สวัสดีกันอีกครั้งครับผม ลุงยาม สายโหด คนเดิมจ้า เพิ่มเติมคือมาพร้อมกับสมาร์ทโฟนค่ายน้องใหม่ล่าสุดในตลาดบ้านเรานั้นคือ Nubia นั้นเองครับ รอบนี้ทางผู้ใหญ่ใจดีส่งเครื่องมาให้ทดลองใช้งานก่อนวันขายจริง ใช้งานมาซักพักใหญ่แล้ว รีวิวใน พันทิป จะเน้นพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันดีกว่าเนาะ เพราะสเป็คต่างๆผมได้รีวิวไปแล้วใน Extreme PC
ลืมบอกไปเลยว่าจะมารีวิวอะไร งั้นบอกหล่ะกันครับวันนี้ผมมารีวิว Nubia Z11 max นะครับ ตัวนี้จัดสเป็คมาให้แบบชุดใหญ่ไฟกระพริบเลย ไม่ว่าจะหน้าจอใหญ่ถึง 6 นิ้ว ที่แสดงผลได้สวยงามมากๆ รวมถึงสเป็คต่างๆ แลกกับค่าตัว 8990 บาท ..เดี๋ยวไปดูสเป็คคร่าวๆกันก่อนครับผม

spec Nubia Z11 max
หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล 368 ppi กระจกครอบทับแบบ 2.5 D Gorrilla Glass3
Android 6.0 ครอบทับด้วย Nubia UI 4.0
CPU Octa-Core Qualcomm Snapdragon 652  1.8 GHz
GPU Adreno 510
(RAM) ขนาด 4GB
(ROM) ขนาด 64GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดที่ 200GB รองรับ OTG
กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ของ sony IMX298 รูรับแสง F2.0 พร้อมไฟแฟลช LED แบบ Dual Tone
กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล BSI F2.4 สามารถถ่ายมุมกว้างได้ 80 องศา
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ Quick Charge 3.0
ขนาดตัวเครื่อง 159.2×82.3×7.4 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 185 กรัม
ราคาจำหน่าย 8,990 บาท

อุปกรณ์ต่างๆที่เขาจัดมาให้ครับ
ตัวเครื่อง Nubia Z11 Max
อะแดปเตอร์
สาย USB Type-C
เข็มจิ้มซิม
คู่มือ

อะแดปเตอร์ที่แถมมาในกล่อง รองรับ Quick Charge 3.0 ด้วยนะจ๊ะ


วัสดุตัวเครื่องเป็นแบบโลหะขึ้นรูปชิ้นเดียว(uni body) ผสมผสานกับกระจกหน้าจอแบบ 2.5D ที่มองรวมๆแล้ว ดูดีพรีเมี่ยมแท้ นี่มันไม่ถึงหมื่นนะ เกรงใจกันนิดนึง ยิ่งพอจับหรือสัมผัสตัวเป็นๆ มันได้ฟิลลิ่งมากอ่ะ งานดีมากๆ วัสดุและการ Design ผมว่าในเรทราคานี้ ไม่เป็นรองใครแน่นอนครับ แถมตัวเครื่องบางเพียง 7.4 มม. ถือว่าบางมาก ใช้งานไปซักระยะ ลืมไปเลยว่าตัวเองใช้สมาร์ทโฟนขนาดหน้าจอ 6 นิ้ว มันพกง่าย ถือสบาย อยากให้ลองกันจริงๆว่าผมโม้หรือเปล่า
เมื่อถือใช้งาน ขนาดขอบตัวเครื่องหน้าจอทั้งสี่ด้าน บอกเลยว่าเหลือพื้นที่น้อยมากๆ จับถนัดมือเลย



หน้าจอแบบ Super AMOLED ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD รองรับมัลติทัช 10 จุด หน้าจอสวยงามมากๆ สีสันสดใส มุมมองหน้าจอกว้าง ความสว่างหน้าจอสูง เวลาเจอสภาวะแสงเยอะๆ หน้าจอยังแสดงผลได้สวยงาม กระจกหน้า 2.5D Gorrilla Glass3 เรื่องการแสดงผลหน้าจอ ผมให้ 3 ผ่านครับ ไร้ที่ตำหนิ เอาไปเลยเต็มๆ

ตรงปุ่ม Home จะทำหน้าที่เป็น Notification Light ดูสวยงาม ด้านข้างเป็นปุ่มสัมผัส สามารถตั้งค่าเปิด-ปิดไฟ รวมทั้งสลับปุ่มได้ในการตั้งค่าเมนูข้างใน แต่ด้านข้างกับไม่ติดไฟมาให้ซะงั้น สงสัยพี่เขาลืม 555+

