สวัสดีคับวันนี้จะมาขอเขียนรีวิวเกี่ยวกับการไปเที่ยวพะเนินทุ่งหน้าหนาว2วัน1คืนนะคับ
โดยทริปนี้เราไปกัน3วัน2คืน มีผู้ร่วมทริปทั้งหมด6คนนะคับ แต่อีกคืนเราไปแวะพักผ่อนต่อกันที่หัวหินนะคับไม่ได้เอามารีวิวด้วย
หลังจากเราสอบเสร็จช่วงธันวาคมก็ปิดเทอมเลยตกลงกันว่าจะไปไหนดีเนื่องจากเป็นช่วงฤดูหนาวแล้ว สรุปจุดหมายของเราคือ"พะเนินทุ่ง แก่งกระจาน เพชรบุรี"โดยตกลงว่าจะไปกันวันที่ 14-16 ธ.ค. 2559
เริ่มเดินทาง
เราออกเดินทางจากบางแสนชลบุรีตั้งแต่เวลา 7 นาฬิกาของวันพุธที่ 14 โดยขับขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี ลงพระราม2 วิ่งยาวไปถึงเพชรบุรีเลยคับ โดยใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมด 4 ชั่วโมง เนืองจากช่วงเช้าบนทางด่วนรถติดมาก ซึ่งที่แรกที่เราจะไปแวะก็คือ โครงการชั่งหัวมัน เป็นโครงการของในหลวงรัชกาลที่9นะคับ เรามาถึงกันตอนประมาณ 11 นาฬิกา
โครงการชั่งหัวมัน
โดยโครงการนี้ก็จะเป็นโครงการที่ในหลวงรัชกาลที่9เคยมาทรงงานอยู่ด้วยนะคับ จะมีบ้านพักที่ท่านเคยทรงประทันแล้วก็มีรถที่ท่านทรงเคยใช้งานจอดอยู่ แต่ผมลืมถ่ายมาให้นะคับ เหตุผลที่เรามาที่นี่กันก่อนขึ้นพะเนินทุ่งเนื่องจากทางอุทยานแห่งชาติได้กำหนดเวลาขึ้นลงเป็นเวลาจึงทำให้เรายังขึ้นกันไม่ได้คับ
เตรียมตัวขึ้นพะเนินทุ่ง
เราก็ซื้อของเตรียมมากันตั้งแต่บางแสนแล้ว
- หลักๆก็จะของกินคับเนื่องจากข้างบนไม่ค่อยมีอะไรกินคับ แล้วยิ่งถ้าไม่ได้ไปวันหยุดยิ่งไม่มีเลยคับ ทำอาหารปิ้งย่างได้คับข้างบน เครื่องดื่มมึนเมาห้ามคับแต่แอบเอาขึ้นไปกันได้
- ส่วนเรื่องเต้นท์ทางอุทยานแห่งขาติมีให้เช่าคับ 500 บาท เต้นใหญ่เลยนอนได้4คน รวมเครื่องนอนแล้วมีถุงนอนมีหมอน
- ข้างบนไม่มีแสงสว่างให้ใช้หลังจาก4ทุ่มนะคับ เตรียมไฟฉายไปด้วย ที่ชาจโทรศัพท์กับกล้องไม่รู้ชาจที่ไหนผมเอาเพาเว่อแบงค์ไปเยอะคับ
