สวัสดีทุกท่านครับ
หากบังเอิญใครผ่านเข้ามาดู Pantip เมื่อต้นปีที่ผ่านมา จะมีกระทู้เพ้อเจ้ออันหนึ่งของผม ที่พูดถึงความคิดถึงที่มีต่อฤดูใบไม้ร่วงของภูมิภาคคันไซ
อันนี้....
http://ppantip.com/topic/34637265
สามสี่เดือนหลังจากหลังจากนั้น ผมก็ได้รับอีเมลล์ฉบับนึง
เเจ้งมาว่า
บทความทางวิชาการของคุณได้รับการคัดเลือก ให้ไปนำเสนอที่ โอซาก้า
ผม ม่างงงงงง ขยี้ตาอยู่สามสี่ครั้งว่าเอ้ย เอาจริงดิ นี่เราได้ไปอีกครั้งเร็วกว่าที่คิดนะเนี่ย พร้อมกับความดีใจ วันนั้นถ้าใครเดินผ่านเเถวสยามจะเจอชายวัยเกือบๆ กลางคนเดินยิ้มเเบบโรคจิตนิตแถวๆน้ำพุพารากอน ถ้าใครจำได้ก็นั่นเเหละผมเอง
หลังจากนั้นการเตรียมตัวลุยเดี่ยวของผมก็เกิดขึ้นครับ
โอซาก้าเป็นเมืองที่ไปไม่ยากครับ ระบบขนส่งก็จัดเจนทำความเข้าใจเเป๊บเดียวก็ฉลุยเเล้ว
สิ่งที่เเนะนำจากผมเองมี เเค่ ห้าอย่างครับ ในการมาลุยเดี่ยวที่นี่
1. Pocket WiFi ครับ จำเป็นมาก ช่วยคุณได้เยอะเมื่อต้องการหาสถานที่ แต่!!!! อย่าไปเดินตามมัหมดนะครับ ใช้ sense ส่วนตัวด้วยนะ
(อันนี้เจอมากับตัวเลยว่า พิกัดอ้างอิงของโรงเเรมที่จะไปร่วมนำเสนอมันเพี้ยน)
2. Osaka Amazing Pass ครับ ผมว่าครอบคลุมเเทบจะที่เที่ยวดังๆของโอซาก้าไว้หมดเเล้ว เสียอย่างเดียวคือข้อจำกัดของรถบางสายเท่านั้น แต่ถ้าเน้นอยู่
ในเมืองละก็ไม่ต้องห่วงเลยเชื่อมถึงเกือบหมด
3. Power Bank ครับ ตอนผมไปนี่ไม่มี Power Bank พอจะหมดวันทีไรนี่เเทบขาดใจ วันไหนเเบตหมดนี่ต้องอาศัย sense ลูกเดียว
4. ความกล้า ครับ ความกล้าจะทำให้คุณเข้าใระบบรถของที่นี่ได้ภายในเวลาเเค่วันเดียว จริงๆนะ ขึ้นไปเลยครับ หลงมันก็เสียเวลาเเหละเเต่ไม่ได้น่ากลัว
อะไรขนาดนั้นตอนผมไปพี่ๆคนไทยบางคนงอนกันอยู่ในรถไฟว่าพาขึ้นผิดสาย ....อย่าไปเครียดครับ รถมันมีตลอดเเหละ เว้นเเต่พี่ออกไปกันไกลๆอ่ะ
วางเเผนเป๊ะๆนิดนึงก็ดี
5. รองเท้าสำหรับเดิน เน้นมากๆครับ ถึงเเม้เราจะมีทุกอย่างครบ เเต่รองเท้าเป็นร้องเท้าเเฟชั่นเท่ๆที่ไม่เอื้ออำนวยละก็ พินาศเเน่ๆ
เพราะบางครั้งจุดที่เราจะไปมันเดินเข้าไปไกลนะเออ
ว่าเเต่มันเกี่ยวอะไรกับเกียวโต 55555
