ด้วยแมวฟ้าเองเคยเป็นคนที่ชอบดูดวงมาก ชอบหาหมอดูเยอะมากๆ จนวันนึงได้มาเป็นหมอดูซะเองและเลิกเป็นหมอดู  ด้วยเหตุผลส่วนตัวบางประการ แม้ลูกค้าไม่อุดมสมบูรณ์เท่าสมัยเป็นหมอดู แต่ความอบอุ่นใจที่ได้นั้นมันเพิ่มขึ้นมหาศาลสำหรับแมวฟ้า อันนี้ก็ขอบคุณจากใจเพื่อนๆทุกคนที่คอยให้กำลังใจ สนับสนุน และขาดไม่ได้ที่อุดหนุนแมวฟ้านะคะ ทำให้คำว่า “ ดับทุกข์ ” เริ่มคุ้นปาก คุ้นหูขึ้นมาภายในเวลา 1 ปี แมวฟ้ายังจะเดินหน้าและพัฒนาตัวเองต่อไปค่ะ

เพราะสำหรับแมวฟ้า ความสุขของคุณทำให้แมวฟ้าสุขใจนะ จริงๆ



เข้าเรื่องกันดีกว่าเนอะ แนะนำวิธีการเลือกหมอดู อันเนื่องมาจาก เงินทองของหายาก และจิตใจคนเรานั้นต้องทนุถนอมอย่าให้ใครทำร้ายเอาง่ายๆใช่ไหมคะ

วิธีการเลือกหมอดู นี้ขอเขียนจากมุมมอง ประสบการณ์ของตัวเองทั้งในฐานะเคยเป็นหมอดูและผู้บริโภคค่ะ
แน่นอนหละส่วนมากสุขกายสบายใจดีก็มักจะไม่นึกถึงหมอดูกันหรอก ทีนี้ว่าพอเราไม่สบายใจขึ้นมา เราตัดสินใจเลือกหมอดูเป็นที่พึ่งแระ ขอให้ใจเย็นทำการบ้านตามคำแนะนำต่อไปนี้ เพื่อตัวคุณเองนะคะ

1. ย้ำกับตัวเองว่า เราหาหมอดูเพื่อประกอบความคิดเห็น ไม่ใช่หาหมอดูเพื่อให้เขาจูงชีวิตเราทั้งหมด ถามตัวเองว่าหนักแน่นพอหรือเปล่า หูเบาไหม อารมณ์เป็นอย่างไรบ้าง? ถ้าแบบเศร้ามากน้ำตาตกในมาเป็นเดือนๆ อันนี้ให้พบจิตแพทย์เลยจะดีที่สุดค่ะ พูดจากใจที่ทำเองมาแล้วค่ะ

หรือถ้าจะหาหมอดู ก็ขอให้ทำข้อที่..

2. สมัยนี้หมอดูมีทั้งที่เห็นทั่วไป ทางเน็ต ทางทีวี ไม่ว่าจะทางไหน คุณควรศึกษาหาข้อมูลตัวหมอดูคนนั้น ไม่ว่าจะเป็นวุฒิการศึกษา ประสบการณ์ของเขา ศาสตร์ที่ใช้ รวมถึงถ้าสามารถ...เจาะลึกไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันของเขา พยามสังเกตลักษณะนิสัยใจคอเขา ที่มาที่ไปของเขาด้วย อย่างน้อยนะคะ...

