คุณหมอวุ่นวายกับผู้ป่วยใกล้ตายเพราะถูกเย็นชา (บริการยอดแย่ของคุณหมอห้องเบอร์๘)

กระทู้สนทนา
.....สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกท่าน.....ก่อนอื่นขอบอกก่อนเลยนะคะว่ากระทู้นี้ไม่ได้เหมารวมถึงคุณหมอทุกท่านนะคะ คุณหมอที่ทำหน้าที่อย่างกระตือรือร้นก็มี พูดจาไพเราะก็เยอะแยะ แต่วันนี้ ขออนุญาตเล่าประสบการณ์ที่เพิ่งเจอมาหมาดๆ ถึงการให้บริการที่ยอดแย่ของคุณหมอเพียงบางท่านเท่านั้น หากการตั้งหัวกระทู้แรงไปสามารถแจ้งลบได้นะคะ ยินดีค่ะ เพราะจขกทไม่ได้เป็นอะไรที่รุงแรงมาก แค่เพียงหน้ามืด เป็นลม ร่างกายเกร็งชาไปทั้งตัว เท่านั้นค่ะ สำหรับหัวกระทู้นั้น เพียงตั้งใจจะยกตัวอย่างถึงเคสหนักๆ หากต้องรอรับการรักษาอย่างล่าช้าและบริการแบบขอไปทีเหมือนจขกทเจอมา ก็คงจะสาหัสมากแล้ว และกระทู้นี้ จขกท ตั้งขึ้นมาเพื่อระบายความรู้สึกกับสิ่งที่เจอมาเท่านั้นค่ะ


.............เกริ่นถึงอาการเริ่มแรกก่อนนะคะ.............

                         คือตอนนี้ที่มหาลัยเราปิดเทอมค่ะ เราก็เลยกลับมาขายของอยู่ที่บ้าน แล้ววันนี้ขณะที่กำลังขายของอยู่ดีๆก็เกิดปวดท้องประจำเดือนค่ะ ปวดมาก แต่ยังฝืนขาย เพราะลูกค้ากำลังมาเรื่องๆ อยู่ๆก็หน้ามืดค่ะ เลยนั่งลงแล้วบอกลูกค้าว่า "แป๊บนึงนะคะ" ก็นั่งอยู่หน้าร้านเลยค่ะ ลูกค้าก็เด็กๆประถมอ่ะค่ะ น้องก็ทักว่า "พี่หน้าซีดไปหมดแล้วนะเนี่ย" เราก็ยิ้มแล้วก็พอรู้สึกว่ายังไหว ก็ขายของต่อค่ะ พอลูกค้าไปก็เดินเข้าบ้านมาหายาดมค่ะ เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่โอเคแล้ว แต่ก็หายังไม่ทันจะเจอ ก็รู้สึกได้ว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว ก็เลยนั่งอยู่หน้าบ้านแหละค่ะเพราะกลัวล้ม (ตอนอยู่ที่หอ จขกท เคยเป็นลมแล้วล้มอยู่ในห้องคนเดียวค่ะ แต่ไม่มีอาการเกร็งและชาทั้งตัวแบบนี้) ซักครู่ก็รู้สึกว่ามันแย่ลงเลยหมอบลงอยู่หน้าบ้านค่ะแล้วพยายามสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ แล้วก็เริ่มรู้สึกเย็นๆที่มือที่เท้า เริ่มชาแต่ไม่มาก แล้วก็เริ่มหายใจไม่ทั่วท้องแล้วค่ะ หายใจเหมือนคนหอบ พยายามสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆเหมือนเดิมแต่ทำไม่ได้แล้ว รู้สึกว่าเริ่มควบคุมการขยับนิ้วมือไม่ได้ มือเริ่มเกร็ง เริ่มชาไปทั้งตัว รู้ว่าตัวเองแย่แล้ว เลยพยายามเรียกป้า ก็เรียก ป้า ป้า... ป้าก็ออกมาดู