ทริปของเรามักจะเกิดด้วยความไม่ตั้งใจ...
ครั้งนี้ก็เช่นกัน กลางดึกคืนหนึ่ง ได้เห็นกระทู้สักอันในพันทิบ เรื่องที่เกี่ยวกับนั่งรถไฟไปน้ำตก
เช้านั้นบังเอิญได้แทนวันหยุดพอดี ก็เลยตาม...รอยเค้าไป
ไปคนเดียวก็ไป.. ก็ใจมันได้ กายมันพร้อม แถมว่างอีกต่างหาก <3
อ่านกระทู้นี้จบ รับรองว่า สามารถเก็บกระเป๋า ออกเดินทางได้ทันที ไม่มีเอ๋อ ไม่มีหลง
เช้าตรู่วันที่ 13 ตุลาคม 2559
ที่พักของเราไม่ไกลจาก "สถานีรถไฟธนบุรี" หรือ "สถานีรถไฟบางกอกน้อย" เท่าใดนัก จึงใช้เวลาไม่นานในการมาถึงที่นี่
มาถึงแล้วไม่รอช้า เข้าแถวช่องจำหน่ายตั๋ว พร้อมแจ้งจุดหมายปลายทางว่า "น้ำตก" พร้อมยื่นบัตรประจำตัวประชาชน
รอเพียงครู่เดียว เราก็จะได้ตั๋ว ขบวน9257 "ธนบุรี-น้ำตก" รอบเวลา 07.50 น. ในราคา 0 บาท เพราะเป็นขบวนรถบริการสังคม
ซึ่งการเดินทางในวันนี้ เราจะไม่ลงที่ปลายทาง "สถานีน้ำตก" แต่เราจะลงที่ "สถานีกาญจนบุรี" เพื่อต่อรถไปอีกน้ำตกนึง
ตอนนั้นยังมีเวลามากพอกว่ารถไฟจะเข้าเทียบชานชาลา
เราจึงจัดการทานอาหารเช้าให้อิ่ม และตุนเสบียงให้เพียงพอตลอดระยะเวลาเดินทาง
ขึ้นมาบนขบวนรถไฟ ใครว่ารถไฟชั้นสามมีแต่เบาะสีเขียวอมเทาๆ แบนๆ เก่าๆ
เราเห็นตู้ที่มีที่นั่งสีสันสดใสนี้ก่อนจะก้าวขึ้นไปในขบวน และแน่นอน เราเลือกนั่งตู้ที่มีม้านั่งสีเหลืองสดนี้
ถ่ายรูปสวยดี ดูสะอาดตา และดีต่อใจ <3
เมื่อถึงเวลา เกือบแปดโมงเช้า รถไฟเคลื่อนตัวอ้อยอิ่งออกจากสถานีต้นทาง
เราก็นั่งกินลม ชมวิวไปเรื่อยๆ อากาศยามเช้ามันดีเหลือเกิน...
ในภาพคือดูชิลล์ดี แต่ในความเป็นจริง.. ฝุ่นดินปลิวเกาะตัว เกาะหน้า ผมงี้เหนียวไปหมด T^T
(ทริปนี้เกิดก่อนทริปที่นั่งรถไฟไปสิงคโปร์ในกระทู้ก่อนนู้นนน)
จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เราไม่ลืมที่จะปกปิดร่างกายจากฝุ่นให้ดีๆ เมื่อต้องโดยสารรถไฟ open air
นั่งไปนั่งมา หลับไปบ้างอะไรบ้าง ประมาณ 11 โมงเช้ากว่าๆ เราก็มาถึง "สถานีกาญจนบุรี"
ใครที่จะไปน้ำตกเอราวัณ ให้ลงสถานีนี้นะคะ เพราะถ้าตรงไปสุดสายจะไป "น้ำตกไทรโยค"
ที่สถานีนี้จอดนานประมาณ 15 นาที ถ้าไม่ได้ดูป้ายสถานีก็ให้จำไว้อ่ะว่า สถานีไหนที่จอดนานๆ นั่นล่ะคือต้องลงแล้ว
เมื่อลงจากรถไฟมาแล้ว ถ้าเดินทางวันที่คนไม่เยอะ
เราสามารถข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามกับสถานีรถไฟได้ และรอรถสาย "กาญจบุรี - เอราวัณ" (รถบัสหวานเย็น open air สีฟ้าขาว)
โดยยืนรอที่หน้าสุสานสัมพันธมิตร (ใครขวัญอ่อนก็ใจเย็นๆ ของจริงแค่ดูคล้ายสวนสาธารณะ หลุมแบบฝรั่ง ไม่น่าขนลุกเท่าไหร่)
แต่ถ้าเดินทางในวันที่คนเยอะๆ การไปขึ้นรถที่ขนส่งซึ่งเป็นต้นทางก็จะทำให้เราได้นั่งสบายค่ะ
โดยจะมีคนคนรถมาถามเพื่อพาไปขนส่งตั้งแต่ที่เราก้าวขาลงจากรถไฟแล้ว ในราคา 20 บาทต่อคน
(ช่วงนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ เนื่องจากข้ามไปถึงแล้วรถผ่านมาพอดี เลยรีบขึ้นรถ)
รถสาย "กาญจบุรี - เอราวัณ" จะมีทุกๆ ครึ่งชั่วโมง ค่าโดยสาร 50 บาทต่อคน
ใช้เวลาวิ่งประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ
