27 Nov - 4 Dec 2016 Autumn in JAPAN & HONGKONG
🍁ใบไม้ร่วงที่โตเกียว และใบไม้เกือบร่วงที่ฮ่องกง 🍁
Day 1
รีวิวครั้งนี้เริ่มจากเชียงใหม่เหมือนเดิม แต่ที่แปลกไปคือบินลงสนามบินสุวรรณภูมิก่อนค่ะ (เหตุเกิดจากไปเจอราคาตั๋วไป-กลับกรุงเทพฯ ฮ่องกงของ Emirates Airlines $135 กริ๊ดเบาๆ ไม่ถึง 5 พันต้องรีบคว้าและราคาตั๋ว low cost จากเชียงใหม่ก็ราคาพอๆกัน เพิ่มบินในประเทศอีกนิดเพื่อเอมิเรตส์สักครั้งก็ยอมมมม) บินรอบ 06:40 ถึง 08:00น. มีการแอบเป็นซอมบี้ขึ้นเครื่อง
เมื่อถึงสนามบินสุวรรณภูมิเช้าเกินไป 9:00น. เลยมาถามเคาน์เตอร์เช็คอินว่า flight ไปฮ่องกงเปิดกี่โมง พนง.บอกว่าเช็คอินได้เลยค่ะ เลยมานั่งสดใสรอแถวๆเกท 4 ชม.(เด็กบ้านนอกก็งี้ค่ะ บัตรเข้าเลานจ์อะไรไม่มีสักอย่าง เจอเบอร์เกอร์คิงไป 1 มื้อ แทบกริ๊ด 😂 55)
ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ซอมบี้ขั้น 10 ได้ขึ้นเครื่องสักที
สำหรับผู้โดยสาร Eco แถวโซน C,F จะถูกเรียกขึ้นเครื่องก่อนนะคะ
/// ขอเล่าเรื่องแบบไม่มีรูปนะคะ ///
**เนื่องจากสั่นและรีบ 😂🙏🏻**
หลังจากที่รีวิวฮ่องกงครั้งแรกไปนั้น ก็มีโอกาสได้มาฮ่องกงอีก 6 รอบ(ยังไม่เคยถูกเรียกเข้าห้องเย็น) ที่ท่านอื่นเขียนในพันทิปถึงควรเข้มข้นขึ้นของตม.ฮ่องกงนั้นเป็นเรื่องจริงค่ะ และรอบนี้ได้เห็นกับตาว่ามีเจ้าหน้าที่มารอถามถึงงวงช้างจริงด้วย กลุ่มสาวไทย3คนที่เดินออกเครื่องมาก่อน ถูกขอดูพาสปอร์ตและแผนเดินทางตรงนั้นเลย จขกท.เลยแข็งทื้อ สั่นตามไปด้วยทั้งๆที่ไม่ได้โดนเรียกและตัวเองก็มีเอกสารทุกอย่างทุกรอบที่มา555 พอมาถึงตรงเคาน์เตอร์ตม.ก็ถูกถามนิดหน่อย ว่า 'เคยมาแล้วใช่ไหม?' เลยโชว์ตั๋วบินไปโตเกียวให้ดู
สำหรับคำแนะนำเรื่องซิมเน็ต และ wifi ในฮ่องกง ถ้าท่านไหนต้องการใช้เน็ตบ่อยๆ ซื้อซิมจากไทยหรือซื้อตรงชั้น Arrival Hall ก็ได้ค่ะ ส่วน Wifi ฟรีในฮ่องกง สนามบินและ MTR บางสถานนีมีให้ลงทะเบียนเล่นฟรี ประมาณ 30 นาที หรือจะเป็น wifi ที่ชื่อ 'HKBN Wi-Fi-' or 'Y5ZONE Wi-Fi' จะอยู่ตามร้านแมคโดนัลหรือจะเป็น Govwifi ของรัฐบาลฮ่องกงก็ลงทะเบียนเล่นได้ ไม่ก็ยืนนิ่งๆสิง 7-11 wifi ตามหน้าร้านก็ได้นะคะ (เน้นว่าต้องยืนนิ่งมากๆ55) ส่วนบัตร Octopus card แนะนำยิ่งให้ซื้อตั้งแต่สนามบินเลยค่ะ จะได้ไม่ต้องพกเหรียญ