พอเห็นสภาพที่นอนกองอยู่หน้าบ้านแกก็ตกใจรีบวิ่งมาเอายาให้ดมค่ะ พัดวีให้ ตอนนั้นคือได้ยินทุกอย่างค่ะ แต่ควบคุมการทำงานของร่างกายไม่ได้ รู้สึกชาไปทั้งตัว ได้ยินเสียงคนมาเต็มเลย ถามว่าเป็นอะไรๆ รู้สึกเหมือนมีหลายมือกำลังพยายามบีบนวดอยู่ทั่วร่างกายเพื่อให้หายเกร็ง ได้ยินเสียงพี่โทรบอกแม่ รับรู้ได้ถึงลมที่กำลังพัดวีให้ใกล้ๆหน้า ได้กลิ่นยาดมอ่อนๆอยู่ใกล้ๆกับจมูก แต่ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะลืมตาหรือขยับร่างกายเลย แต่กลับรู้สึกชาขึ้นเรื่อยๆ ขาและมือเริ่มไม่รับรู้ถึงแรงบีบนวดอะไรแล้ว แต่ยังได้ยินเสียงอยู่ข้างๆหูตลอดเวลา ...ซักครู่นึง ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยกับกลิ่นยาดมสมุนไพรที่ จขกท ซื้อมาฝากคนที่บ้าน เสียงนั้นเป็นเสียงของแม่จขกทเอง ความรู้สึกเริ่มกลับมาอีกครั้ง เริ่มรับรู้ถึงแรงบีบนวดตามร่างกายจากหลายๆมือทั้งขาทั้งมือทั้งเท้า รับรู้ว่าแม่กำลังบีบมือข้างขวา แม่ถามว่าได้ยินแม่ไหมๆ จขกท พยายามพยักหัวแต่ไม่รู้ว่าทำได้ไหม เลยพยายามบีบมือแม่ เพื่อให้แกรับรู้ว่าเราได้ยิน ซักครู่ได้ยินเสียงพ่อมาแล้ว ก็รับรู้ว่ามีคนพยุงร่างของจขกทขึ้นไปที่ไหนซักที่ อาการเกร็งเริ่มดีขึ้นแล้ว ได้ยินเสียงป้าพูดกับแม่ว่า "มันหายใจคล่องขึ้นแล้วๆ ไม่เกร็งมากเท่าไรแล้ว" เสียงแม่พูดขึ้นว่า "มือตีนยังเย็นเจี๊ยบเลย" ซักครู่เริ่มบังคับการทำงานของร่างกายได้บ้าง รับรู้ได้ว่ามีคนกำลังพยุงร่างแล้วไปวางบนเตียงเข็นเข้าไปในโรงพยาบาล ได้กลิ่นของโรงพยาบาลอย่างชัดเจน (กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของโรงพยาบาลจะเป็นกลิ่นยาที่คละคลุ้งไปทั่ว) ได้ยินเสียงแม่บอกป้าว่า "แก่ไปบอกอาการหมอเดิ้ง แก่เห็นมันตอนเป็นลม" จขกท ตอนนั้นอาการดีขึ้นมากแล้ว อาการเกร็งเริ่มหายไป ลืมตาได้ พยักหน้าตอบรับแม่ได้แล้ว แม่ก็ถามว่าดีขึ้นยังลูก เราก็พยักหน้าตอบ อาการก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ หมอก็ซักประวัติ ถามอาการก็บอกหมอได้ หมอที่ซักประวัติเป็นหมอผชค่ะ ขาวๆ สูงๆ ใส่แว่นตาหนาๆหมอคนนี้พูดเพราะค่ะ หมอก็ขอเจาะเลือด แล้วก็วัดความดันหมอก็บอกความดันปรกติ แล้วบอกว่าเดี๋ยวไปให้น้ำเกลือแล้วนอนพักซักหน่อยนะ หลังจากนั้นก็มีคนมาเข็นเตียงไปที่ห้องเบอร์ ๘ ค่ะ


...............ณ ห้องเบอร์๘ ของโรงพยาบาล...............