ระบบปฎิบัติการ
ต้องออกตัวก่อนเลยนะครับว่า เครื่องที่ผมได้มารีวิว กับตัวที่ขายจริง เรื่องซอฟแวย์ต่างๆอาจจะต่างกันนิดหน่อย บางจุดจะได้รับการแก้ไขก่อนวันจำหน่ายจริง แต่พื้นฐานจะประมาณนี้ครับ
Nubia Z11 Max ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 marshmallow ครอบทับด้วย Nubia UI 4.0 อีกที เมนูและการปรับแต่งต่างๆ ยังยึดหลักมาจาก marshmallow แทบทั้งหมด จะมีแค่หน้าตาไอคอน UI เท่านั้นที่เพิ่มเข้ามา สามารถปรับขนาดไอคอนไดด้สองขนาด ในตัวเครื่องไม่มีธีมให้เปลี่ยนนะ เรียบๆง่ายๆไม่หนักเครื่อง แต่ความลื่นไหลของระบบผมว่าลื่นไหลเลยนะ (อาจจะมีติดขัดบ้างตรงเฟสบุ๊คนี่หล่ะ พี่มาร์คเขากำลังพัฒนา ติดขัดบ้างบางเวลา นอกนั้นไม่เคยแฮ็งค์หรือค้างเลย) เมนูบางจุด(ตัวเครื่องทดลอง) ยังต้องแก้ไขข้อความนิดหน่อยครับ


ประสิทธิภาพตัวเครื่อง
Nubia Z11 Max มาพร้อมกับชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 652 ความเร็ว 1.8GHz / (GPU) Adreno 510 ชิปเซ็ทชุดนี้บอกได้เลยว่าเร็วมากๆครับ เพียงพอต่อการใช้งานทั้งโซเชียลและสายเล่นเกมส์
RAM 4GB เหลือใช้งานจริงราวๆ 2.5GB เพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน ถึงแม้จะใช้งานแบบ multi window ที่รันแอ๊พพร้อมกัน
ROM 64GB เหลือใช้งานราว 52GB พื้นที่เก็บข้อมูลขนาดนี้น่าจะเพียงพอต่อการลงแอ๊พและเก็บข้อมูลนะครับ ถ้าใครยังไม่พอ ตัวเครื่องก็ยังสามารถเพิ่มหน่วยความจำแบบ micro sd ได้อีกสูงถึง 200GB กันเลยทีเดียว และยังรองรับ OTG อีกด้วย
เท่าที่ดูตัวเลขสเป็คคร่าวๆ น่าจะให้มาเยอะสุดแล้วในเลทราคาต่ำกว่าหมื่น(ในตลาดบ้านเรา) เรื่องการเล่นเกมส์ หรือการใช้งานทั่วไป รวมไปถึงการใช้งานพร้อมกันสองจอ Multi windowe บอกเลยว่าไหลลื่นมากๆ หมดกังวลไปได้เลย
และผมได้ทดสอบสัญญาณ GPS จับสัญญาณได้อย่างรวดเร็วดีครับ เซ็นเซอร์ต่างๆมีมาให้ใช้งานครบครัน


ดูหนัง-ฟังเพลง
โหมดฟังเพลงของ  Nubia Z11 Max จะใช้เสียงชิปเสียงของ WCD9335 รองรับระบบเสียง Dolby 7.1 ในตัวเครื่องจะมีโหมด Sond dffect ให้เลือกปรับใช้งานตามความถนัดของเราครับ ตัวเครื่องยังรองรับ 24bit/192 kHz เสียงผ่านหูฟังผมว่าเสียงดีเลยนะ ส่วนลำโพงตัวเครื่องที่ใช้เทคโนโลยี smart advanced PA เสียงดังมากขึ้นจริง แต่ตำแหน่งเสียงมันแปลกๆไปนิด น่าจะเพราะตำแหน่งลำโพงมีแค่ตำแหน่งเดียว

เรื่องการดูหนัง จอใหญ่ภาพสวย คุณภาพเสียงที่ดี ช่วยเพิ่มอรรถรสได้มากขึ้นจริงครับ

กล้องถ่ายภาพ
กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เลนส์วาย สามารถถ่ายกว้าง 80 องศาได้ มีโหมดบิวตี้มาให้ใช้งาน หรือจะบิวตี้แบบเรียลไทม์ก็ได้ครับ ใช้งานเวลาใช้งานแบบวีดีโอคอลล์