ควรเป็นหมอดูที่มี ทาน ศีล ภาวนา และไม่มีเทพเจ้าเป็นสรณะ เพราะเหล่านั้นอาจแนะนำหรือทำนายบนพื้นฐานความเชื่อหรืออุปทานของเขาเอง  ไม่ใช่สัจธรรมเสมอไป ทำให้เราต้องไตร่ตรองหนักยิ่งขึ้นไปอีก แทนที่จะไปนั่งเบาๆฟังสบายๆแล้วคิดตาม

ถ้าเป็นหมอดูทั่วไปที่เราเห็นส่วนมากก็มักจะไม่มีอะไรให้สืบเสาะมากนัก นอกจากปากคำของคนแถวนั้นหรือลูกค้าที่เคยไปดู ถ้าเรารู้ตัวว่าไม่หนักแน่น จิตตกมาก รวมถึงทรัพย์น้อย ก็อยากให้ยั้งใจไว้ก่อน หรือถ้าไม่ไหวแล้วให้เลือกที่เราคาไม่เกิน 99-199 บาทอย่างมากค่ะ มากกว่านี้ถ้าไม่ตอบโจทย์ จะซ้ำเติมตัวคุณเอง

*หมายเหตุ ค่าครูหมอดูที่ต่ำกว่า 99 บาท โดยมากมักเป็นแค่การเชิญชวนให้เราอยากดูและจ่ายเพิ่มขึ้น ระวัง!

3. ก่อนพบหมอดู คุณควรถามใจตัวเองว่าต้องการอะไรอันดับแรกนะคะ! สำคัญมาก
หากต้องการความแม่นยำ ก็ต้องย้ำกะตัวเองว่าถ้าคำทำนายไม่เป็นอย่างที่คิดเราจะรู้สึกอย่างไร???

หากคุณต้องการความสบายใจเฉยๆ ซึ่งมีเยอะนะคนที่รู้ตัวเองอยู่แล้วแต่แค่อาจอยากได้คนฟังที่ระบายได้ เข้าใจเรา ให้กำลังใจ แนะแนวทาง คลายข้อสงสัยให้คุณด้วยเหตุผล หลักธรรม ถ้าอันนี้ล่ะก็ ส่วนตัวแมวฟ้ารู้สึกว่าหมอดูแบบนี้หายากกว่าแบบแม่นยำค่ะ หมอดูกลุ่มนี้ส่วนมากใจรักในการช่วยเหลือคนและมักจะมีคุณธรรม

นอกจากศึกษาหาข้อมูลให้ดีแล้ว ค่าใช้จ่ายนั้นไม่ควรเกิน 500 บาทค่ะ อ่ะ..อย่างมากไม่ควรเกิน 1,000 บาทค่ะ เพราะหมอดูเหล่านี้ย่อมรู้ดีว่าคนที่ทุกข์แล้วอยากหาหมอดูส่วนมากเป็นรากหญ้า ถึงชนชั้นกลาง คนชั้นสูงนี่เขามีทางระบายทุกข์ให้เลือกเยอะค่ะ  แล้วก็หมอดูกลุ่มนี้ใจดีค่ะถ้าคุณไม่มีจริงๆ หรือมีไม่ถึง อยากจะพึ่งเขาดู ก็ให้ลองคุยเปิดอกกะเขาก่อนสิคะ แล้วจะรู้ว่าใช่หมอดูที่คุณมองหาไหม!!!

วิธีการดู... ถ้าคุณเจอตัวเป็นๆก็ให้สังเกตสีหน้า ท่าทาง น้ำเสียง โดยเฉพาะแววตาที่เขามีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าค่ะ ถ้าได้ยินได้ด้วยยิ่งดีได้รู้ว่าเขาคุยลักษณะไหน เราจะนั่งรอต่อแถวต่อหรือจะเปลี่ยนใจลุกหนีไปก็ยังทัน

หากคุณต้องการทั้งความแม่นและสบายใจ อันนี้หายากที่สุดเลยค่ะ ต้องทำการบ้านก่อนเยอะหน่อยนะคะ อาจจะต้องถึงขั้นเข้าหาทำความรู้จักกับหมอดูคนนั้นแบบถึงตัวก่อนตัดสินใจ ถ้าเข้าถึงไม่ได้ ก็อืมมมมมม....

