รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของเรานะคะ เพิ่งเริ่มทำบล็อค และเขียนรีวิวได้ไม่นาน ด้วยตัวเองเป็นคนชอบท่องเที่ยวญี่ปุ่นมากๆ ไปมาเเล้วหลายครั้งเเต่ยังไม่เคยเเบ่งปันประสบการณ์ในการท่องเที่ยวให้ใครเลย คิดได้ดังนั้น เลยไปเตรียมเอาข้อมูลทั้งหมดที่ได้มาเเบ่งปันต่อดีกว่าค่ะ
รีวิวนี้ขอเน้นเส้นทางใน Kawaguchiko เอาตั้งเเต่เริ่มขึ้นรถจนไปถึงเลยละกัน
การไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้ของเราเริ่มทริปตั้งเเต่ 19/11/2016 จนถึง 24/11/2016 (6วัน 4คืน) เนื่องจาก ลูกทริป ซึ่งเป็นเพื่อนๆกัน ไม่สามารถ
ลางานได้นาน เลยจัดไปเเค่นี้ก่อน 555
ก่อนอื่นก็ต้องมาหากันว่าอยากไปเที่ยวที่ไหนเป็นหลัก ให้ระดมสมองกัน สรุปได้ที่โตเกียว ช่วงเวลาก็อยากได้อากาศ เย็น ๆ ถ่ายภาพสวยๆ เลยจัดให้ช่วง พฤศจิกายน เพราะสวยด้วยใบไม้เปลี่ยนสี และ อากาศ ที่ไม่หนาวมาก ตกลงกันได้ตามนี้ก็จองตั๋ว เราได้ตั๋ว ANA มาในราคาโปร พร้อม ที่พักกลางใจเมืองย่าน IKEBUKURO ราคาดีงาม 28,xxxx บาท ต่อคน ดีมาก (รร. 4 ดาวด้วย)
รีวิวนี้ขอเน้นไปที่ วันที่เราเดินทางไปยัง kawaguchiko เลยละกันนะค่ะ
เนื่องจากมีคนไปญี่ปุ่นเยอะมาก เราก็อาศัยจากพันทิปเนี่ยเเหละ ช่วยในการหาข้อมูล และถามๆ ผู้ที่เคยไปเอา
ก็ได้มาว่า การจะไป Kawaguchiko มี 2 ทาง ค้ะ คือรถไฟ (ถ้ามี JR PASS ก็ไปรถไฟดีกว่า ) กับ รถบัส ซึ่งเราเลือกวิธีนั่งรถบัสค่ะ
โดยก่อนล่วงหน้า 1 เดือนจองรถบัส ผ่าน เวปไซด์
http://highway-buses.jp/thai/fuji/ ย้ำ ให้จองก่อน 1 เดือน นะค่ะ เพราะรถอาจจะเต็มได้
(รถประมาณ 30 ที่นั่งเองค่ะ) ให้เข้าตั้งเเต่เริ่มเปิดให้จอง 6 โมงเช้า เวลาไทย (8.00น.เวลา ญี่ปุ่น)
พอได้ตั๋วจากการจองเเล้วก็นำไปเเสดง เพื่อขึ้นรถในวันเดินทาง เราจองไปวันที่ 21/11 5 คนค่ะ
ราคาตั๋วรถบัส ไปกลับ คนละ 3500 เยน ( 5 คน 17,500 เยน) เราเลือกเวลารถบัส เช้า 8.15 น. ถึงประมาณ 10.00 น.