อย่างที่บอกไปเเหละครับว่าคราวนี้จุดมุ่งหมายหลักคือมาถ่ายรูปท่องเที่ยว เอ้ยไม่ใช่ มานำเสนอผลงาน เพราะงั้นชีวิตเกือบครึ่งนึงในทริปเลยอยู่ที่โอซาก้า อยู่กันจนจุใจ อยู่จนบอกว่าคราวหน้าตรูมานอนที่นี่ก่อนกลับก็ พอจริงๆนะ
ว่าเเล้วเข้าเรื่องเลยเหอะะะะ นี่คือ 50 กว่าๆรูปพร้อมเรื่องราวเบื้องหลังของมันในการกลับไปเมืองที่ผมรักครั้งนี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เคยฮัมๆเพลงระหว่างถ่ายรูปไหมครับ อารมณ์เหมือนเเบบ หยิบกล้องกำลังจะกดชัตเตอร์ เเล้วมีเพลงที่เข้ากับรูปแว่บเข้ามาในหัว
ผมเองเคยมีโมเมนต์แบบนั้นนะ ยิ่งมาถ่ายเเนว Cinematography ยิ่งทำให้เหมือนกับมันเป็น OST ไปเลย อ่ะเพราะงั้น คราวนี้ขออนุญาติตั้งชื่อรูปให้เข้ากับเพลงนะครับ อาจมีบางรูปไม่ใช่ชื่อเพลงก็อย่าว่ากันเลยเน้อออ
1. ただいま
กลับมาเเล้ว ผมได้กลับมาเเล้วจริงๆ ทุกอย่างดูดีไปหมด ไม่ดีอย่างเดียวคือต้องขึ้นไอ้ชิงช้าสุดโรเเมนติกนี่คนเดียว
ท่ามกลางฝนพรำ เเล้วก็
มีหนุ่มสาวตู้ ตรงข้ามจู๋จี๋กัน .....................
2. Koi No Ame
ท่ามกลางอากาศเย็นๆ ฝนที่โปรยๆ คนทั้งหมดต่างวิ่งหลบฝน เเต่เจ้าหน้าที่จราจรกลับเดินไปกลางถนนอย่างมาดมั่น
ทำหน้าที่ของเขาต่อไปโดยไม่ ยี่หระกับความหนาวเย็นเเละชื้นเเฉะ
ความรับผิดชอบต่อหน้าที่นี่ผมว่ามันเป็นเอกลักษณ์ของคนประเทศนี้ในสายตาชาวโลกนะ
(เเต่หลังๆในเมืองผมก็ เห็นคนรุ่นใหม่ๆที่กระจอกงอกง่อยเยอะขึ้นนะครับ )
3.อิ่มอุ่น
ช่วงที่ผมไปจู่ๆอากาศก็เย็นลงแบบไม่มีปีมีขลุ่ย ภาพของคุณเเม่ชาวญี่ปุ่นที่เป็นห่วงลูกๆเลยเป็นอะไรที่ประทับใจมาก
ผมว่าผญญี่ปุ่นเค้าเก่งนะครับ
จะบอกว่าเค้าต้องออกมาดูเเลบ้านอย่างเดียวในหลายๆครอบครัวเนี่ย มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะ ภาระมันเยอะกว่าที่คิดม๊ากกกกมาก
4.Osaka Historical Museum
ผมว่าที่นึงที่อยากให้คนไทยมาดูกันเยอะๆ ก็ที่นี่ะครับ การจัดเเสดงไม่ได้มีอะไรหวือหวาก็จริงเเต่อยากให้คนไทยเข้า Museum กันมากขึ้นน่ะ
ในนี้ทำให้ ผมอึ้งด้วยนะว่าเเถวๆปราสาทโอซาก้ามันเคยมีอีกปราสาท ของเมือง Naniwa มาก่อนด้วย
เเละมันเคยใหญ่โตมากๆช่วงที่ร่วมยุคกับราชวงศ์ถัง
5. A romantic season
คู่นี้เป็นคู่ที่ผมประทับใจมากเลยครับ
เพราะ พี่สองคนจีบกันตั้งเเต่หกโมงเย็น จนสี่ทุ่มยังนั่งอยู่ที่เดิมเลยเว้ยยยยย!!!!