ในที่สุดซอมบี้ก็มาถึงที่โรงแรม สำหรับครั้งนี้พักที่โรงแรม 36 Hotel ย่าน prince edward ฝั่งเกาลูน ราคาอยู่ที่คืนละ 1,572 บาท ถึงว่าผ่านค่ะ บริการดี ห้องเล็กแต่ยังดูสะอาด ไม่มีเก็บค่ามัดจำ HK$500 แต่ข้อเสียอยู่ที่ไม่มีรถบัสจากสนามบินวิ่งผ่านโรงแรมต้องขึ้นรถบัสสาย S64(หรือS1ก็ได้) มาลงสถานี MTR Tung chung และต่อมาลง MTR Prince edward (ทางออกEมีลิฟท์ค่ะ ไม่ต้องลากกระเป๋า) รอบๆโรงแรมก็มีของกินดึกๆให้ทานเล่นอยู่
>>
http://www.36hotelhk.com
ครั้งนี้ไม่ลองหาอาหารแถวนั้นชิมดู เพราะเดือนก่อนที่มาฮ่องกงดันไปติดใจ สุกี้ทะเลขาปูของร้าน watami ที่สาขา causeway bay เลยจะมากินอีกครั้งที่สาขา mongkok (แอบบอกจริงๆคนฮ่องกงไม่ได้ออกเสียงเขตนี้ว่ามงก๊กแต่อย่างใด จริงๆออกเสียงว่า หว่องกอก เท่าทีทราบคือเสียงเพี้ยน เพราะออกตามเสียงจีนกลางค่ะ พอพูดถึงจีนกลางกับคนฮ่องกงทีไรก็มักได้คำตอบมาแค่นี้ 555 ก็เลยเอาตามที่เขาสบายใจออกเสียงแบบนี้ตามก็ได้) แต่ที่น่าเศร้ากว่านั้นเรื่องรสชาติเหมือนสาขาที่คอสเวย์แต่ความสดของเนื้อปูสู้สาขานู้นไม่ได้ค่ะ ราคารวมของอาหารสองอย่างอยู่ที่ HK$178 ร้านอยู่ชั้น 2 ตึก Grand Plaza , Mongkok ถ้านั่ง MTR Mongkok ตึกนี้อยู่ติดทางออก E1 เลยค่ะ
มาย้อมใจด้วยช็อกโกแลตเย็น ของ Pacific coffee กาแฟแบรนด์ดังของฮ่องกง เรื่องรสชาติกาแฟจะเข้มกว่าของสตาร์บัคนิดหนึ่งค่ะ และมาซื้อแก้ว Christmas ให้เพื่อน ค่าตอบแทนคือการซื้อแก้วแล้วทางร้านจะให้เครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว ต่อ 1 ชิ้น (เพื่อนฝาก 5 แก้ว เลยต้องค่อยๆวนซื้อไปทีละนิดค่ะ 55) ถึงขั้นตาค้างไม่หลับนอน
Day 2
จริงๆตั้งใจจะไปเที่ยวโตเกียวคนเดียว แต่พอดีแม่ของหนุ่มฮ่องกงเห็น จขกท.โพสในเฟสจะไปโตเกียว แม่นางรีบแชทมาถามเลยค่ะ เลยกลายเป็นทริปเอาใจแม่หนุ่มฮ่องกงซะงั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เล่าความเคลื่อนไหวสักนิด เรื่องหนุ่มน้อยฮ่องกงคนนั้นไปต่อไม่ไหว ทะเลาะกันบ่อยมากเรื่องจะให้ย้ายไปอยู่ฮ่องกงด้วย เลยยุติการติดต่อกันดีกว่า แต่แม่กับน้องสาวหนุ่มฮ่องกงตีมึนใส่ทำเป็นไม่ใส่ใจเรื่องที่ทะเลาะกัน แม่แกบอกเสมอๆก็ยังต้องติดต่อคนอื่นๆในครอบครัวตลอดนะ ห้ามหาย เลยเป็นเหตุให้ยังต้องไปๆมาๆฮ่องกงตลอด แม่แกก็กลายเป็นแม่คนที่สองของ จขกท. ไปแบบเนียนๆค่ะ 555 แถมไปไหนมาไหนแม่จ่ายให้ตลอดก็หักจากค่าขนมน้องเขาแหละค่ะ 555 ป้าชอบเรื่องแกล้งคืนขอให้บอก นัดเจอกัน 08:00น. ที่โรงแรมก่อน ขึ้นเครื่อง 11:00น. แต่ก็ไปจวนเจียนอยู่ค่ะ (เพราะมัวดูของกันเพลินเลย) แถมมื้อนี้ยังได้กินเบอร์เกอร์คิงอีกรอบ 😅
สละให้แม่คนที่สองนั่งริมหน้าต่าง
