สวัสดีค่า
ซีมนะคะ วันนี้มี 9 ข้อง่ายๆ ที่จะมาแนะนำให้เพื่อนลองทำกันดู เพื่อที่เราจะได้พูดภาษาอังกฤษได้เก่งขึ้น ลื่นไหลขึ้น ถ้าเราพัฒนากันไปวันละนิดวันละหน่อย เราก็จะเก่งขึ้นในทุกๆ วัน อยู่ไทยก็เก่งได้เหมือนกัน! 9 วิธีนั้นจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเล้ย!
ใครขี้เกียจอ่าน ดูเป็นวิดิโอได้ที่นี่จ้า
1. เลิกกลัว
อย่ากลัวที่จะพูดผิด กลัวเขาฟังไม่รู้เรื่อง กลัวออกเสียงไม่ถูก เราต้องก้าวข้ามผ่านความกลัวนี้ไปให้ได้เพราะว่าเรายังกลัวอยู๋เราจะไม่กล้าพูด แล้วถ้าไม่พูดเราจะพัฒนาทักษะการพูดได้ยังไงกัน? ต้องเริ่มกันที่ก้าวแรกคือการลบทัศนคติความกลัวออกไปก่อน
2. เลิกกังวลเรื่องสำเนียง
หลายคนกังวลว่าถ้าเราพูดภาษาอังกฤษสำเนียงไทยแล้วคนอื่นจะไม่รู้เรื่อง จริงๆ แล้วซีมคิดว่า accent มีส่วนน้อยมากในการสื่อสาร ทุกคนทั่วโลกที่สื่อสารเป็นภาษาอังกฤษมี accent ด้วยกันทั้งนั้น ทั้งที่มาจากภาษาแม่ จากของตัวเองมาผสมๆ ติดมาจากเพื่อนบ้างอะไรบ้าง 5555 ตัวซีมเองอยู่อเมริกา 5 ปีก็ยังมี accent ไทยปนอยู๋บ้างเป็นบางคำค่ะ ไม่ใช่เรื่องน่าเกลียดอะไร เรามาโฟกัสที่การออกเสียงให้ชัดดีกว่า พูดให้ชัดดีกว่าพูดให้ accent เริ่ดจนฝรั่งฟังไม่เข้าใจค่ะ 5555
3. ฝึกออกเสียงด้วยการพูดตาม
ลองดูแล้วก็ฟังเจ้าของภาษาดูค่ะว่าเวลาเขาออกเสียงเนี่ยเขาทำยังไง เน้นยังไง เอาลิ้นแตะฟันไหม พ่นลมหรือเปล่า แล้วพยายามเลียนแบบให้ได้การออกเสียที่ใกล้เคียงเขามากที่สุด เลียนแบบได้หมดค่ะไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ที่สอนเรา วิดิโอยูทูป หรือหนัง ซีมเองก็เริ่มจากการเลียนแบบอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ทำให้เราคุ้นชินกับ flow ของภาษาอังกฤษว่ามันควรจะเป็นยังไง เราจะชินหูแล้วรู้ว่าควรออกเสียงยังไงด้วย
4. ฝึกการออกเสียงด้วยการอ่านออกเสียงดังๆ
อันนี้เป็นเทคนิคที่ได้มาจากวิดิโอด้านล่างนี้นะคะ เขาบอกว่าให้นึกถึงเวลาตอนเด็กๆ ที่เราได้อ่านออกเสียงในห้องเรียน ต้องพยายามออกเสียงให้ชัดเจน อ่านให้ถูกต้อง มีจังหวะวรรคตอนให้ดี บางทีในหัวเราเราคิดว่าออกเสียงถูก แต่เมื่อเราออกเสียงดังๆ อาจจะยังไม่เป๊ะ ยังได้อีก เมื่อได้ยินเสียงตัวเองก็จะทำให้ง่ายต่อการพัฒนามากยิ่งขึ้นด้วย
5. สังเกตการเชื่อมเสียงคำ
ลองฟังเจ้าของภาษาพูดแล้วดูว่าเขา "เชื่อมเสียง" ยังไง ใครงงให้คิดถึงคำว่า Thank you ค่ะ เราทุกคนรู้ว่ามันไม่ได้ออกเสียงว่า แต๊ง-ยู
แต่ออกเสียงว่า แต๊ง-กิ้ว เพราะเป็นการเชื่อมเสียงสองคำไว้ด้วยกันนั่นเอง ยังมีอีกหลายคำในภาษาอังกฤษที่เชื่อมเสียงแบบนี้
ถ้าเรารู้ว่าคำไหนควรเชื่อมยังไงมันจะทำให้เราอกเสียงได้ใกล้เคียงเจ้าของภาษามากขึ้นไปอีก!
