เมื่อย้อนกลับไปสู่ยุค90 ได้มีดีไซน์เนอร์ชื่อดังชาวฝรั่งเศษที่ชื่อ Thierry Mugler
ได้ทำการปฏิวัติวงการน้ำหอมในแง่ของการรังสรรค์แนวของกลิ่นขึ้นมา ซึ่งกลิ่นแนวที่ว่านี้ก็คือ
กลิ่นแนวอาหาร , ขนม หรือพูดง่ายๆก็กลิ่นของกินนั้นเอง (Gourmand)
และน้ำหอมตัวแรกที่ออกมาสู่สายตาและจมูกชาวโลกก็คือ Angel ซึ่งในตอนแรกของแนวคิดนี้นั้น
ถูกใครหลายต่อหลายคนสบประมาทไว้มากว่า "จะบ้าหรอ ทำน้ำหอมกลิ่นอาหารเนี้ยนะ
ใครมันจะไปฉีดเป็นของกินเดินได้" แต่แล้วผลงานก็ได้พิสูจน์ตัวมันเองครับ ว่าน้ำหอมแนวนี้หอม
และสามารถฉีดบนตัวคนได้จริง และหลายๆกลิ่นก็ขายดิบขายดีจนมาถึงปัจจุบัน
และในเมื่อทางฝั่งผู้หญิงมี Angel อีกไม่กี่ปีถัดมาทางฝั่งผู้ชายก็ไม่น้อยหน้า ออกน้ำหอมมา
ในชื่อ Angel Men หรือ A*Men ตัว original(ดาวสีน้ำเงิน) ตัวดังนั้นเอง
ซึ่งถือได้ว่าประสบความสำเร็จมากๆครับ จนออกลูกออกหลานกันเพียบแทบทุกปี
และหนึ่งในนั้นก็จะเป็นตัวที่จะพูดถึงในวันนี้ครับ
A*Men Pure Havane
- The Scent : กลิ่นเปิดมาเต็มแบบไม่ต้องยั้งกับความหอม หวานของน้ำผึ้ง ที่คลุกเคล้ากับใบยาสูบตากแห้งชั้นดี
จนใบยาสูบที่แห้งนั้นกลับมาชุ่มชื้นอีกครั้ง ซึ่งกลิ่นแบบชื้นๆของใบยาสูบนี้จะมาแค่ช่วงแรกเท่านั้น
พอกลิ่นเริ่มเซ็ทตัวดีแล้ว ก็มาถึงคิวของกลิ่น Signature ของต้นตระกูล A*Men ที่ถาโถมเข้ามา
กับกลิ่นอายความเย็นซ่าของพิมเสน (Patchouli) และความหอมนวลของวานิลลา ที่ช่วยกันขับกล่อม
ใบยาสูบแมนๆ เท่ๆ ให้มีความเซ็กซี่เย้ายวนขึ้นอีกระดับ หลังจากนั้นความซ่า บาดจมูกของพิมเสน
เริ่มเบาบางลง แต่ยังคงกลิ่นหอมหวานของใบยาสูบคลุกน้ำผึ้งอยู่ตลอดเวลา แต่ดูเหมือนน้ำผึ้งจะเริ่มแห้ง
มาเคลือบที่ใบยาสูบแทนเสียแล้ว.....................................................พร้อมจุดไฟร้อนๆสูบแล้วสิ !!!
