กอด ของ มหามิตร.....
พลเอก ฉาง ว่าน ฉวน รมว.กลาโหม จีน ใช้การกอด เป็นการต้อนรับ บิ๊กป้อม พลเอกประวิตร รมว.กห.ที่ไปเยือนปักกิ่ง พร้อม นายสมคิด ที่เดืนทางล่วงหน้าไปก่อน เพื่อถกร่วมมือทางทหาร อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ การจัดซื้อ รถถัง เรือดำน้ำ โดยไทย เสนอให้ จีน มาตั้ง โรงงานผลิตอะไหล่ และศูนย์ซ่อมสร้าง ในไทย....โดยทริป นี้ เข้าพบ นายกฯ จีน และ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ด้วย
รมว.กลาโหม จีน รับข้อเสนอ บิ๊กป้อม ตั้งศูนย์ซ่อมสร้างอาวุธฯ ในไทย ป้อนอะไหล่ ถ่ายทอดเทคโนฯให้ทหารไทย/ เสนอ3ความร่วมมือ -แลกเปลี่ยนการเยือน-ฝึกร่วม ทั้งทวิภาคี ไตรภาคีและพหุภาคี --ร่วมมือกันด้านการป้องกันประเทศ /บิ๊กป้อม ชวนจีนร่วมฝึก Cobra Gold ด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ/ร่วมมือต้านก่อการร้าย-Cyber security/ มองเชิงบวก จีนต้อนรับ อบอุ่น
พลครี คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. เปิดเผย ผลการเดินทางเยือน สาธารณรัฐประชาชนจีน ( สปจ.) ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหมพร้อมคณะ ระหว่าง 12-13 ธ.ค.59. ที่ กรุงปักกิ่ง
พลเอกประวิตร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมคำนับ พล.อ.ฉาง ว่านฉวน รมว.กห. จีน ณ กระทรวงกลาโหม โดยได้รับการต้อนรับด้วยมิตรภาพที่คุ้นเคยกันดีอย่างอบอุ่นยิ่ง
ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันถึง การขยายความร่วมมือทางทหารระหว่างสองประเทศให้มีขอบเขตครอบคลุมความร่วมมือด้านต่างๆให้มากขึ้น
โดย พล.อ.ประวิตร เสนอความเป็นไปได้ถึงความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ที่ประสงค์ให้จีนสนับสนุนการจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรมซ่อมสร้างยุทโธปกรณ์ทางทหารในไทย
พร้อมทั้งถ่ายทอดเทคโนโลยีและขีดความสามารถในการพัฒนาและดูแลอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ผลิตในจีนที่มีประจำการในประเทศไทย และภูมิภาค
พร้อมกับ เชิญชวนและเสนอให้จีน พิจารณาความพร้อมในการเข้าร่วมฝึก Cobra Gold ผ่านความร่วมมือด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ และความร่วมมือทางการแพทย์ทหาร
ขณะเดียวกันได้แสดงถึงความพร้อมของ กลาโหมไทย ที่จะทำหน้าที่ร่วมกับจีนในฐานะประธานร่วมคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านการก่อการร้ายภายใต้กรอบการประชุมรมว.กห.อาเซียนและรมว.กห.ประเทศคู่เจรจาในวงรอบ ปี 60-62
พล.อ.ฉาง ว่านฉวน รมว.กห.จีน ได้กล่าวแสดงความขอบคุณและพร้อมสนับสนุนให้กองทัพของทั้งสองประเทศ แลกเปลี่ยนความร่วมมือทางทหารในสาขาต่างๆให้มากขึ้น
โดยเสนอให้มีการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน 3 ประการ ประกอบด้วย 1) ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับต่างๆ
2) ความร่วมมือในการฝึกร่วม ทั้งทวิภาคี ไตรภาคีและพหุภาคี
3) ความร่วมมือกันด้านการป้องกันประเทศ
พร้อมทั้งแสดงท่าทีเชิงบวกและการสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อข้อเสนอของไทยทุกเรื่อง โดยเฉพาะการจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรมซ่อมสร้างยุทโธปกรณ์ทางทหารในไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่ผลิตในจีน ที่มีประจำการในไทยและภูมิภาค
โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจัดตั้งคณะทำงาน ประสานงานและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ผ่านกลไกทางการทูตทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หลังจากนั้น พลเอกประวิตร .พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมคำนับ นายเมิ่ง เจี้ยนจู้ง สมาชิกกรมการเมือง หัวหน้าคณะกรรมาธิการการเมืองและกฎหมาย คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ สปจ. ณ ที่ทำการ จงหนานไห่
โดยได้แลกเปลี่ยนหารือกันถึงความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข่าวกรอง เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญกรรมข้ามชาติ ระหว่างไทยกับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น.