- รถขึ้นพะเนินทุ่งอันนี้สำคัญเลยคับ รถเก๋งไม่ได้ รถตู้ไม่ได้ กระบะเตี้ยเสี่ยงดวงเอาคับ กระบะยกสูงขับ2 ขับขึ้นได้หมดคับ ผ่าน3ลำธาร ถ้าฝนตกรถมีสไลด์บ้างแต่ไม่มีติด ทางลาดชัดแนะนำจัดเกียร์1ยาวๆเลยคับส่งไปเลย ตอนลงก็1ยาวๆคับ ไม่งั้นเบรคไหม้ ส่วนใครที่ไม่ได้ขับรถไปมีรถเช่าขึ้น ลงคับราคา 2000 บาท
ขึ้นพะเนินทุ่ง
เวลาที่ทางอุทยานกำหนดให้รถขึ้นมีหลายเวลาคับตอนเช้าก็มีแต่เราได้รอบขึ้นตอนบ่ายโมงถึงบ่ายสามคับ โดยเราต้องผ่านทั้งหมด 3 เช็คพ้อย อันแรกที่ทำการอุทยานตรงนี้แวะซื้อบัตรคับ อันที่2 แคมป์บ้านกร่างคับ ตรงนี้แหละคับที่เค้ากำหนดเวลาขึ้นลง เรามาถึงตรงนี้กันประมาณบ่าย 2 ครึ่ง ก็ยื่นบัตรที่ซื้อมาให้เค้า จากที่ทำการมาแคมป์บ้านกร่ามาได้ทุกรถคับ ทางลาดยางปกติ แคมป์บ้านกร่างมีลานกางเต้นคับ อากาศดีอุณหภูมิประมาณ20นิดๆคับ หลังจากนั้นเราก็ขับรถขึ้นไปเลยคับ แล้วเราก็ไปถึงพะเนินทุ่ง4โมงพอดีคับ โดยทางเจ้าของกระทู้ขับรถขึ้นไปเองนะคับใช้ all new d max hilander 4*2 mt คับ โดยลำธารที่1และที่2จะเป็นจุดชมผีเสื้อนะคับ สามารถจอดรถลงไปดูได้คับ ทางค่อนข้างลาดชัดมากคับ
ระหว่างทางขึ้นถ้าไม่ใช่ช่วงลาดชัดก็ไม่ต้องรีบนะคับเดี๊ยวจะชนสัตว์ได้
อันนี้ก็จะเป็นบรรยากาศโดยรวมระหว่างทางขึ้นนะคับ
อันนี้ก็เป็นช่วงตอนที่รถขับผ่านลำธาร ใครคิดว่าไหวขับเข้ามาเลยคับจากแคมป์บ้านกร่าง
ผีเสื้อจากแคมป์บ้านกร่างคับ
ถึงยอดพะเนินทุ่งแล้วเย้
หลังจากออกจากแคมป์บ้านกร่างเราก็ขึ้นมาถึงบนพะเนินทุ่งแล้วคับ เวลาประมาณ4โมงคับ
เราก็จัดเตรียมข้าวของที่เอามาลงจากรถคับ คนไม่เยอะมาก ประมาณ50คน แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าวันหยุดลานกางเต้นท์แทบเกยกันต้องโทรมาจองก่อนนะคับ สำหรับใครที่กางเต้นท์ไม่เป็นไม่ต้องห่วงนะคับ มีเจ้าหน้าที่กางให้เราเลยคับ
เมื่อเราขึ้นมาถึงข้างบนก็จะต้องเจอป้ายนี้ก่อนเลยคับ
อันนี้ก็เป็นช่วงเย็นแล้วคับหลังจากเก็บของกางเต้นท์เสร็จเรียบร้อยก็นั่งพักผ่อนคุยกันรอไปดูพระอาทิตย์ตกดินคับ
ลานกางเต้นประมาณนี้คับ(ชวงเช้า)
ที่ทำการเจ้าหน้าที่ข้างบนคับ(ช่วงเช้า)
ไปดูพระอาทิตย์ตกดินกัน!!!