ใช่เลย กลิ่นใบยาสูบเหมือนถูกเผาให้แห้งๆ ร้อนๆ ช่วงนี้เป็นช่วงที่กลิ่นดีจริงๆ เหมือนชายวัยกลางคน
มากประสบการณ์ นั่งจุดซิการ์ชั้นดีจากคิวบา ด้วยสีหน้าที่เคร่งครึม เหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
พลางจิบโกโก้ร้อนๆคลายเครียดไปด้วย เพราะช่วงนี้จะได้กลิ่นโทนความหอมของโกโก้ เข้ามาตีคลุ้ง
กับใบยาสูบเคลือบน้ำผึ้ง และกลิ่นช่วงนี้จะอยู่ยาวเป็นออร่าให้ผู้ฉีดไปตลอดครับ
- Unique : ถ้าสำหรับคนไทยแล้ว กลิ่นนี้อาจจะไม่ถูกใจใครหลายคนนัก เพราะตัวกลิ่นเองค่อนข้าง
มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง ไม่ได้ทำออกมาเป็นกลิ่นขวัญใจมหาชนทั่วไป แต่ถ้ามั่นใจและเลือกสถานการณ์
ที่ใส่ให้ดีๆ กลิ่นนี้น่าจะช่วยเสริมความน่าสนใจให้กับผู้ใส่ได้มากทีเดียวครับ
- Longevity : ถ้าใครเคยลอง A*Men ตัวดั้งเดิมมาแล้ว จะรู้เลยว่ามันมีพลังติดทนนานแบบมหาศาล
ซึ่ง Pure Havane ก็เช่นกันครับ ฉีดแต่เช้า ทำงานในห้องแอร์ ตกเย็นไปออกกำลังกาย ยังได้กลิ่นตีขึ้นตลอดๆ
- Projection : หลักๆผมว่าอยู่ที่สภาพอากาศครับ ถ้าใส่ในที่อากาศเย็นการกระจายกลิ่นนั้นกำลังดีเลย
แค่ช่วงชั่วโมงแรกอาจจะรบกวนคนข้างๆไปนิด แต่ถ้าอากาศร้อนนี้ไม่ต้องพูดถึงเลย กระจายดีสุดๆ
ความจริงกลิ่นนี้ผมแนะนำให้ใช้วันที่อากาศเย็นๆหน่อย หรือในห้องแอร์จะเข้าท่ากว่า
- Versatility : จะดีมากถ้าใส่ในยามค่ำคืน อากาศเย็นๆ เข้าผับเข้าบาร์ก็ยังได้ เพราะกลิ่นค่อนข้างเรียกแขก
พอสมควร อีกทั้งกลิ่นนี้หลักๆมาจากกลิ่นใบยาสูบ ซึ่งถ้าได้สัมผัสกับกลิ่นบุหรี่ที่ตัวเองหรือคนรอบข้างสูบ
ยิ่งช่วยเพิ่มความหอมของน้ำหอมมากยิ่งขึ้น ถ้ากลางวันแนะนำให้เบามือและอยู่ในห้องแอร์เช่นทำงานในoffice
หรือเดินเล่นในห้างก็ยังได้อยู่ครับ
[CR] pERFuME MY OWn [5] รีวิวน้ำหอม Thierry Mugler A*Men Pure Havane
ได้ทำการปฏิวัติวงการน้ำหอมในแง่ของการรังสรรค์แนวของกลิ่นขึ้นมา ซึ่งกลิ่นแนวที่ว่านี้ก็คือ
กลิ่นแนวอาหาร , ขนม หรือพูดง่ายๆก็กลิ่นของกินนั้นเอง (Gourmand)
และน้ำหอมตัวแรกที่ออกมาสู่สายตาและจมูกชาวโลกก็คือ Angel ซึ่งในตอนแรกของแนวคิดนี้นั้น
ถูกใครหลายต่อหลายคนสบประมาทไว้มากว่า "จะบ้าหรอ ทำน้ำหอมกลิ่นอาหารเนี้ยนะ
ใครมันจะไปฉีดเป็นของกินเดินได้" แต่แล้วผลงานก็ได้พิสูจน์ตัวมันเองครับ ว่าน้ำหอมแนวนี้หอม
และสามารถฉีดบนตัวคนได้จริง และหลายๆกลิ่นก็ขายดิบขายดีจนมาถึงปัจจุบัน
และในเมื่อทางฝั่งผู้หญิงมี Angel อีกไม่กี่ปีถัดมาทางฝั่งผู้ชายก็ไม่น้อยหน้า ออกน้ำหอมมา
ในชื่อ Angel Men หรือ A*Men ตัว original(ดาวสีน้ำเงิน) ตัวดังนั้นเอง
ซึ่งถือได้ว่าประสบความสำเร็จมากๆครับ จนออกลูกออกหลานกันเพียบแทบทุกปี
และหนึ่งในนั้นก็จะเป็นตัวที่จะพูดถึงในวันนี้ครับ
A*Men Pure Havane
- The Scent : กลิ่นเปิดมาเต็มแบบไม่ต้องยั้งกับความหอม หวานของน้ำผึ้ง ที่คลุกเคล้ากับใบยาสูบตากแห้งชั้นดี
จนใบยาสูบที่แห้งนั้นกลับมาชุ่มชื้นอีกครั้ง ซึ่งกลิ่นแบบชื้นๆของใบยาสูบนี้จะมาแค่ช่วงแรกเท่านั้น
พอกลิ่นเริ่มเซ็ทตัวดีแล้ว ก็มาถึงคิวของกลิ่น Signature ของต้นตระกูล A*Men ที่ถาโถมเข้ามา
กับกลิ่นอายความเย็นซ่าของพิมเสน (Patchouli) และความหอมนวลของวานิลลา ที่ช่วยกันขับกล่อม
ใบยาสูบแมนๆ เท่ๆ ให้มีความเซ็กซี่เย้ายวนขึ้นอีกระดับ หลังจากนั้นความซ่า บาดจมูกของพิมเสน
เริ่มเบาบางลง แต่ยังคงกลิ่นหอมหวานของใบยาสูบคลุกน้ำผึ้งอยู่ตลอดเวลา แต่ดูเหมือนน้ำผึ้งจะเริ่มแห้ง
มาเคลือบที่ใบยาสูบแทนเสียแล้ว.....................................................พร้อมจุดไฟร้อนๆสูบแล้วสิ !!!
