กระทู้นี้เราขออนุญาตตั้งขึ้นมา เพราะด้วยความที่เรารู้สึกผิดที่ไม่ได้นับเงินเหรียญให้ครบก่อนขึ้นรถเมล์ แต่เราก็พูดจาดีๆกับกระเป๋ารถเมล์แล้วและพยายามหาเหรียญสตางค์1บาทเพื่อรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือด้านล่างนี้คะ....
วันนี้ตอนเช้าเรานั่งรถเมล์มาทำงานแถวเพลินจิตค่ะ ต้องลงรถเมล์ตรงกิ่งเพชรแล้วหาอีกสายต่อไป จึงเลือกขึ้นสาย113ที่เคยนั่งประจำ เพราะรถค่อนข้างมาบ่อย แต่ด้วยความที่เราก็ผิดเองที่ไม่ได้นับว่าเหรียญครบ9บาทมั้ย รู้แค่ว่าพอมีเศษน่าจะขึ้นรถเมล์ได้ กับแบงค์500บาท1ใบ พอขึ้นไปนั่ง เราก็เลยหยิบเหรียญขึ้นมากำลังจะจ่าย แต่สรุปว่าดันมีแค่8บาท อาจเป็นเพราะกลางเดือนแล้ว เราเลยใช้เหรียญเพลิน จนไม่ได้เช็คว่ามีเท่าไหร่ ซึ่งนอกจากเหรียญบาท8บาท ก็ยังพอมีเหรียญสตางค์อยู่หลายเหรียญ จึงนับมาให้ครบ1บาท แล้วพูดกับกระเป๋าดีๆว่า
"คุณลุงคะ พอดีหนูมีเหรียญบาทแค่8บาท กับแบงค์500 หนูจ่ายเหรียญสตางค์1บาทได้มั้ยคะ"
แต่สิ่งที่ลุงกลับมาคือการตะคอกกลับแบบโมโหมาก "แล้วทำไมไม่รู้จักเตรียมให้พร้อม"
พร้อมทำหน้าไม่พอใจ หงุดหงิดและเดินไปเก็บค่าโดยสารคนอื่นต่อ หนูเลยได้แต่นั่งไม่เข้าใจ ที่เราก็พูดจาดีๆแล้ว เพราะเราก็รู้สึกผิดจริงๆ และขอแค่จ่ายเหรียญสตางค์1บาท ในฐานะลูกค้าหรือผู้โดยสาร เราผิดมากหรอคะ คือตั้งแต่เราเกิดมาเราไม่เคยมองข้ามเหรียญสตางค์เลย เพราะเป็นคนหยอดกระปุกมาตั้งแต่เด็กๆ สุดท้ายก็เอาไปแลกได้ แต่การบริการแบบนี้ การพูดจาแบบนี้ เมื่อไหร่ส่ววนกลางหรืออะไรก็ตาม จะมีการตั้งกฎ มารยาทหรืออะไรก็ตามกับการบริการของรถเมล์สักที คือเอาจริงๆหากใครใช้บริการรถสาธารณะเป็นประจำ จะรับรู้ถึงปัญหาต่างๆมากมายที่เกิดขึ้น ทั้งการขับรถเร็ว มารยาทในการพูดตะโกนคุยกันระหว่างคัน จอดซื้อของข้างทาง แข่งกับอีกคันเพื่อรีบเข้าอู่ ขับรถกระชาก เบรคกระทันหัน เพราะไปมัวแต่ไล่จี้ตูดข้างหน้า กระทั่งบางคันที่เป็นรถเมล์ฟรี ก็เห็นจะแกล้งชอบขับเลยป้ายให้ผู้โดยสารวิ่งตามตลอดเหมือนสนุก อย่าง 203 หรือสาย18แถวบ้านก็ทำประจำ ยอมใจเขาเลยค่ะ เอาจริงๆพิมพ์มาทั้งหมดนี้ ก็อาจจะเป็นเพราะทั้งมาระบายเอง รู้สึกผิดที่ไม่นับเงินได้ดีก่อนจนกระเป๋ารถมาโมโหใส่ แต่ส่วนตัวนั้นก็อยากให้เรื่องยิบย่อยเหล่านี้ ที่เกิดขึ้นกับหลายๆคน ได้รับการแก้ไขจากหน่วยงานหรือผู้ดูแลสักที