ค่อยเป็นค่อยไปมว๊ากกกกกกกก55555
6. Umeda Sky Again.......
ในบัตร Osaka Amazing Pass มันขึ้นฟรีง่ะ .....ขึ้นไปเหงาคนเดียวก็ได้ โด่วววววว เลยได้รูปเหมือนในหนังเวลาเเพนเข้าเรื่องเลย5555
7.ฉันดีใจที่มีเธอ
ไหนบอกไปคนเดียว .....ไปคนเดียวจริงๆครับเเต่การที่มีน้องคนนี้ในรูปเนี่ยทำให้มันไม่ใช่เเค่ถนนที่ว่างเปล่า สุดท้ายผมก็ไม่ได้เดินไปดูหน้าเค้าหรอกนะ
ขอบคุณที่มาเป็นเเบบจำเป็นให้นะ
8. Thanks god i found you
ไม่รู้ว่าคนอื่นๆที่ไปเป็นเหมือนกันมั้ยเเต่ จะหาไอ้ฝาปิดท่อที่สีสมบูรณ์เเบบนี้ในเมืองมันไม่ง่ายเลย
ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่งั้นเดี๋ยวเค้าไม่เชื่อว่าผมมาโอซาก้า
9. เเดด เเดดมาเเล้ว
อยู่เมืองไทย เราไม่ค่อยเห็นคุณค่าของเเดด เพราะมีอย่างเหลือเฟือ เเต่ในฤดูที่ทั้งหนาวทั้งเเฉะแบบนี้ มันช่างสุดยอดมากจริงๆ
(ดีใจเพราะรูปตูจะไม่ทะมึนเเล้วว้อยยยยยย) สำหรับผมการมีเเดดนี่ทำให้เมืองนี้เหมือนกลับมายิ้มเเฉ่งตามตะวันในธงชาติเค้าจริงๆนะ
10. ยามเย็น
ในวันที่มีเเดด ช่วงเวลาเย็นของที่นี่จะสวยงามมากๆเลยครับ
เเนะนำว่าให้ออกไปชานเมืองหน่อยๆเราจะได้ซึมซับแสงเย็นเเบบนี้
หรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่ย่านการค้าเราก็จะเจออะไรเเบบนี้เเล้วล่ะ
11. Reflection
วัด Tennoji ในช่วงเวลาที่ผมไปถึงกะลังมีการจัดงานถนนคนเดิน
ใช่ครับฟังไม่ผิด ถนนคนเดินเเน่นอนโดยคนรอบๆมาออกร้าน
ข้อดีคือเราได้กินของอร่อย บ้านๆราคาประหยัดเต็มเลย
เเต่......... ถ่ายรูปไปตรงไหนก้หัวมนุษย์ทั้งนั้น ถ่ายลงน้ำม่างเลยละกันนนนนน
12. ฤดูที่ฉันเหงา
ฮัมเพลง ฤดูที่ฉันเหงาไปเลยละกัน สุดท้ายพี่ก็ตก เเถมหนักด้วย ...... งอลลลลล
13. จนสุดทาง
ชอบครับ ผมโฟกัสคนไม่เป้ะก็จริง เเต่ใจความของมันผมว่าสมบูรณ์มาก หลายครั้งเราเห็นภาพพวกนี่ในหนัง โฆษณา
แต่ถ้าได้มาเห็นจริงๆ มันจะอบอุ่นทะลุความหนาวไปเลยอ่ะ
14. ข้าวเย็น?
มันให้อารมณ์เเบบนั้นจริงๆนะ ยืนกินซดกันดังซ่วบๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ส่วนผมขอบายนะ ไม่ใช่รังเกียจ เเต่ !!!! มันร้อนขนาดนั้นพี่พุ้ยกันเข้าปากไปวูบๆได้ยังไงงงง
15. กา?