จุดที่ชมพระอาทิตย์ตกดินก็อยู่ใกล้กับลานกางเต้นท์เลยคับเดินมาได้เลย อากาศตอนเย็นเริ่มหนาวแล้วคับ ต้องใส่เสื้อกันหนาวกันแล้วคับ ไปชมรูปกันเลยแล้วกันนะคับวิวสวยดีไม่มีอะไรอธิบายมาก55555+
การกินอยู่บนพะเนินทุ่ง
ตามที่บอกไปตั้งแต่แรกคับ ไม่ค่อยมีของกินขายของขายต้องนำมาเอง โดยผมและเพื่อนก็ได้ทำหมูกะทะ ผัดมาม่า ลูกชิ้นปิ้ง แล้วก็อีกเยอะเลยคับ แนะนำให้เอาเตามาเองเลยคับ เตาแก๊สปิคนิคก็ดีคับสะดวกเลย ส่วนเรื่องการอาบน้ำก็มีห้องน้ำคับ ถือว่าอยู่ในระดับที่โอเคคับ ถ้าเทียบกับการที่ขึ้นมาอยู่ข้างบนนี้ ไฟตัดตอน4ทุ่มควรอาบตอนก่อน4ทุ่มนะคับ อากาศหลังจาก6โมงเย็นเป็นต้นไปเริ่มหนาวคับ อุณหภูมิที่ผมวัดได้เองช่วง4ทุ่มก็18องศาคับ แต่เอาจริงๆซัก๓ทุ่มกว่าคนก็เริ่มเก็บของนอนแล้วคับเพราะคนส่วนใหญ่เตรียมตื่นไปดูทะเลหมอกตอนเช้าคับ 5ทุ่มก็เงียบแล้วคับ งั้นก็ไปดูรูปกันเลยนะคับว่าบรรยากาศเป็นไงกันบ้าง แต่อันนี้รูปไม่ค่อยเยอะนะคับเนื่องจากเป็นช่วงค่ำแล้วถ่ายไม่เห็นอะไรเลยเนื่องจากไม่มีไฟ้ฟ้าคับ
ถึงจุดPEAKแล้วคับทุกคน อ่านจนเบื่อกันยังคับ 555+
ทะเลหมอกยามเช้าก่อนกลับ
เรามาครั้งนี้โชคร้ายหน่อยคับเนื่องจากช่วงเช้าฝนตกทะเลหมอกของเราก็รวมตัวกับเมฆเละเทะไปหมดเลยคับ ไม่ค่อยสวยๆ
โดยจุดชมทะเลหมอกช่วงเช้าจะมี2จุดนะคับ จุดแรก กม.30 จุดที่สอง กม.36 โดยเช้านี้ตอนแรกเราตั้งใจจะตื่นกันตั้งแต่6โมงคับแต่เนื่องด้วยจากสภาพอากาศที่ฝนตกเราเลยต้องรอกันจนถึง7โมงคับกว่าจะออกไปไหนกันได้
โดยเวลาที่ให้รถลงช่วงเช้าก็จะมีเป็นรอบเหมือนตอนขึ้นมาคับช่วงขาลงก็ตอน9นาฬิกาถึง10นาฬิกาคับ หลังจากเราตื่นก็รีบทำเวลากันเลย แปรงฟันล้างหน้า แต่ไม่มีการอาบน้ำแน่นอน
หนาวมากคับช่วงเช้า555+
โดยเราเดินทางไปจุดชมวิวทะเลหมอกที่ กม.36กันก่อนเลยคับ โดยการเดินทางต้องขับรถไปนะคับ ทางไม่ต่างกับตอนขึ้นมาคับ แย่และลาดชันมาก ไปชมรูปกันเลยละกันคับว่าสวยขนาดไหน
หลังจากที่เราได้ชมวิวและถ่ายรูปที่กม.36ไปแล้วเราก็กลับไปที่กม.30กันนะคับ งั้นไปดูกันเลยว่าที่กม.30เป็นไงบ้างอันไหนจะสวยกว่า
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินทางลงจากพะเนินทุ่งแล้วเดินทางไปพักผ่อนกันที่หัวหินต่อ