มาถึงจุดขึ้นรถกันบ้าง เดินทางมายัง สถานี JR ชินจูกุ หาประตูฝั่ง south exit เพื่อเดินต่อไปยัง สถานี รถบัส ชินจูกุ (หน้าตาตามภาพ)
ซึ่งเป็นอาคาร 4 ชั้นให้ขึ้นไปยังจุดขึ้นรถชั้น 4 เลยค่ะ เเล้วเอาตั๋วที่ได้ไปเเลกตั๋วจริงเพื่อขึ้นรถ
ใช้เวลาการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ที่นั่งในรถบัสเหมือนไทยเลย สะอาดมาก ตลอดทางมีป้ายบอกว่า ถึงสถานีไหนเเล้ว
พอมาถึงสถานี ก็รีบไปเเลกบัตร Retro Bus Pass 1 day ราคา 1200 เยนต่อคน ซึ่งบัตรนี้สามารถนำไปขึ้นรถบัส retro bus red line
ได้ไม่จำกัดเที่ยว
หน้าตารถน่ารักๆ สมกับชื่อดีค่ะ retro bus
ตารางเวลารถค่ะ ดูเวลาดีๆนะค่ะ จะได้ไม่พลาด เพราะถ้าหน้าเทศกาลรถจะเต็มเร็วค่ะ อาจจะต้องรอคันถัดไป
วิธีการขึ้นรถบัส ก็ขึ้นทางด้านหน้ารถนะคะ ตอนลง ให้เเสดงตั๋วรถให้คนขับดูว่าเรามี pass แค่นี้เองง่ายมาก
เราเริ่มต้นการเดินทางจากป้ายที่ 22 ไล่ลงมาเรื่อยๆ เนื่องด้วยเวลา ใน 1 วันน้อยมากเลยจะจำกัดเวลาแต่ละที่ไม่นาน ไม่ได้ไปครบทุกจุด
เริ่มสถานีเเรก สถานีที่ 22 เป็นร้านกาเเฟ ขนม และ ร้านขายของที่ระลึก อยู่ริมทะเลสาบ วิวสวยมาก เเต่เราไปในวันฟ้าปิด ครึ้ม ฝนจะตก ไม่เห็นฟูจิซัง
ฮือๆ
ได้ยินว่าจุดนี้เป็นจุดที่ถ่ายภาพฟูจิสวยที่สุด เราอด เพราะฟ้าปิด เอาน่ามาเเล้วก็หาไรกินเเก้หนาวไปจัดไปด้วยไอศกรีม ซอฟครีม
ราสเบอรี่ มิ้กซ์ กับ นม อร่อยมากค่ะ
ว่าเเล้วนั่งเล่นสักพักก่อนไปต่อกันที่สถานีที่รอคอย คือสถานีรถบัสที่ 18-19 เป็น momiji corridor ก่อนมาหาข้อมูลมาว่า
จะสวยสุดในช่วง กลางถึงปลายเดือนพฤศจิกายน ของทุกปี เราเลยจัดเวลามาช่วงนี้พอดีเลย
พอมาถึงก็สวยจริงๆ ตามคำร่ำลือ
สวยมากเป็นเหมือนคลองที่มีใบไม้สีสวยสด ขึ้นอยู่โดยรอบ
ใช้เวลาอยู่ที่นี่เพื่อถ่ายภาพเกือบ 2 ชม รวดเร็วมากๆ แถวๆ รอบ คลองนี้มีเทศกาลที่ชาวบ้านออกมาออกร้านขายของกันด้วยค่ะ
โดยเทศกาลจะเริ่มมีตั้งเเต่ 1/11 - 23/11 ตาม link นี้เลย
http://www.fujisan.ne.jp/event/info_e.php?if_id=680&ca_id=3
พวกเราโชคดีมากๆ ที่ได้มาตรงกับเทศกาลเเละได้เห็นใบไม้สีสวยสดขนาดนี้
ต่อจากสถานีที่ 18-19 ก็ไปยัง Ropeway สถานีที่ 11 ซึ่งเป็นจุดที่นิยมอีก เเห่งหนึ่ง เพื่อขึ้นกระเช้าไปชมวิวบริเวณทะเลสาบ
ก่อนขึ้นก็จัดเเจงซื้อบัตร ขึ้น Round trip 800 เยนต่อคนค่ะ
วิวทะเลสาบสวยมาก แต่ไม่เห็นฟูจิ ฮือๆๆ