ลิงสามตัว (ญี่ปุ่น: 三猿 san'en ซันเอ็ง หรือ sansaru ซันซะรุ; 三匹の猿 sanbiki no saru ซันบิกิโนะซะรุ) คือภาพปริศนาธรรมที่มีใจความสำคัญ
ว่าด้วย "การไม่รับรู้โดยการมองในสิ่งที่ไม่ดี การไม่ฟังในสิ่งที่ไม่ดี และการไม่กล่าววาจาในสิ่งที่ไม่ดี" (wikipedia,2016)
เเล้วทำไมเมริงงงงงตั้งชื่อรูปว่า กา ส่วนตัวผมมองว่ามันซนอ่ะ เเล้วลิงเอาเข้าจริงผมว่าเสียงร้องมัน ออกเสียงเเบบ
กี้ๆ ก้าๆ หน้าปาล์มมี่เลยลอยมาเลย ชื่อนี้เเหละเหมาะละ
16. The time of our lives
มันไม่มีอะไรเจ๋งไปกว่า การไปยังที่ๆตัวเองอยากไปจริงๆ ใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงเวลาที่น่าจะดีที่สุดของอุทยาน น้ำตกมิโนะ เเค่นี้สำหรับผมทริปนี้ก็คุ้ม
เเล้วววววนะ
17. อยากหยุดเวลา
บางครั้งเราไปเที่ยวเนี่ย เราก็อยากอยู่ที่ๆเราไปไปตลอด (เเหนะๆ เคยเป็นกันทุกคนใช่มะ )
แต่ชีวิตจริงมันคงทำไม่ได้หรอกครับ บางทีธรรมชาติเองก็ คงอยากสอนเราเเเบบนั้นเเหละ
ผมพยายามเอามือไปจับใบไม้ที่ร่วง เพื่อถ่ายรูป เเต่ก็พบว่า "ปล่อยให้เป็นไปตามวิถีของมันเเบบนี้เเหละดีเเล้ว"
ความ สวยงามบางทีก็คือการเดินทางต่อตามครรลองที่มันควรจะเป็น อย่าไปคิดหยุดเวลาเลยเนาะ
18. กินได้จริงดิ
มาน้ำตกมิโนะ
เราจะเห็นสองข้างทางขายเมเปิลทอดครับ มีเเนะนำในเว็บ กะหนังสือท่องเที่ยวด้วย
ค่าเสียหายสองร้อยเยน
จัดเลยครับ กร้วม......กรอบ ......เเละเเป้งหวานๆ
โอเค ไหนล่ะเมเปิล??????????? ไม่เห็นได้รสเลย สงสัยยังไม่ถึง
เอาใหม่ กรึบบบบบบบ ...โอเค ..........
สองร้อยเยนที่หายไปคือ แป้งกล้วยเเขก เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ของสวยๆงามๆบางครั้ง
ไม่ต้องเอามาแ_กอ่ะดีเเล้ว 555555555
เอารูปตอนมันยังสวยๆไปละกัน
19/ 20 . Fantastic waterfall and where to find.......