                         จขกท ถูกเข็นเตียงมาไว้ในห้องเบอร์ ๘ หรือห้องฉุกเฉินของรพ.แห่งนี้ค่ะ โดยมีแม่อยู่ข้างๆตลอดเวลา เราก็ถามแม่ว่า "หมอเค้าจิให้ทำไอแม่" แม่ก็บอกว่า "แม่กะมิรู้ ได้ยินแต่เค้าว่าจิให้น้ำเกลือ" เราก็นอนคุยกับแม่ไปเรื่อยๆ ก็ไม่เห็นจะมีใครมาทำอะไรซักที พยาบาลก็นั่งกินขนมอยู่ที่โต๊ะหัวเราะกันคิกคัก แม่เลยเดินไปถาม "เค้าจิทำไอให้ไหมค่ะ" พยาบาลบอกแม่ว่า "รอหมอ5โมง" น้ำเสียงของพยาบาลดูไม่พอใจที่แม่เดินไปถาม แม่ก็เดินกลับมาหาเราแล้วก็ชวนเราคุย เราก็ห่วงร้านก็นั่งดูนาฬิกาตอนนั้นเวลา 16:35 น. ก็ถามแม่ว่ามีคนขายของแทนไหม หรือมีใครเก็บร้านยัง ก็คุยกะแม่ไปเรื่อยๆจนอาการเริ่มปรกติดีแล้ว เลยบอกแม่ว่า แม่นั่งได้ไหมเมื่อย ก็ลุกขึ้นนั่งคุยกับแม่ บอกแม่ว่าต้องรอหมอไหมแม่ หายแล้ว ก็นั่งบ่นกับแม่ไปเรื่อยๆว่า "ถ้าอาการไม่ดีขึ้นแล้วต้องมารอหมอแบบนี้จะไหวหรอแม่ หรือถ้าคนป่วยที่เค้าสาหัสมาเค้าจะให้นอนสาหัสแบบนี้ไหมแม่ ทำไมแย่จัง"  ซักพักก็เห็นผชร่างสูงๆตี๋ๆเดินมาที่เตียง ถามว่า "คุณน้องเป็นอะไรมาคะ" แม่เลยตอบว่า "เป็นลมค่ะ" เราก็ด้วยความที่ปากไวก็เลยพูดไปว่า "หายแล้วค่ะ รอหมอจนหายเลย" พี่ผชคนนั้นก็บอกว่า "พี่ไม่ใช่หมอนะคะ พี่เป็นพยาบาล รอคุณหมอหน่อยนะ 5 โมงอ่ะค่ะ" ก็ก้มมองดูนาฬิกา ตอนนั้น 16:50 น.ค่ะ แม่ก็บอกว่า อีก 10 นาทีเอง เราก็เลยยิ้มให้แม่ แล้วก็คุยกันต่อจน 5โมง ก็มีผญตัวเล็กๆ ขาวๆเดินเข้ามาในห้อง แล้วก็นั่งอยู่ที่โต๊ะที่พยาบาลกำลังนั่งกินขนม แม่ก็บอกจขกทว่าหมอมาแล้ว จขกท มองไปก็เห็นคุณหมอกำลังนั่งร่วมวงกับพยาบาลกลุ่มนั่นหัวเราะคิกคักกัน ซักครู่นึงก็มีคุณยายแก่ๆเดินเข้ามาแล้วถามอะไรคุณหมอซักอย่าง ก็ได้ยินคุณหมอตะคอกใส่คุณยายคนนั้น คุณยายก็กำลังจะเดินออกไป คุณพยาบาลคนนึงก็มาบอกอะไรคุณยายซักอย่างนี่แหละ คุณยายก็นั่งลงที่เก้าอี้ใกล้ๆคุณหมอ คุณหมอก็ทำท่าฟึดฟัดไม่พอใจคุณยาย ก็เห็นคุณพยาบาลหยิบเอกสารอะไรซักอย่างให้คุณยายแล้วคุณยายก็เดินออกไป หลังจากนั้นก็ได้ยินฝ่ายประชาสัมพันธ์เรียกชื่อผู้ป่วยเข้ามาตรวจเรื่อยๆ คุณหมอยังคงหน้าหงิกไปด้วยและตรวจคนไข้ไปด้วยอยู่อย่างนั้น คนไข้เดินเข้ามาแล้วก็ออกไป 4-5 คนได้ จขกท ก็เริ่มมองนาฬิกาถี่ขึ้น ตอนนั้น 17:20 น. จขกท ยังไม่ได้รับการตรวจ แม่เลยเดินไปหาคุณหมอ ยังไปไม่ถึงโต๊ะคุณหมอเลย คุณหมอก็ตะโกนบอกว่า "ตามคิวค่ะ ไม่ต้องมาถาม" แล้วก็ถอนหายใจเสียงดังๆใส่ ซักครู่ก็เห็นคุณพยาบาลสะกิดคุณหมอ แล้วเหมือนบอกอะไรซักอย่าง คุณหมอก็เลยเดินมาที่เตียงของจขกท แล้วถามว่า "เป็นไรมา" น้ำเสียงกระแทก ไม่มีหางเสียงพร้อมกับท่าทางฟึดฟัดๆใส่ จขกท เลยตอบกลับไปว่า "เป็นลม...