โดยขอจบการรีวิวพะเนินทุ่งหน้าหนาวปี2016ไว้เพียงเท่านี้นะคับ โดยรวมถือว่าโอเคเลยคับอากาศดี หนาวช่วงเย็นถึงเช้า
ถ้าไปวันธรรมดาคนไม่วุ่นวาย เหมาะสำหรับเป็นทางเลือกในวันหยุดเลยก็ได้คับ ไม่ไกลจากรุงเทพมาก
สุดท้าย หากผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยนะคับ หากใครอยากสอบถามอะไรคอมเม้นไว้ได้เลยหรืออยากดูรูปส่วนไหนเพิ่มขอไว้ได้เลยคับเดี๊ยวเอามาลงให้
หนาวนี้ที่"พะเนินทุ่ง" {2016,DEC}
โดยทริปนี้เราไปกัน3วัน2คืน มีผู้ร่วมทริปทั้งหมด6คนนะคับ แต่อีกคืนเราไปแวะพักผ่อนต่อกันที่หัวหินนะคับไม่ได้เอามารีวิวด้วย
หลังจากเราสอบเสร็จช่วงธันวาคมก็ปิดเทอมเลยตกลงกันว่าจะไปไหนดีเนื่องจากเป็นช่วงฤดูหนาวแล้ว สรุปจุดหมายของเราคือ"พะเนินทุ่ง แก่งกระจาน เพชรบุรี"โดยตกลงว่าจะไปกันวันที่ 14-16 ธ.ค. 2559
เริ่มเดินทาง
เราออกเดินทางจากบางแสนชลบุรีตั้งแต่เวลา 7 นาฬิกาของวันพุธที่ 14 โดยขับขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี ลงพระราม2 วิ่งยาวไปถึงเพชรบุรีเลยคับ โดยใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมด 4 ชั่วโมง เนืองจากช่วงเช้าบนทางด่วนรถติดมาก ซึ่งที่แรกที่เราจะไปแวะก็คือ โครงการชั่งหัวมัน เป็นโครงการของในหลวงรัชกาลที่9นะคับ เรามาถึงกันตอนประมาณ 11 นาฬิกา
โครงการชั่งหัวมัน
โดยโครงการนี้ก็จะเป็นโครงการที่ในหลวงรัชกาลที่9เคยมาทรงงานอยู่ด้วยนะคับ จะมีบ้านพักที่ท่านเคยทรงประทันแล้วก็มีรถที่ท่านทรงเคยใช้งานจอดอยู่ แต่ผมลืมถ่ายมาให้นะคับ เหตุผลที่เรามาที่นี่กันก่อนขึ้นพะเนินทุ่งเนื่องจากทางอุทยานแห่งชาติได้กำหนดเวลาขึ้นลงเป็นเวลาจึงทำให้เรายังขึ้นกันไม่ได้คับ
เตรียมตัวขึ้นพะเนินทุ่ง
เราก็ซื้อของเตรียมมากันตั้งแต่บางแสนแล้ว
- หลักๆก็จะของกินคับเนื่องจากข้างบนไม่ค่อยมีอะไรกินคับ แล้วยิ่งถ้าไม่ได้ไปวันหยุดยิ่งไม่มีเลยคับ ทำอาหารปิ้งย่างได้คับข้างบน เครื่องดื่มมึนเมาห้ามคับแต่แอบเอาขึ้นไปกันได้
- ส่วนเรื่องเต้นท์ทางอุทยานแห่งขาติมีให้เช่าคับ 500 บาท เต้นใหญ่เลยนอนได้4คน รวมเครื่องนอนแล้วมีถุงนอนมีหมอน
- ข้างบนไม่มีแสงสว่างให้ใช้หลังจาก4ทุ่มนะคับ เตรียมไฟฉายไปด้วย ที่ชาจโทรศัพท์กับกล้องไม่รู้ชาจที่ไหนผมเอาเพาเว่อแบงค์ไปเยอะคับ