น้ำตกมิโนะ นี่เป็นที่ๆอยากให้เเวะเวียนมานะครับ
ตลอดทางเดิน3.5 km เนี่ย ไม่มีทางเลยที่เราจะเบื่อ มีมุมสวยๆให้ถ่ายเพียบ
ถ้ามาคนเดียวก็ถ่ายเก็บนู่นนี่นั่นไปได้เรื่อยๆ เเนะนำเลย
อันนี้ฝายระหว่างทาง นะครับ ไม่ใช่ตัวน้ำตกนะะะะ
อันนี้ตะหากกกกกกกกกกก
21.รักที่เพิ่งผ่านพ้นไป
ไม่ได้ดราม่าอะไรรรนะครับ เเต่เย็นวันสุดท้ายจู่ๆเพลงนี้ก็ลอยมาในหัว
ผมต้องออกจากโอซาก้าเเล้วพร้อม กับผลการนำเสนอที่ดีทีเดียว เเละสถานีต่อ
ไปที่จะไปของผม คือเมืองที่เป็นที่มาของชื่ออัลบั้มทั้งสองครั้ง "เกียวโต"
22.Kyoto's calling
ถามรถไฟ ถามรถไฟ รถไฟไปไหน ถามรถไฟ รถไฟไปไหน รถไฟตอบไปเหนือล่องใต้........ เฮ้ยจู่ๆเพลงค่ายลอยมาได้ไง
เเต่ก็อารมณ์นั้นจริงๆนะ 555555
[เกียวโตเปลี่ยนสี:ตอนจบ] 50 กว่าๆ รูป Cinematic photo ของเมืองที่ฉันหลงรัก เเละอาจจะไม่ได้กลับไปอีก
หากบังเอิญใครผ่านเข้ามาดู Pantip เมื่อต้นปีที่ผ่านมา จะมีกระทู้เพ้อเจ้ออันหนึ่งของผม ที่พูดถึงความคิดถึงที่มีต่อฤดูใบไม้ร่วงของภูมิภาคคันไซ
อันนี้.... http://ppantip.com/topic/34637265
สามสี่เดือนหลังจากหลังจากนั้น ผมก็ได้รับอีเมลล์ฉบับนึง
เเจ้งมาว่า
บทความทางวิชาการของคุณได้รับการคัดเลือก ให้ไปนำเสนอที่ โอซาก้า
ผม ม่างงงงงง ขยี้ตาอยู่สามสี่ครั้งว่าเอ้ย เอาจริงดิ นี่เราได้ไปอีกครั้งเร็วกว่าที่คิดนะเนี่ย พร้อมกับความดีใจ วันนั้นถ้าใครเดินผ่านเเถวสยามจะเจอชายวัยเกือบๆ กลางคนเดินยิ้มเเบบโรคจิตนิตแถวๆน้ำพุพารากอน ถ้าใครจำได้ก็นั่นเเหละผมเอง
หลังจากนั้นการเตรียมตัวลุยเดี่ยวของผมก็เกิดขึ้นครับ
โอซาก้าเป็นเมืองที่ไปไม่ยากครับ ระบบขนส่งก็จัดเจนทำความเข้าใจเเป๊บเดียวก็ฉลุยเเล้ว
สิ่งที่เเนะนำจากผมเองมี เเค่ ห้าอย่างครับ ในการมาลุยเดี่ยวที่นี่
1. Pocket WiFi ครับ จำเป็นมาก ช่วยคุณได้เยอะเมื่อต้องการหาสถานที่ แต่!!!! อย่าไปเดินตามมัหมดนะครับ ใช้ sense ส่วนตัวด้วยนะ
(อันนี้เจอมากับตัวเลยว่า พิกัดอ้างอิงของโรงเเรมที่จะไปร่วมนำเสนอมันเพี้ยน)
2. Osaka Amazing Pass ครับ ผมว่าครอบคลุมเเทบจะที่เที่ยวดังๆของโอซาก้าไว้หมดเเล้ว เสียอย่างเดียวคือข้อจำกัดของรถบางสายเท่านั้น แต่ถ้าเน้นอยู่
ในเมืองละก็ไม่ต้องห่วงเลยเชื่อมถึงเกือบหมด
3. Power Bank ครับ ตอนผมไปนี่ไม่มี Power Bank พอจะหมดวันทีไรนี่เเทบขาดใจ วันไหนเเบตหมดนี่ต้องอาศัย sense ลูกเดียว
4. ความกล้า ครับ ความกล้าจะทำให้คุณเข้าใระบบรถของที่นี่ได้ภายในเวลาเเค่วันเดียว จริงๆนะ ขึ้นไปเลยครับ หลงมันก็เสียเวลาเเหละเเต่ไม่ได้น่ากลัว