++ เอราวัณ วันเดียว ออกไปเที่ยวกันเถอะ ++
ครั้งนี้ก็เช่นกัน กลางดึกคืนหนึ่ง ได้เห็นกระทู้สักอันในพันทิบ เรื่องที่เกี่ยวกับนั่งรถไฟไปน้ำตก
เช้านั้นบังเอิญได้แทนวันหยุดพอดี ก็เลยตาม...รอยเค้าไป
ไปคนเดียวก็ไป.. ก็ใจมันได้ กายมันพร้อม แถมว่างอีกต่างหาก <3
อ่านกระทู้นี้จบ รับรองว่า สามารถเก็บกระเป๋า ออกเดินทางได้ทันที ไม่มีเอ๋อ ไม่มีหลง
เช้าตรู่วันที่ 13 ตุลาคม 2559
ที่พักของเราไม่ไกลจาก "สถานีรถไฟธนบุรี" หรือ "สถานีรถไฟบางกอกน้อย" เท่าใดนัก จึงใช้เวลาไม่นานในการมาถึงที่นี่
มาถึงแล้วไม่รอช้า เข้าแถวช่องจำหน่ายตั๋ว พร้อมแจ้งจุดหมายปลายทางว่า "น้ำตก" พร้อมยื่นบัตรประจำตัวประชาชน
รอเพียงครู่เดียว เราก็จะได้ตั๋ว ขบวน9257 "ธนบุรี-น้ำตก" รอบเวลา 07.50 น. ในราคา 0 บาท เพราะเป็นขบวนรถบริการสังคม
ซึ่งการเดินทางในวันนี้ เราจะไม่ลงที่ปลายทาง "สถานีน้ำตก" แต่เราจะลงที่ "สถานีกาญจนบุรี" เพื่อต่อรถไปอีกน้ำตกนึง
ตอนนั้นยังมีเวลามากพอกว่ารถไฟจะเข้าเทียบชานชาลา
เราจึงจัดการทานอาหารเช้าให้อิ่ม และตุนเสบียงให้เพียงพอตลอดระยะเวลาเดินทาง
ขึ้นมาบนขบวนรถไฟ ใครว่ารถไฟชั้นสามมีแต่เบาะสีเขียวอมเทาๆ แบนๆ เก่าๆ
เราเห็นตู้ที่มีที่นั่งสีสันสดใสนี้ก่อนจะก้าวขึ้นไปในขบวน และแน่นอน เราเลือกนั่งตู้ที่มีม้านั่งสีเหลืองสดนี้
ถ่ายรูปสวยดี ดูสะอาดตา และดีต่อใจ <3
เมื่อถึงเวลา เกือบแปดโมงเช้า รถไฟเคลื่อนตัวอ้อยอิ่งออกจากสถานีต้นทาง
เราก็นั่งกินลม ชมวิวไปเรื่อยๆ อากาศยามเช้ามันดีเหลือเกิน...
ในภาพคือดูชิลล์ดี แต่ในความเป็นจริง.. ฝุ่นดินปลิวเกาะตัว เกาะหน้า ผมงี้เหนียวไปหมด T^T
(ทริปนี้เกิดก่อนทริปที่นั่งรถไฟไปสิงคโปร์ในกระทู้ก่อนนู้นนน)
จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เราไม่ลืมที่จะปกปิดร่างกายจากฝุ่นให้ดีๆ เมื่อต้องโดยสารรถไฟ open air
นั่งไปนั่งมา หลับไปบ้างอะไรบ้าง ประมาณ 11 โมงเช้ากว่าๆ เราก็มาถึง "สถานีกาญจนบุรี"
ใครที่จะไปน้ำตกเอราวัณ ให้ลงสถานีนี้นะคะ เพราะถ้าตรงไปสุดสายจะไป "น้ำตกไทรโยค"
ที่สถานีนี้จอดนานประมาณ 15 นาที ถ้าไม่ได้ดูป้ายสถานีก็ให้จำไว้อ่ะว่า สถานีไหนที่จอดนานๆ นั่นล่ะคือต้องลงแล้ว
เมื่อลงจากรถไฟมาแล้ว ถ้าเดินทางวันที่คนไม่เยอะ
เราสามารถข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามกับสถานีรถไฟได้ และรอรถสาย "กาญจบุรี - เอราวัณ" (รถบัสหวานเย็น open air สีฟ้าขาว)
โดยยืนรอที่หน้าสุสานสัมพันธมิตร (ใครขวัญอ่อนก็ใจเย็นๆ ของจริงแค่ดูคล้ายสวนสาธารณะ หลุมแบบฝรั่ง ไม่น่าขนลุกเท่าไหร่)
แต่ถ้าเดินทางในวันที่คนเยอะๆ การไปขึ้นรถที่ขนส่งซึ่งเป็นต้นทางก็จะทำให้เราได้นั่งสบายค่ะ
โดยจะมีคนคนรถมาถามเพื่อพาไปขนส่งตั้งแต่ที่เราก้าวขาลงจากรถไฟแล้ว ในราคา 20 บาทต่อคน
(ช่วงนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ เนื่องจากข้ามไปถึงแล้วรถผ่านมาพอดี เลยรีบขึ้นรถ)
รถสาย "กาญจบุรี - เอราวัณ" จะมีทุกๆ ครึ่งชั่วโมง ค่าโดยสาร 50 บาทต่อคน
ใช้เวลาวิ่งประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