คิดให้ดีก่อนฆ่าตัวตาย...กระโดดน้ำสะพานพระราม8 คุณอาจไม่รอดเหมือนเรา

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ  กระทุ้ของมินนี่คือเรื่องจริงค่ะ
เมื่อประมาณอาทิตย์ที่แร้ว เราเพิ่งเลิกกะแฟน ด้วยเหตุผลส่วนตัวที่บอกไม่ได้ บวกกับมีปัญหาที่บ้าน เพื่อนเลิกคบ และงานที่ทำอยู่
ตอนนั้นตัดสินใจวันแรก ก็เดินสะพายเป้ พร้อมโทรศัพท์ไอโฟน รวมไปถึง กระดาษโน้ต และบัตรประชาชน
โดยที่กระดาษโน้ต มีข้อความเขียนไว้ว่า "ให้ติดต่อกลับเอ็ม ถ้าเอ็มไม่รับให้ส่งเมสเสจไปบอก (เอ็มคือแฟนเก่าเราค่ะ)
และก้ให้รัหัสผ่าน เข้าไอโฟน เพื่อติดต่อพ่อแม่ รวมไปถึงเบอร์โทรเพื่อนสนิทที่เพิ่งเลิกคบกันไป แระขออโหสิกรรม ขอโทษกะทุกคนๆไว้ในโน้ต"
บ้านเราอยุ่ไม่ห่างจากสะพานพระราม8มาก จึงสามารถเดินไปได้ ประมาณเวลา 4โมงเย็นกว่าๆ เราเริ่มจากปลายสะพาน แร้วก็เห็นคนนั่งเล่นอยุ่กลางสะพาน
เราเลยรอจจังหวะที่คนไม่อยู่ เรายืนคิดอยู่ตรงนั้นนานมาก ทีนี้คนเริ่มหายไๆไปเราเริ่มเขยิบไปที่เกือบกลางสะพาน เราเริ่มถอดเป้ออก และถอดรองเท้า กำลังจะปีน แต่ปีนไม่ขึ้น ก้เลยลงมาที่เดิม ยืนอยุ่ตรงนั้นนานมาก กล้าๆกลัว ณ ตอนนั้น ทีนี้ช่วง5โมงกว่าๆ เจ้าหน้าที่ ทหารสองคนอยุ่แถวนั้น เค้าเข้ามาว่าจะโดดน้ำหรอ ถามว่ารอใครรึป่าว เราก้บอก ไม่ได้โดดค่ะ รอเพื่อนมาจากข้าวสาร และทหารก็เดินจากไป เรายืนมองผิวน้ำ สองจิตสองใจไม่กล้าโดน จนเริ่มมืดแร้ว
เราเลยตัดสินใจเดินกลับบ้าน ไปบอกพ่อแม่ว่า เกือบไปกระโดดน้ำตายแระ แต่สงสารป๊ากะคุณแม่ ทั้งสองคิดว่าเราพูดเล่นมั้ง เลยไม่ได้ถามอะไร