- รถขึ้นพะเนินทุ่งอันนี้สำคัญเลยคับ รถเก๋งไม่ได้ รถตู้ไม่ได้ กระบะเตี้ยเสี่ยงดวงเอาคับ กระบะยกสูงขับ2 ขับขึ้นได้หมดคับ ผ่าน3ลำธาร ถ้าฝนตกรถมีสไลด์บ้างแต่ไม่มีติด ทางลาดชัดแนะนำจัดเกียร์1ยาวๆเลยคับส่งไปเลย ตอนลงก็1ยาวๆคับ ไม่งั้นเบรคไหม้ ส่วนใครที่ไม่ได้ขับรถไปมีรถเช่าขึ้น ลงคับราคา 2000 บาท
ขึ้นพะเนินทุ่ง
เวลาที่ทางอุทยานกำหนดให้รถขึ้นมีหลายเวลาคับตอนเช้าก็มีแต่เราได้รอบขึ้นตอนบ่ายโมงถึงบ่ายสามคับ โดยเราต้องผ่านทั้งหมด 3 เช็คพ้อย อันแรกที่ทำการอุทยานตรงนี้แวะซื้อบัตรคับ อันที่2 แคมป์บ้านกร่างคับ ตรงนี้แหละคับที่เค้ากำหนดเวลาขึ้นลง เรามาถึงตรงนี้กันประมาณบ่าย 2 ครึ่ง ก็ยื่นบัตรที่ซื้อมาให้เค้า จากที่ทำการมาแคมป์บ้านกร่ามาได้ทุกรถคับ ทางลาดยางปกติ แคมป์บ้านกร่างมีลานกางเต้นคับ อากาศดีอุณหภูมิประมาณ20นิดๆคับ หลังจากนั้นเราก็ขับรถขึ้นไปเลยคับ แล้วเราก็ไปถึงพะเนินทุ่ง4โมงพอดีคับ โดยทางเจ้าของกระทู้ขับรถขึ้นไปเองนะคับใช้ all new d max hilander 4*2 mt คับ โดยลำธารที่1และที่2จะเป็นจุดชมผีเสื้อนะคับ สามารถจอดรถลงไปดูได้คับ ทางค่อนข้างลาดชัดมากคับ
ระหว่างทางขึ้นถ้าไม่ใช่ช่วงลาดชัดก็ไม่ต้องรีบนะคับเดี๊ยวจะชนสัตว์ได้
อันนี้ก็จะเป็นบรรยากาศโดยรวมระหว่างทางขึ้นนะคับ
อันนี้ก็เป็นช่วงตอนที่รถขับผ่านลำธาร ใครคิดว่าไหวขับเข้ามาเลยคับจากแคมป์บ้านกร่าง
ผีเสื้อจากแคมป์บ้านกร่างคับ
ถึงยอดพะเนินทุ่งแล้วเย้
หลังจากออกจากแคมป์บ้านกร่างเราก็ขึ้นมาถึงบนพะเนินทุ่งแล้วคับ เวลาประมาณ4โมงคับ
เราก็จัดเตรียมข้าวของที่เอามาลงจากรถคับ คนไม่เยอะมาก ประมาณ50คน แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าวันหยุดลานกางเต้นท์แทบเกยกันต้องโทรมาจองก่อนนะคับ สำหรับใครที่กางเต้นท์ไม่เป็นไม่ต้องห่วงนะคับ มีเจ้าหน้าที่กางให้เราเลยคับ
เมื่อเราขึ้นมาถึงข้างบนก็จะต้องเจอป้ายนี้ก่อนเลยคับ
อันนี้ก็เป็นช่วงเย็นแล้วคับหลังจากเก็บของกางเต้นท์เสร็จเรียบร้อยก็นั่งพักผ่อนคุยกันรอไปดูพระอาทิตย์ตกดินคับ
ลานกางเต้นประมาณนี้คับ(ชวงเช้า)
ที่ทำการเจ้าหน้าที่ข้างบนคับ(ช่วงเช้า)
ไปดูพระอาทิตย์ตกดินกัน!!!