อะไรขนาดนั้นตอนผมไปพี่ๆคนไทยบางคนงอนกันอยู่ในรถไฟว่าพาขึ้นผิดสาย ....อย่าไปเครียดครับ รถมันมีตลอดเเหละ เว้นเเต่พี่ออกไปกันไกลๆอ่ะ
วางเเผนเป๊ะๆนิดนึงก็ดี
5. รองเท้าสำหรับเดิน เน้นมากๆครับ ถึงเเม้เราจะมีทุกอย่างครบ เเต่รองเท้าเป็นร้องเท้าเเฟชั่นเท่ๆที่ไม่เอื้ออำนวยละก็ พินาศเเน่ๆ
เพราะบางครั้งจุดที่เราจะไปมันเดินเข้าไปไกลนะเออ
ว่าเเต่มันเกี่ยวอะไรกับเกียวโต 55555
อย่างที่บอกไปเเหละครับว่าคราวนี้จุดมุ่งหมายหลักคือมาถ่ายรูปท่องเที่ยว เอ้ยไม่ใช่ มานำเสนอผลงาน เพราะงั้นชีวิตเกือบครึ่งนึงในทริปเลยอยู่ที่โอซาก้า อยู่กันจนจุใจ อยู่จนบอกว่าคราวหน้าตรูมานอนที่นี่ก่อนกลับก็ พอจริงๆนะ
ว่าเเล้วเข้าเรื่องเลยเหอะะะะ นี่คือ 50 กว่าๆรูปพร้อมเรื่องราวเบื้องหลังของมันในการกลับไปเมืองที่ผมรักครั้งนี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
1. ただいま
กลับมาเเล้ว ผมได้กลับมาเเล้วจริงๆ ทุกอย่างดูดีไปหมด ไม่ดีอย่างเดียวคือต้องขึ้นไอ้ชิงช้าสุดโรเเมนติกนี่คนเดียว
ท่ามกลางฝนพรำ เเล้วก็
มีหนุ่มสาวตู้ ตรงข้ามจู๋จี๋กัน .....................
2. Koi No Ame
ท่ามกลางอากาศเย็นๆ ฝนที่โปรยๆ คนทั้งหมดต่างวิ่งหลบฝน เเต่เจ้าหน้าที่จราจรกลับเดินไปกลางถนนอย่างมาดมั่น
ทำหน้าที่ของเขาต่อไปโดยไม่ ยี่หระกับความหนาวเย็นเเละชื้นเเฉะ
ความรับผิดชอบต่อหน้าที่นี่ผมว่ามันเป็นเอกลักษณ์ของคนประเทศนี้ในสายตาชาวโลกนะ
(เเต่หลังๆในเมืองผมก็ เห็นคนรุ่นใหม่ๆที่กระจอกงอกง่อยเยอะขึ้นนะครับ )
3.อิ่มอุ่น
ช่วงที่ผมไปจู่ๆอากาศก็เย็นลงแบบไม่มีปีมีขลุ่ย ภาพของคุณเเม่ชาวญี่ปุ่นที่เป็นห่วงลูกๆเลยเป็นอะไรที่ประทับใจมาก
ผมว่าผญญี่ปุ่นเค้าเก่งนะครับ
จะบอกว่าเค้าต้องออกมาดูเเลบ้านอย่างเดียวในหลายๆครอบครัวเนี่ย มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะ ภาระมันเยอะกว่าที่คิดม๊ากกกกมาก
4.Osaka Historical Museum
ผมว่าที่นึงที่อยากให้คนไทยมาดูกันเยอะๆ ก็ที่นี่ะครับ การจัดเเสดงไม่ได้มีอะไรหวือหวาก็จริงเเต่อยากให้คนไทยเข้า Museum กันมากขึ้นน่ะ
ในนี้ทำให้ ผมอึ้งด้วยนะว่าเเถวๆปราสาทโอซาก้ามันเคยมีอีกปราสาท ของเมือง Naniwa มาก่อนด้วย
เเละมันเคยใหญ่โตมากๆช่วงที่ร่วมยุคกับราชวงศ์ถัง
5. A romantic season
คู่นี้เป็นคู่ที่ผมประทับใจมากเลยครับ
เพราะ พี่สองคนจีบกันตั้งเเต่หกโมงเย็น จนสี่ทุ่มยังนั่งอยู่ที่เดิมเลยเว้ยยยยย!!!!