ต่อมาอีกวัน คราวนี้เราเอาจริงแระ เก็บโทรสับเข้ากระเป๋า โน้ตก็อยู่พร้อม คราวนี้ออกไปประมาณ ช่วงเที่ยงๆได้ พอถึงปุ๊ปเราเดินดิ่งไปที่กลางสะพาน
ตรงนั้นเงียบมาก คือไม่มีคนอยู่เลย เราตัดสินใจวางกระเป๋าเป้ และรองเท้า ปีนขึ้นเสดแร้วโดดลงมาเลย
ตู้มมมม เราจมลงและก้ลอยตัวขึ้นมา เราพยายามกั้นหายใจ ทำท่าว่าจะจมน้ำ ขาดอากาศหายใจ แต่ก็ไม่ตาย คราวนี้ ตัวเราก้ลอย จากการตะกรุยขาใต้น้ำซึ่งทำให้ว่ายน้ำเป็นขึ้นมาทันที ตอนนั้นเริ่มกลัวแร้ว มองหาทางจะขึ้นฝั่ง แต่ก็เหนฝั่งไกลมาก และทันใดนั้นเอง มีฮีโร่ผ็ชายคนนึงกระโดดลงสวมชูชีพ และนำห่วงยางมาให้เราเกาะ ตอนนั้นเรือด่วนเจ้าพระยา ผ่านมาพอดี แระก็มีทอมอีกคนนึง กระโดดเกาะลงมาช่วยด้วย เรือด่วนเริ่มหันหัวกลับมารับเราขึ้นไปนั่งบนเรือ โดยมีผู้ชายอยู่สองสามคน ยืนมือดึงขึ้นจากเดรือ แระก็มีเจ้าหน้าที่เรือที่เป็นผู้หญิง นั่งปลอบใจเราอยู่ ทุ่งคนในเรืออึ้งมาก ไม่พูดอะไรเลย เงียบสนิท
จนกระทั่งเรือต้องวนกลับไปขึ้นท่าเพื่อส่งเราขึ้นฝั่งที่ท่าเทเวศน์ เราลงมามีตำรวจ จนท. 2-3คน คนขายปลา ขายของอยุ่แถวนั้น เค้าให้เราดมยาดม
แระก็สอบถามว่าบ้านอยุ่ไหน เราก็บอกไป เค้าถามเครียดเรื่องไร เราไม่พูด ไม่ตอบไรทั้งนั้น ทีนี้เราพูดอยู่อย่างเดียว คือ หนูขอขึ้นไปเอากระเป๋ษกะรองเท้า ที่บนสะพานได้ไหม แต่ จนท บอกให้รอก่อน จนมี ตำรวจขึ้นไปเอามาให้ เชคดูของทุกอย่างครบ และ จนท ตำรวจ ก็ขอ บชช. และก็ถ่ายรูปไว้ ไม่รู้เอาไปทำไร(ใครทราบบ้างค้ะ)่ สุดท้ายเค้าก้ให้ จนท ตำรวจ และวินอไซต์พาไปส่งที่บ้าน ตอนนั้นแม่ตกใจมากพอถึงบ้าน ตำรวจเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง พร้อมยก มือไหว้ ขอบคุณ จนท 4 คนที่มาส่ง รวมกับพี่วินมอไซต์คนนั้นด้วย มินนี่ก็ยกมือไหว้พวกเขาเช่นกัน แต่เสีบดายด้วยความที่ยังไม่ค่อยมีสติ
เลยไม่ได้ถามหาฮีไร่คนนั้น ถ้าจะได้เจอเค้า อยากจะซื้อของให้เงินเขาจำนวนหนึ่งเป็นค่าตอบแทนที่เค้ายอมกระโดดลงมาเพื่อช่วยชีวิตเรา
ขอบคุณพี่ทั้งสองมาก
ขอบคุณทุกคนทั้งหมดที่ช่วยเรา และขอโทษทุกๆคนบนเรือ ทุกๆคนที่เราทำให้เสียเวลา เดือดร้อนกันหมด ตอนนี้คิดได้แล้ว จึงอยากแชร์ประสบการณ์
ค่อยๆคิด ความตายคือการหนีปัญหา ชีวิตเรามีคุณค่า มองกลับไปหาคนที่อยู่ข้างหลังไว้มากๆ เค้ารักเรายิ่งกว่าเรารักเขาเสียอีก คือพ่อแม่คุณทุกคน
ใครอยากตายด้วยวิธีการใดๆก็ตามแต่ เราจะบอกไว้เลย ว่าคุณตกนรกแน่ๆเมื่อคุณตายไป คิดให้ดีๆก่อนทำอะไร ไม่งั้นอาจไม่รอดเหมือนเรา

ขอบคุณทุกคนค่ะ...ที่เข้ามาอ่าน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่