ไว้ว่าง ๆ จะมารีวิวให้อ่านกันอีกที)
ASUS Zenfone 3 Deluxe มาในกล่องแบบหรูหรา คนละเกรดกับ ASUS Zenfone 3 Max เลยทีเดียว แต่ตัวกล่องจะคล้าย ๆ กับ ASUS Zenfone 3 Ultra คือมีสีน้ำเงิน แล้วก็เปิดฝากล่องแบบเดียวกันเลย
ฝากล่องเปิดแบบนี้ เมื่อเปิดมาก็จะพบกับ ASUS Zenfone 3 Deluxe นอนรออยู่
บรรดาอุปกรณ์เสริมของ ASUS Zenfone 3 Deluxe จะอยู่ในลิ้นชักใต้กล่อง เมื่อดึงออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์เสริมแบบครบชุด ได้แก่ อะแดปเตอร์, หูฟัง ZenEar และสาย USB Type-C สำหรับเชื่อมต่อข้อมูล
มาดูหน้าตาของ ASUS Zenfone 3 Deluxe กันบ้างครับ สำหรับหน้าตาของ ASUS Zenfone 3 Deluxe จะฉีกแนวออกมาจากตอน Zenfone 2 พอสมควร แต่ถ้าเทียบกับรุ่นในซีรี่ส์อย่าง Zenfone 3 Laser, Zenfone 3 Max ก็ถือว่าออกมาในแนว ๆ เดียวกัน เน้นวัสดุที่เป็นโลหะมากขึ้น ภาพรวมดูหรูหราขึ้น แน่นอนว่าราคาก็แรงขึ้นเช่นกัน = =a
ASUS Zenfone 3 Deluxe มีหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Full HD รองรับมัลติทัช 5 จุด กระจกนิรภัย Gorilla Glass 4 สีสันหน้าจอสดตามสไตล์หน้าจอ AMOLED ล่ะครับ ความคมชัดผมว่าก็โอเคกับความละเอียด Full HD นะ
ความบางของ ASUS Zenfone 3 Deluxe ถือว่าบางทีเดียวครับ การออกแบบมีการเล่นโค้งเล่นเว้ากับตัวเครื่อง ทำให้ตัวเครื่องจับถือได้สะดวก แม้จะมีหน้าจอใหญ่ถึง 5.7 นิ้วก็ตาม
ไฮไลท์อีกอย่างก็คือ ASUS Zenfone 3 Deluxe มีการซ่อนเสาอากาศได้อย่างแนบเนียน ถ้าเป็นมือถือโลหะ จะต้องมีการเดินเสาสัญญาณด้านหลังตัวเครื่อง แต่ ASUS Zenfone 3 Deluxe ได้ถูกซ่อนไว้แล้ว ไม่มีเส้น ๆ มารบกวนสายตาแน่นอน
กล้องหลังของ ASUS Zenfone 3 Deluxe มีความละเอียดที่ 23 ล้านพิกเซล f/2.0 มีกันสั่น OIS 4 แกน รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K ระบบโฟกัสจัดเต็ม และมีเซนเซอร์วัดความแม่นยำของสีด้วย
ช่วงที่ได้รีวิว ASUS Zenfone 3 Deluxe ผมไปเที่ยวเชียงใหม่มาพอดี เลยมีโอกาสเก็บรูปมาฝากเพื่อน ๆ ครับ ภาพตัวอย่างไม่ได้มีการปรับแต่งอะไร แค่ย่อขนาดไฟล์ด้วย Lightroom เท่านั้นเอง ส่วนตัวผมประทับใจเรื่องความคม และความแม่นยำของสีสันใน ASUS Zenfone 3 Deluxe มาก ๆ สีที่ได้ค่อนข้างตรงกับที่ตาเห็น
ลองถ่ายอาหารสักรูป ใช้ได้เลย ไก่กร๊อบกรอบ - ผิด!!!
ลองถ่ายพาโนราม่าบนจุดชมวิวระหว่างทางไปดอยสุเทพ ติดหัวใครมาก็ไม่รู้หน่อยนึง
ถ่ายกลางคืน
ASUS Zenfone 3 Deluxe มีเซนเซอร์สแกนนิ้วติดมาให้ การสแกนนิ้วแม่นยำ และปลดล็อกได้รวดเร็วทีเดียวครับ
ส่วนเรื่องสเปค ASUS Zenfone 3 Deluxe มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 820 ความเร็ว 2.15 GHz + Ram 6 GB และความจุภายใน 64 GB ใช้กับชิล ๆ ผมลองเปิดแอปพลิเคชันเยอะแยะมากมาย ก็ไม่พบว่าหน่วงอะไร ส่วนความแรงก็เล่นได้ทุกเกมที่มีใน Play Store ตอนนี้ล่ะครับ
พอร์ตเชื่อมต่อของ ASUS Zenfone 3 Deluxe ใช้พอร์ตแบบ USB Type-C 3.0 สามารถเลือกเชื่อมต่อโอนถ่ายข้อมูลแบบมาตรฐาน 3.0 ได้ด้วย การถ่ายโอนข้อมูลนี่เร็วปรี๊ด ๆ เลย
แบตเตอรี่ ASUS Zenfone 3 Deluxe มีความจุที่ 3000 mAh อาจจะดูไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ในการใช้งานจริงก็พอจะลากให้หมดวันได้ หรือถ้าไม่ได้เล่นเกมหนัก ๆ วันนิด ๆ ก็ไม่มีปัญหาครับ ได้เครื่องมาเล่นประมาณอาทิตย์นึง ผมชาร์จไฟนับครั้งได้เลย
ภาพรวมของ ASUS Zenfone 3 Deluxe สำหรับผม กับราคา 23,990 บาท ก็คงเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะได้มือถือที่สเปคสุดทาง ซีพียูแรง แรมเยอะ ทุกอย่างโอเคหมด แต่สำหรับบางคนอาจจะมองว่า ASUS ขายมือถือรุ่นนี้แพงเกินไปหรือเปล่า เพราะเราก็ไม่เคยเห็น ASUS ขายมือถือราคาเกิน 20,000 เท่าไหร่ ปกติจะเน้นราคากลาง ๆ มากกว่า
เอาจริง ๆ ผมก็แอบคิดอยู่เหมือนกันว่าทำไมแพง แต่ถ้ามองว่าเป็นมือถือที่สเปค Snapdragon 820 + Ram 6 GB ฟีเจอร์แน่น ๆ ถ่ายรูปก็สนุก กับราคา 23,990 บาท (ไม่นับมือถือจีน) ผมว่ามันก็ไม่ได้แพงเท่าไหร่เลยครับ เมื่อเทียบกับรุ่นที่อยู่ในช่วงราคาใกล้เคียงกัน ผมว่า Zenfone 3 Deluxe ก็เป็นอีกรุ่นที่ไม่ควรมองข้ามเหมือนกัน