ไม่ซีค่ะ กะจะหลับยาวๆบนเครื่องอยู่แล้ว <<ผลคือปวดเมื่อยร่างมากค่ะ>> และคนจีนแผ่นดินใหญ่ก็ใช้บริการเยอะพอสมควร (ก็อย่างที่รู้ๆกันนะคะ55)
/// ความผิดพลาดในการขึ้นรถไฟ ///
เนื่องจากเตรียมตัวมาไม่ดีเอง คิดว่าไม่ทางดูขบวนผิดหรอก เราก็เล่นมือถือเพลิน ตอนแม่แกเดินขึ้นรถไฟก็ไม่มองอะไรบอกแกไปว่าใช่แล้ว พอนั่งและได้ยินเสียงประกาศเท่านั้นแหละคะ ร้องจ๊ากเลย ขบวนนี้ไป Ueno แต่ จขกท.ต้องไปลง Oshiage เลยต้องซื้อตั๋วใหม่ในรถไฟและไปแจ้งรีเงินคืนที่สถานีอุเอะโนะ และนั่งต่อมาลง Asakusa ต่อไป Oshiage อีกที 😂
Richmond Hotel Premier Tokyo Oshiage 3.5 ดาว
ด้วยความที่แม่แกไม่ได้วางโปรแกรมไปเผชิญความวุ่นวายในโตเกียวสักเท่าไร เลยตัดสินใจจองโรงแรมนี้ค่ะ ทุกอย่างดีมากเกินคำว่าระดับ 3.5 ดาว ราคาต่อคืนอยู่ที่ 19,500¥
>>
http://tokyo-oshiage.richmondhotel.jp
วิวรอบๆเมืองจากหน้าต่างโรงแรมค่ะ
เห็นรางรถไฟด้วย (เห็นแล้วนึกถึงฉากในอนิเมะ 君の名は เอ๊ะ!! จะเจอพระเอกในอนิเมะบ้างไหมหน๋อ!!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สรุปไม่เจอค่ะะะะะ 555 หนุ่มญี่ปุ่นค่อนข้างมีอิมเมจวางตัวดี ไม่ค่อยทอดสะพานแรงจีบสาวก่อน อดเลย ฮ่าๆๆๆ
และปิดท้ายด้วย 'งานของหวาน' ก่อนนอนที่ไปซื้อมาจาก Family mart ข้างๆโรงแรม ~ฟินมากค่ะ สำหรับเค้กนุ่มนิ่มกล่องนี้~
** เดี๋ยวมาลงเพิ่มนะคะ **
ขอบคุณทุกท่านสำหรับการติดตาม 🙏🏻😊
[CR] Autumn in JAPAN & HONGKONG 🍁
🍁ใบไม้ร่วงที่โตเกียว และใบไม้เกือบร่วงที่ฮ่องกง 🍁
หลังหายจากการรีวิวท่องเที่ยวฮ่องกงนานเป็นปี ครั้งนี้กลับมารีวิวไม่แปลกแนวแล้วค่ะ 555 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Day 1
รีวิวครั้งนี้เริ่มจากเชียงใหม่เหมือนเดิม แต่ที่แปลกไปคือบินลงสนามบินสุวรรณภูมิก่อนค่ะ (เหตุเกิดจากไปเจอราคาตั๋วไป-กลับกรุงเทพฯ ฮ่องกงของ Emirates Airlines $135 กริ๊ดเบาๆ ไม่ถึง 5 พันต้องรีบคว้าและราคาตั๋ว low cost จากเชียงใหม่ก็ราคาพอๆกัน เพิ่มบินในประเทศอีกนิดเพื่อเอมิเรตส์สักครั้งก็ยอมมมม) บินรอบ 06:40 ถึง 08:00น. มีการแอบเป็นซอมบี้ขึ้นเครื่อง
เมื่อถึงสนามบินสุวรรณภูมิเช้าเกินไป 9:00น. เลยมาถามเคาน์เตอร์เช็คอินว่า flight ไปฮ่องกงเปิดกี่โมง พนง.บอกว่าเช็คอินได้เลยค่ะ เลยมานั่งสดใสรอแถวๆเกท 4 ชม.(เด็กบ้านนอกก็งี้ค่ะ บัตรเข้าเลานจ์อะไรไม่มีสักอย่าง เจอเบอร์เกอร์คิงไป 1 มื้อ แทบกริ๊ด 😂 55)
ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ซอมบี้ขั้น 10 ได้ขึ้นเครื่องสักที
