an café ร้านน่ารัก ทำเลดี อาหารอร่อยมาก ก่อนเสิร์ฟอาหารจะมีกระดาษกับสีเทียนไว้ให้เราวาดรูปด้วย ...
ตอนกลางคืนมีตลาด คึกคักมาก มีสารพัดของกินขายเต็มไปหมด ... มาดาลัดต้องกินเครป นม และหอย อ่อโยเกิร์ตด้วยนะ (อันนี้แนะนำเอง) แต่เราไม่ได้กินหอย ส่วนเครป นมและโยเกิร์ตนั้น ... เห้ย! อร่อยเหอะะะะ นมสดมากดื่มตอนเย็นๆ โคตรดี เครปที่หน้าตาแปลกๆ ใช้แผ่นแป้งแห้งๆ คล้ายกับแผ่นแป้งห่อแหนมเนืองมาปิ้งบนเตา ใส่ไข่ ผัก หอมเจียว ไส้กรอก ราดซอสพริกกับมายองเนส หน้าตาไม่สวยเท่าไหร่แต่ความอร่อยเกินเรื่องนาจาาา โยเกิร์ตที่นี่ละมุนมากเว้ยต้องลอง มีหลายรส แต่นมถั่วเหลืองที่นี่คือไม่รอดอะ
10/12/2559 8 โมงเช้ารถมารับเราหน้าโรงแรม เป็นรถบัสแบบนั่งแถวตอนปกติทั่วไป ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมง จอดพัก 1 ครั้ง เออที่มุยเน่มี LOTTE Mart ด้วยแหละแก ... เราถึงมุยเน่ตอนเที่ยงพอดี รถจะจอดส่งแถวๆ ถนนที่มีร้านขายตั๋วรถ ขายทัวร์ เราคิดไว้อยู่แล้วว่าจะซื้อ Half tour (200,000 ดอง) เที่ยวเอาในช่วงบ่ายโมง-6 โมงเย็น กับซื้อตั๋วรถกลับโฮจิมินห์ไว้ด้วยเลย (150,000 ดอง) ที่มุยเน่เราพักที่ Joe's café (คืนละ 28 usd) ตอนกลางคืนที่นี่จะมีดนตรีสดเล่นเคล้าเสียงคลื่น (ที่พักติดทะเลด้วยนะแก)
สถานที่ ที่เราจะไปในบ่ายวันนี้ก็จะมี Fairy stream, Fisherman village, White Sand Dunes และ Red Sand Dunes ทั้งหมดนี้เราจะนั่งรถ Jeep ไปกันค่ะ ... คันนึงจะรับได้ 5-6 คน ซึ่งบังเอิญว่าในกรุ๊ปนั้นมีเพื่อนคนไทยที่เราเจอที่ดาลัด 2 คน ครั้งนี้เลยได้ทำความรู้จักกันมาตลอดทางจนได้มาร่วมมื้ออาหารค่ำกันในที่สุด ...
