หลังจากApple ได้เปิดให้สั่งเจ้า AirPods ไปเมื่อวันที่ 15 ธค ที่ผ่านมา จนตอนนี้ วันส่งของเลื่อนไปเป็นอีก 6 สัปดาห์ แต่โชคดีที่ผมกดมาทัน จึงได้ของมาเป็นที่เรียบร้อย สดๆร้อนๆจาก UPS เริ่มกันเลยคับ
หน้าตากล่องก็เป็นแบบฉบับ Apple เรียบง่าย ไม่มีอะไรเยอะนะครับ มีแค่รูปหูฟัง แล้วก็ ชื่อ AirPodsข้างกล่อง
ในกล่องประกอบไปด้วย
1.Charging Case (มี AirPods อยู่ข้างใน)
2.สาย Lightning สำหรับ ชาร์จ
3.คู่มือการใช้
ส่วนหน้าตาของมันก้ไม่ได้ต่างจาก Earpods ที่มาในกล่องตอนซื้อ iPhone มากนัก เพียงแต่มีก้านที่หนากว่าหน่อย และ ไร้สาย
ตัว Charging Case ที่หลายๆคนมองมาเหมือนกล่องไหมขัดฟัน ก็เหมือนจริงๆครับ 5555 เพียงแต่ ดูพรีเมี่ยมหน่อย และเล็กกระทัดรับ เปิดเปิดสนุก มีแม่เหล็กทำให้เปิดปิดฝา่กได้สะดวกขึ้น และมี LED ไว้บอกสถานะของการเชื่อมต่อ
การเชื่อต่อถือว่าง่ายมากครับ แค่เปิดฝามามันก้จะถามหาเลยว่า จะเชื่อมต่อไหม
ส่วนในในเรื่องของคุณภาพเสียง ไม่แน่ฝจว่าผมอวยรึเปล่า แต่รู้สึกว่าเสียงดีกว่า EarPods นิดนึงง ส่วนลูกเล่นก้ไม่มีอะไรมากครับ เพียงแตะ2ครั้งที่หูฟัง ก็จะมี Siri ขึ้นมา หรือสามารถเปลี่ยนเป็น Play/Pause ได้
ข้อดี-ข้อเสีย
ข้อดี
- เชื่อมต่อง่ายมากกก
- สัญญานเสถียร ตั้งแต่ใช้มาไม่มีการหลุดหรือเสียงหายเลย
- เล็กกระทัดรัด
- แบตอยู่ได้นานพอสมควร (5ชม และ 24ชม ในกล่อง)
- เปลี่ยนไปฟังใน Macbook และ iPad ได้อย่างง่ายดาย
- ไมค์ถือว่าค่อนข้างดี เสียงชัดเจน
ข้อเสีย
- ราคาสูง (6,900) ไม่สมคุณภาพเสียงมากนัก
- มีโอกาสหล่นหายสูง และซื้อข้างเดียวราคา 69 USD (ตั้งแต่ลองมาค่อนข้างติดหู ดูไม่หล่นง่าย)
- หน้าตา? (อันนี้ แล้วแต่คน ส่วนตัวผมโอเค)
สรุป
ส่วนตัวผมมองว่า สาวกAppleก็คงจะพอใจ ด้วยความสะดวกสาย แต่ไม่เหมาะกับคนที่ฟังเพลงแบบจิงจังเนื่องจากคุณภาพเสียงอยู่ได้ระดับปานกลางไม่ถึงกับดี แต่ถ้าใช้หูฟังที่แถมมาในกล่องอยู่แล้ว ก็จะสะดวกขึ้นตรงที่ไม่มีสายพันกันยุ่งยาก ครับ
เพิ่มเติม สามารถใช้กับอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ของ Apple ได้นะครับ
[CR] ++ รีวิว AirPods หูฟังไร้สายตัวแรกจาก Apple ++
หน้าตากล่องก็เป็นแบบฉบับ Apple เรียบง่าย ไม่มีอะไรเยอะนะครับ มีแค่รูปหูฟัง แล้วก็ ชื่อ AirPodsข้างกล่อง
ในกล่องประกอบไปด้วย
1.Charging Case (มี AirPods อยู่ข้างใน)
2.สาย Lightning สำหรับ ชาร์จ
3.คู่มือการใช้
ส่วนหน้าตาของมันก้ไม่ได้ต่างจาก Earpods ที่มาในกล่องตอนซื้อ iPhone มากนัก เพียงแต่มีก้านที่หนากว่าหน่อย และ ไร้สาย
ตัว Charging Case ที่หลายๆคนมองมาเหมือนกล่องไหมขัดฟัน ก็เหมือนจริงๆครับ 5555 เพียงแต่ ดูพรีเมี่ยมหน่อย และเล็กกระทัดรับ เปิดเปิดสนุก มีแม่เหล็กทำให้เปิดปิดฝา่กได้สะดวกขึ้น และมี LED ไว้บอกสถานะของการเชื่อมต่อ
การเชื่อต่อถือว่าง่ายมากครับ แค่เปิดฝามามันก้จะถามหาเลยว่า จะเชื่อมต่อไหม
ส่วนในในเรื่องของคุณภาพเสียง ไม่แน่ฝจว่าผมอวยรึเปล่า แต่รู้สึกว่าเสียงดีกว่า EarPods นิดนึงง ส่วนลูกเล่นก้ไม่มีอะไรมากครับ เพียงแตะ2ครั้งที่หูฟัง ก็จะมี Siri ขึ้นมา หรือสามารถเปลี่ยนเป็น Play/Pause ได้
ข้อดี-ข้อเสีย
ข้อดี
- เชื่อมต่อง่ายมากกก
- สัญญานเสถียร ตั้งแต่ใช้มาไม่มีการหลุดหรือเสียงหายเลย
- เล็กกระทัดรัด
- แบตอยู่ได้นานพอสมควร (5ชม และ 24ชม ในกล่อง)
- เปลี่ยนไปฟังใน Macbook และ iPad ได้อย่างง่ายดาย
- ไมค์ถือว่าค่อนข้างดี เสียงชัดเจน
ข้อเสีย
- ราคาสูง (6,900) ไม่สมคุณภาพเสียงมากนัก
- มีโอกาสหล่นหายสูง และซื้อข้างเดียวราคา 69 USD (ตั้งแต่ลองมาค่อนข้างติดหู ดูไม่หล่นง่าย)
- หน้าตา? (อันนี้ แล้วแต่คน ส่วนตัวผมโอเค)
สรุป
ส่วนตัวผมมองว่า สาวกAppleก็คงจะพอใจ ด้วยความสะดวกสาย แต่ไม่เหมาะกับคนที่ฟังเพลงแบบจิงจังเนื่องจากคุณภาพเสียงอยู่ได้ระดับปานกลางไม่ถึงกับดี แต่ถ้าใช้หูฟังที่แถมมาในกล่องอยู่แล้ว ก็จะสะดวกขึ้นตรงที่ไม่มีสายพันกันยุ่งยาก ครับ
เพิ่มเติม สามารถใช้กับอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ของ Apple ได้นะครับ