บริเวณด้านบนของ ropeway มีร้านขายของ และศาลเจ้าของกระต่าย อยู่ค่ะ
ด้านบนจะมี ลุงกระต่ายและทานุกิ รอต้อนรับ
ด้านบนมีศาลเจ้าไว้สักการะด้วยค่ะ เชื่อกันว่าช่วยให้มีขาที่เเข็งเเรงเหมือนกระต่ายน้อย เราก็ไม่พลาดที่จะสักการะ
ด้านบนหนาวมากเพราะอยู่บนภูเขาเลย และหิวมากเลยจัดขนมของขึ้นชื่อของที่นี่ค่ะ ทั้ง ดังโงะ และ ซาลาเปาอุ่นๆ
พอกินเสร็จมืดละฝนจะตก เราก็จัดเเจงกลับ ชินจูกุ
ซึ่งตอนหน้าหนาวพระอาทิตย์ตกเร็วมากค่ะ 16.30 น. ก็มืดเหมือน 18.00 น. ในไทยเลย เที่ยวไหนไม่ได้ละ
ก่อนมาควรดูสภาพอากาศประกอบการจองด้วยนะค่ะ
จบการรีวิวภาคนี้ก่อน เดี๋ยวมาต่อใน การรีวิว เรื่องอื่นๆค่ะ
[CR] Review ใบไม้เปลี่ยนสี KOYO Kawaguchiko in 1 day
รีวิวนี้ขอเน้นเส้นทางใน Kawaguchiko เอาตั้งเเต่เริ่มขึ้นรถจนไปถึงเลยละกัน
การไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้ของเราเริ่มทริปตั้งเเต่ 19/11/2016 จนถึง 24/11/2016 (6วัน 4คืน) เนื่องจาก ลูกทริป ซึ่งเป็นเพื่อนๆกัน ไม่สามารถ
ลางานได้นาน เลยจัดไปเเค่นี้ก่อน 555
ก่อนอื่นก็ต้องมาหากันว่าอยากไปเที่ยวที่ไหนเป็นหลัก ให้ระดมสมองกัน สรุปได้ที่โตเกียว ช่วงเวลาก็อยากได้อากาศ เย็น ๆ ถ่ายภาพสวยๆ เลยจัดให้ช่วง พฤศจิกายน เพราะสวยด้วยใบไม้เปลี่ยนสี และ อากาศ ที่ไม่หนาวมาก ตกลงกันได้ตามนี้ก็จองตั๋ว เราได้ตั๋ว ANA มาในราคาโปร พร้อม ที่พักกลางใจเมืองย่าน IKEBUKURO ราคาดีงาม 28,xxxx บาท ต่อคน ดีมาก (รร. 4 ดาวด้วย)
รีวิวนี้ขอเน้นไปที่ วันที่เราเดินทางไปยัง kawaguchiko เลยละกันนะค่ะ
เนื่องจากมีคนไปญี่ปุ่นเยอะมาก เราก็อาศัยจากพันทิปเนี่ยเเหละ ช่วยในการหาข้อมูล และถามๆ ผู้ที่เคยไปเอา
ก็ได้มาว่า การจะไป Kawaguchiko มี 2 ทาง ค้ะ คือรถไฟ (ถ้ามี JR PASS ก็ไปรถไฟดีกว่า ) กับ รถบัส ซึ่งเราเลือกวิธีนั่งรถบัสค่ะ
โดยก่อนล่วงหน้า 1 เดือนจองรถบัส ผ่าน เวปไซด์ http://highway-buses.jp/thai/fuji/ ย้ำ ให้จองก่อน 1 เดือน นะค่ะ เพราะรถอาจจะเต็มได้
(รถประมาณ 30 ที่นั่งเองค่ะ) ให้เข้าตั้งเเต่เริ่มเปิดให้จอง 6 โมงเช้า เวลาไทย (8.00น.เวลา ญี่ปุ่น)
พอได้ตั๋วจากการจองเเล้วก็นำไปเเสดง เพื่อขึ้นรถในวันเดินทาง เราจองไปวันที่ 21/11 5 คนค่ะ
ราคาตั๋วรถบัส ไปกลับ คนละ 3500 เยน ( 5 คน 17,500 เยน) เราเลือกเวลารถบัส เช้า 8.15 น. ถึงประมาณ 10.00 น.