กล้องหลังความละเอียด  16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED แบบ Dual Tone ใช้เซ็นเซอร์ของ sony IMX298 รูรับแสง F2.0 โหมดการถ่ายภาพเยอะมากๆ เยอะจริงครับ  Nubia เขาขึ้นชื่อเรื่องกล้องถ่ายภาพอยู่แล้ว และตัว Nubia Z11 Max ถึงราคาจะไม่สูงมากนัก แต่ก็ให้มาครบจริง

เมนูการถ่ายภาพ

สามารถจับโฟกัสและวัดแสงแยกต่างๆ ผมว่าสะดวกดีเลยนะ


ภาพถ่ายจากกล้องหลังครับ










คุณสมบัติพิเศษ
การใช้งานพร้อมกันสองหน้าจอ( Multi Window ) Split Screen 2.0 สามารถแบ่งหน้าจอออกเป็นสองส่วน เลือกอัตราส่วนหน้าจอใช้งานได้ ทั้งแบบตั้งและแบบนอน ยืดหยุ่นเวลาใช้งานได้ดีมาก จะใช้แอ๊พไหนก็ได้ไม่จำกัด

Edge Gesture การใช้งาน Edge gestures เช่น รูดขอบหน้าจอขึ้นลง เพื่อปรับความสว่างหน้าจอ / ดับบลิลคลิกที่หน้าจอเพื่อเป็นเมนูกลับ เลื่อนขอบจอซ้ำๆกันเพื่อเร่งความเร็วโทรศัพท์

ระบบสแกนนิ้ว สามารถจดจำลายนิ้วมือได้ 5 นิ้ว และใช้งานร่วมทั้งการปลดล็อคและการถ่ายภาพ


แบตเตอรี่
ขนาดแบตที่ให้มา 4000 mAh รองรับการชาร์ทเร็วแบบ Quick Charge 3.0 จากการที่ผมใช้งานมาซักพักหนึ่ง แบตอึดมากๆ การจัดสรรทรัพยากรพลังงานทำได้ดีจริงๆ ใครชอบหน้าจอใหญ่ แบตอึดๆ ตัวนี้ไม่ผิดหวังครับ

สรุป
จากการใช้งานเป็นเครื่องหลักมาซักพักใหญ่ Nubia Z11 MAX มันตอบโจทน์ผมได้แทบจะทุกๆเรื่อง ประทับใจแรกเลยตั้งแต่แกะเครื่องคือ การออกแบบและวัสดุตัวเครื่อง พอเปิดเครื่องพร้อมใช้งานยิ่งประทับใจขึ้นไปอีก จอมันแสดงผลได้สวยงามมากๆ การแสดงผลของหน้าจอสามารถไปเทียบกับพวกเรือธงต่างค่ายได้เลย ผมว่าตัวนี้ไม่เป็นรองแน่นอน สิ่งสุดท้ายที่ประทับใจคงจะเป็นระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่ ใช้งานได้ยาวนานจริง ผมชอบดูหนังฟังเพลง ตัวนี้จบจริงๆ ส่วนความแรงของตัวเครื่องผมอาจจะไม่ว๊าวมากนักเพราะเห็นแค่ตัวเลขก็พอจะเอาออกแล้วว่าผลที่จะได้รับ มันควรจะออกมาประมาณไหน
ยิ่งพอเห็นราคาเปิดตัวที่ 8,990 บาท ฟันธงให้เลยว่าคุ้มโครตๆ

ข้อสังเกตุ
ไม่รองรับ Full Netcom 3.0 / ถาดซิมแบบไฮบริด / สแกนนิ้ว ติดบ้าง บางทีต้องกระตุ้นจอก่อนค่อยติด (น่าจะเป็นเฟริมแวย์ตัวทดลองครับ เห็นทาง Nubia จะแก้ไขก่อนปล่อยตัวขายจริงออกมา)/ในกล่องไม่แถมหูฟังมาให้นะครับ / ช่วงนี้มีเปิดให้จองเฉพาะในเว็บนะครับ อาจจะขัดใจขาช็อปแบบจ่ายสดแล้วได้ของเลย
ช่องทางจำหน่าย ณ.เวลานี้ http://store.nubia.com/th/shop.php
และเร็วๆนี้จะมีช่องจำหน่ายเพิ่มที่ร้านค้าออนไลน์อย่าง Lazada / Cmart / 24shopping
หรือจะซื้อแบบออฟไลน์ได้ที่ Big C เร็วๆนี้คงได้เล่นได้ลองตัวจริงก่อนจ่ายครับผม

ขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตาม และขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่ส่งเครื่องมาให้ทดลองใช้ครับผม
ขอบคุณมากๆครับ ไปแล้วเน้อ โอกาสหน้าเจอกันใหม่ ส่วนจะรุ่นไหน เร็วๆนี้มาแน่นอนครับ...