[CR] ประสบการณ์ตรงจาก MacBook Pro Retina 2016 with Touch Bar

กระทู้รีวิว
เรื่องเล่าวันนี้ เกี่ยวกับ Macbook pro with touch bar 2016 (15") เรื่องมีอยู่ว่า...มันแพ๊งแพง...ไม่คุ้ม...(จบ) 555+ ไม่ใช่ละ
.
ประเด็นเรื่องราคาแพงเนี่ย เลิกพูดกันได้ละ เหมือนคนซื้อรถหรู ก็ขับถึงที่หมายได้ดีพอ ๆ กันล่ะ มาเข้าเรืองกันต่อ ผมจะเทียบกับของที่ผมใช้อยู่ละกันครับ ได้แก่ MacBook Pro with Toch Bar 2016 (15") ขอเรียกย่อ ๆ ว่า MBPR vs Macbook retina 2015 ขอเรียกว่า MBr (เทียบให้เห็นแค่บางอย่าง)
.
1) เรื่องจอ ความสวยของภาพ พอกัน กินกันไม่ลง แต่เหมือนจอของ MBPR มี dynamic range สีดีกว่าหน่อยนึงไม่สังเกตจะไม่รู้ แต่อย่าไปเทียบกับพวก MBPR ปี 2015 หรือปีก่อน ๆ อันนั้นห่วยกว่าเห็นได้ชัด เรื่องภาพสวยให้พอกัน รวมถึงเรื่องความสว่างก็พอกัน ไม่แพ้กัน
.
2) ประเด็นลำโพงเสียง (เราเน้นภาพและเสียงก่อน เพื่อความบันเทิง 555+) ลองฟังเทียบกันหลายรอบหลายเพลงหลายแนว สรุปได้ว่า MBPR เสียงดีขึ้นกว่าเก่าที่ห่วยแตกมาก แต่ก็ยังเป็นรอง MBr อยู่อย่างรู้สึกได้ คือเสียงมันไม่กังวาลเท่า มันอู้ ๆ บอกไม่ถูก และเสียงก็ไม่ได้ดังกว่าด้วย แปลกมะ เครื่องออกใหญ่โต ทำออกมาได้ผิดหวังมาก ในบรรดา notebook เรื่องภาพและเสียง ไม่ต้องไปหาตัวไหนมาสู้ MBr ละครัช ผมลองมาเยอะละ ใช้คำว่าห่างไกลกันคนละดาวเลย (ยังไม่ได้ลอง Surface Pro ตัวใหม่ แต่ได้ลองพวก Notebook ที่เคลมว่าลำโพง JBL, Harman,... เสียงงั้น ๆ ล่ะครับ แปะยี่ห้อเฉย ๆ (คหสต) แนะนำให้ไปลองอย่าเชื่อของพวกนี้ ถ้าท่านไม่หูหนวกตาบอด เทียบกันก็เห็นง่าย ๆ รับรู้ได้เลย ไม่ต้องใช้ความคิด รู้สึกได้เองครับ)
.
3) ประเด็นเรื่อง Touch Bar ที่ใคร ๆ ก็บอกว่าเป็นกิมมิก ของเล่น ขอตอบเลยว่าจริงอย่างแรง คือประโยชน์ถ้าจะมีบวกลบคูณหารข้อดี ข้อด้อยแล้ว จะเหลือความดีงามกว่าเดิมแค่ 15% ขาดตัว ดีกว่าเพราะแค่ว่าหลากหลายกว่าเท่านั้นเอง หรือผมยังใช้ไม่ชินก็ไม่รู้ มันมีประเด็นว่า คนใช้ keyboard + mouse แยก น่าจะไม่ได้ประโยชน์ แม้จะกางจอออกมาใช้งาน ไม่ได้พับแล้วต่อจอภายนอกก็ตาม เพราะต้องเอื้อมมือไปสัมผัส ส่วนคนที่ใช้ทุกอย่างกับตัว Notebook เลยผมว่าจะรู้สึกถึงประโยชน์ได้ แต่บางทีมันรำคาญตรงต้องรูดไปมา ไม่ได้เป็นแบบกด คือต้องเล็งอยู่บ้าง เพื่อความแม่นยำ ข้อดีที่มีมากสุดเลยคือ Touch ID อันนี้ดีงามเหมือนใช้ iPhone แตะ ๆ เอา ง่ายดี ไวและแม่นดี ส่วนอนาคตแม้จะมี app อีกมากมายทำฟังก์ชันมารองรับ Touch Bar ผมก็ว่าได้ประโยชน์สุดแค่ app บางกลุ่มเช่น พวกสายบันเทิง ตัดต่อภาพและเสียง เป็นหลัก (อ้าวก็เครื่องแอปเปิ้ลเค้าจับกลุ่มตลาดนี้และเน้นด้านนี้ไม่ใช่เหรอ ??? คำตอบคือใช่ ก็ไม่ต้องสงสัยต่อนะทำไมเค้าถึงคิดว่าดี เพราะมันดีสำหรับ app เหล่านั้นจริง ๆ ไม่เชื่อก็ไปลอง อย่าเชื่ออะไรง่าย ๆ )
.