เช่น What's up วอท-ซั่บ Wake up เวค-กั๊บ Watch out วอท-เช้าท์ ประมาณนี้นะคะ
6. อย่าลืมเสียงลงท้าย
คนไทยจะชอบตกหล่นพวกเสียงลงท้ายต่างๆ เช่น speak เป็น สะ-ปี๊ก จริงๆ ต้องมีเสียง เคอะ ออกมานิดนึง
รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้แหละค่ะจะทำให้เราฟังดูฝรั่งมากขึ้น อยากเห็นภาพแนะนำดูจากวิดิโอด้านบนนะคะ
เช่น popular ต้องออกเสียงอาร์ด้วย
7. สังเกตการเน้นคำหรือ Stress ในภาษาอังกฤษ
มีหลายคำที่ภาษาไทยยืมมาใช้ทับศัพท์เลยจากภาษาอังกฤษจนกลายเป็นว่าเราเน้นเสียงแบบไทยๆ
ต้องระวังเรื่องนี้ด้วยนะคะ เพราะฝรั่งบางคนเจอเน้นเสียงแบบไทยเข้าไปนี่ฟังไม่เข้าใจเลยค่ะ
เช่น apartment เน้นที่ พาร์ท ไม่ใช่ เมนท์ Gorilla เน้นที่ ริล ไม่ใช่ล่า
8. ออกเสียงตัวที่ไม่มีในภาษาไทยให้ชัดเจน
มีอักษรหรือเสียงในภาษาอังกฤษหลายตัวเลยที่มันไม่มีในภาษาไทย เราต้องพยายามออกเสียงให้เหมือนเจ้าของภาษาค่ะ
อย่าไปอาย มันไม่มมีให้เทียบในภาษาเราก็ต้องไปดูค่ะว่าเขาออกเสียงยังไง เช่นตัว th, v, z
9. ต้องฝึกพูดเยอะๆ
หาทางฝึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อเพิ่มชั่วโมงบินของตัวเอง ไม่ว่าจุพูดคนเดียว พูดกับเพื่อน กับครู
พูดตามหนัง หรือละคร พูดกับฝรั่งในสไกป์หรือแอพอื่นๆ ขอให้พยายามพูดและออกเสียงทุกวันแล้วทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้นเองค่ะ
หวังว่าบทความเล็กๆ นี้จะเป็นประโยชน์กับคนอ่านนะค้า ตั้งใจเขียนมากๆ เลย
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ มีอะไรแนะนำติชม เมนต์คุยกันได้ค่า
ขอบคุณค่ะ
9 วิธีง่ายๆ ให้พูดอังกฤษเก่งขึ้น
สวัสดีค่า
ซีมนะคะ วันนี้มี 9 ข้อง่ายๆ ที่จะมาแนะนำให้เพื่อนลองทำกันดู เพื่อที่เราจะได้พูดภาษาอังกฤษได้เก่งขึ้น ลื่นไหลขึ้น ถ้าเราพัฒนากันไปวันละนิดวันละหน่อย เราก็จะเก่งขึ้นในทุกๆ วัน อยู่ไทยก็เก่งได้เหมือนกัน! 9 วิธีนั้นจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเล้ย!
ใครขี้เกียจอ่าน ดูเป็นวิดิโอได้ที่นี่จ้า
1. เลิกกลัว
อย่ากลัวที่จะพูดผิด กลัวเขาฟังไม่รู้เรื่อง กลัวออกเสียงไม่ถูก เราต้องก้าวข้ามผ่านความกลัวนี้ไปให้ได้เพราะว่าเรายังกลัวอยู๋เราจะไม่กล้าพูด แล้วถ้าไม่พูดเราจะพัฒนาทักษะการพูดได้ยังไงกัน? ต้องเริ่มกันที่ก้าวแรกคือการลบทัศนคติความกลัวออกไปก่อน
2. เลิกกังวลเรื่องสำเนียง
หลายคนกังวลว่าถ้าเราพูดภาษาอังกฤษสำเนียงไทยแล้วคนอื่นจะไม่รู้เรื่อง จริงๆ แล้วซีมคิดว่า accent มีส่วนน้อยมากในการสื่อสาร ทุกคนทั่วโลกที่สื่อสารเป็นภาษาอังกฤษมี accent ด้วยกันทั้งนั้น ทั้งที่มาจากภาษาแม่ จากของตัวเองมาผสมๆ ติดมาจากเพื่อนบ้างอะไรบ้าง 5555 ตัวซีมเองอยู่อเมริกา 5 ปีก็ยังมี accent ไทยปนอยู๋บ้างเป็นบางคำค่ะ ไม่ใช่เรื่องน่าเกลียดอะไร เรามาโฟกัสที่การออกเสียงให้ชัดดีกว่า พูดให้ชัดดีกว่าพูดให้ accent เริ่ดจนฝรั่งฟังไม่เข้าใจค่ะ 5555
3. ฝึกออกเสียงด้วยการพูดตาม