สำหรับผู้โดยสาร Eco แถวโซน C,F จะถูกเรียกขึ้นเครื่องก่อนนะคะ
ด้วยความที่คำนวนมาแล้วว่าถ้ารีเควสซีฟู๊ดไป(หรืออาหารพิเศษอื่นๆ) จะได้ก่อน ต้องการ' กินไว' 'เพื่อนอน' 555 แต่พอมาเห็นเค้กบูลเบอร์รี่ในอาหารปกติของคุณป้าชาวฮ่องกงข้างๆแทบอยากขอแลกค่ะ 555 // ไม่เป็นไรพลาดไปแล้ว
**เนื่องจากสั่นและรีบ 😂🙏🏻**
หลังจากที่รีวิวฮ่องกงครั้งแรกไปนั้น ก็มีโอกาสได้มาฮ่องกงอีก 6 รอบ(ยังไม่เคยถูกเรียกเข้าห้องเย็น) ที่ท่านอื่นเขียนในพันทิปถึงควรเข้มข้นขึ้นของตม.ฮ่องกงนั้นเป็นเรื่องจริงค่ะ และรอบนี้ได้เห็นกับตาว่ามีเจ้าหน้าที่มารอถามถึงงวงช้างจริงด้วย กลุ่มสาวไทย3คนที่เดินออกเครื่องมาก่อน ถูกขอดูพาสปอร์ตและแผนเดินทางตรงนั้นเลย จขกท.เลยแข็งทื้อ สั่นตามไปด้วยทั้งๆที่ไม่ได้โดนเรียกและตัวเองก็มีเอกสารทุกอย่างทุกรอบที่มา555 พอมาถึงตรงเคาน์เตอร์ตม.ก็ถูกถามนิดหน่อย ว่า 'เคยมาแล้วใช่ไหม?' เลยโชว์ตั๋วบินไปโตเกียวให้ดู
สำหรับคำแนะนำเรื่องซิมเน็ต และ wifi ในฮ่องกง ถ้าท่านไหนต้องการใช้เน็ตบ่อยๆ ซื้อซิมจากไทยหรือซื้อตรงชั้น Arrival Hall ก็ได้ค่ะ ส่วน Wifi ฟรีในฮ่องกง สนามบินและ MTR บางสถานนีมีให้ลงทะเบียนเล่นฟรี ประมาณ 30 นาที หรือจะเป็น wifi ที่ชื่อ 'HKBN Wi-Fi-' or 'Y5ZONE Wi-Fi' จะอยู่ตามร้านแมคโดนัลหรือจะเป็น Govwifi ของรัฐบาลฮ่องกงก็ลงทะเบียนเล่นได้ ไม่ก็ยืนนิ่งๆสิง 7-11 wifi ตามหน้าร้านก็ได้นะคะ (เน้นว่าต้องยืนนิ่งมากๆ55) ส่วนบัตร Octopus card แนะนำยิ่งให้ซื้อตั้งแต่สนามบินเลยค่ะ จะได้ไม่ต้องพกเหรียญ
ในที่สุดซอมบี้ก็มาถึงที่โรงแรม สำหรับครั้งนี้พักที่โรงแรม 36 Hotel ย่าน prince edward ฝั่งเกาลูน ราคาอยู่ที่คืนละ 1,572 บาท ถึงว่าผ่านค่ะ บริการดี ห้องเล็กแต่ยังดูสะอาด ไม่มีเก็บค่ามัดจำ HK$500 แต่ข้อเสียอยู่ที่ไม่มีรถบัสจากสนามบินวิ่งผ่านโรงแรมต้องขึ้นรถบัสสาย S64(หรือS1ก็ได้) มาลงสถานี MTR Tung chung และต่อมาลง MTR Prince edward (ทางออกEมีลิฟท์ค่ะ ไม่ต้องลากกระเป๋า) รอบๆโรงแรมก็มีของกินดึกๆให้ทานเล่นอยู่
>> http://www.36hotelhk.com
ครั้งนี้ไม่ลองหาอาหารแถวนั้นชิมดู เพราะเดือนก่อนที่มาฮ่องกงดันไปติดใจ สุกี้ทะเลขาปูของร้าน watami ที่สาขา causeway bay เลยจะมากินอีกครั้งที่สาขา mongkok (แอบบอกจริงๆคนฮ่องกงไม่ได้ออกเสียงเขตนี้ว่ามงก๊กแต่อย่างใด จริงๆออกเสียงว่า หว่องกอก เท่าทีทราบคือเสียงเพี้ยน เพราะออกตามเสียงจีนกลางค่ะ พอพูดถึงจีนกลางกับคนฮ่องกงทีไรก็มักได้คำตอบมาแค่นี้ 555 ก็เลยเอาตามที่เขาสบายใจออกเสียงแบบนี้ตามก็ได้) แต่ที่น่าเศร้ากว่านั้นเรื่องรสชาติเหมือนสาขาที่คอสเวย์แต่ความสดของเนื้อปูสู้สาขานู้นไม่ได้ค่ะ ราคารวมของอาหารสองอย่างอยู่ที่ HK$178 ร้านอยู่ชั้น 2 ตึก Grand Plaza , Mongkok ถ้านั่ง MTR Mongkok ตึกนี้อยู่ติดทางออก E1 เลยค่ะ