4) ส่วน Keyboard Butterfly V.2 ผีเสื้อที่กระพือได้พรึบผับขึ้น (กดได้ลึกขึ้น) ทางผลไม้เคลมว่าเสถียรขึ้น คือกดตรงไหนปุ่มก็ยุบตัวลงทั้งอันเท่า ๆ กัน ไม่ใช่แตะด้านขวา ปุ่มจะเทเอียงมาด้านขวา ส่วนตรงนี้ก็ดีครับ ความรู้สึกลึกขึ้นกว่าเดิมจริง ก็พิมพ์มันส์ดีนะ ปุ่มใหญ่กว่าเดิม แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้พิมพ์เร็วหรือแม่นขึ้น ก็ต้องปรับความรู้สึกกันไป เดี๋ยวก็ชิน แรก ๆ ผมใช้ keyboard MBr อยู่ตั้งหลายวันมากกว่าจะชิน พอชินละรู้สึกดีตรงมันแตะ ๆ เอาไม่ต้องออกแรง จะตรงข้ามกับอารมณ์ mechanical keyboard ที่เน้นกดป๊าบๆๆๆๆ สะใจ เข้าใจว่าค่ายนี้เค้าเน้นความเป็นผู้ดี ไม่ชอบความรุนแรง แต่ถึงอย่างไร V.2 นี้ก็พิมพ์ได้สนุกขึ้นกว่าเดิมมากอย่างรู้สึกได้ชัดเจน 555+
.
5) เรื่องไวในภาพรวม ทั้งการทำงานของ cpu + ram + ssd ขอบอกเลยว่าใช้งานทั่วไป ตราบใด ram ยังพอ ssd ยังเหลือมากพอสมควร (เกิน 10GB) ก็ไม่ได้ต่างจาก MBPR ปี 2015 แต่อย่างใดเลย ไม่รู้สึกเลย ใครรู้สึกได้ด้วยการทำงานพิศดารอันนั้นไมนับนะ แค่ใช้งานโปรแกรมปกติเช่น ms office เป็นต้น หรือท่องเว็บ ส่วนเจ้าตัว MBr อันนั้นเค้าช้ากว่าโดยธรรมชาติ ถ้าทำงานไว ๆ จะสะดุดคิดบ้าง แต่ภาพรวมก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ เรียกว่าถ้าจะซื้อ MBPR ขนาดใดก็ตามมาใช้งานทั่วไป ที่ไม่ใช่สาย ตัดต่อภาพและเสียง หรือสาย Developer ล่ะก็ ไม่แนะนำ เปลืองเงินและหนัก ใช้ MBr สวย ๆ และเบา ดีกว่ามาก (หนักไม่ถึง 1 Kg. ดีงามที่สุดละ แม้แต่ iPad Pro + case ก็หนักเท่ากันละ ถ้าเป็นเคสคีย์บอร์ดจะหนักว่าด้วยซ้ำ) สำหรับสาย Dev การได้ ram 16 GB + SSD 512GB เป็นอะไรที่ ฟินเฟ่อเว่อวังมวกกก ชีวิตดี๊ดี (ได้ประเดิมรันงาน algorithm สายโหดพวก Machine Learning ละ เร็วแบบว่า 1x เท่าเมื่อเทียบกับใช้ MBr ตัวเก่า แต่ก็เทียบกันไม่ได้คนละ series กันเลย รู้สึกชีวิตมีชีวิตชีวาขึ้น เดิมรอจนรากงอกแล้วงอกอีก) วัดความเร็ว SSD ละเร็วดังที่ apple เคลมไว้จริง เขียนอ่าน 2 GBps ได้เร็วไหมล่ะ (2,000 MBps) สำหรับ SSD ทั่วไปใน notebook ก็วิ่งกันได้แค่ 500 MBps เอง เว้นตัวเก่งหน่อยอาจถึง 1,000 MBps
.