มาถึงจุดขึ้นรถกันบ้าง เดินทางมายัง สถานี JR ชินจูกุ หาประตูฝั่ง south exit เพื่อเดินต่อไปยัง สถานี รถบัส ชินจูกุ (หน้าตาตามภาพ)
ซึ่งเป็นอาคาร 4 ชั้นให้ขึ้นไปยังจุดขึ้นรถชั้น 4 เลยค่ะ เเล้วเอาตั๋วที่ได้ไปเเลกตั๋วจริงเพื่อขึ้นรถ
ใช้เวลาการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ที่นั่งในรถบัสเหมือนไทยเลย สะอาดมาก ตลอดทางมีป้ายบอกว่า ถึงสถานีไหนเเล้ว
พอมาถึงสถานี ก็รีบไปเเลกบัตร Retro Bus Pass 1 day ราคา 1200 เยนต่อคน ซึ่งบัตรนี้สามารถนำไปขึ้นรถบัส retro bus red line
ได้ไม่จำกัดเที่ยว
หน้าตารถน่ารักๆ สมกับชื่อดีค่ะ retro bus
ตารางเวลารถค่ะ ดูเวลาดีๆนะค่ะ จะได้ไม่พลาด เพราะถ้าหน้าเทศกาลรถจะเต็มเร็วค่ะ อาจจะต้องรอคันถัดไป
วิธีการขึ้นรถบัส ก็ขึ้นทางด้านหน้ารถนะคะ ตอนลง ให้เเสดงตั๋วรถให้คนขับดูว่าเรามี pass แค่นี้เองง่ายมาก
เราเริ่มต้นการเดินทางจากป้ายที่ 22 ไล่ลงมาเรื่อยๆ เนื่องด้วยเวลา ใน 1 วันน้อยมากเลยจะจำกัดเวลาแต่ละที่ไม่นาน ไม่ได้ไปครบทุกจุด
เริ่มสถานีเเรก สถานีที่ 22 เป็นร้านกาเเฟ ขนม และ ร้านขายของที่ระลึก อยู่ริมทะเลสาบ วิวสวยมาก เเต่เราไปในวันฟ้าปิด ครึ้ม ฝนจะตก ไม่เห็นฟูจิซัง
ฮือๆ
ได้ยินว่าจุดนี้เป็นจุดที่ถ่ายภาพฟูจิสวยที่สุด เราอด เพราะฟ้าปิด เอาน่ามาเเล้วก็หาไรกินเเก้หนาวไปจัดไปด้วยไอศกรีม ซอฟครีม
ราสเบอรี่ มิ้กซ์ กับ นม อร่อยมากค่ะ
ว่าเเล้วนั่งเล่นสักพักก่อนไปต่อกันที่สถานีที่รอคอย คือสถานีรถบัสที่ 18-19 เป็น momiji corridor ก่อนมาหาข้อมูลมาว่า
จะสวยสุดในช่วง กลางถึงปลายเดือนพฤศจิกายน ของทุกปี เราเลยจัดเวลามาช่วงนี้พอดีเลย
พอมาถึงก็สวยจริงๆ ตามคำร่ำลือ
สวยมากเป็นเหมือนคลองที่มีใบไม้สีสวยสด ขึ้นอยู่โดยรอบ
ใช้เวลาอยู่ที่นี่เพื่อถ่ายภาพเกือบ 2 ชม รวดเร็วมากๆ แถวๆ รอบ คลองนี้มีเทศกาลที่ชาวบ้านออกมาออกร้านขายของกันด้วยค่ะ
โดยเทศกาลจะเริ่มมีตั้งเเต่ 1/11 - 23/11 ตาม link นี้เลย http://www.fujisan.ne.jp/event/info_e.php?if_id=680&ca_id=3
พวกเราโชคดีมากๆ ที่ได้มาตรงกับเทศกาลเเละได้เห็นใบไม้สีสวยสดขนาดนี้
ต่อจากสถานีที่ 18-19 ก็ไปยัง Ropeway สถานีที่ 11 ซึ่งเป็นจุดที่นิยมอีก เเห่งหนึ่ง เพื่อขึ้นกระเช้าไปชมวิวบริเวณทะเลสาบ
ก่อนขึ้นก็จัดเเจงซื้อบัตร ขึ้น Round trip 800 เยนต่อคนค่ะ
วิวทะเลสาบสวยมาก แต่ไม่เห็นฟูจิ ฮือๆๆ
บริเวณด้านบนของ ropeway มีร้านขายของ และศาลเจ้าของกระต่าย อยู่ค่ะ
ด้านบนจะมี ลุงกระต่ายและทานุกิ รอต้อนรับ
ด้านบนมีศาลเจ้าไว้สักการะด้วยค่ะ เชื่อกันว่าช่วยให้มีขาที่เเข็งเเรงเหมือนกระต่ายน้อย เราก็ไม่พลาดที่จะสักการะ
ด้านบนหนาวมากเพราะอยู่บนภูเขาเลย และหิวมากเลยจัดขนมของขึ้นชื่อของที่นี่ค่ะ ทั้ง ดังโงะ และ ซาลาเปาอุ่นๆ
พอกินเสร็จมืดละฝนจะตก เราก็จัดเเจงกลับ ชินจูกุ
ซึ่งตอนหน้าหนาวพระอาทิตย์ตกเร็วมากค่ะ 16.30 น. ก็มืดเหมือน 18.00 น. ในไทยเลย เที่ยวไหนไม่ได้ละ
ก่อนมาควรดูสภาพอากาศประกอบการจองด้วยนะค่ะ
จบการรีวิวภาคนี้ก่อน เดี๋ยวมาต่อใน การรีวิว เรื่องอื่นๆค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น