ขณะดียวกัน ทั้งสองฝ่าย มีความกังวลร่วมกันในประเด็นความมั่นคงทั้ง การก่อการร้าย. แนวคิดความรุนแรงสุดโต่ง สำหรับความปลอดภัยทางไซเบอร์ ( Cyber Security ) ถือเป็นภัยคุกคามที่สามารถสร้างความเสียหายทั้งระบบเศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคงได้เป็นวงกว้าง ซึ่งไทยเสนอขอให้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ร่วมกัน
สำหรับความร่วมมือในการดูแลผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายนั้น หน่วยงานความมั่นคงทั้งสองฝ่าย จะร่วมประสานงานกันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะด้านการข่าวเพื่อการเฝ้าระวังและแจ้งเตือน และเพิ่มความเข้มงวดในมาตรการสกัดกั้นตามแนวชายแดน ทั้งนี้ ไทยพร้อมให้การดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชนควบคู่กับความมั่นคงของรัฐ
พล.ต.คงชีพ กล่าวสรุปในภาพรวมว่า การเดินทางครั้งนี้ เป็นการขยายผลและสานต่อความร่วมมือเชิงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างไทยและจีน ที่มีพัฒนาการและความคืบหน้าร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจีนให้ความสำคัญอย่างมากกับการเยือนของรองนรม.และรมว.กห.พร้อมคณะในครั้งนี้
โดยถือว่าเป็นสัญญานทางบวกที่ชัดเจนยิ่ง. ต่อความร่วมมือในการผลักดันขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคงของทั้งสองประเทศและภูมิภาค ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะเร่งจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันในเรื่องต่างๆ เพื่อประชุมและทำงานผลักดันความร่วมมือกันและกันอย่างเต็มที่ต่อไปโดยใกล้ชิด ภายใต้กรอบความร่วมมือที่บรรลุข้อตกลงร่วมกัน รวมทั้งเร่งขยายความชัดเจนในเรื่องที่ยังไม่บรรลุข้อยุติ เพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศและภูมิภาคต่อไป
ต่อไปเราฝันถึงอะไรได้บ้างครับ รู้สึกไทยจีนแน่นแฟ้นมากหลังๆมานี้
เครดิตเพจ Wassana Nanuam ลิ้งข่าวอื่นๆ
http://www.matichon.co.th/news/392989 เป็นต้น
กลาโหมไทยจีน บรรลุข้อตกลงสร้างโรงงานซ่อมสร้างอาวุธ (เราฝันอะไรต่อดี)
พลเอก ฉาง ว่าน ฉวน รมว.กลาโหม จีน ใช้การกอด เป็นการต้อนรับ บิ๊กป้อม พลเอกประวิตร รมว.กห.ที่ไปเยือนปักกิ่ง พร้อม นายสมคิด ที่เดืนทางล่วงหน้าไปก่อน เพื่อถกร่วมมือทางทหาร อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ การจัดซื้อ รถถัง เรือดำน้ำ โดยไทย เสนอให้ จีน มาตั้ง โรงงานผลิตอะไหล่ และศูนย์ซ่อมสร้าง ในไทย....โดยทริป นี้ เข้าพบ นายกฯ จีน และ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ด้วย
รมว.กลาโหม จีน รับข้อเสนอ บิ๊กป้อม ตั้งศูนย์ซ่อมสร้างอาวุธฯ ในไทย ป้อนอะไหล่ ถ่ายทอดเทคโนฯให้ทหารไทย/ เสนอ3ความร่วมมือ -แลกเปลี่ยนการเยือน-ฝึกร่วม ทั้งทวิภาคี ไตรภาคีและพหุภาคี --ร่วมมือกันด้านการป้องกันประเทศ /บิ๊กป้อม ชวนจีนร่วมฝึก Cobra Gold ด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ/ร่วมมือต้านก่อการร้าย-Cyber security/ มองเชิงบวก จีนต้อนรับ อบอุ่น
พลครี คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. เปิดเผย ผลการเดินทางเยือน สาธารณรัฐประชาชนจีน ( สปจ.) ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหมพร้อมคณะ ระหว่าง 12-13 ธ.ค.59. ที่ กรุงปักกิ่ง
พลเอกประวิตร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมคำนับ พล.อ.ฉาง ว่านฉวน รมว.กห. จีน ณ กระทรวงกลาโหม โดยได้รับการต้อนรับด้วยมิตรภาพที่คุ้นเคยกันดีอย่างอบอุ่นยิ่ง
ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันถึง การขยายความร่วมมือทางทหารระหว่างสองประเทศให้มีขอบเขตครอบคลุมความร่วมมือด้านต่างๆให้มากขึ้น
โดย พล.อ.ประวิตร เสนอความเป็นไปได้ถึงความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ที่ประสงค์ให้จีนสนับสนุนการจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรมซ่อมสร้างยุทโธปกรณ์ทางทหารในไทย
พร้อมทั้งถ่ายทอดเทคโนโลยีและขีดความสามารถในการพัฒนาและดูแลอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ผลิตในจีนที่มีประจำการในประเทศไทย และภูมิภาค