ปล. แต่ก็มีหน่วงบ้างนะ เช่นท่องเว็บบางทีก็ต้องรอ เหมือน safari แอบคิดอะไรขึ้นอมยิ้มหมุนไปมาให้รอเล่น ๆ ก็แอบหงุดหงิดนิสนึง เอาเป็นว่าถ้าทำงานต่อเนื่อง หนักหน่วงหน่อยจะเห็นผลชัดเจน (บอกแล้วว่าถ้าไม่ใช่สายโหดไป MBr เหลือเฟือมาก)
.
6) เรื่องเลวร้ายสุดละกัน ประเด็นที่เค้าว่ากันว่าทำให้บริษัทผลไม้เสียชื่อ....แบตเตอรี่ การใช้งานน้อยกว่าที่เคลมไว้ มีคนทำตามที่ apple เคลมบอกวิธีทดสอบในเว็บเป๊ะ ๆ สรุป apple บอกได้ 10 ชม. เว็บดังทดสอบได้ 8:xx ชม. เอง 555+ จากการใช้งานมา จับได้ละแบตหมดเร็วเพราะ ความสว่างหน้าจอ (Brightness) เนี่ยรุนแรงสุดละ แล้วก็หาสาเหตุไม่ได้ด้วยนะเพราะ ความสว่างไม่ใช่ app มันไม่อยู่ให้เห็นใน activity monitor (โปรแกรมไว้ดูว่าเครื่องรันโปรแกรมอะไรบ้าง) เลยได้แต่งงว่า เอ๊ะ app แต่ละตัวรันกัน 3-5% cpu. รวมกันโหลดไม่ถึง 10% ของ cpu เลย แล้วก็เด้งขึ้นเด้งลง ทำไมวันนี้มันแบตหมดไวจัง ลงฮวบ ๆๆๆ อ๋อ คอมหันออกเจอแสงแดด ความสว่างเต็มเลยครับ มิน่าแบตหมดไวมากกกกกก มาถึงตรงนี้ขอบอกว่า จอ Notebook ของผลไม้เนี่ยดีงามสามโลกตรงไม่ค่อยสะท้อนแสง ไม่ค่อยมีเงา สู้แสงสว่างได้ จอ Notebok ยี่ห้ออื่นๆ ถ้าเป็นจอด้านจะเป็นแบบเหมือนเม็ดทรายละเอียดฉาบผิวจอเวลาเจอแสงสว่าง ไม่ปลื้มเลย ถ้าจอกระจกก็เงาไปไหน แม้แต่จอ surface pro 4 ก็ตาม ยังตกเป็นรองไปลองเทียบดู
.
7) จี๊ดที่สุดของที่สุดคือเรื่อง Port มี usb-c มาให้ 4 ports มันเลวร้ายคอด ๆ เริ่มจากข้อดีให้มีกำลังใจก่อน มีดังนี้ 1. เสียบสายชาร์จรูไหนก็ได้ (แม้จะเสียบชาร์จไฟพร้อมกัน 4 ช่องแต่เครื่องมันฉลาด จะเลือกดึงไฟไปชาร์จแบตจากช่องที่จ่ายไฟได้สูงสุด ถ้าเท่ากันสองช่องมันคงมีอัลกอริทึมเป่ายิงฉุบเลือกเอา) 2. เสียบกลับหัวก็ได้ 3. จ่ายไฟได้เยอะ 4. ความเร็วสูงมาก 40 Gbps เร็วแค่ไหนลองเทียบเอาว่า ต่อจอ 4K จะใช้ข้อมูลความเร็วแค่ 18.x Gbps เอง 5. สายชาร์จสองด้านหน้าตาเหมือนกัน อีกหน่อยคงหาซื้อได้ง่าย ....ฟังดูเหมือนมีข้อดีเยอะใช่มะ
.
....ใช่เซ่ ไม่งั้นเค้าจะผลักดันให้เป็นมาตรฐานใหม่กันทำไม แต่....แต่....และแต่....​ตลาดยังไม่ค่อยพร้อม คือยังไม่ค่อยมีของออกมาขายสนับสนุน ของเก่าก็เต็มตลาด ....อ้าวถ้าไม่ออกก็ไม่ต้องรอไปเรื่อย ๆ เหรอ เมื่อไหร่จะได้ออก รอคนอื่นออกก่อนเหรอ ....มันก็ใช่ ก็นั่นแหละเหตุผลของผลไม้ที่ออกมาเลย เพราะสมัยนี้มองว่าทุกที่มี Internet ดังนั้นทำทุกอย่างผ่านเน็ตหมด ไม่ต้องเชื่อมต่อพอร์ตละ แชร์ข้อมูลกันได้อิสระ และเน็ตก็ไวกันดี ขนาดประเทศเราเน็ตบ้านยังเร็วตั้ง 10-30 Mbps แล้วนะ
.