4. การหาข้อมูลจาก Feedback ต่างๆของตัวหมอดูคนนั้น อย่าเพียงแต่แสกนอ่านผ่านๆค่ะ ให้ตั้งใจอ่านดีๆเยอะที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะมันมีทั้งที่ Feedback จริงและหน้าม้า หากเป็นหน้าม้า อ่านดูหลายๆ Feedback เราจะสังเกตุเห็นรูปแบบของมันค่ะ หากเป็นของจริงมันจะมีความเป็นธรรมชาติในทุกๆ Feedback นะ ใช้เซ้นเราด้วยค่ะ

5. การดูดวงฟรี 1 คำถาม หมอดูใช้กันเยอะเพื่อแนะนำตัวเอง เปิดโอกาสให้ลูกค้าตัดสินใจ อันนี้ดีมากๆเลยนะคะ แมวฟ้าว่า ยิ่งทำให้ได้ข้อมูลเยอะ นอกจากลีลาการตอบ เราจะเห็นถึงอารมณ์ความใส่ใจ เห็นอกเห็นใจของเขาในการตอบเราด้วย หรือถ้าอ่านที่ตอบคนอื่นๆได้ด้วยยิ่งดีค่ะ  

บางครั้งดูดวงฟรี 1 คำถาม ก็เป็นการตอบแบบกว้างๆ บางครั้งก็เป็นการตอบแบบมีรูปแบบ
บางครั้งก็เป็นการตอบคล้ายหรือเหมือนคำทำนายที่คุณสามารถหาได้จากเวบดูดวงอัตโนมัติต่างๆ ต้องสังเกตุให้ดีนะคะ

6. คุณต้องเข้าใจว่าการดูดวงนั้นอนิจจังค่ะ ไม่ใช่ว่าจะต้องแม่นเป๊ะเว่อเสมอไป ไม่ว่าตัวหมอดูจะเก่งแค่ไหนนะคะ อันเนื่องมากจากการดูดวงแท้จริงแล้วคือการใช้ศาสตร์พยากรณ์ต่างๆ นำมาล้วงดูวิบากกรรมเก่าของเราว่ามันส่งผลอย่างไรกับเราในชาติภพนี้

ทั้งที่จริงๆแล้วในทางพุทธศาสนา มันมีทั้ง กรรมเก่า และ กรรมใหม่ ควบคู่กันไป กรรมใหม่ย่อมสำคัญกว่าเพราะคุณกำหนดมันได้ด้วยตัวเองนะจ๊ะ!

7. อาชีพหมอดู ในมุมมองของแมวฟ้าไม่ต่างอะไรกับ...อาชีพหมอเยียวยาบำบัดจิตใจคน และอาชีพให้บริการค่ะ เพราะฉะนั้นค่าครู หรือค่าบริการควรมีการรับประกัน หรือจ่ายทีหลังการดูดวงค่ะ แบบให้จ่ายก่อนใส่พานนี่ ลุกออกเลยค่ะ!





8. หากคุณต้องการความสบายใจด้วย อย่าไปกั๊กตัวเองไว้ หมายถึงอย่าไปเกร็งมากขนาดที่ไม่ยอมพูดอะไรเลย รอให้หมอดูพูดทำนายมาอย่างเดียว ด้วยเหตุที่ว่าคุณอาจจะคิดว่าถ้าแม่นจริงก็ต้องรู้ได้เองสิ ถ้าแบบนั้นคุณจะได้แค่ความแม่นหรือไม่แม่นอย่างเดียวค่ะ หรืออาจจะไม่ได้อะไรเลยด้วยนะ  แนะนำให้สบายๆค่ะ สบตาหมอดูนิดหน่อยเป็นการเปิดใจกันนะคะ

9. ทุกครั้งที่ดูดวง หรือไปหาหมอดู โปรดตั้งสติ มีสมาธิ จดจำคำพูดหมอดูให้ดีๆนะ ไม่ใช่จำเอาส่วนนึงที่เราพอใจ หรือ ไม่พอใจเท่านั้น!!!!!!
เพราะวันข้างหน้าแล้วหากผลออกมาไม่ตรง เราจะได้รู้ว่าไม่ตรงจริงๆหรือเราฟังไม่ครบเอง แนะนำให้มีการจด หรืออัดเสียงไว้นะคะ