พร้อมกับ เชิญชวนและเสนอให้จีน พิจารณาความพร้อมในการเข้าร่วมฝึก Cobra Gold ผ่านความร่วมมือด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ และความร่วมมือทางการแพทย์ทหาร
ขณะเดียวกันได้แสดงถึงความพร้อมของ กลาโหมไทย ที่จะทำหน้าที่ร่วมกับจีนในฐานะประธานร่วมคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านการก่อการร้ายภายใต้กรอบการประชุมรมว.กห.อาเซียนและรมว.กห.ประเทศคู่เจรจาในวงรอบ ปี 60-62
พล.อ.ฉาง ว่านฉวน รมว.กห.จีน ได้กล่าวแสดงความขอบคุณและพร้อมสนับสนุนให้กองทัพของทั้งสองประเทศ แลกเปลี่ยนความร่วมมือทางทหารในสาขาต่างๆให้มากขึ้น
โดยเสนอให้มีการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน 3 ประการ ประกอบด้วย 1) ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับต่างๆ
2) ความร่วมมือในการฝึกร่วม ทั้งทวิภาคี ไตรภาคีและพหุภาคี
3) ความร่วมมือกันด้านการป้องกันประเทศ
พร้อมทั้งแสดงท่าทีเชิงบวกและการสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อข้อเสนอของไทยทุกเรื่อง โดยเฉพาะการจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรมซ่อมสร้างยุทโธปกรณ์ทางทหารในไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่ผลิตในจีน ที่มีประจำการในไทยและภูมิภาค
โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจัดตั้งคณะทำงาน ประสานงานและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ผ่านกลไกทางการทูตทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หลังจากนั้น พลเอกประวิตร .พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมคำนับ นายเมิ่ง เจี้ยนจู้ง สมาชิกกรมการเมือง หัวหน้าคณะกรรมาธิการการเมืองและกฎหมาย คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ สปจ. ณ ที่ทำการ จงหนานไห่
โดยได้แลกเปลี่ยนหารือกันถึงความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข่าวกรอง เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญกรรมข้ามชาติ ระหว่างไทยกับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น.
ขณะดียวกัน ทั้งสองฝ่าย มีความกังวลร่วมกันในประเด็นความมั่นคงทั้ง การก่อการร้าย. แนวคิดความรุนแรงสุดโต่ง สำหรับความปลอดภัยทางไซเบอร์ ( Cyber Security ) ถือเป็นภัยคุกคามที่สามารถสร้างความเสียหายทั้งระบบเศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคงได้เป็นวงกว้าง ซึ่งไทยเสนอขอให้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ร่วมกัน
สำหรับความร่วมมือในการดูแลผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายนั้น หน่วยงานความมั่นคงทั้งสองฝ่าย จะร่วมประสานงานกันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะด้านการข่าวเพื่อการเฝ้าระวังและแจ้งเตือน และเพิ่มความเข้มงวดในมาตรการสกัดกั้นตามแนวชายแดน ทั้งนี้ ไทยพร้อมให้การดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชนควบคู่กับความมั่นคงของรัฐ
พล.ต.คงชีพ กล่าวสรุปในภาพรวมว่า การเดินทางครั้งนี้ เป็นการขยายผลและสานต่อความร่วมมือเชิงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างไทยและจีน ที่มีพัฒนาการและความคืบหน้าร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจีนให้ความสำคัญอย่างมากกับการเยือนของรองนรม.และรมว.กห.พร้อมคณะในครั้งนี้
โดยถือว่าเป็นสัญญานทางบวกที่ชัดเจนยิ่ง. ต่อความร่วมมือในการผลักดันขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคงของทั้งสองประเทศและภูมิภาค ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะเร่งจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันในเรื่องต่างๆ เพื่อประชุมและทำงานผลักดันความร่วมมือกันและกันอย่างเต็มที่ต่อไปโดยใกล้ชิด ภายใต้กรอบความร่วมมือที่บรรลุข้อตกลงร่วมกัน รวมทั้งเร่งขยายความชัดเจนในเรื่องที่ยังไม่บรรลุข้อยุติ เพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศและภูมิภาคต่อไป
ต่อไปเราฝันถึงอะไรได้บ้างครับ รู้สึกไทยจีนแน่นแฟ้นมากหลังๆมานี้
เครดิตเพจ Wassana Nanuam ลิ้งข่าวอื่นๆ http://www.matichon.co.th/news/392989 เป็นต้น