ลองดูแล้วก็ฟังเจ้าของภาษาดูค่ะว่าเวลาเขาออกเสียงเนี่ยเขาทำยังไง เน้นยังไง เอาลิ้นแตะฟันไหม พ่นลมหรือเปล่า แล้วพยายามเลียนแบบให้ได้การออกเสียที่ใกล้เคียงเขามากที่สุด เลียนแบบได้หมดค่ะไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ที่สอนเรา วิดิโอยูทูป หรือหนัง ซีมเองก็เริ่มจากการเลียนแบบอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ทำให้เราคุ้นชินกับ flow ของภาษาอังกฤษว่ามันควรจะเป็นยังไง เราจะชินหูแล้วรู้ว่าควรออกเสียงยังไงด้วย
4. ฝึกการออกเสียงด้วยการอ่านออกเสียงดังๆ
อันนี้เป็นเทคนิคที่ได้มาจากวิดิโอด้านล่างนี้นะคะ เขาบอกว่าให้นึกถึงเวลาตอนเด็กๆ ที่เราได้อ่านออกเสียงในห้องเรียน ต้องพยายามออกเสียงให้ชัดเจน อ่านให้ถูกต้อง มีจังหวะวรรคตอนให้ดี บางทีในหัวเราเราคิดว่าออกเสียงถูก แต่เมื่อเราออกเสียงดังๆ อาจจะยังไม่เป๊ะ ยังได้อีก เมื่อได้ยินเสียงตัวเองก็จะทำให้ง่ายต่อการพัฒนามากยิ่งขึ้นด้วย
5. สังเกตการเชื่อมเสียงคำ
ลองฟังเจ้าของภาษาพูดแล้วดูว่าเขา "เชื่อมเสียง" ยังไง ใครงงให้คิดถึงคำว่า Thank you ค่ะ เราทุกคนรู้ว่ามันไม่ได้ออกเสียงว่า แต๊ง-ยู
แต่ออกเสียงว่า แต๊ง-กิ้ว เพราะเป็นการเชื่อมเสียงสองคำไว้ด้วยกันนั่นเอง ยังมีอีกหลายคำในภาษาอังกฤษที่เชื่อมเสียงแบบนี้
ถ้าเรารู้ว่าคำไหนควรเชื่อมยังไงมันจะทำให้เราอกเสียงได้ใกล้เคียงเจ้าของภาษามากขึ้นไปอีก!
เช่น What's up วอท-ซั่บ Wake up เวค-กั๊บ Watch out วอท-เช้าท์ ประมาณนี้นะคะ
6. อย่าลืมเสียงลงท้าย
คนไทยจะชอบตกหล่นพวกเสียงลงท้ายต่างๆ เช่น speak เป็น สะ-ปี๊ก จริงๆ ต้องมีเสียง เคอะ ออกมานิดนึง
รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้แหละค่ะจะทำให้เราฟังดูฝรั่งมากขึ้น อยากเห็นภาพแนะนำดูจากวิดิโอด้านบนนะคะ
เช่น popular ต้องออกเสียงอาร์ด้วย
7. สังเกตการเน้นคำหรือ Stress ในภาษาอังกฤษ
มีหลายคำที่ภาษาไทยยืมมาใช้ทับศัพท์เลยจากภาษาอังกฤษจนกลายเป็นว่าเราเน้นเสียงแบบไทยๆ
ต้องระวังเรื่องนี้ด้วยนะคะ เพราะฝรั่งบางคนเจอเน้นเสียงแบบไทยเข้าไปนี่ฟังไม่เข้าใจเลยค่ะ
เช่น apartment เน้นที่ พาร์ท ไม่ใช่ เมนท์ Gorilla เน้นที่ ริล ไม่ใช่ล่า
8. ออกเสียงตัวที่ไม่มีในภาษาไทยให้ชัดเจน
มีอักษรหรือเสียงในภาษาอังกฤษหลายตัวเลยที่มันไม่มีในภาษาไทย เราต้องพยายามออกเสียงให้เหมือนเจ้าของภาษาค่ะ
อย่าไปอาย มันไม่มมีให้เทียบในภาษาเราก็ต้องไปดูค่ะว่าเขาออกเสียงยังไง เช่นตัว th, v, z
9. ต้องฝึกพูดเยอะๆ
หาทางฝึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อเพิ่มชั่วโมงบินของตัวเอง ไม่ว่าจุพูดคนเดียว พูดกับเพื่อน กับครู
พูดตามหนัง หรือละคร พูดกับฝรั่งในสไกป์หรือแอพอื่นๆ ขอให้พยายามพูดและออกเสียงทุกวันแล้วทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้นเองค่ะ
หวังว่าบทความเล็กๆ นี้จะเป็นประโยชน์กับคนอ่านนะค้า ตั้งใจเขียนมากๆ เลย
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ มีอะไรแนะนำติชม เมนต์คุยกันได้ค่า
ขอบคุณค่ะ