ค่ะ!!" เสียงหนักตรงคำว่าค่ะ ตอนนั้นก็เริ่มไม่พอใจกับกิริยาของคุณหมอแล้ว คุณหมอก็บอก จขกท ว่า "นอนลง" แล้วก็ใช้เครื่องฟังเสียงหัวใจ(เค้าเรียกแบบนี้ใช่ไหม ที่ใส่หู แล้วมามาทาบที่อกอ่ะ?) มาทาบที่อก แล้วก็บอกว่า "หัวใจก็เต้นปรกติ ความดันก็ปรกติ ไม่ได้เป็นอะไร คนไข้คงจะลดหุ่นมั้งคะคุณแม่ หรือไม่ก็คุยโทรศัพท์เล่นไลน์เล่นเฟสกะแฟนดึกไป เลยเป็นลม" ตอนนั้นโกรธค่ะ ก็เถียงคุณหมอว่า "ไม่ได้ลดหุ่นค่ะ ข้าวก็กินสามเวลาตรงเป๊ะ แล้วก็ไม่ได้เล่นเฟสเล่นไลน์คุยกะใครดึกๆเหมือนคุณหมอว่าด้วยค่ะ เพราะต้องตื่นไปรับของมาขายตั้งแต่ตีสามตีสี่ นอนไม่เกินสามทุ่มหรอกค่ะ" คุณหมอก็แบะปากใส่แล้วก็ตอบว่า "ค่ะ" แล้วหันไปพูดกับแม่ว่า "แค่เป็นลม กลับบ้านได้นะคะ ไม่ต้องตรวจมาก ไม่มียาให้ค่ะ"............ แล้วคุณหมอก็เดินไป จขกท เลยลุกจากเตียง แล้วเดินออกจากห้องเบอร์ ๘ นั้น แต่ก็ไม่วายลืมยกมือไหว้ขอบคุณคุณพยาบาลตามมารยาทของคนไทย แต่ไม่ได้ยกมือไหว้ขอบคุณคุณหมอนะคะ ตอนนั้นก็ไม่พอใจด้วยแหละค่ะ กำลังจะเดินออกไป คุณพยาบาลเห็นเดินเท้าเปล่าก็เลยถามว่า "น้องไม่ได้ลืมรองเท้าหรือเปล่าคะ" จขกท เลยตอบว่า "หนูไม่ได้ใส่มาค่ะ" แม่เลยยิ้มแล้วบอก "น้องเป็นลม ก็เลยอุ้มมาเลยค่ะ ไม่ได้ใส่รองเท้ามา" แล้วคุณหมอก็พูดแทรกมาว่า "ดีแล้วค่ะที่ไม่ลืม ขยะที่โรงพยาบาลเยอะแล้ว" ตอนนั้นโกรธมากค่ะ แต่ไม่อยากโต้ตอบ เลยรีบเดินหนีให้พ้นๆจากตรงนั้น ตอนนั้น 6โมงพอดีค่ะ เพลงชาติขึ้น จขกท ก็เดินไปขึ้นรถกลับบ้าน พร้อมกับคำถามในหัวว่า "นี่หรือคือนางฟ้าที่คอยช่วยชีวิตคน นี่หรือคือคนที่มีการศึกษา นี่หรือคือคุณหมอที่คนเฒ่าคนแก่ยกมือไหว้ นี่หรือคนทำงานบริการ เรียนแพทย์ก็มีการเรียนการสอนจิตวิทยาไม่ใช่หรือ มนุษยสัมพันธ์ของคุณหมอไม่มีเอาเสียเลย คำพูด น้ำเสียง กิริยาของคุณหมอไม่น่ารักเอาเสียเลย เราไม่รู้ว่าคุณหมอหงุดหงิดมาจากไหน เราไม่รู้ว่าคุณหมอไม่พอใจใครมา เราไม่รู้ว่าคุณหมอไปเจออะไรมา แต่คุณหมอ คือคุณหมอ คือคนที่หลายๆคนยกย่อง คือคนที่ดูแลสุขภาพประชาชน คุณหมอไม่ใช่เพียงแต่มีหน้าที่ดูแลสุขภาพกายประชาชนเท่านั้น บางครั้งอยากจะฝากให้คุรหมอช่วยดูแลสุขภาพจิตของประชาชนด้วย มันไม่ได้ส่งผลดีต่อประชาชนเพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นผลดีกับตัวคุณหมอเองด้วย คุณหมอจะเป็นคุณหมอที่มีแต่คนรัก มีแต่คนชื่นชม หากคุณหมอยังคงพูดจาขวานผ่าสากอยู่แบบนี้ คุณหมอก็จะเจอแต่คนเกลียดคนชัง ก็จะเจอแต่คนด่า แม้แต่คนใกล้ตัวของคุณหมอเอง"
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ 
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่