ค่อยเป็นค่อยไปมว๊ากกกกกกกก55555
6. Umeda Sky Again.......
ในบัตร Osaka Amazing Pass มันขึ้นฟรีง่ะ .....ขึ้นไปเหงาคนเดียวก็ได้ โด่วววววว เลยได้รูปเหมือนในหนังเวลาเเพนเข้าเรื่องเลย5555
7.ฉันดีใจที่มีเธอ
ไหนบอกไปคนเดียว .....ไปคนเดียวจริงๆครับเเต่การที่มีน้องคนนี้ในรูปเนี่ยทำให้มันไม่ใช่เเค่ถนนที่ว่างเปล่า สุดท้ายผมก็ไม่ได้เดินไปดูหน้าเค้าหรอกนะ
ขอบคุณที่มาเป็นเเบบจำเป็นให้นะ
8. Thanks god i found you
ไม่รู้ว่าคนอื่นๆที่ไปเป็นเหมือนกันมั้ยเเต่ จะหาไอ้ฝาปิดท่อที่สีสมบูรณ์เเบบนี้ในเมืองมันไม่ง่ายเลย
ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่งั้นเดี๋ยวเค้าไม่เชื่อว่าผมมาโอซาก้า
9. เเดด เเดดมาเเล้ว
อยู่เมืองไทย เราไม่ค่อยเห็นคุณค่าของเเดด เพราะมีอย่างเหลือเฟือ เเต่ในฤดูที่ทั้งหนาวทั้งเเฉะแบบนี้ มันช่างสุดยอดมากจริงๆ
(ดีใจเพราะรูปตูจะไม่ทะมึนเเล้วว้อยยยยยย) สำหรับผมการมีเเดดนี่ทำให้เมืองนี้เหมือนกลับมายิ้มเเฉ่งตามตะวันในธงชาติเค้าจริงๆนะ
10. ยามเย็น
ในวันที่มีเเดด ช่วงเวลาเย็นของที่นี่จะสวยงามมากๆเลยครับ
เเนะนำว่าให้ออกไปชานเมืองหน่อยๆเราจะได้ซึมซับแสงเย็นเเบบนี้
หรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่ย่านการค้าเราก็จะเจออะไรเเบบนี้เเล้วล่ะ
11. Reflection
วัด Tennoji ในช่วงเวลาที่ผมไปถึงกะลังมีการจัดงานถนนคนเดิน
ใช่ครับฟังไม่ผิด ถนนคนเดินเเน่นอนโดยคนรอบๆมาออกร้าน
ข้อดีคือเราได้กินของอร่อย บ้านๆราคาประหยัดเต็มเลย
เเต่......... ถ่ายรูปไปตรงไหนก้หัวมนุษย์ทั้งนั้น ถ่ายลงน้ำม่างเลยละกันนนนนน
12. ฤดูที่ฉันเหงา
ฮัมเพลง ฤดูที่ฉันเหงาไปเลยละกัน สุดท้ายพี่ก็ตก เเถมหนักด้วย ...... งอลลลลล
13. จนสุดทาง
ชอบครับ ผมโฟกัสคนไม่เป้ะก็จริง เเต่ใจความของมันผมว่าสมบูรณ์มาก หลายครั้งเราเห็นภาพพวกนี่ในหนัง โฆษณา
แต่ถ้าได้มาเห็นจริงๆ มันจะอบอุ่นทะลุความหนาวไปเลยอ่ะ
14. ข้าวเย็น?
มันให้อารมณ์เเบบนั้นจริงๆนะ ยืนกินซดกันดังซ่วบๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ส่วนผมขอบายนะ ไม่ใช่รังเกียจ เเต่ !!!! มันร้อนขนาดนั้นพี่พุ้ยกันเข้าปากไปวูบๆได้ยังไงงงง
15. กา?