ใช่เลย กลิ่นใบยาสูบเหมือนถูกเผาให้แห้งๆ ร้อนๆ ช่วงนี้เป็นช่วงที่กลิ่นดีจริงๆ เหมือนชายวัยกลางคน
มากประสบการณ์ นั่งจุดซิการ์ชั้นดีจากคิวบา ด้วยสีหน้าที่เคร่งครึม เหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
พลางจิบโกโก้ร้อนๆคลายเครียดไปด้วย เพราะช่วงนี้จะได้กลิ่นโทนความหอมของโกโก้ เข้ามาตีคลุ้ง
กับใบยาสูบเคลือบน้ำผึ้ง และกลิ่นช่วงนี้จะอยู่ยาวเป็นออร่าให้ผู้ฉีดไปตลอดครับ
- Unique : ถ้าสำหรับคนไทยแล้ว กลิ่นนี้อาจจะไม่ถูกใจใครหลายคนนัก เพราะตัวกลิ่นเองค่อนข้าง
มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง ไม่ได้ทำออกมาเป็นกลิ่นขวัญใจมหาชนทั่วไป แต่ถ้ามั่นใจและเลือกสถานการณ์
ที่ใส่ให้ดีๆ กลิ่นนี้น่าจะช่วยเสริมความน่าสนใจให้กับผู้ใส่ได้มากทีเดียวครับ
- Longevity : ถ้าใครเคยลอง A*Men ตัวดั้งเดิมมาแล้ว จะรู้เลยว่ามันมีพลังติดทนนานแบบมหาศาล
ซึ่ง Pure Havane ก็เช่นกันครับ ฉีดแต่เช้า ทำงานในห้องแอร์ ตกเย็นไปออกกำลังกาย ยังได้กลิ่นตีขึ้นตลอดๆ
- Projection : หลักๆผมว่าอยู่ที่สภาพอากาศครับ ถ้าใส่ในที่อากาศเย็นการกระจายกลิ่นนั้นกำลังดีเลย
แค่ช่วงชั่วโมงแรกอาจจะรบกวนคนข้างๆไปนิด แต่ถ้าอากาศร้อนนี้ไม่ต้องพูดถึงเลย กระจายดีสุดๆ
ความจริงกลิ่นนี้ผมแนะนำให้ใช้วันที่อากาศเย็นๆหน่อย หรือในห้องแอร์จะเข้าท่ากว่า
- Versatility : จะดีมากถ้าใส่ในยามค่ำคืน อากาศเย็นๆ เข้าผับเข้าบาร์ก็ยังได้ เพราะกลิ่นค่อนข้างเรียกแขก
พอสมควร อีกทั้งกลิ่นนี้หลักๆมาจากกลิ่นใบยาสูบ ซึ่งถ้าได้สัมผัสกับกลิ่นบุหรี่ที่ตัวเองหรือคนรอบข้างสูบ
ยิ่งช่วยเพิ่มความหอมของน้ำหอมมากยิ่งขึ้น ถ้ากลางวันแนะนำให้เบามือและอยู่ในห้องแอร์เช่นทำงานในoffice
หรือเดินเล่นในห้างก็ยังได้อยู่ครับ