จุดที่ชมพระอาทิตย์ตกดินก็อยู่ใกล้กับลานกางเต้นท์เลยคับเดินมาได้เลย อากาศตอนเย็นเริ่มหนาวแล้วคับ ต้องใส่เสื้อกันหนาวกันแล้วคับ ไปชมรูปกันเลยแล้วกันนะคับวิวสวยดีไม่มีอะไรอธิบายมาก55555+
การกินอยู่บนพะเนินทุ่ง
ตามที่บอกไปตั้งแต่แรกคับ ไม่ค่อยมีของกินขายของขายต้องนำมาเอง โดยผมและเพื่อนก็ได้ทำหมูกะทะ ผัดมาม่า ลูกชิ้นปิ้ง แล้วก็อีกเยอะเลยคับ แนะนำให้เอาเตามาเองเลยคับ เตาแก๊สปิคนิคก็ดีคับสะดวกเลย ส่วนเรื่องการอาบน้ำก็มีห้องน้ำคับ ถือว่าอยู่ในระดับที่โอเคคับ ถ้าเทียบกับการที่ขึ้นมาอยู่ข้างบนนี้ ไฟตัดตอน4ทุ่มควรอาบตอนก่อน4ทุ่มนะคับ อากาศหลังจาก6โมงเย็นเป็นต้นไปเริ่มหนาวคับ อุณหภูมิที่ผมวัดได้เองช่วง4ทุ่มก็18องศาคับ แต่เอาจริงๆซัก๓ทุ่มกว่าคนก็เริ่มเก็บของนอนแล้วคับเพราะคนส่วนใหญ่เตรียมตื่นไปดูทะเลหมอกตอนเช้าคับ 5ทุ่มก็เงียบแล้วคับ งั้นก็ไปดูรูปกันเลยนะคับว่าบรรยากาศเป็นไงกันบ้าง แต่อันนี้รูปไม่ค่อยเยอะนะคับเนื่องจากเป็นช่วงค่ำแล้วถ่ายไม่เห็นอะไรเลยเนื่องจากไม่มีไฟ้ฟ้าคับ
ถึงจุดPEAKแล้วคับทุกคน อ่านจนเบื่อกันยังคับ 555+
ทะเลหมอกยามเช้าก่อนกลับ
เรามาครั้งนี้โชคร้ายหน่อยคับเนื่องจากช่วงเช้าฝนตกทะเลหมอกของเราก็รวมตัวกับเมฆเละเทะไปหมดเลยคับ ไม่ค่อยสวยๆ
โดยจุดชมทะเลหมอกช่วงเช้าจะมี2จุดนะคับ จุดแรก กม.30 จุดที่สอง กม.36 โดยเช้านี้ตอนแรกเราตั้งใจจะตื่นกันตั้งแต่6โมงคับแต่เนื่องด้วยจากสภาพอากาศที่ฝนตกเราเลยต้องรอกันจนถึง7โมงคับกว่าจะออกไปไหนกันได้
โดยเวลาที่ให้รถลงช่วงเช้าก็จะมีเป็นรอบเหมือนตอนขึ้นมาคับช่วงขาลงก็ตอน9นาฬิกาถึง10นาฬิกาคับ หลังจากเราตื่นก็รีบทำเวลากันเลย แปรงฟันล้างหน้า แต่ไม่มีการอาบน้ำแน่นอน หนาวมากคับช่วงเช้า555+
โดยเราเดินทางไปจุดชมวิวทะเลหมอกที่ กม.36กันก่อนเลยคับ โดยการเดินทางต้องขับรถไปนะคับ ทางไม่ต่างกับตอนขึ้นมาคับ แย่และลาดชันมาก ไปชมรูปกันเลยละกันคับว่าสวยขนาดไหน
หลังจากที่เราได้ชมวิวและถ่ายรูปที่กม.36ไปแล้วเราก็กลับไปที่กม.30กันนะคับ งั้นไปดูกันเลยว่าที่กม.30เป็นไงบ้างอันไหนจะสวยกว่า
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินทางลงจากพะเนินทุ่งแล้วเดินทางไปพักผ่อนกันที่หัวหินต่อ
โดยขอจบการรีวิวพะเนินทุ่งหน้าหนาวปี2016ไว้เพียงเท่านี้นะคับ โดยรวมถือว่าโอเคเลยคับอากาศดี หนาวช่วงเย็นถึงเช้า
ถ้าไปวันธรรมดาคนไม่วุ่นวาย เหมาะสำหรับเป็นทางเลือกในวันหยุดเลยก็ได้คับ ไม่ไกลจากรุงเทพมาก
สุดท้าย หากผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยนะคับ หากใครอยากสอบถามอะไรคอมเม้นไว้ได้เลยหรืออยากดูรูปส่วนไหนเพิ่มขอไว้ได้เลยคับเดี๊ยวเอามาลงให้