มาย้อมใจด้วยช็อกโกแลตเย็น ของ Pacific coffee กาแฟแบรนด์ดังของฮ่องกง เรื่องรสชาติกาแฟจะเข้มกว่าของสตาร์บัคนิดหนึ่งค่ะ และมาซื้อแก้ว Christmas ให้เพื่อน ค่าตอบแทนคือการซื้อแก้วแล้วทางร้านจะให้เครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว ต่อ 1 ชิ้น (เพื่อนฝาก 5 แก้ว เลยต้องค่อยๆวนซื้อไปทีละนิดค่ะ 55) ถึงขั้นตาค้างไม่หลับนอน
Day 2
จริงๆตั้งใจจะไปเที่ยวโตเกียวคนเดียว แต่พอดีแม่ของหนุ่มฮ่องกงเห็น จขกท.โพสในเฟสจะไปโตเกียว แม่นางรีบแชทมาถามเลยค่ะ เลยกลายเป็นทริปเอาใจแม่หนุ่มฮ่องกงซะงั้น [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สละให้แม่คนที่สองนั่งริมหน้าต่าง
ไม่ซีค่ะ กะจะหลับยาวๆบนเครื่องอยู่แล้ว <<ผลคือปวดเมื่อยร่างมากค่ะ>> และคนจีนแผ่นดินใหญ่ก็ใช้บริการเยอะพอสมควร (ก็อย่างที่รู้ๆกันนะคะ55)
เนื่องจากเตรียมตัวมาไม่ดีเอง คิดว่าไม่ทางดูขบวนผิดหรอก เราก็เล่นมือถือเพลิน ตอนแม่แกเดินขึ้นรถไฟก็ไม่มองอะไรบอกแกไปว่าใช่แล้ว พอนั่งและได้ยินเสียงประกาศเท่านั้นแหละคะ ร้องจ๊ากเลย ขบวนนี้ไป Ueno แต่ จขกท.ต้องไปลง Oshiage เลยต้องซื้อตั๋วใหม่ในรถไฟและไปแจ้งรีเงินคืนที่สถานีอุเอะโนะ และนั่งต่อมาลง Asakusa ต่อไป Oshiage อีกที 😂
Richmond Hotel Premier Tokyo Oshiage 3.5 ดาว
ด้วยความที่แม่แกไม่ได้วางโปรแกรมไปเผชิญความวุ่นวายในโตเกียวสักเท่าไร เลยตัดสินใจจองโรงแรมนี้ค่ะ ทุกอย่างดีมากเกินคำว่าระดับ 3.5 ดาว ราคาต่อคืนอยู่ที่ 19,500¥
>> http://tokyo-oshiage.richmondhotel.jp
วิวรอบๆเมืองจากหน้าต่างโรงแรมค่ะ
เห็นรางรถไฟด้วย (เห็นแล้วนึกถึงฉากในอนิเมะ 君の名は เอ๊ะ!! จะเจอพระเอกในอนิเมะบ้างไหมหน๋อ!!! [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากนั้นก็ไปหามื้อเย็นทานกันที่ ชั้น 6 ในตึกโตเกียวสกายทรี ที่ร้าน ひつまぶし 「Hitsumabushi」ปลาไหลอร่อยได้ใจค่ะ กลิ่นหอมแรงมาก
>> http://hitsumabushi.co.jp/soramachi/
งานเดินย่อยอาหารก็มา
และปิดท้ายด้วย 'งานของหวาน' ก่อนนอนที่ไปซื้อมาจาก Family mart ข้างๆโรงแรม ~ฟินมากค่ะ สำหรับเค้กนุ่มนิ่มกล่องนี้~
** เดี๋ยวมาลงเพิ่มนะคะ **
ขอบคุณทุกท่านสำหรับการติดตาม 🙏🏻😊