สุดท้ายนี้ขอบพระคุณทุกคนที่สละเวลามาอ่าน และขอพูดจากใจอีกครั้ง ว่าเหรียญสตางค์ก็คือเงินและมีค่าเช่นกัน อย่าลืมนะคะว่าหน้าเหรียญนั่นก็มีพ่อหลวงของเราอยู่บนนั้นด้วย ขอบคุณค่ะ
ว่าด้วยมารยาทของรถบริการสาธารณะ
วันนี้ตอนเช้าเรานั่งรถเมล์มาทำงานแถวเพลินจิตค่ะ ต้องลงรถเมล์ตรงกิ่งเพชรแล้วหาอีกสายต่อไป จึงเลือกขึ้นสาย113ที่เคยนั่งประจำ เพราะรถค่อนข้างมาบ่อย แต่ด้วยความที่เราก็ผิดเองที่ไม่ได้นับว่าเหรียญครบ9บาทมั้ย รู้แค่ว่าพอมีเศษน่าจะขึ้นรถเมล์ได้ กับแบงค์500บาท1ใบ พอขึ้นไปนั่ง เราก็เลยหยิบเหรียญขึ้นมากำลังจะจ่าย แต่สรุปว่าดันมีแค่8บาท อาจเป็นเพราะกลางเดือนแล้ว เราเลยใช้เหรียญเพลิน จนไม่ได้เช็คว่ามีเท่าไหร่ ซึ่งนอกจากเหรียญบาท8บาท ก็ยังพอมีเหรียญสตางค์อยู่หลายเหรียญ จึงนับมาให้ครบ1บาท แล้วพูดกับกระเป๋าดีๆว่า
"คุณลุงคะ พอดีหนูมีเหรียญบาทแค่8บาท กับแบงค์500 หนูจ่ายเหรียญสตางค์1บาทได้มั้ยคะ"
แต่สิ่งที่ลุงกลับมาคือการตะคอกกลับแบบโมโหมาก "แล้วทำไมไม่รู้จักเตรียมให้พร้อม"
พร้อมทำหน้าไม่พอใจ หงุดหงิดและเดินไปเก็บค่าโดยสารคนอื่นต่อ หนูเลยได้แต่นั่งไม่เข้าใจ ที่เราก็พูดจาดีๆแล้ว เพราะเราก็รู้สึกผิดจริงๆ และขอแค่จ่ายเหรียญสตางค์1บาท ในฐานะลูกค้าหรือผู้โดยสาร เราผิดมากหรอคะ คือตั้งแต่เราเกิดมาเราไม่เคยมองข้ามเหรียญสตางค์เลย เพราะเป็นคนหยอดกระปุกมาตั้งแต่เด็กๆ สุดท้ายก็เอาไปแลกได้ แต่การบริการแบบนี้ การพูดจาแบบนี้ เมื่อไหร่ส่ววนกลางหรืออะไรก็ตาม จะมีการตั้งกฎ มารยาทหรืออะไรก็ตามกับการบริการของรถเมล์สักที คือเอาจริงๆหากใครใช้บริการรถสาธารณะเป็นประจำ จะรับรู้ถึงปัญหาต่างๆมากมายที่เกิดขึ้น ทั้งการขับรถเร็ว มารยาทในการพูดตะโกนคุยกันระหว่างคัน จอดซื้อของข้างทาง แข่งกับอีกคันเพื่อรีบเข้าอู่ ขับรถกระชาก เบรคกระทันหัน เพราะไปมัวแต่ไล่จี้ตูดข้างหน้า กระทั่งบางคันที่เป็นรถเมล์ฟรี ก็เห็นจะแกล้งชอบขับเลยป้ายให้ผู้โดยสารวิ่งตามตลอดเหมือนสนุก อย่าง 203 หรือสาย18แถวบ้านก็ทำประจำ ยอมใจเขาเลยค่ะ เอาจริงๆพิมพ์มาทั้งหมดนี้ ก็อาจจะเป็นเพราะทั้งมาระบายเอง รู้สึกผิดที่ไม่นับเงินได้ดีก่อนจนกระเป๋ารถมาโมโหใส่ แต่ส่วนตัวนั้นก็อยากให้เรื่องยิบย่อยเหล่านี้ ที่เกิดขึ้นกับหลายๆคน ได้รับการแก้ไขจากหน่วยงานหรือผู้ดูแลสักที
สุดท้ายนี้ขอบพระคุณทุกคนที่สละเวลามาอ่าน และขอพูดจากใจอีกครั้ง ว่าเหรียญสตางค์ก็คือเงินและมีค่าเช่นกัน อย่าลืมนะคะว่าหน้าเหรียญนั่นก็มีพ่อหลวงของเราอยู่บนนั้นด้วย ขอบคุณค่ะ