Fairy Stream เป็นลำธารสายเล็กๆ ที่ต้องเดินลุยน้ำเข้าไป แต่เราเดินไปไม่สุดหรอกนะ เอาเท่าที่ได้ 555
Fisherman Village หมู่บ้านชาวประมง คนขับตะโกนบอกว่าให้เวลา 5 นาที! เข้าใจแล้วทำไม 5 นาที เพราะมันไม่มีอะไรมากไปกว่าตลาดขายอาหารทะเล และเรือประมงรูปร่างแปลกๆ กลมๆ คล้ายกับกะละมังขนาดใหญ่บ้านเรา
White Sand Dunes และแน่นอนว่านี่คือ ที่ ที่เรารอคอย ทะเลทรายขาว เนินทรายที่ใหญ่ที่สุดในมุยเน่ กว้างไกลมองไปสุดลูกลูกตาก็เจอแต่คน 5555 รถจะจอดให้ลงด้านล่าง หากอยากขึ้นไปข้างบนก็เลือกเอาว่าจะขับ ATV จะนั่งรถ Jeep หรือจะเดินก็แล้วแต่เลย ส่วนเราเลือกนั่งรถ Jeep สวยๆ แต่ราคาไม่สวยเลย คนละ 300,000 ดอง ... วิวสุดลูกหูลูกตาอย่างที่บอกไปตอนแรกจริงๆ แต่ถ้าคนน้อยกว่านี้จะดีมาก
11/12/2559 อาหารเช้าที่นี่สามผ่านค่ะ มีให้เลือกหลายแบบ เสิร์ฟคู่กับกาแฟเวียดนาม แน่นอนว่าเราต้องไม่พลาดเมนูที่มี baguette อีกเช่นเคย เราออกจากมุยเน่ตอยบ่ายโมงไปถึงถึงโฮจิมินห์ในช่วงเย็นพอดี ... 5 โมงเย็น รถพามาเราส่งบริเวณที่เรียกว่า District 1 ซึ่งไม่ไกลจากที่พักเรามากนัก ที่พักไม่มีชื่อ ตั้งอยู่บนชั้นสองของอาคารพาณิชย์ที่ใกล้กับตลาดเบนถัน ชั้นล่างเป็นร้านขายรองเท้า เดิมทีเป็นห้องส่วนตัวที่เจ้าของห้องเพิ่งเปิดให้เข้าพักเมื่อไม่นานมานี้ ... เราโทรนัดแนะรับกุญแจห้องกันเสร็จพระอาทิตย์ก็ตกดินแล้ว เลยคิดว่าจะแค่ออกไปเดินเล่น หาอะไรกินกันกรุบกริบ ... กรุบมากกินกันทั้งคืน กินไม่หมดก็ห่อใส่กล่อง กินกันจนเข้านอน
12/12/2559 หนึ่งวันเต็มในโฮจิมินห์ แต่ฝนดันตกปรอยๆ ให้กวนใจตลอดทั้งวัน กางร่มเดินมันไปทุกที่ค่ะ ... เราว่าโฮจิมินห์เป็นเมืองน่ารัก แอบมีเสน่ห์ด้วยซ้ำไป ถ้ามองข้ามการจราจรกับผู้คนที่อาจจะเจอดีบ้างไม่ดีบ้าง ... ที่นี่คาเฟ่เท่ๆ เยอะมาก เราเองก็หมดเงินกับการเข้าออกคาเฟ่ไปหลายแสนดองอยู่ แต่แก ... กาแฟเวียดนามรสชาติดีมากเหอะ! Brunch เริ่ดๆ ก็มีให้เลือกกินอยู่หลายร้าน เบเกอรี่อร่อยๆ ร้านไอติม ร้าน Selected Shop ร้านหนังสือ และ Art Gallery ไปจนถึงห้างสรรพสินค้าที่รวมแบรนด์ระดับ Hi-End ไว้อย่างเนืองแน่น ... ตอนกลางคืนบริเวณจตุรัสโฮจิมินห์ค่อนข้างคึกคัก มีมาสคอตสารพัดตัวการ์ตูนมาเดินโยกย้ายโบกไม้โบกมืออยู่ตามจุดต่างๆ ส่วนถนนตรงตลาดเบนถันจะปิดเพื่อให้ร้านค้ามาตั้งขายของ เหมือนถนนคนเดิน ของกินเยอะ เสื้อผ้า กาแฟ ผลไม้แห้ง เราเองก็ได้ของฝากจากที่นี่ก่อนกลับเหมือนกัน
13/12/2559 เราถึงสนามบินตอน 6 โมงครึ่ง เพราะอยากเผื่อเวลาทำธุระที่สนามบินได้อย่างไม่รีบร้อน มีเวลาเดินเล่นใน Duty free ... ก่อนขึ้นเครื่องเราได้ Nescafe Viet 3 in 1 กล่องละ 4usd ถือว่าเป็นของฝากกันตายได้ดีอีกอย่างนึง ...
[CR] เวียดนามใต้ ง่ายๆ
อีกที ... รถจากโฮจิมินห์ไปดาลัดเป็น Sleeping Bus นอนกันยาวๆ ไปราวๆ 6 ชั่วโมง