ออกท่องเที่ยวไทยและตามหาแรงบันดาลใจที่"เชียงคาน"


สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่านนี้อาจไม่ได้เป็นกระทู้แรกที่เขียน แต่เป็นกระทู้แรกที่เขียนเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ด้วยความที่ช่วงนี้นั่งสอบเหงาๆ และขาดแรงบันดาลใจในการสอบ เลยเอารูปเก่าเมื่อตอนไปเที่ยวปีที่แล้วมาลองนั่งเขียนกระทู้ดู เอาว่ะไม่ได้ไปได้เขียนก็ยังดี อิอิ
เริ่มกันเลยค่ะ เจ้าของกระทู้เองเป็นคนชอบเที่ยวอยู่พอสมควรแต่ไม่มีโอกาศได้ไปซักที เพราะโอกาสในชีวิตที่เข้ามาเรื่อยๆแต่ไม่ค่อยมีโอกาสเที่ยวซักที จนเมื่อกลางเดื่อนที่ผ่านมาทำงานหนักจนรู้สึกว่าไม่ได้หล่ะ ต้องไปเที่ยวที่ไหนสักแห่งเพื่อรีเซ็ตตัวเอง เลยโพสลอยๆในเฟสบุ๊คว่า อยากไปเที่ยวเลย เพียงไม่กี่วินาทีน้องสาวสุดที่รักจัดให้เลยจ้า ตกลงปลงใจกันว่าจะไปวันที่ 26-27 ธันวาคม 58 เอาหล่ะเริ่มหาโรงแรมกัน ไม่รู้จักที่ไหนก็เสริทในเน็ตนี่หล่ะ พยายามหากันอยู่ 2 วัน โทรตามเป็น 10 กว่าที่สุดท้ายก็ไม่มี(การจองโรงแรมช่วงคริสมาสและใกล้ปีใหม่เป็นอะไรที่ยากจี้ๆ โทษใครหล่ะหนึ่งอาทิตย์ก่อนไป ก็สมควรหล่ะ) เลยตัดใจคงไม่ได้ไปแน่ๆ และแล้วก็เหมือนสวรรค์จะเข้าข้างเพราะน้องสาวไล่เปิดดูในแผนที่ google เลยจ๊ะ ในที่สุดก็ได้ที่พักมาคืนละ 1,500 บาท(แอบแพง) เอาหล่ะตั้งใจหล่ะเลยตามเลยก็แล้วกัน
การเดินทางในครั้งนี้เราตั้งงบอยู่ที่ 2,000 บาท ออกเดินทางจากขอนแก่นไปอุดรด้วยรถตู้ราคา 84 บาท จากนั้นก็ไปรอขึ้นรถยนต์ส่วนตัวไปน้องสาว ออกเดินทางตอน 09.30 น. ขับเที่ยวไปเรื่อยๆ ไม่เคยไปเลยมาก่อนเสริทดูจาก google คราวๆสถานที่ท่องเที่ยวก็ค่อนข้างไกลกันเอาว่ะ ไปแบบไม่ว่าแผนเลยหล่ะกัน เอาภูเรือเป็นที่ตั้งหล่ะกันระหว่างทางไปภูเรือมีไหนน่าแวะก็แวะ จากนั้นแฟนน้องสาวก็ขับรถมาเรื่อยๆ ระหว่างทางเราก็เจอ วัดป่าห้วยลาด ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ถนนเลย–ด่านซ้าย ตำบลสานตม อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย วัดป่าห้วยลาดเป็นวัดที่ค่อนข้างสวยงาม เราคิดว่าน่าจะออกแบบแบบล้านนา ภายในตัววัดพระสัพพัญญูรู้แจ้ง สามแดนโลกธาตุประดิษสถานอยู่ ใครมีโอกาสไปภูเรือแนะนำเลยค่ะ






พอแวะไหว้พระเสร็จก็เดินทางต่อสถานทีต่อไป  “คิตตี้ รีสอร์ท” ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมา ที่นี่ก็ไม่มีอะไรมากค่ะเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการถ่ายรูป มีมุมสวยๆ เกือบทุกมุมของรีสอร์ทและที่สำคัญโลกของคุณจะกลายเป็นสีชมพู เพราะไม่ว่าหันไปทางไหนก็มีแต่สีชมพูเต็มไปหมด อันนี้เราไม่ได้ถ่ายรูปมาเยอะนะเพราะแดดมันร้อน เราเลยยืนรอเพื่อนรวมทริปเราถ่าย อิอิ


