ทริปนี้ตัวผมได้ไปแบบ งงๆ เหงาๆ คนเดียว ไม่ได้เตรียมพร้อมอะไรทั้งนั้น เนื่องจากบังเอิญเจอตั๋วถูกของ สายการบิน air asia แล้วชวนเพื่อนๆ ไม่มีใครว่างสักคนแล้วไม่รู้ตัวผมนั้นนึกห้าวอะไรเลยกดตั๋วมาซะ ไปคนเดียวแม่งง ลองใช้ชีวิตเดินทางท่องเที่ยวในต่างแดนคนเดียวมันก็สนุกไปอีกแบบ
อันนี้เป็นการลองรีวิวครั้งแรกนะครับ ดีไม่ดียังไงก็ติชมกันได้ครับ

ผมเดินทางวันที่ 5 ธ.ค.59 กลับ 11 ธ.ค. 59
ในวันที่5 ธค. เครื่องผมออกจากสนามบินดอนเมือง เวลา 23.45น. สายการบิน thai air asiaX เที่ยวบิน XJ600

เครื่องออกมาแล้วก็ส่องเมืองไทยยามวิกาลสะหน่อย


time skip มาถึง สนามบินนานาชาติ นาริตะ แล้ว ในช่วงเวลาประมาณ 7.00น.ตามเวลาญี่ปุ่น

ตอนนี้ก็กำลังเดินเพื่อไปผ่าน ตม. ซึ่งผมนั้นผ่านมาโดยง่ายไม่ค่อยโดนถามเท่าไร 555

เอาละในเมื่อผ่านมาได้แล้ว ต่อไปจะเป็นการหาวิธีเข้าสู่โตเกียว ตัวผมนั้นเลือกใช้ การนั่งรถไฟ keisei skyliner โดยซื้อโปรของนักท่องเที่ยวโดยไปติดต่อที่

ส่วนตัวผมเลือกโปร 5400เยนroundtrip คือจะได้ตั๋วkeisei skylinerทั้งขาเข้าโตเกียวและขากลับนาริตะ พร้อมแถม 3days pass ของ รถไฟสาย tokyometro&toei มาด้วย

ได้ตั๋วแล้วก็ไปรอรถไฟกันเลย

มีคนมารอค่อนข้างเยอะ ส่วนใหญ่เท่าที่เห็นจะเป็นคนจีนซะส่วนใหญ่

รถไฟมาแล้วก็ขึ้นกันได้เลย
บนรถไฟมีที่ปลักให้เสียบชาตแบตด้วย
มาถึงกันแล้วลงสุดสายที่ สถานี keisei-ueno ซึ่งสามารถเดินทะลุไปยังรถไฟใต้ดินได้เพื่อจะไปยังที่พัก เดินทางโดยใช้บัตร 3days pass  ไปรถไฟสายสีเทา (hibiya line) ลงสถานีkodemmacho เดินแปปเดียวก็เจอที่พักของเราแล้ว โดยเราพักที่ Hotel nihonbashi villa

ก่อนอื่นก็เชคอินก่อนเลยครับ ซึ่งผมจองมาจาก agoda พนักงานต้อนรับของที่นี่ค่อนข้างคุยดีครับ อีกอย่างสามารถพูดอังกฤษได้เลยคุยกันได้ง่ายหน่อย

ได้กูญแจมาแล้วก็ขึ้นห้องเลยครับ ตามจริงโรงแรมให้เชคอินหลังบ่าย3โมงแต่ผมมาถึงประมาณ11โมงกว่าๆ แต่ในใบที่จองโรงแรมผมขอเชคอินเร็วกว่ากำหนดเลยสามารถขึ้นห้องได้เลย
สภาพห้องก็โอเคครับ ผมนอนที่นี้4คืน รวมๆราคาก็ประมาณ2หมื่นกว่าเยนครับ ถือว่าราคาก็ไม่แรงมากสำหรับห้องเดี่ยว

พอเก็บข้าวเก็บของเสร็จก็ถ่ายรูปสะหน่อย


ถึงเวลาออกไปเดินเล่นข้างนอกแล้วสินะ
เริ่มต้นด้วยการกลับไปที่ ueno โดยขึ้นรถไฟที่สถานี kodemmacho คราวนี้แหละ ออกจากสถานีไม่รู้ออก gate ไหน ลองมั่วๆไป ใช้google maps  เดินไปเดินมาก็มาโผล่ แถว ueno park

เดินไปเดินมาก็รู้สึกผ่อนคลายดี มองไปทางไหนก็มีแต่ต้นไม้
ใบไม้สีแดงค่อนข้างสวยเลยทีเดียว
พอเดินขึ้นไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นวัด คิโยมิสึแคนนอน

เดินตรงไปต่อด้านหลังก็จะเจอศาลเจ้าซึ่งมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายรูปพอสมควร
หลังจากนี้ก็ไปเดินตลาด ameyoko ชอปปิ้งในวันแรกนิดๆหน่อยๆ

เมล่อนเสียบไม้ละ200เยน ถือว่าหวานและอร่อยมาก คนยืนกินกันเยอะมากเลยครับ

ต่อด้วยการเดินไปตึกม่วงที่เป็นสวรรค์ของการชอปปิ้งของคนไทย เจอคนไทยเยอะมากที่นี่

หลังจากชอปปิ้งเสร็จ ก็กลับที่พัก ในวันแรก ขี้เกียจเดินหาร้านแล้วอีกอย่างค่อนข้างจะดึกแล้ว ในวันแรกเลยขอฝากท้องไว้กับเซเว่น
ซึ่งอาหารของเซเว่นนี่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ซื้อกลับมานั่งกินที่ห้องชิวๆ


หลังจากนี้ก็เข้านอนเพื่อลุยวันพรุ่งนี้ต่อ