ลิงสามตัว (ญี่ปุ่น: 三猿 san'en ซันเอ็ง หรือ sansaru ซันซะรุ; 三匹の猿 sanbiki no saru ซันบิกิโนะซะรุ) คือภาพปริศนาธรรมที่มีใจความสำคัญ
ว่าด้วย "การไม่รับรู้โดยการมองในสิ่งที่ไม่ดี การไม่ฟังในสิ่งที่ไม่ดี และการไม่กล่าววาจาในสิ่งที่ไม่ดี" (wikipedia,2016)
เเล้วทำไมเมริงงงงงตั้งชื่อรูปว่า กา ส่วนตัวผมมองว่ามันซนอ่ะ เเล้วลิงเอาเข้าจริงผมว่าเสียงร้องมัน ออกเสียงเเบบ
กี้ๆ ก้าๆ หน้าปาล์มมี่เลยลอยมาเลย ชื่อนี้เเหละเหมาะละ
16. The time of our lives
มันไม่มีอะไรเจ๋งไปกว่า การไปยังที่ๆตัวเองอยากไปจริงๆ ใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงเวลาที่น่าจะดีที่สุดของอุทยาน น้ำตกมิโนะ เเค่นี้สำหรับผมทริปนี้ก็คุ้ม
เเล้วววววนะ
17. อยากหยุดเวลา
บางครั้งเราไปเที่ยวเนี่ย เราก็อยากอยู่ที่ๆเราไปไปตลอด (เเหนะๆ เคยเป็นกันทุกคนใช่มะ )
แต่ชีวิตจริงมันคงทำไม่ได้หรอกครับ บางทีธรรมชาติเองก็ คงอยากสอนเราเเเบบนั้นเเหละ
ผมพยายามเอามือไปจับใบไม้ที่ร่วง เพื่อถ่ายรูป เเต่ก็พบว่า "ปล่อยให้เป็นไปตามวิถีของมันเเบบนี้เเหละดีเเล้ว"
ความ สวยงามบางทีก็คือการเดินทางต่อตามครรลองที่มันควรจะเป็น อย่าไปคิดหยุดเวลาเลยเนาะ
18. กินได้จริงดิ
มาน้ำตกมิโนะ
เราจะเห็นสองข้างทางขายเมเปิลทอดครับ มีเเนะนำในเว็บ กะหนังสือท่องเที่ยวด้วย
ค่าเสียหายสองร้อยเยน
จัดเลยครับ กร้วม......กรอบ ......เเละเเป้งหวานๆ
โอเค ไหนล่ะเมเปิล??????????? ไม่เห็นได้รสเลย สงสัยยังไม่ถึง
เอาใหม่ กรึบบบบบบบ ...โอเค ..........
สองร้อยเยนที่หายไปคือ แป้งกล้วยเเขก เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ของสวยๆงามๆบางครั้ง
ไม่ต้องเอามาแ_กอ่ะดีเเล้ว 555555555
เอารูปตอนมันยังสวยๆไปละกัน
19/ 20 . Fantastic waterfall and where to find.......
น้ำตกมิโนะ นี่เป็นที่ๆอยากให้เเวะเวียนมานะครับ
ตลอดทางเดิน3.5 km เนี่ย ไม่มีทางเลยที่เราจะเบื่อ มีมุมสวยๆให้ถ่ายเพียบ
ถ้ามาคนเดียวก็ถ่ายเก็บนู่นนี่นั่นไปได้เรื่อยๆ เเนะนำเลย
อันนี้ฝายระหว่างทาง นะครับ ไม่ใช่ตัวน้ำตกนะะะะ
อันนี้ตะหากกกกกกกกกกก
21.รักที่เพิ่งผ่านพ้นไป
ไม่ได้ดราม่าอะไรรรนะครับ เเต่เย็นวันสุดท้ายจู่ๆเพลงนี้ก็ลอยมาในหัว
ผมต้องออกจากโอซาก้าเเล้วพร้อม กับผลการนำเสนอที่ดีทีเดียว เเละสถานีต่อ
ไปที่จะไปของผม คือเมืองที่เป็นที่มาของชื่ออัลบั้มทั้งสองครั้ง "เกียวโต"
22.Kyoto's calling
ถามรถไฟ ถามรถไฟ รถไฟไปไหน ถามรถไฟ รถไฟไปไหน รถไฟตอบไปเหนือล่องใต้........ เฮ้ยจู่ๆเพลงค่ายลอยมาได้ไง
เเต่ก็อารมณ์นั้นจริงๆนะ 555555