พอถ่ายรูปเสร็จก็เริ่มค่ำหล่ะ เลยต้องพากันขับรถกลับเขาที่พัก ซึ่งพวกเราพักที่เชียงคาน
ถึงแล้วที่พัก "เชียงคาน ภูปลายนา บูติค รีสอร์ท" มาถึงรีสอร์ทขอบอกว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปมักค่ะ ที่พักสะอาด บรรยายกาศระดับสิบเลยค่ะ สมชื่อ เชียงคาน ภู(ทอก) ปลายนา เพราะมองจากรีสอร์ทก็เห็นภูทอกเลยค่ะ


ที่พักสะอาดค่ะ กว้างเหมาะแก่การพักผ่อนจริงๆ ที่นี่เจ้าขอองใจดีมากค่ะ มีบริการของว่างตลอดเวลา(หรือจะแค่ช่วงเช้าก็ไม่มั่นใจนะค่ะเพราะเรากับเพื่อนรวมทริปก็จะตลอดเว แต่ป้าแกก็บอกว่าเอาเลยลูก กินเลย

อันนี้บ้านที่เราพักค่ะ ห้องนี้ พักแบบผู้หญิงๆค่ะ 3 คน


มุมนี้มองออกไปจากที่พักค่ะ สบายใจสุดๆ

มีที่ให้จัดงานเลี้ยงเบาๆด้วยนะค่ะ

มุมของว่างและอาหารเช้าค่ะ


พอแยกย้ายกันเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ก็พักผ่อนเอาแรงสักพักก่อนลุยต่อ ถนนคนเดินเชียงคาน

เดินหาซื้อของฝาก กินบ้าง เดินเรื่อยๆจนลืมกันไปเลยค่ะ และที่สำคัญคนเยอะมาก

อันนี้ เมี่ยงคำ ค่ะชอบส่วนตัวอร่อยมากๆๆๆๆๆ
เดินเพลินไปเรื่อยๆจนถึง 4 ทุ่ม ได้เวลากลับไปพักหล่ะ พรุ่งนี้ลุยต่อ "ภูทอก" ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ 4.40 น. หวังว่าจะไปเช้าๆ แต่พอตื่นขึ้นมาฝนตกสะงั้น ไม่นะทะเลหมอกของฉัน สุดท้ายก็ได้ขึ้นไปดู ณ เวลา 08.00 น. ดีนะที่ยังมีหมอก



ถ่ายรูปนิดหน่อยก่อนลงมาหาอาหารเช้ากินที่เชียงคาน เดินเรื่อยๆไม่รู้ร้านไหนอร่อย ร้านไหนคนไม่เยอะเข้าร้านนั้นหล่ะกันเพราะตาลายแว้ว

อาหารเช้าที่นี้ส่วนมากจะเป็นข้าวเปียกเส้นถ้วยละ 40 บาท ขนมปัง 20 บาท รสชาติโอเคมากจ้า
หลังจากกินข้าวเสร็จก็เดินย่อยเบาๆก่อนกลับไปอาบน้ำเก็บของกลับข่อนแก่น

ระหว่างทางกลับมาอุดรก็แวะไหว้พระก่อนกลับค่ะ

วัดถ้ำกลองเพล หนองบัวลำภู

การเดินทางในครั้งนี้ถือว่าค่อนข้างคุ้มมากค่ะ งบประมาณ 2,000 บาทแต่คามรู้สึกได้กลับคืนมาแบบเต็มๆ
ค่ารถไป-กลับอุดร ขอนแก่น 168 บาท
ค่าเติมน้ำมัน อุดร-เลย 375 บาท (หาร 4)
ค่าห้อง 750บาท (หาร 2)
ค่าเข้า คิตตี้ รีสอร์ท 20 บาท
ค่าอาหารเย็น 40 บาท (หาร 4 เดินตลาดในท้องถิ่นค่ะ)
ค่าอาหารเย็นตอนไปเดินถนนคนเดินเชียงคาน 30 บาท (เมี่ยงคำ+น้ำเปล่า)
ค่าของฝาก 100 บาท
ซื้อเสื้อผ้าฝ้ายจากเชียงคาน 340 บาท
ค่านั่งรถขึ้นภูทอก 25 บาท
อาหารเช้า 60 บาท
ค่ากาแฟระหว่างกลับ 30 บาท
รวมค่าใช้จ่ายในการเดินทาง 1,930 บาท
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจนจบค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่