10. ไม่ควรดูดวงบ่อยค่ะ เพราะอาจจะทำให้คุณยิ่งพบกับคำทำนายหลากหลาย สับสนวุ่นวาย จิตตก ดวงไม่ช้ำหรอก ใจจะช้ำซะมากกว่าค่ะ!
แบบไหนคือบ่อย เอิ่มมมมมอันนี้เอาตามที่คุณรู้สึกนะคะ สำหรับแมวฟ้า เดือนนึงครั้งนึงอย่างมากค่ะ

อยากจะสะกิดใจคนที่ชอบดูดวงบ่อยๆ ให้ลอง นิ่ง หยุด ทบทวนตัวเองหน่อย ว่าคุณมองหาอะไร เพราะจาก ประสบการณ์ของแมวฟ้านะ คือคนกลุ่มนี้ต้องการความสบายใจ ความอบอุ่นใจและแนวทางค่ะ
คนเหล่านี้แม้จะได้คำตอบที่แม่นเว่อก็ยังไม่หยุดหาหมอดูอยู่ดี จนกว่าเขาจะเจอที่โช๊ะเด๊ะตอบโจทย์ในใจเขาจริงๆ

ที่จริงๆแมวฟ้ายังมีอีกหลายข้อ เดี๋ยวจะเป็นการอัดข้อมูล.....ล้นมากเกินไป เอาแค่ 11 ข้อก็พอ
สงสัยอะไรถามแมวฟ้าเพิ่มได้ค่ะ

11. โปรดตระหนักว่าอาชีพหมอดูรวมไปถึงร่างทรงเป็นอาชีพนึง ที่คนไม่ดีฉวยโอกาสได้ง่ายค่ะ เพราะต้นทุนเงินมันไม่สูงนักค่ะ ใช้ข้อสุดท้ายนี้เตือนสติว่าทำไมเราจึงจำเป็นอย่างมากที่ต้องคัดเลือกหมอดูที่จะมาตอบโจทย์เรา เงินทองของหายาก จิตใจไม่ใช่ของเล่นให้ใครทำร้ายได้นะ

อาชีพหมอดู ไม่ใช่อาชีพธุรกิจหวังร่ำรวย เพราะถ้าหวังร่ำรวยแนวทางมันจะขัดแย้งกับตัวอาชีพเอง ซึ่งเป็นอาชีพช่วยคนและแค่เลี้ยงชีพเท่านั้น

แรงบันดาลใจในการเขียนบทความนี้ ส่วนนึงเลยมาจากตัวเองที่และไม่อยากให้ใครมีประสบการณ์แย่ๆ อย่างน้อยถ้าเราทำดีที่สุดแล้วเราจะได้ไม่เสียใจ(มาก) อันเนื่องมาจากบางคนไม่ได้หาหมอดูแค่ครั้งเดียว หรือค่าหมอดูสำหรับบางหมอดูเป็นพันถึงหลายพันค่ะ  เอาไปช๊อบปิ้ง เสริมสวย นวดผ่อนคลาย หรือพบนักจิตบำบัด จิตแพทย์ได้เลย

สุดท้ายนี้บทความแมวฟ้าไม่มีเจตนาใดๆนอกจาก อยากให้ทุกฝ่ายทำดีที่สุด เพื่อประโยชน์ของตัวเอง หากมีอะไรที่ทำให้ขุ่นข้องหมองใจกัน ก็อยากจะให้คิดเสียว่าแมวฟ้าช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยอย่าถือสาค่ะ

หากว่าบทความนี้ดีมีประโยชน์ เนื่องจากสังคมไทย ใกล้ชิดหมอดูค่อนข้างมากก็อยากจะขอให้ช่วยแชร์ หรือให้กำลังใจแมวฟ้าด้วยนะคะ