ที่คนส่วนใหญ่บ่น ผมว่าไม่ใช่เพราะอุปกรณ์เสริมไม่พร้อมอย่างเดียว แต่เพราะมันแพ๊งแพง...เสียงสูงมาก (มากกว่าคำว่าแพง) และมีข้อจำกัดยังเยอะอยู่ อีก 3 ปีข้อจำกัดเหล่านี้จะหมดไปแน่นอน และจะเหลือแต่ usb-c เป็นส่วนใหญ่ละครับ (ผมฟันธงคนเดียวเลย แต่เชื่อเหอะ จริง เพราะค่าย android อย่าง google เค้าก็เอาด้วย ทุกบริษัทใหญ่ ๆ เอาด้วย ถ้า samsung เอาด้วยก็ยิ่งเร็ว port micro usb จะได้ตาย ๆ ไปซักที ข้อจำกัดเยอะ) นี่ยังดีใช้ตัวแปลงของเก่า ๆ ได้อยู่
.
ขอเสริมเรื่องอุปกรณ์เชื่อมต่อ คุณรู้กันหมือไร่ว่า usb-c to HDMI adapter ของ apple ที่ผลิตเอง รองรับความละเอียด 4K ได้แค่ 30Hz เท่านั้น ไม่ถึง 60Hz นะแจ๊ะ ต้องใช้ display port แต่ก็อีกล่ะ มันไม่มีหัวแปลงจาก usb-c เซ้งอีก เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงเริ่มมีจอรุ่นใหม่ ๆ (สด ๆ ซิง ๆ เพิ่งทะยอยเปิดตัวกัน) ใช้. usb-c port (displayport v1.2 รองรับแค่ 4K@60Hz ถ้า V1.3 จะรองรับได้ 8K@60Hz ซึ่ง MBPR และ MBr ตัวใหม่รองรับ V1.3 หมดละ ส่วน HDMI 2.0 ส่งได้ความเร็ว 20 Gbps ก็ใช้ได้ อนาคตคงมี V3.0 ตอนนี้ล่าสุดแค่ 2.1 แต่ก็ยังไม่ออกด้วย ไม่รู้จะแอบตายไปเลยแบบ HD-DVD หรือเปล่า 555+) ดังนั้นถ้าอยากซื้อ MBPR หรือ MBr รุ่นใหม่ ๆ ไปต่อจอคอม 4K ที่มีช่อง HDMI หรือ Displayport ก็ไปหาสายแปลงกันดี ๆ ทดสอบก่อนละกันครัชว่ารองรับได้ถึง 4K@60Hz. ไหม ส่วนจอ 5K ไม่ต้องสืบ ต้องใช้ช่องต่อ usb-c อย่างเดียวเท่านั้น ไม่งั้นต้องต่อสายแบบเก่า 2 เส้นถึงจะทำงานได้ (อุปกรณ์ทั้งจอและ Notebook ต้องรองรับมาตรฐานการต่อแบบนี้ด้วยนะครัช ไม่งั้นก็ทำไมไ่ด้อยู่ดี) จอรุ่นใหม่ ๆ แค่เสียบ usb-c ได้ขายแพงขึ้นกว่าเดิม 30-50% แย่มวกกก (ไปลองดู LG ได้) >_<
.
ส่วนอุปกรณ์ all-in-one สารพัดใช้เป็น hub เสียบได้หลากหลายการเชื่อมต่อนี่ผมว่าจำเป็นมากนะ ใน 1-3 ปีนี้ หมดช่วงนี้ไปคงไม่ค่อยจำเป็นละ พี่จีนก็ทำของเทียบเทียมก็อป มาขายให้ฮึ่ม ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็ว่ากันไป ของแบรนด์เนมก็ราคาโหด ดังนั้นถ้า Notebook จำเป็นต้องใช้เชื่อมต่อกับอะไร ต้องสำรวจก่อนนะครับ อย่าซี้ซั้วซื้อมาใช้ก่อนนะ เพราะ adapter บางตัวในไทยไม่มีขาย ต้องสั่งจากนอก ใช้เวลาก็หลายวันอยู่ อย่าง case แข็งปกป้องเครื่อง ไม่มีขาย ต้องสั่ง ebay รอวนไปครัช (เป็นแค่ line ผลิตภัณฑ์ออกใหม่ เหมือนตอน MBr 2015 ตัวแรก) 555+
.
มีเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยมาฝากให้ขำขำกันด้วย ว่าด้วยเรื่อง port usb-c เนี่ยล่ะ ถ้าเป็น MBr มันเก่ง เสียบกับ adapter iPad ยังชาร์จเข้าเลย มันรองรับไฟได้หลาย step แต่สำหรับ MBPR ไม่ว่าจะ 13" หรือ 15" หมดสิทธิ์จ้า มันจะกินไฟขึ้นชาร์จให้ดูเล่นแป๊บนึงแล้วก็หลุดไป ให้รู้ว่าลองดูดพลังงานละ ดูดไม่ขึ้นแรงส่งไม่พอ 555+ แค่นี้ยังไม่พอนะ เรื่องสายชาร์จ usb-c to usb-c เนี่ยขนาดสายมีผลต่อกำลังไฟ แต่ไฟ DC กระแสตรงมีผลนิดนึง ถ้าสังเกตกันดี ๆ จะเห็นว่าสายชาร์จของ MBPR จะใหญ่กว่า MBr นิดนึง ซึ่งสาย usb-c to usb-c ที่ apple store ขายต่างหากที่มีความยาว 1 กับ 2 เมตรให้เลือเนี่ย มันจะเป็นสายใหญ่หมด รองรับไฟได้ 5A (MBPR 13" กินไฟ 3A ส่วน 15" กินไฟ 4.3A เยอะมะล่ะ) ว่าถึงตรงนี้แล้วหยุดขำหน่อย หัวแปลงปลั๊กเสียบของ apple ที่เป็นขากลมยาว 2 ขา ที่ให้มาเสียบกับอแดปเตอร์ชาร์จไฟเขียนไว้ว่ารองรับ 2.5A 555+ (ตัว adapter บอกจ่าย 4.3A แต่โอเคขาเข้ากะขาออกของหม้อแปลงไม่เท่ากัน ยอมรับได้) นี่ขนาดของแท้นะ ดังนั้นถ้าใครอยากเปลี่ยนเป็นหัวแบบ duckhead พับได้แบบ us ไปหาซื้อกันมาใช้ได้เลย ไม่ต้องกังวลอะไร แค่สะพานไฟ กินไฟไม่มาก ผมว่าไม่มีผลอะไรหรอก เพราะเสปคของเทียบก็เขียนว่ารองรับ 2.5A เหมือนกัน 555+ นอกจากนี้ให้ระวังถ้าอยากได้ที่ชาร์จไฟยี่ห้ออื่น เช่น มีบางยี่ห้อทำเลียนแบบ magsafe (แต่ขี้เหร่มากยื่นเยอะเลย) ก็ให้ดูด้วยว่ามันจ่ายไฟได้กี่ Watt เพราะ MBPR 13" ต้องการ 60W พอ แต่ถ้า 15" ต้องการ 87W ซึ่งเซ้งเซ็ง เพราะหลายอุปกรณ์ตอนนี้รองรับแค่ 45-60W เอง
.
สรุป MacBook Pro with touch bar 15"
ข้อดี เห็นชัด ๆ มีแค่หน้าจอสีสรรดีขึ้นชัดเจน และระบบแรงเร็วดี เสียงดีขึ้นจนสู้ Notebook ยี่ห้ออื่นได้บ้างละ มี Touch Bar เป็นของเล่นเกร๋ ๆ เพิ่มเข้ามา 555+
(ประเด็น trackpad ใหญ่ขึ้นไม่ได้รู้สึกเท่าไหร่หรอก นอกจากคนมือใหญ่มากๆๆๆๆ)
.
ข้อเสียอื้อเลย แพงเกินไปมากกกกกกกกกก (ข้อนี้สาหัสสุด) แบตหมดไวไปหน่อย (Apple ถึงกับประกาศจ้างพนักงานด้าน วิเคราะห์การใช้พลังงานแบตเตอรี่เลยนะ) หาอุปกรณ์เชื่อมต่อยากและแพง (ตลาดยังไม่พร้อม) เบาขึ้นหน่อยนึงแต่ก็ยังหนักอยู่ดี
ชื่อสินค้า:   MacBook Pro 15-inch with Touch Bar Late 2016
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่